นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 410 เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน
- Home
- นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น
- ตอนที่ 410 เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน
ตอนที่ 410 เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน
หลังจากที่คุณหยางพูดชื่อออกไป นอกจากซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงและหลี่เฉิงหยางแล้ว ทุกคน ณ ที่นี้ต่างมีสายตาเหลือเชื่อและพากัน หันไปหาผู้หญิงที่น่าสงสาร
ทันใดนั้นหัวใจของถังรั่วอิงกลับนิ่งลง สีหน้าเธอนิ่งขรึม เธอคิดไม่ถึงเลยว่ารอยแผลเป็นที่เธอปิดมานานกว่าสิบปีจะมาถูกเปิดโปงในที่แบบนี้
เธอคิดว่าเธอจะได้มีความสุขแล้ว
ถังรั่วอิงเงียบและตกอยู่ในห้วงความคิด
ที่จริง หลังจากที่แม่เลี้ยงของถังรั่วอิงออกจากบ้านตระกูลถังไป เธอที่ไม่มีที่ไป ไม่มีคนดูแลก็ถูกตำรวจไปส่งที่สถานสงเคราะห์ในเมืองตั้งแต่ยังเด็ก
ที่นั่นยังมีเด็กมากมาย
ถังรั่วอิงในตอนแรกคิดว่าเธอจะได้หาเพื่อนใหม่ และยิ่งไปกว่านั้น การที่เธอได้ออกจากบ้านหลังนั้นก็ไม่มีอะไรให้เสียดาย
ดูเหมือนว่าจะรู้ที่มาของตัวเอง แต่ก็เป็นเด็กที่ไม่ต้องการอยู่ดี เด็กคนอื่นๆ ในสถานสงเคราะห์ไม่ยอมเล่นกับเธอ ทั้งยังเอาเธอไปนินทาลับหลัง และแกล้งเธออย่างเปิดเผยด้วย
ถังรั่วอิงยังจำได้ ว่าตอนที่เรียนที่สถานสงเคราะห์ มีครั้งหนึ่งเธอกำลังนั่งที่ พอเปิดกล่องเครื่องเขียนก็เห็นหนอนอ้วนอยู่ข้างใน
“กรี้ด!” ถังรั่วอิงร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะกลัว ตอนนั้นเป็นช่วงเรียน และในชั้นเรียนก็มีคนเยอะ จนทุกคนหันมามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
เด็กชายอายุเจ็ดถึงแปดขวบหลายคนในตอนนั้นปรบมือหัวเราะกันอย่างตื่นเต้น ทั้งยังทำหน้าตาล้อเลียนและแลบลิ้นใส่ถังรั่วอิงด้วยสายตาเยาะเย้ยอีกด้วย
เด็กชายร่างสูงคนหนึ่งพูดอย่างไร้ความปราณีว่า “พ่อเธอติดคุก! เขาเป็นอาชญากร ลูกสาวของอาชญากรก็ควรโดนแบบนี้แหละ! เราได้ยินมาว่าพ่อเธอลักพาตัวคนอื่นไป แสดงว่าเธอก็ไม่ใช่คนดีอะไร ไม่ใช่คนดีแน่!”
คนส่วนใหญ่ในชั้นเรียนเริ่มตอบโต้ บางคนก็มีท่าทีคึกคักและดูสนุกมากขึ้น ตอนแรกถังรั่วอิงก็สู้กับพวกเขา แต่ก็โดนคุณครูลงโทษอย่างเข้มงวด และการแก้แค้นของเด็กชายพวกนั้นก็ทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป ถังรั่วอิงจะโกรธแค่ไหนก็จะรู้วิธีอดทน
ตั้งแต่นั้นมา เธอได้สาบานว่าจะต้องโดดเด่นและทำให้ทุกคนที่ดูถูกเธอต้องชดใช้ และให้รู้ว่าถังรั่วอิงคนนี้คือใครกันแน่
จนถึงวันนั้น เธอถูกพาไปที่ห้องทำงานของคณบดี ที่อยู่กับคณบดียังมีชายในชุดสูทรองเท้าหนัง แต่งกายสะอาดสะอ้านดูเรียบร้อยมาก
“รั่วอิง” คณบดีมองเธอด้วยรอยยิ้ม “คุณถังคนนี้บอกว่าเขาต้องการรับเธอไปเลี้ยง เขาเป็นถึง
ชาวจีนโพ้นทะเลที่กลับมาจากออสเตรเลียเลยนะ จากนี้ไปหนูจะมีบ้านใหม่แล้วนะ ดีใจไหม?”
“…”
ถังรั่วอิงเงียบอยู่นาน เอียงศีรษะมองชายผู้อ่อนโยน สุดท้ายก็ถามเพียงประโยคเดียว “จะดีกว่าตอนนี้ไหม?”
ชายคนนั้นตะลึงครู่หนึ่งแล้วหัวเราะ “แน่นอนว่าดีกว่าตอนนี้ ตราบเท่าที่เธอกลับบ้านกับฉัน ฉันสัญญาว่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นพันเท่า”
“ได้ค่ะ”
ถังรั่วอิงพยักหน้าโดยไม่ลังเล เธอต้องการจะออกจากสถานที่บ้าๆ นี้แล้ว
หลังจากนั้น ถังรั่วอิงก็ออกจากสถานสงเคราะห์ ชายคนนั้นก็พาเธอไปออสเตรเลีย ซึ่งเธอได้พบกับหลี่เฉิงหยางและได้รู้ว่าใครคือคนที่รับเลี้ยงเธอจริงๆ
ความเป็นจริง
ซูฉิงมองไปที่ถังรั่วอิงที่นิ่งเงียบไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่าถังรั่วอิงจะคิดหรือพูดอะไรก็ตาม เธอไม่สามารถยื้อสถานการณ์ปัจจุบันได้
เธอยิ้มบาง ก่อนจะหยิบปากกาบันทึกออกจากกระเป๋าเสื้อของเธอ ก่อนจะกดปุ่มเล่น และเสียงของหลี่เฉิงหยางและถังรั่วอิงก็ดังออกมาชัดเจน
ในที่สุดที่ถังรั่วอิงก็ได้สติ เธอที่คิดจะคว้าแต่ซูฉิงกลับเร็วกว่า ชูขึ้นเหนือหัวและพูดกับทุกคนว่า
“ตอนนี้หลักฐานก็อยู่นี่แล้ว ทุกคนเองก็คงได้ยินว่าถังรั่วอิงไม่ใช่ถังถัง ตัวตนนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด! และยิ่งกว่านั้นเธอก็ได้ติดต่อกับหลี่เฉิงหยางมานาน ถังรั่วอิง ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนั้นเธออยู่ที่สถานสงเคราะห์ คนที่รับเลี้ยงเธอคือคนของหลี่เฉิงหยางใช่ไหมล่ะ?”
“แกพูดเรื่องบ้าอะไร!?” ดวงตาของถังรั่วอิงโมโหจนจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ และแม้แต่ควบคุมความดังของเสียงตะโกนก็ทำไม่ได้ มาถึงตอนนี้แล้ว เธอก็ยังคิดเถียง
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ! ไม่ใช่อย่างนั้นเลย แกพูดอะไรน่ะ เห็นได้ชัดว่าแก—”
“โอ้?” ซูฉิงมองเธอด้วยท่าทางตลก “ถ้าฉันพูดเรื่องไร้สาระ แล้วเธอจะร้อนตัวทำไม? หรือกลัวว่าถ้าฉันพูดต่อไปแล้วจะถูกจับได้ว่าเรื่องเกี่ยวกับการประมูลเป่ยไห่วานครั้งก่อน เธอเป็นคนเอาข้อมูลของตระกูลฮ่อกรุ๊ปไปให้กับ BPL ใช่ไหมล่ะ?”
“แก—”
ถังรั่วอิงหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับถูกล็อคไว้ ณ ที่นี้เงียบไปนานราวกับว่าทุกคนไม่สามารถแยกแยะข้อมูลที่มันจำนวนมากได้
“อยากถามว่ารู้ได้ยังไงใช่ไหม?”
ซูฉิงทิ้งคำพูดออกไป จ้องเข้าไปในดวงตาของถังรั่วอิงและกล่าวว่า “เรื่องชั่วที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏขึ้นสักวัน”
“ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วใช่ไหมคะ? ถังรั่วอิงก็คือคนที่หลี่เฉิงหยางยุให้เข้าหาฮ่อหยุนเฉิง จุดประสงค์คือการขโมยความลับทางธุรกิจของตระกูลฮ่อกรุ๊ป เพื่อให้สุดท้ายตระกูลฮ่อกรุ๊ปถูก BPL ผนวกได้ในคราวเดียว!”
แม้ว่าเสียงของซูฉิงจะไม่ดัง แต่กลับทรงพลัง
หัวใจของถังรั่วอิงดิ่งลง เธอเม้มปากแน่น ราวกับว่ากำลังค้นหาในหัวว่าจะเอาคำพูดไหนมาอธิบายเรื่องทั้งหมดได้
“แกไม่มีหลักฐาน ถือดียังไงถึงบอกว่าฉันเข้าหาเขาเพื่อขโมยความลับ มีหลักฐานว่าฉันอยู่ฝ่าย BPL หรือไง? มีหลักฐานไหมล่ะ?”
ซูฉิงถอนหายใจยาว ก่อนจะดีดนิ้ว หยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมาแล้วกดปุ่มเล่น จอภาพในห้องหนังสือของฮ่อหยุนเฉิงปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่บนเวทีทันที ถังรั่วอิงหน้าซีดและพูดอะไรไม่ออกสักคำ
“เห็นหรือยัง? เธอไปห้องหนังสือของหยุนเฉิงแล้วขโมยแผนของสวนสนุกเป่ยไห่วานไปให้หลี่เฉิงหยาง ถ้าเธอคือถังถังจริง จะมีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ไง?”
บนเวทีเงียบสงัด แต่ด้านล่างเวทีราวกับถูกระเบิด เสียงบทสนทนาเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หลายคนชี้ไปที่ถังรั่วอิงก่อนจะแสดงความเกลียดชังและดูถูกทางสายตา
ถังรั่วอิงมองดูทั้งหมดนี้ด้วยความอ้ำอึ้งและส่ายหัว แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่พูดอะไรเลย เธอล้มลงบนเวทีราวกับว่าหมดแรง และใช้เวลานานถึงได้ร้องไห้ยอมรับมัน
“ใช่แล้วล่ะ ฉันทำเอง ฉันทำเองทั้งหมด…แต่พี่เฉิง พี่เฉิง…” เธอเงยหน้าขึ้นก่อนจะรีบคว้าชายเสื้อฮ่อหยุนเฉิง “ฉันทำไปทั้งหมดก็เพื่อพี่ ฉันอยากอยู่กับพี่ตลอดไป แล้วก็…แล้วก็ในเนื้อหาของแผนนั้นฉันก็ไม่ได้ให้หลี่เฉิงหยางนะ พี่เชื่อฉันนะ พี่ต้องเชื่อฉันนะ…”