นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 477 ปฏิกิริยาของการตั้งครรภ์
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 477 ปฏิกิริยาของการตั้งครรภ์
“ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวจะดื่มนะคะ” ยวี๋น่ารับซุปไก่มาพร้อมกับพยักหน้า
กลิ่นซุปไก่มาอีกครั้ง ยวี๋น่ารู้สึกไม่สบายท้อง ใบหน้าของเธอซีด มือสั่นจนทำซุปไก่หกลงบนพื้น
เมื่อเห็นซุปไก่หกลงบนพื้น แม่หลินก็มีใบหน้าไม่สู้ดี
“บอกว่าไม่ดื่มก็ไม่ดื่มสิ ทำเสียของทำไมน่ะ” แม่หลินจ้องยวี๋นาอย่างดุเดือด “หลินหนานให้ฉันดูแลเธอ ฉันก็ดูแลเธอแล้ว เธอไม่เห็นค่าเลยนะ”
ซุปไก่ของดีสูญเปล่า แม่หลินจึงไม่พอใจก่อนจะดุยวี๋น่า
ใบหน้าของยวี๋น่าซีด ก่อนเธอจะรีบพูด “คุณน้า ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ สองวันนี้ฉันรู้สึกไม่สบายท้อง เดี๋ยวจะทำความสะอาดซุปไก่บนพรมนะคะ”
เพื่อไม่ให้แม่หลินโกรธ ยวี๋น่าจึงรีบพูดแก้ไข
หลินหนานที่เพิ่งกลับมาจากบริษัท ได้ยินเสียงในบ้าน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือยวี๋น่าต้องมีความขัดแย้งกับแม่หลินอีกแน่
หลินหนานวางของลงและรีบขึ้นไปชั้นบน “น่าน่า แม่ เกิดอะไรขึ้นครับ”
ทันทีที่เขาขึ้นไปชั้นบนก็ได้เห็นห้องรก ซุปไก่หกบนพรม และเศษชามเซรามิกตกอยู่บนพื้น
และใบหน้าของยวี๋น่าซีด ใบหน้าของแม่ก็มีแต่ความไม่พอใจ
แม่หลินขมวดคิ้วและเอ่ยปากพูดก่อน “แม่ก็เชื่อฟังที่ลูกบอกให้ดูแลว่าที่ลูกสะใภ้ดีๆ เลยให้เธอดื่มซุปไก่เพื่อเสริมโภชนาการ สุดท้ายพอได้กลิ่นก็จะอาเจียนแล้ว ยังทำซุปไก่หกลงพื้นอีก”
“แม่ น่าน่าสองวันนี้แพ้ท้องรุนแรง แม่เข้าใจเธอหน่อยนะครับ” หลินหนานเข้าใจยวี๋น่า เขาจึงเอ่ยปากปกป้อง “ซุปไก่มันหกแล้วก็แล้วไปเถอะครับ”
เมื่อเห็นลูกชายปกป้องยวี๋น่า แม่หลินก็ไม่มีความสุข เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “แม่ให้ที่ครัวทำซุปไก่ให้เธอตั้งห้าถึงหกชั่วโมง”
ยวี๋น่าที่ปิดปากอยู่ด้านข้างก็อดอยากอาเจียนไม่ได้
“แม่เองก็เคยท้องนะ ทำไมตอนแม่ท้องไม่เห็นจะอ่อนแอเลย แม่เห็นเธอตอนนี้ก็ว่าเกินไปแล้ว แต่ถึงจะยังไงก็ต้องนึกถึงเด็กในท้องสิ ไม่อย่างนั้นเด็กจะโตได้ยังไง ไม่มีสารอาหารก็จะโตมาพิการ…” แม่หลินกล่าวอย่างกังวล
หลินหนานมองไปที่แม่ของเขาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะปลอบโยน “แม่ ไม่หรอกครับ ตอนนี้เป็นการเลี้ยงลูกตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว สามารถตรวจสอบได้แล้วครับ”
“เราจะไปตรวจสูติกรรมเป็นระยะๆ ลูกไม่มีทางเป็นอะไรหรอกครับ” หลินหนานตบไหล่แม่ตัวเองเบาๆ แล้วพูดว่า “น่าน่ารับรู้ถึงที่แม่ใส่ใจในการทำซุปไก่แล้วล่ะครับ”
พูดจบ หลินหนานก็ส่งสัญญาณให้ยวี๋น่าพูดอะไรเสียหน่อย
ยวี๋น่าเข้าใจทันทีว่า “คุณน้าคะ เดี๋ยวหมดช่วงแพ้ท้องแล้วจะดื่มซุปไก่นะคะ”
หลินหนานกำลังช่วยเป็นตัวกลางระหว่างสองคน แม่หลินเองก็ไม่อยากให้ลูกชายลำบากใจ เธอจึงมองยวี๋น่า “พวกเธอสองคนทำอาหารกินเองก็แล้วกัน ลูกก็ดูเอาแล้วกันว่ายวี๋น่าเธอจะกินอะไร”
หลังจากที่แม่หลินจากไป หลินหนานก็โอบไหล่ของยวี๋น่าและรีบประคองให้เธอนั่งลง “น่าน่า ไม่เป็นไรใช่ไหม แม่ผมเขาก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าถือสาเขาเลยนะครับ”
หลังจากอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันมานาน ยวี๋น่าก็รู้นิสัยแม่หลิน และรู้ว่าหลินหนานดีกับเธอมากจริง ๆ และเพื่อหลินหนานและลูกในท้อง ยวี๋น่าจึงยอมอดทน
“ฉันไม่เป็นไร” ยวี๋น่ายิ้มบาง “ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่ พอได้กลิ่นซุปไก่ ฉันก็เผลอทำอย่างนั้นเสีย”
หลินหนานมองยวี๋น่าอย่างเป็นห่วง หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อไป เขากังวลว่าร่างกายของยวี๋น่าจะรับไม่ไหว
“จะไม่กินตลอดก็ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเด็กหรอก ร่างกายพี่ก็คงไม่ไหวแน่นอน” หลินหนานโอบกอดยวี๋น่าแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ผมจะไปให้ที่ครัวทำอาหารที่พี่ชอบนะ”
เขาบอกให้ยวี๋น่าพักผ่อนในห้องและลงไปจ้องคนที่ครัวทำอาหาร
ตามรสชาติที่ยวี๋น่าชื่นชอบ จึงทำอาหารที่ยวี๋น่าชอบกินเป็นพิเศษ และหวังว่าเธอจะกินได้สักหน่อย ร่างกายจะได้มีแรง
หลังจากพักสักครู่ หลินหนานก็นำจานใหญ่ที่มีปลากระรอกทอดเปรี้ยวหวาน ผัดผัก และกุ้งทอดขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาหารที่ปกติแล้วยวี๋น่าชอบทาน
“น่าน่า นี่เป็นอาหารที่เชฟเพิ่งทำเลยนะ ลองชิมดูสิ” หลินหนานยื่นช้อนให้ยวี๋น่าเบา ๆ ก่อนจะนั่งมองเธอดูเธอกิน
เมื่อมองดูอาหารน่าอร่อย ดวงตายวี๋น่าก็เบิกบาน ทันทีที่เพิ่งหยิบตะเกียบและกำลังจะกินให้เยอะ แต่ทันใดนั้นท้องของเธอก็เหมือนผันผวน “รีบเอาออกไป…ฉันอยากอาเจียน”
อาหารที่ปกติเธอชอบกิน แต่ตอนนี้เธอกลับกินไม่ได้แม้แต่คำเดียว
หลินหนานมองเธออย่างกังวลใจ ก่อนจะโอบกอดอีกคนเอาไว้ “น่าน่า ช่วงพี่ท้องคงจะลำบากเลยสินะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่กับยวี๋น่าระหว่างตั้งครรภ์ ไม่คิดเลยว่าช่วงระหว่างตั้งครรภ์จะทรมานขนาดนี้
“พี่พักสักหน่อยไหม นอนพักบนเตียงสักหน่อยนะ” หลินหนานรินน้ำก่อนจะวางลงบนโต๊ะข้างเตียงให้อีกคน
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะพักผ่อน พี่เลี้ยงก็เคาะประตู
“คุณหลินคะ มีแขกมาค่ะ” พี่เลี้ยงพูดช้าๆ
หลินหนานขมวดคิ้ว มีแขกมา ใครกันนะ ทั้งยังต้องมาเรียกเขาด้วยอีก
เมื่อมองยวี๋น่าที่อยู่ในห้อง หลินหนานก็เอ่ยปากบอก “น่าน่า มีแขกมา ผมจะลงไปดูหน่อย พี่พักอยู่ข้างบนไปก่อนนะครับ”
แขกที่ต้องการให้หลินหนานลงไปต้อนรับคงจะเป็นแขกคนสำคัญ ยวี๋น่าจึงลุกขึ้นยืนและพูดอย่างยากลำบาก “ไม่ล่ะ ฉันลงไปเป็นเพื่อนนายดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจทำให้แม่นายไม่พอใจก็ได้”
เห็นแก่แม่หลิน ยวี๋น่าก็ยังคงทนต่อความรู้สึกไม่สบายกาย ก่อนจะลงไปพร้อมกับหลินหนาน
ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง แม่หลินกำลังสนทนาอย่างสนิทสนมกับเด็กสาวคนหนึ่ง เธอจับมือของหญิงสาวและยิ้มไปด้วย
“แม่” หลินหนานที่เดินลงมาชั้นล่างกับยวี๋น่าพูดขึ้น
เมื่อแม่หลินเห็นหลินหนาน เธอก็รีบลากเขาไปและพูดว่า “ลูกดูสิว่าใครมา?”
แม่ชี้ไปที่หญิงสาวแสนสวย หลินหนานตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะจำผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าได้ “เธอคือซินอ้าย?”
เฉินซินอ้ายคือเพื่อนบ้านของหลินหนาน ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน เป็นรักในวัยเด็ก ต่อมาเฉินซินอ้ายก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งสองก็ขาดการติดต่อกันไป
“ซินอ้ายเพิ่งกลับมาจากไปเรียนที่ต่างประเทศเลยมาเยี่ยมแม่ ลูกดูสินี่เป็นของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้แม่เลยนะ” แม่หลินพูดพร้อมรอยยิ้ม “ซินอ้ายคนนี้ช่างรู้เรื่องดีจริงๆ”
เธอจับมือเฉินซินอ้ายไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และพูดเยินยอเธออย่างไม่ลดละ
ยวี๋น่ามองดูทั้งสามคุยกันอย่างมีความสุข จนตัวเองเหมือนคนนอกและไม่สามารถเข้าไปพูดคุยด้วยได้เลย
หลินหนานที่สังเกตเห็นความลำบากใจของยวี๋น่าก็ดึงมือของยวี๋น่าไปและพูดแนะนำ “ซินอ้าย นี่คู่หมั้นฉันเอง เธอเพิ่งท้องได้ไม่นานนี้เอง”
เมื่อพูดถึงยวี๋น่า ดวงตาของหลินหนานก็มีแต่รอยยิ้ม
เมื่อเฉินซินอ้ายเห็นฉากนี้ ในใจก็แอบอิจฉา เธอชอบหลินหนานมาตั้งแต่เด็ก ไม่นึกเลยว่าไปเรียนที่ต่างประเทศ หลินหนานก็มีคู่หมั้น อีกทั้งยังใกล้จะเป็นพ่อคนแล้วด้วย!