นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 471 มื้อเที่ยงที่แสนจะวุ่นวาย
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 471 มื้อเที่ยงที่แสนจะวุ่นวาย
ผู้เฒ่าฮ่อลุกขึ้นและกำลังจะไปเปิดประตู แต่ฮ่อหยุนเฉิงห้ามไว้ เขาเม้มริมฝีปาก “คุณปู่ เดี๋ยวผมไปเองครับ ปู่อยู่ดื่มชากับคุณปู่ซูดีกว่าครับ”
ซูฉิงเดินไปที่ประตูกับฮ่อหยุนเฉิง เมื่อเปิดประตูออก ก็เห็นแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนยืนอยู่ที่ประตูทันที
เมื่อแม่ฮ่อมองไปที่ซูชิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไปในทันที “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ด้วย?”
“ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?” ซูฉิงถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมจู่ๆ แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนถึงมาที่นี่?
จริงๆ วันนี้คุณปู่กลับจีน เธอดีใจมาก แต่ตอนนี้เมื่อเธอเห็นผู้หญิงสองคนนี้ซูฉิงก็อารมณ์เสียทันที
“แม่ วันนี้คุณปู่มาจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณปู่ซู ซูฉิงก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วยอยู่แล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา เขาไม่อนุญาตให้ใครมาดูหมิ่นซูฉิงเด็ดขาด
เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงปกป้องซูฉิงมากขนาดนี้ ฮ่อเฉียนก็ยิ่งอิจฉา เธอสาบานในใจว่าจะไล่ซูฉิงออกไปให้ห่างจากฮ่อหยุนเฉิงให้ได้ มีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควรกับสถานะคุณนายฮ่อ
แม่ฮ่อถูกลูกชายดุ สีหน้าของเธอจึงไม่พอใจมาก เธอจึงพูดว่า “ปู่แกล่ะ?”
“ห้องอาหาร” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเรียบเฉย และเขาก็จับมือซูฉิง “เมื่อกี้คุณปู่บอกว่าให้ซูฉิงท้องหลานชาย ทำให้ครอบครัวครึกครื้นสักหน่อย อย่าทำให้คุณปู่เสียใจ”
น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงเต็มไปด้วยความเย็นชา
“คุณป้า อย่าโกรธพี่หยุนเฉิงเลยค่ะ พี่เขาตาบอดเพราะผู้หญิงคนนั้น” ฮ่อเฉียนจับมือแม่ฮ่อและปลอบเธอ
เมื่อเห็นฮ่อเฉียนที่ทำท่าว่านอนสอนง่าย ก็ยิ่งทำให้แม่ฮ่อโกรธมากขึ้น เธอไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายของเธอคิดยังไงถึงเลือกผู้หญิงอย่างซูฉิง
ในแววตาของฮ่อเฉียนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
แม่ฮ่อพาฮ่อเฉียนไปที่ห้องอาหาร เมื่อเธอเห็นผู้เฒ่าฮ่อ เธอก็ยิ้มออกมาทันที “พ่อคะ หนูพาเฉียนเฉียนมาหาค่ะ นี่คือชาที่หนูเตรียมมาให้”
“ช่วงนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้างคะคุณปู่?” ฮ่อเฉียนถามอย่างรู้ความ
แม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยวางยาผู้เฒ่าฮ่อมาก่อน แต่ผู้เฒ่าฮ่อก็ยังไม่ไล่พวกเธอออกไป
เพราะยังไงแม่ฮ่อก็คือแม่แท้ๆ ของฮ่อหยุนเฉิง
บางเรื่องก็ต้องใช้เวลากับมัน
ผู้เฒ่าฮ่อหัวเราะเบาๆ และพยักหน้า “วันนี้พวกเธอมาก็ดีแล้ว หล่าวซูกลับมาจากการเดินทางรอบโลก ฉันก็เลยจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขาที่บ้าน”
“ลุงซู สวัสดีค่ะ” แม่ฮ่อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ดึงฮ่อเฉียนมาข้างๆ แล้วพูดว่า “นี่คือลูกพี่ลูกน้องของหยุนเฉิงค่ะ เฉียนเฉียน เธอและหยุนเฉิงโตมาด้วยกันค่ะ เข้ากันได้ดี สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว”
“สวัสดีค่ะคุณปู่ซู” ฮ่อเฉียนเดินตามแม่ฮ่อไปทักทายอย่างเชื่อฟัง มองคุณปู่ซูขึ้นลงอย่างพิจารณา
นี่คือชายชราตระกูลซูที่มีข่าวลือน่ากลัวงั้นเหรอ?
ก็ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย!
เมื่อได้ยินคำพูดเวิ่นเว้อของแม่ฮ่อ สีหน้าของผู้เฒ่าฮ่อก็ไม่ค่อยพอใจทันที เขาก็กระแอมไอออกมาเบาๆ
บรรยากาศในห้องอาหารมาคุขึ้นเล็กน้อย ผู้เฒ่าฮ่อพูดอย่างเย็นชา “พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ อาหารในครัวพร้อมแล้ว วันนี้เตรียมอาหารไว้เยอะแยะเลย เรามาสังสรรค์ในครอบครัวกันดีกว่า”
ครอบครัว ฮ่อเฉียนได้ยินคำนี้ก็รู้สึกเคืองมาก
นังซูฉิงนังสารเลวไร้ยางอายนั่นเหมาะจะมาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเราได้ยังไง!
ระหว่างมื้ออาหาร ผู้เฒ่าฮ่อและผู้เฒ่าซูนั่งข้างกันตรงที่นั่งหลัก ฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงนั่งอยู่อีกฝั่ง และแม่ฮ่อกับฮ่อเฉียนนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ฮ่อหยุนเฉิงตักอาหารให้ซูฉิงเป็นครั้งคราว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่แสดงให้เห็นได้เฉพาะต่อหน้าเธอเท่านั้น “กินนี่สิ รชาติไม่เลวเลย”
การกระทำที่อ่อนโยนและเอาใจใส่ของชายผู้นี้ขัดหูขัดตาฮ่อเฉียนมาก เธอก้มศีรษะลงเขี่ยอาหารในชามไปมา เธอไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด
เมื่อแม่ฮ่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงดูแลซูฉิงดีขนาดนี้ เธอก็ไม่พอใจมาก เขาไม่ได้คีบอาหารให้เธอเลยด้วยซ้ำ มีแต่ดูแลซูฉิงเท่านั้น
“หยุนเฉิงไม่ต้องดูแลซูฉิงแล้ว ตัวเองก็กินบ้าง” ผู้เฒ่าซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชามของซูฉิงก็เต็มไปด้วยอาหารแล้ว และอาหารที่หลากหลายนั้นก็เต็มไปด้วยความรักที่ฮ่อหยุนเฉิงมีต่อเธอ
เมื่อเห็นการสายตาที่ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงอย่างอ่อนโยน ฮ่อเฉียนก็รู้สึกอิจฉาจนแทบบ้า แต่เธอยังต้องนั่งแกล้งทำเป็นเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถแสดงออกมาได้
ทันใดนั้นแม่ฮ่อซึ่งทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว จึงจงใจเคาะตะเกียบกับโต๊ะ “โอ๊ะ ตะเกียบหล่น ซูฉิงเธอช่วยหยิบขึ้นมาหน่อยได้ไหม?”
แม่ฮ่อจงใจทำตะเกียบหล่นลงกลางโต๊ะ และซูฉิงก็ต้องก้มตัวลงไปใต้โต๊ะเพื่อหยิบมันขึ้นมา
“…” ซูฉิงพูดไม่ออก
แม่ฮ่อเห็นเธอเป็นอะไร? คนรับใช้?
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ก็ถูกผู้เฒ่าซูพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เก็บเองไม่ได้เหรอไง ถ้าไม่อยากเก็บก็เปลี่ยนคู่ใหม่ไปสิ ซูฉิงเป็นสมบัติที่ฉันหวงแหนตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่คนรับใช้ของบ้านอื่น ขนาดฉันยังไม่ใช้เธอเลย ” ผู้เฒ่าซูพูดปกป้องซูฉิงอย่างเคร่งขรึม
ผู้เฒ่าซูรู้มานานแล้วว่าแม่ฮ่อไม่ชอบซูฉิง ถ้าเขาอยู่เขาจะไม่ยอมให้ใครมารังแกหลานสาวสุดที่รักของเขาได้แน่นอน
แม่ฮ่อทำหน้าไม่ถูก ตอนนี้เธออยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะก้มศีรษะลงไปหยิบตะเกียบหรือเปลี่ยนคู่ใหม่ดี
ฮ่อเฉียนที่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นก็พูดขึ้นอย่างเชื่อฟังทันทีว่า “ฉันช่วยหยิบเองค่ะป้า ฉันรู้ว่าป้าใช้ตะเกียบคู่นี้สะดวกที่สุด”
ฮ่อเฉียนแสร้งทำเป็นเป็นคนมีเหตุผล มีมารยาท และมีน้ำใจ
เธอเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปที่ซูฉิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันที่จริงการก้มหัวลงไปหยิบตะเกียบก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆ นะ ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น บางทีคนบางคนอาจเกิดมาอย่างไม่สนใจโลก แค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ก็ยังทำไม่ได้ ”
ฮ่อเฉียนจงใจเยาะเย้ยซูฉิงต่อหน้าทุกคน
“อยู่ที่บ้านฉันมีพี่เลี้ยงคอยทำสิ่งเหล่านี้ให้ และหยุนเฉิงก็รักฉัน ไม่อยากให้ฉันทำเรื่องพวกนี้” ซูฉิงไม่ใจเย็นอีกต่อไปแล้ว แววตาของเธอเย็นชาและเคร่งขรึม
“แล้วอีกอย่างเธออยู่ใกล้ตะเกียบขนาดนั้น ทำไมไม่หยิบตั้งแต่แรก จะมาหยิบตอนนี้ไม่เสแสร้งไปหน่อยเหรอ?” ซูฉิงเยาะเย้ย แล้วคีบอาหารใส่ชามของผู้เฒ่าฮ่ออย่างสงบและไม่แยแส
“แก!” สีหน้าของฮ่อเฉียนแข็งทื่อ เธอก้มลงหยิบตะเกียบขึ้นมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
เดิมทีวันนี้เธอกับแม่ฮ่อจะมาที่นี่เพื่อหาโอกาสถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องในอดีต แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกับซูฉิง ซวยจริงๆ!
สิ่งที่ทำให้ฮ่อเฉียนโกรธมากขึ้นก็คือฮ่อหยุนเฉิงใจดีกับซูฉิง และอ่อนโยน มีน้ำใจกับเธอมาก มันทำให้ฮ่อเฉียนอิจฉาอย่างมาก
ซูฉิงยัยผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีนักหนาถึงได้ใจลูกพี่ลูกน้องของเธอไป!
สัปดาห์หน้าเป็นงานหมั้นของพวกเขา งานหมั้นครั้งที่แล้ว ฮ่อเฉียนแอบวางยาพิษผู้เฒ่าฮ่อ และการปรากฏตัวของถังรั่วอิงก็ทำให้พิธีหมั้นของพวกเขาก็พังทลาย ซูฉิงถึงกับเลิกรากับฮ่อหยุนเฉิง
แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นกว่าเดิม และพวกเขากำลังจะหมั้นกันอีกครั้ง!
ความอิจฉาริษยาในใจกำลังลุกโชน ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ซูฉิงคงถูกฟันด้วยดาบนับพันครั้งแล้ว
ฮ่อเฉียนแอบกำหมัดของเธอไว้
ซูฉิง นังสารเลว! ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่! !