นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 354 แผนของสวีหว่านเอ๋อร์
ใบหน้าของจอนหยุดค้าง เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?
แอนนี่บอกว่าเธอใส่สร้อยคอไว้ในกระเป๋าซูฉิงแล้วชัดๆ นี่ แต่ทำไมสร้อยคอถึงไปอยู่ในกระเป๋าแอนนี่ล่ะ?
หรือว่าแอนนี้ต้องการขโมยสร้อยคอของเขา?
เมื่อคิดอย่างนั้น จอน
ก็มองแอนนี่อย่างโกรธจัด “นี่มันอะไรน่ะ?”
สีหน้าของแอนนี่ซีดเผือดก่อนจะไม่รู้จะอธิบายยังไง “ไม่ใช่ฉันนะ ฉันไม่ได้ทำ!”
ขณะที่ซูฉิงกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังมาจากที่ไม่ไกล “หากจงใจขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นตงถูกจำคุก และสร้อยคอนี้มีมูลค่า 20 ล้าน เกรงว่าคุณแอนนี่คงต้องเข้าคุกแล้วล่ะครับ”
เสียงนั่น…ช่างคุ้นเคย
หัวใจของซูฉิงเต้นผิดจังหวะ
เธอหันไปมองโดยทันที และแน่นอนว่าเธอเห็นร่างสูงเดินมาทางพวกเขา
ฮ่อหยุนเฉิง!
ไม่ใช่ว่าเขายังต้องอยู่ที่เมือง Y เหรอ?
ทำไมจู่ๆ ถึงกลับมากระทันหัน?
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาสงสัยของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงก็ขดริมฝีปากเซ็กซี่และสั่งรปภ.ที่อยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา “พาแอนนี่ไปที่สถานีตำรวจ ส่วนคุณจอนก็ตามไปให้ปากคำด้วยนะครับ”
ทันทีที่สิ้นเสียง รปภ. 2 คนก็บังคับให้แอนนี่ออกจากบาร์ จองเองก็ยังตกใจกับออร่าอันเยือกเย็นที่อยู่รอบๆ ฮ่อหยุนเฉิงจนพูดอะไรไม่ออก และจากไปอย่างหดหู่
หลังจากเรื่องวุ่นวายจบลง ซูฉิงก็ถอนหายใจก่อนจะมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง “ทำไมนายถึงกลับมากระทันหันแถมไม่บอกฉันด้วย”
“คิดถึงเธอก็เลยกลับมาน่ะสิ” ฮ่อหยุนเฉิงลูบผมของซูฉิง ก่อนจะแนบริมฝีปากบางใกล้ใบหูของเธอ “แต่ว่า…วิธีที่เธอสับเปลี่ยนเมื่อกี้นั้นดีมากนะ”
ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาพ่นออกมาคอเคลียซูฉิงจนใบหน้าเธอแดง “ที่แท้นายก็เห็นหมดแล้วสินะ”
เมื่อกี้ตอนที่แอนนี่กำลังสมคบคิดกับจอนเพื่อใส่ร้ายเธอ ซูฉิงเองก็สังเกตเห็นนานแล้ว
ส่วนสร้อยคอ 20 ล้าน ตอนแรกแอนนี่ใส่ลงในกระเป๋าของเธอแล้วจริง แต่ในขณะนั้นซูฉิงแกล้งทำเป็นประคองยวี๋น่า และเมื่อแอนนี่หันไปจัดการกับผู้ชายคนอื่น ซูฉิงก็ฉวยโอกาสเปิดกระเป๋าถือของแอนนี่ตรงบาร์และย้ายสร้อยคอไปยังเป้าหมายได้สำเร็จ
มันเป็นการดำเนินการที่ง่ายมาก และซูฉิงก็ทำอย่างแอบแล้ว แต่ไม่คิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเห็นเข้า
“ใช่น่ะ ฉันเห็นแล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วพร้อมยกยิ้ม “ก่อนหน้านี้ที่ฉันโทรหาเธออยากมั่นใจว่าเธออยู่ไหน ใครจะไปรู้…ว่าฉันจะได้เห็นฉากที่วิเศษมากขนาดนี้”
เขาเดินเข้าใกล้ซูฉิง สองมือจับเอวของผู้หญิงตรงหน้า และมองอย่างใกล้ชิด
บรรยากาศนั้นคลุมเครือมาก
“แต่ว่าฉันชอบเธอที่เป็นแบบนี้นะ”
ปลายนิ้วฮ่อหยุนเฉิงปัดผมบนแก้มซูฉิงทัดด้านหลังใบหูอย่างระมัดระวังและอ่อนโยน
ช่วงที่ห่างกับซูฉิง เขานั้นคิดถึงเธอทุกวินาที
“คิดถึงฉันไหม?”
เสียงทุ้มลึกของชายผู้นี้ดังกึกก้องอยู่ในหูจนซูฉิงอดหน้าแดงไม่ได้ หากบอกว่าเธอไม่ได้คิดถึงฮ่อหยุนเฉิงเลยคงเป็นเรื่องโกหก
เธอหยุดชั่วครู่ก่อนสุดท้ายจะเขย่งเบาๆ แล้วจูบที่หน้าผากของฮ่อหยุนเฉิง
“คนเขาบอกว่ายิ่งห่างยิ่งรักกันนะ ฉันเองก็คิดถึงนายมากเหมือนกัน”
ฮ่อหยุนเฉิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ซูฉิงไม่ค่อยเปิดเผยความรักออกมาตรงๆ มันทำให้เขาประหลาดใจ เขาจึงโน้มตัวไปกอดซูฉิงแน่นและวางคางบนไหล่ของเธอ
“คิดถึงฉันก็…อย่าขยับ ให้ฉันกอดเธอหน่อย…”
ซูฉิงยิ้มก่อนจะดันตัวฮ่อหยุนเฉิงออก “เอาล่ะ เราไปส่งน่าน่าก่อน นี่ไม่ใช่ที่ไว้คุยนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงทำได้เพียงปล่อยเธอ ซูฉิงประคองยวี๋น่าที่ยังเมามายก่อนทั้งสามจะเดินออกจากบาร์ไปด้วยกัน
…
สถานีตำรวจ
แอนนี่นั่งไม่ติดที่ ถ้าเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์ ชีวิตที่เหลือของเธอได้พังทลายแน่
ต้องเป็นซูฉิงที่ทำอะไรสักอย่างแน่!
ยัยเลวไร้ยางอายนั่น!
ในขณะนั้นเองตำรวจคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายในชุดสูทสีดำสวมแว่น “แอนนี่ คุณกลับไปได้แล้วล่ะ”
“จริงเหรอคะ?” แอนนี่เงยหน้าขึ้นอย่างมีความสุข
“สุภาพบุรุษท่านนี้ประกันตัวและจ่ายค่าปรับให้คุณแล้ว ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”
ตำรวจเคาะประตู แล้วเดินออกไป เหลือเพียงชายชุดสูทสีดำที่ยืนอยู่ตรงประตู
ชายคนนั้นดันแว่นตาตรงสันจมูกของเขา
“คุณแอนนี่ ผมมาเพื่อช่วยคุณครับ มีคนให้ผมจ่ายค่าปรับเพื่อประกันตัวคุณออกมาเพราะอย่างเจอน่ะครับ”
“เจอฉันเหรอคะ?” แอนนี่ชี้ตัวเองอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นสายตาของชายสวมแว่น จู่ๆ ก็เกิดความระแวงเล็กน้อย “ใครอยากเจอฉันงั้นเหรอคะ?”
“เดี๋ยวก็รู้ครับ”
ชายสวมแว่นพาแอนนี่ไปที่ประตูห้องของโรงแรมที่มีเครื่องหมาย “3103” ก่อนจะพยักหน้าให้เธอแล้วจากไป
แอนนี่สงสัยว่าใครเป็นคนช่วยเธอกัน?
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตู
“เข้ามาได้!” เสียงของหญิงสาวฟังดูค่อนข้างคุ้นเคย
แอนนี่ผลักประตูเข้าไป ทันทีที่เห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ในห้อง เธอก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง
ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นสวีหว่านเอ๋อร์
“แอนนี่” สวีหว่านเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น “เข้ามาสิ”
แอนนี่ตระหนักได้ในทันใดว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอคือสวีหว่านเอ๋อร์นี่เอง
เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ สวีหว่านเอ๋อร์ถึงใจดีแบบนี้?
เธอถามอย่างระมัดระวัง “คุณสวี คุณช่วยฉันเหรอคะ?”
“ใช่น่ะสิ” สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้า
“ฉันรู้ว่าต้องมีใครบางคนใส่ร้ายคุณแน่ใช่ไหมคะ? ซูฉิงสินะ?”
คำพูดของเธอจับแอนนี่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย และพูดจี้ใจเธออีกด้วย ดวงตาของแอนนี่แดงครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างหนัก ราวกับว่าเธอมีแต่ความคับข้องใจ
ความภาคภูมิใจฉายผ่านดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ เธอตบมือของแอนนี่เบาๆ และพูดปลอบโยน “ฉันรู้ว่าคุณได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่ต้องกลัวนะคะ ต่อไปฉันจะช่วยคุณเองค่ะ”
“คุณจะช่วยฉันเหรอคะ??” แววตาแอนนี่ประหลาดใจ ก่อนจะตื่นตัวเล็กน้อย “มีเงื่อนไขอะไรงั้นเหรอคะ?”
“ช่วยฉันกำจัดซูฉิง เราทั้งคู่มีเป้าหมายของตัวเอง แต่หลังจากที่คุณช่วยฉันกำจัดหล่อนแล้ว ฉันจะทำให้คุณเป็นดาราระดับนานาชาติได้เลยค่ะ”
แอนนี่เกลียดซูฉิงเข้ากระดูกดำ ตอนนี้สวีหว่านเอ๋อร์เสนอเงื่อนไขแบบนี้แล้ว เธอจะไม่สนใจได้ไง?
“ได้ค่ะ!” แอนนี่พูดอย่างหนักแน่น
มุมริมฝีปากของสวีหว่านเอ๋อร์ยกขึ้นเล็กน้อย ทั้งดวงตายังมีร่องรอยถึงความมืดมน
ซูฉิง เธอรอก่อนเถอะ!!
แต่ว่ามีแค่แอนนี่คนเดียวไม่พอ
เสริมกำลังอีกหน่อยดีกว่า
สวีหว่านเอ๋อร์ครุ่นคิด ก่อนจะค่อยๆ ผุดขึ้นในใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น สวีหว่านเอ๋อร์มาที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
เฉินจุนเหยียนที่กำลังจัดเรียงเอกสารในห้องทำงาน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นสวีหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงประตู
“ซุปเปอร์สตาร์เฉิน คุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ?” สวีหว่านเอ๋อร์ก้าวเข้าไป
ดวงตาของเฉินจุนเหยียนนิ่งงัน “คุณสวีมาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“พูดเปิดอกเลยแล้วกันนะคะ” สวีหว่านเอ๋อร์นั่งบนโซฟาและเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า “ฉันรู้ว่าคุณชอบซูฉิง เรามาร่วมมือกันดีไหมคะ ถ้าคุณทำให้ฉันได้ฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ต้องเป็นของคุณอยู่วันยังค่ำ”