นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 357 เธอคิดว่าเธอเป็นใคร
ฉียวี่ชูพยักหน้าเบาๆ แต่ตอนที่เขาตรวจดูขาของอู๋เทียนเหอนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา
ยวี๋น่าที่คอยพยุงอู๋เทียนเหอไว้ มองฉียวี่ชูอย่างตื่นเต้น และหแล้วหันไปมองหน้าของซูฉิง จากนั้นก็ค่อย ๆ พยุงอู๋เทียนเหอไปนั่งที่เก้าอี้
ฉียวี่ชูได้เปิดผ้าพักแผลเก่าของอู๋เทียนเหอออก ก็พบกับบาดแผลที่ได้แย่ลงแล้ว
เขากัดริมฝีปาก ตรวจดูบาดแผลของอู๋เทียนเหอโดยละเอียด แล้วกดมือลงไปตรงผิวหนังรอบๆ บาดแผล จนอู๋เทียนเหอคิ้วขมวดด้วยความเจ็ว เหงื่อไหลชุ่มออกมา แต่ก็ยังกัดฟันแน่นไม่เปล่งเสียงออกมา
ฉียวี่ชูลุกขึ้น มือยวี๋น่าทั้งสองข้างจับกันแน่น แล้วรีบเอ่ยถาม “คุณลุงฉีคะ อาการของเทียนเหอ….เป็นยังไงบ้างคะ ขาของเขายังจะรักษาหายมั้ย ”
ฉียวี่ชูส่ายหน้า ด้วยสีหน้าตึงเครียด “ขาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งไม่รับรักษา ซ้ำยังไม่เคยรับการรักษาเลย ตอนนี้แผลเน่าแล้ว และแผลลึกลงไปถึงเส้นเอ็น แม้ฉันจะพยายามสุดความสามารถ เกรงว่าคงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ……หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาอาจจะพิการ”
“อะไรนะ “ยวี๋น่าพูดหาเสียงไม่เจอ
เป็นอย่างนี้ได้ยังไง ……..
อู๋เทียนเหอที่เหมือนจะรู้อยู่แล้ว ก็เลยไม่สนใจแยแสตัวเอง ปิดเปลือกตาลง ไม่พูดอะไร ได้แต่ส่งเสียงหึออกมา
ยวี๋น่าที่ได้ฟังอย่างนั้นก็น้ำตาไหลอาบแก้มลงมา หลายวันมานี้เธอร้องไห้หลายครั้งมาก แม้จะเป็นอย่างนี้ เธอก็ยัง หันไปมองอู๋เทียเหอทั้งที่น้ำตาอาบแก้มด้วยความรู้สึกเสียใจ
อู๋เทียนเหอ……เขาจะต้องเสียใจมากแน่เลยใช่มั้ย
แต่ว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอจะต้องละทิ้งเขาไม่ช่วยเขาไม่ได้!
ยวี๋น่าที่ตัดสินใจแล้ว มือขวากำหมัดแน่แล้วก็หันไปทางฉียวี่ชูพร้อมกับพูดขอร้อง “คุณลุงฉีคะ ไม่ว่ายังไง หนูของร้องให้ช่วยรักษาเทียนเหอด้วย จะไม่สนใจเขาไม่ได้ …..ไม่งั้นคงจะต้องตัดขา
เขาจะต้องเสียใจมากแน่…….”
เธอที่ทั้งพูด ทั้งน้ำตาไหลอาบแก้ม และหันไปมองอู๋เทียนเหอ
แต่อู๋เทียนเหมือนกับไม่ได้ยิน ไม่สนใจเธอแม้แน่นิดเดียว
ซูฉิงมองยวี๋น่าเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสาร และก็มองไปทางฉียวี่ชู “คุณลุงฉีคะ ช่วยเขาด้วยนะคะ”
จากความคิดของซูฉิง จากฝีมือทางการแพทย์ของลุงฉี ขาของอู๋เทียนเหอสามารถรักษาให้หายได้
แต่อู๋เทียนเหอไม่รักตัวเองถึงได้กลายเป็นแบบนี้
แม้ลุงฉีจะใช้วิธีฝังเข็ม ไม่ต้องตัดขา แต่ก็เกรงว่าก็น่าจะกลายเป็นคนพิการ
น่าเสียดายจริงๆ
ฉียวี่ชูคิดอยู่สักครู่ ท้ายที่สุดก็พยักหน้า “ได้ ฉันจะพยายามช่วยพวกเธอรักษาขาให้กับเขา ฉันขอไปเตรียมตัวที่จะฝังเข็มให้เขาก่อน”
ใครจะรู้ว่าอู๋เทียนเหอที่เอาแต่เงียบอยู่นั้น พอเห็นฉียวี่ชูจะเดินไปหยิบห่อเข็มก็จะโกนขึ้นมาว่า “ไม่ต้อง! ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอรักษาขาของฉัน! หมออะไร หมอก็ยังคงเป็นหมออยู่วันยังค่ำ ! ฉันก็แค่คนพิการแล้ว! พวกเธอจะมาเสียเวลาเปล่าด้วยทำไม ปล่อยฉันไปเถอะ!”
เขาที่ทั้งพูดทั้งจ้องไปทางคนที่จะเข้ามาใกล้เขา โดยเฉพาะยวี๋น่า
“อู๋เทียนเหอ นายพูดจบรึยัง!”ซูฉิงที่ทนดูต่อไม่ไหว ต้องเขาอย่างโมโห แล้วเดินเข้าไปหา แล้วก็ใช้สันมือฟันลงไปตรงท้ายทอยของเขา
อู๋เทียนเหอ หน้ามืดแล้วสลบลงไป
“เทียนเหอ นายเป็นอะไรไป………เทียนเหอ…….”ยวีน่าเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงมาก อยากจะเข้าไปดูอาการอู๋เทียนเหอ
แต่ถูกซูฉิงรั้งแขนไว้ แล้วก็ส่ายหน้าพูด:”ไม่เป็นไร ฉันแค่ทำให้เขาสลบไปก็เท่นั้น ให้เขาหลับสักหน่อย คุณลุงฉีถึงจะฝังเข็มรักษาเขาได้”
จากนั้น เธอก็หันไปมองฉียวี่ชูเดินเข้ามาพร้อมกับห่อเข็มที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อมาเรียบร้อย “คุณฉี รบกวนคุณลุงแล้ว”
……..
อู๋เทียนเหอที่สลบไปจนถึงเย็นถึงได้ฟื้นขึ้นมา ยวี๋น่าคอยนั่งอยู่ข้างๆ เขาในมือยังคนโจ๊กอยู่
เขาค่อยๆ กะพริบตื่นก็มองเห็นขาขวาของตันเองที่ถูกพันด้วยผ้าพักแผนผืนใหม่
“เทียนเหอ ในที่สุดนายก็ฟื้นแล้ว ดีจังเลย…….คุณลุงฉีได้ฝังเข็มให้นายแล้ว และก็ได้พันแผนให้นายใหม่”
ยวี๋น่าที่เห็นตอนที่เขาฟื้นขึ้นมา ก็ยิ้มดีใจ แล้วก็ตักโจ๊กป้อนปากเขา”นายหลับไปหลายชั่วโมงแล้ว กินโจ๊กนี่ก่อนเถอะ คุณลุงฉีบอกว่าตอนนี้นายกินได้แต่อาหารจืดๆ ”
“ทำไมต้องช่วยฉัน “อู่เทียนเหอไม่สนใจโจ๊กในถ้วย แต่หันหน้าไปทางอื่น ไม่มองหน้ายวี๋น่า นิ่งอยู่นานถึงเอ่ยพูดออกมา
ยวี๋น่าอึ้ง หลังจากนั้นถึงได้ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มพูด”นายเป็นแฟน…”
“ฉันไม่ได้เป็นแฟนของเธอ!”
อู๋เทียนเหอพูดแทรกขึ้นทันที เขาหันมาจ้องยวี๋น่า บางทีอาจจะเพราะโกรธ แววตาถึงได้แดงก่ำ
ยวี๋น่า เธอทำไมถึงไม่เข้าใจนะ……
เขาเป็นแค่ผู้ชายจนๆ คนหนึ่ง แล้วตอนนี้ยังกลายเป็นคนพิการอย่างนี้ ถ้ายวี๋น่าอยู่กับเขา เขาจะต้องทำให้เธอพลอยลำบากไปด้วย…….
ยัยโง่นี่ ทำไมจะต้องตามหาเขาด้วยนะ
เขาพยายามฝืนใจไม่ให้สงสารและปรี่เข้าไปกอดยวี๋น่า กัดฟันพูดหน้านิ่งกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า “ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรอ ว่าพวกเราเลิกกันแล้ว แล้วทำไมเธอยังต้องมาตามหาฉันอีก ยวี๋น่า ก่อนหน้านี้ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าเธอเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องอย่างนี้นะ!”
“เธอเป็นถึงคุณหนู ในตระกูลเศรษฐี แต่ฉันเป็นเพียงผู้ชายคนจนคนหนึ่ง ฉันคบกับเธอก็เพื่อเงินก็เท่านั้น เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน ชีวิตนี้ฉันอยากได้เพียงแต่เธองั้นหรอ เธอคงภูมิใจในตัวเองมากสินะ !”
อู๋เทียนเหอที่พูดเสียงดังเหมือนเกือบจะตะคอก แววตาดุจ้องไปที่ยวี๋น่าราวกับว่าเขามีความแค้นกับเธอมาก
ยวี๋น่าที่ตกใจอึ้ง จากหน้าที่ดีใจแปลเปลี่ยนเป็นสลด สุดท้ายก็ปิดเปลือกตาลงแล้วก็นำถ้วยโจ๊กวางไว้ที่หัวเตียง
“เทียนเหอ ตอนนี้นายอารมณ์ไม่ดี ……..ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวฉันออกไปก่อน โจ๊กวางอยู่ตรงนี้นะ อย่าลืมกินละ”
ยวี๋น่าที่เดินเสียใจออกมาจากโรงแรม ตาแดงก่ำ เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
หลายวันหลังจากนั้น เธอก็มาดูแลเรื่องอาหารการกินให้กับอู๋เทียนเหอที่โรงแรมตลอด แต่เขาก็ยังมีท่าทีเย็นชากับเธอ พูดจาไม่ดีกับยวี๋น่าตลอดเลย
ร้านบาร์
ยวี๋น่านั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ไม่พูดคุยกับใคร ในมือถือแก้ววิสกี้ยกขึ้นดื่ม
เธอติดต่อกันแล้วสี่ห้าแก้ว
ตอนนี้ยวี๋น่าเมาได้ที่จนหน้าแดงก่ำ มองแก้วเหล้าที่อยู่ในมือด้วยแววตาล่องลอย แล้วก็พึมพำพูดกับตัวเอง”เทียนเหอ. เทียนเหอ…….”
หลินหนานอยู่ที่ร้านบาร์กับเพื่อน หลังจากที่เขาเดินออกมาจากที่นั่ง ก็มองเห็นยวี๋น่านั่งอยู่เคาน์เตอร์บาร์
เขาหยุดเดิน มองผู้หญิงก็รู้สึกเจ็บปวด
“เดี๋ยวฉันตามไป “เขาหันไปโบกมือให้เพื่อน แล้วเดินเข้าไปหายวี๋น่า
เขาเดินมาข้างๆ ยวี๋น่า มองเธอที่ตอนนี้เมาแล้ว แล้วก็หันไปมองพนักงาน สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาอย่างสงสาร ตบไหล่ยวี๋น่าเบาๆ
“พี่น่า พี่เมาแล้วนะ”