นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 400 พวกเราจะหมั้นกันแล้ว
ตอนที่ 400 พวกเราจะหมั้นกันแล้ว
แม่หลินที่อายุมากแล้ว และก็มีหลินหนานที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ได้ยินอย่างนั้นก็ความดันขึ้นจนเป็นลม พ่อหลินต้องรีบเข้าพยุงเธอไว้ และก็นวดให้เธอพร้อมกับหยิบเอายาความดันที่พกมาด้วยให้กิน กว่าจะทำให้เธอฟื้นได้
“หลินหนาน ลูกชายของฉัน……..”
แม่หลินที่พอฟื้นขึ้นมาก็รับไม่ได้กับความจริงอันโหดร้าย แล้วก็ซุกหน้าอกพ่อหลินแล้วเริ่มร้องไห้
ยวี๋น่ามองเห็นสองสามีภรรยาเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งรู้สึกทุกข์ใจ ซูฉิงเม้มปากแล้วพยุงแขนของเธอมานั่งลงข้างๆ แล้วมองไปทางห้องผ่าตัดด้วยความเป็นห่วง
เพียงไม่นาน ร่างหลินหนานก็ถูกเข็นออกมาที่ห้องผู้ป่วยอาการสาหัส ด้วยใบหน้าซีดเผือด และยังมีเครื่องช่วยหายใจอยู่
ยวี๋น่าอยากจะเดินตามไป แต่ก็ถูกแม่หลินห้ามไม่ให้ไป
ตอนนี้ทั้งสองคนเจอหน้าผู้หญิงที่ทำให้ลูกชายคนเดียวของเขาต้องเกิดอุบัติเหตุ
ยวี๋หน้าตาแดง ตอนนี้เธอก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง ทิ้งหลินหนานไปก็ทำไม่ได้ และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไง
ซูฉิงเดินเข้ามาหา แล้วก็ตบหลังยวี๋น่าเบาๆ “เธออย่าเศร้าไปเลย……อีกสักครู่ อีกสักครู่ฉันจะไปดูที่ห้องผู้ป่วย คุณลุงคุณป้าก็คงจะยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น….”
ยวี๋น่าหันไปซบไหล่ของเธอด้วยความอ่อนแอ ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด “ซูฉิง ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ…..ฉันแค่รับไม่ได้ที่เด็กคนนี้จะลืมตาดูโลก ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะทำยังไง ถ้าหาก ถ้าหากว่าหลินหนานเขาไม่ฟื้นขึ้นมา แล้วฉัน ฉัน……”
“ไม่หรอกๆ เธอต้องเชื่อว่าเขาจะไม่เป็นอะไร …..”ซูฉิงลูบหลังยวี๋น่าเบาๆ พร้อมกับพูดปลอบ
เกือบหนึ่งชั่วโมง ซูฉิงกับยวี๋น่าถึงได้มาที่ห้องพักของหลินหนาน ซูฉิงต้องพูดให้พ่อแม่ของหลินหนานออกไปก่อน ถึงได้เรียกให้พยาบาลไปที่แผนกแพทย์แผนจีนนำเข็มเงินที่ใช้ฝังเข็มให้คนไข้มาให้ หลังจากทำการฆ่าเชื้อแล้ว ก็ฝังเข็มที่จุดชีพจรให้กับหลินหนาน
หลินหนานที่หลังจากทำการผ่าตัดแล้วยังไม่ฟื้น หลังจากที่ทำการฝังเข็มไปประมาณยี่สิบนาทีในที่สุดเขาก็ตอบสนองกลับมาบ้าง
ยวี๋น่าคอยนั่งอยู่ข้างๆ ตลอด มองหลินหนานด้วยความเป็นห่วง :ไม่รู้ว่าทำไม เธอกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทนไม่ไหว เหมือนว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตคนสุดท้ายของเธอ
หลังจากที่เห็นว่านิ้วชี้ของหลินหนานขยับ ซูฉิงก็ถอนหายใจโล่ง แล้วยิ้มพูดกับยวี๋น่า :”ตอนนี้หลินหนานจะต้องกำลังพยายามอยู่ แม้บาดแผลของเขาจะสาหัส แต่เขานั้นอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อมาก เมื่อกี้ฉันก็ได้กระตุ้นความรู้สึกของเขาว่าเขาจะฟื้นขึ้นมามั้ย ขอแค่เขาผ่านคืนนี้ไปได้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้เขาน่าจะได้ยินที่พวกเราคุยกันอยู่นะ”
ซูฉิงเดินเข้าไปยืนข้างๆ ยวี๋น่า ลูบไหล่ของเธอแล้วพูดเสียงเบา :”แต่ว่าฉันคิดว่า ตอนนี้คนที่หลินหนานอยากเจอมากที่สุดก็คือเธอนะ เธอก็ให้กำลังใจเขาเยอะๆ นะ บางทีเขาอาจจะรีบตื่นขึ้นมาโดยเร็วก็ได้นะ”
ตอนนี้ยวี๋น่าที่ตาแดงก่ำจากการร้องไห้ก็พยักหน้า หลังจากที่ซูฉิงออกไปแล้ว เธอก็จับมือหลินหนานที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาจับไว้แน่น พูดเสียงแหบพร่า”หลินหนาน นายรีบฟื้นขึ้นมานะ…….”
“ที่จริงแล้ว ที่จริงแล้วเรื่องที่นายชอบฉัน ฉันรับรู้มาตลอด นายก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ว่าฉัน…….ใจของฉันมีแต่อู๋เทียนเหอ และยังเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นกับพวกเรา ฉันเลยไม่รู้จะยอมรับนายยังไง ยอมรับในการที่นายทำดีต่อฉัน ฉันก็คิดไม่ถึงว่านายจะเกิดอุบัติเหตุ ขอโทษ…….”
“ถ้าหาก ถ้าหายฟื้นขึ้นมา ฉันก็จะอยู่กับนาย ฉันจะแต่งงานกับนาย นายฟื้นขึ้นมาเถอะนะ”
ยวี๋น่าที่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะกลับไปพักผ่อนแม้แต่น้อย เลยอยู่เฝ้าหลินหนานทั้งคืน
เผลอแป๊บเดียวก็เป็นเช้าวันที่สิบแปด เป็นวันหมั้นระหว่างถังรั่วอิงกับฮ่อหยุนเฉิง
ช่วงเวลานี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็กลับมาที่บ้านบ่อย บางครั้งก็ยังพูดล้อเล่นกับถังรั่วอิงบ้าง ถังรั่วอิงที่คิดว่าตัวเองทำสำเร็จและจินตนาการว่าตนได้เป็นคุณนายตระกูลฮ่อแล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่ามีเรื่องผิดปกติ
“พี่เฉิง พี่ว่า งานหมั้นของพวกเราจะมีคนมาเยอะมั้ย”
ถังรั่วอิงที่พิงไหล่ของฮ่อหยุนเฉิง ราวกับเด็กน้อย แม้แต่เสียงก็ทำเป็นเสียงเล็กอ้อน และก็ดูออกว่ามีความสุขจริงๆ
เธออยากจะแต่งงานกับผู้ชายตรงหน้ามานานหลายปีแล้ว ตอนนี้ศัตรูเดียวก็คือซูฉิงที่ไม่มีปัญหาแล้ว งั้นต่อไป คนที่คอยอยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิงก็มีเพียงแต่เธอคนเดียว
ฮ่อหยุนเฉิงลูบผมถังรั่วอิง เหลือบมองถังรั่วอิง แล้วยิ้มออกมา “เธอไม่ใช่รู้อยู่แล้วหรอยังจะมาถามอีก งานหมั้นของพวกเราจะต้องมีคนมาเยอะมากที่สุด และก่อนหน้านี้ฉันยุ่งมาก เหมือนจะมีแค่เธอคนเดียวที่จัดการเรื่องนี้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจะต้องยินดีกับเธอแน่”
“จริงหรอคะ “ถังรั่วอิงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แววตาวาว ราวกับดาวบนฟ้าก็ไม่ปาน
แต่ก็ยอมรับว่า เธอเริ่มจินตนาการการใช้ชีวิติหลังจากที่เธอแต่งงานกับฮ่อหยุนเฉิงแล้ว
ช่วงนี้ถังรั่วอิงนั้นยุ่งเกี่ยวกับเรื่องจัดงานหมั้นตลอด ตั้งแต่สถานที่จัดงาน แชมเปญที่ใช้ในงานหมั้น ขนมหวาน และยังมีของจุกจิกหลายอย่าง ล้วนเป็นเธอที่เป็นคนคอยจัดการและคิดสร้างสรรค์ออกมา แม้แต่หลี่เฉิงหยางที่ช่วงนี้ก็ไม่ได้มายุ่งกับเขาอย่างเหนือความคาดหมาย
พอเห็นฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้า ถังรั่วอิงก็ยิ่งดีใจ
เธอคิดอยู่ชั่วครู่ ก็ลอดพูดลองเชิงกับฮ่อหยุนเฉิง:”พี่เฉิงคะ พรุ่งนี้พวกเราก็จะจัดงานหมั้นกันแล้ว พี่พาฉันกลับไปที่บ้านของพี่ได้มั้ย……ถึงแม้ ถึงแม้ว่าคุณป้ากับฮ่อเฉียนจะไม่ชอบฉันก็เถอะ แต่เรื่องอย่างนี้ก็ควรที่จะได้รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ถึงจะดีมั้ย”
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด ไม่พูดอะไร ถังรั่วอิงเห็นอย่างนั้นก็ร้อนรนและกำลังจะถามต่อ แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็พยักหน้าก่อน
“ได้สิ ฉันจะพาเธอกลับบ้านตอนนี้เลย”
จากนั้นทั้งสองก็ขับรถกลับไปที่บ้านตระกูลฮ่อ ถังรั่วอิงที่พอลงมาจากรถก็เดินเข้ามาเหมือนกับนกคลอเคลียเจ้าของ คล้องแขนฮ่อหยุนเฉิงไม่ห่าง แม้จะยิ้มหวานอ่อนโยน แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ฮ่อเฉียนกับแม่ฮ่อที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ พอเงยหน้าเห็นฮ่อหยุนเฉิงกับถังรั่วอิงเดินเข้ามาด้วยกัน แม่ฮ่อก็หน้าเปลี่ยนเป็นขรึมทันที
ฮ่อเฉียนยิ่งแสดงออกมาชัดเจนทั้งสีหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยความโกรธ และน้ำเสียงที่สูงขึ้น ชี้นิ้วไปที่ถังรั่วอิง”ใครใช้ให้เธอเข้ามาที่บ้านของเรา ออกไป!”
ถังรั่วอิงที่ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงหวาน:”ฉัน ฉันกลับมาเยี่ยมบ้านเป็นเพื่อนพี่เฉิง …..พรุ่งนี้พวกเราก็จะจัดงานหมั้นแล้ว ”
เธอที่ทั้งพูดทั้งมองหน้าฮ่อหยุนเฉิง ฮ่อหยุนเฉิงจับมือถังรั่วอิงแน่น มองไปที่ฮ่อเฉียนด้วยสายตาเคร่ง
ไม่มีขัดแม้แต่น้อย “เธอให้เกียรติหน่อยสิ พรุ่งนี้ฉันก็จะหมั้นกับถังถังแล้ว”