นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 508 ต้องมีแรงกระตุ้น
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 508 ต้องมีแรงกระตุ้น
ในตอนเย็นเมื่อฮ่อหยุนเฉิงกลับมาถึงบ้าน ซูฉิงก็อยู่ที่บ้านแล้ว ทั้งสองคลุกตัวอยู่บนโซฟา ฮ่อหยุนเฉิงนอนอยู่บนตักซูฉิง คิดอยู่สักพักถึงได้เอ่ยบอกเธอ “มิเชลมาที่เมือง A แล้ว เธอรู้ไหม?”
“หือ เธอมาที่เมือง A เหรอ?”
เมื่อซูฉิงได้ยินชื่อของมิเชล เธอก็ก้มศีรษะมองเข้าไปในดวงตาของฮ่อหยุนเฉิง เธอรู้ว่ามิเชลชอบฮ่อหยุนเฉิง “ฉันไม่รู้ เธออาจจะมาหานายล่ะมั้ง”
ฟังแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดนิดๆ
ฮ่อหยุนเฉิงเองก็ตระหนักได้ว่าซูฉิงอาจจะไม่ได้ดีใจ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะหยอกล้อเธอ แต่เขาก็พูดความจริง
“ใช่แล้ว เขามาหาฉันจริงๆ วันนี้มาหาถึงบริษัทเลยนะ มาบอกว่าเขาชอบฉันเลยนะ มาบอกว่าเขาชอบฉันมาก อยากให้ฉันไปคบกับเขา”
มือของซูฉิงกำแน่นโดยไม่รู้ตัว กำแขนเสื้อของฮ่อหยุนเฉิงและรีบเอ่ยถาม “แล้วนายล่ะ นายตอบไปยังไง?”
ฮ่อหยุนเฉิงมองตาของซูฉิงอย่างจริงจังและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ฉันบอกไปว่าฉันมีเธออยู่แล้ว อย่ามาล้อเล่นเลย แต่ก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อาจจะเพราะอารมณ์ชั่ววูบก็ได้”
ซูฉิงถึงได้แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในใจก็ยังคงหึงหวงมาก เธอจงใจหันหน้าไปด้านข้าง และพูดด้วยอารมณ์เล็กน้อย “เห็นไหมล่ะ ฉันรู้จักหล่อนดี หล่อนชอบใครก็ต้องตามจีบให้ได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเสน่ห์ของท่านประธานเราจะมากขนาดทำให้เจ้าหญิงน้อยจากฝรั่งเศสมาถึงจีนได้…”
ความหึงหวงในคำพูดไม่มีอะไรชัดเจนไปมากกว่านี้แล้ว ฮ่อหยุนเฉิงลุกขึ้นนั่ง มองซูฉิงเป็นเวลานาน และในที่สุดก็หัวเราะและพูดจงใจพูดล้อเล่น “เราสองคนก็เหมือนกันนั่นแหละ โจเซฟก็มาเพื่อจีบเธอไม่ใช่เหรอ? แถมมาเร็วกว่ามิเชลด้วย”
“นาย—” ซูฉิงสำลักไปครู่หนึ่ง เธอไม่คิดว่าฮ่อหยุนเฉิงราชาผู้อิจฉาริษยาแห่งเอเชียจะพูดถึงเรื่องนี้ในเวลานี้ เธอทั้งโกรธทั้งตลกในทันที ก่อนจะบีบแขนเขาเบาๆ
“นายนี่นะ ไม่คุยกับนายแล้ว”
ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มและโอบตัวซูฉิงเอาไว้ เขามีท่าทีโลภมาก มองซูฉิงยิ้มและท่าทีใส่อารมณ์ของอีกคน ตราบใดที่เป็นเธอ ไม่ว่าอะไรก็ดีไปหมด
“เอาล่ะๆ อย่าโกรธเลยนะ เมื่อกี้ฉันแค่หยอกเล่น ตอนนี้ฉันอยากจะรีบไปถึงวันงานหมั้น เธอจะได้เป็นคู่หมั้นของฉันโดยสมบูรณ์ อุปสรรคทั้งหมดระหว่างเราจะได้หมดไป”
แต่ไม่นึกเลยว่าปัญหาจะยังมีอีก
ฮ่อหยุนเฉิงคิดจริงๆ ว่ามิเชลนั้นแค่คิดไปเองตามอารมณ์ชั่ววูบ แต่หลังจากนั้น เป็นเวลาห้าถึงหกวันเต็ม มิเชลก็เหมือนกับโจเซฟในตอนแรกที่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็มักจะมาปรากฏตัวหน้าห้องทำงานประธานในตระกูลฮ่อกรุ๊ป
“มิเชล คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ครับ?”
ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นมิเชลก็ปวดหัวทันที แต่เขายังไม่ทันทำอะไร เพียงมองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ตรงกันข้ามอย่างช่วยไม่ได้
มิเชลพูดพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรนี่คะ ฉันแค่อยากจีบคุณ ได้เห็นคนที่ชอบทุกวันก็จะได้มีความสุขไงคะ แล้วฉันก็พูดไปแล้วด้วยว่าต้องทำให้คุณรู้ให้ได้ว่ามีแค่ฉันที่เหมาะกับคุณที่สุด”
เธอพูดพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินอ้อมมาหลังโต๊ะ วางมือของเธอบนพนักเก้าอี้อย่างสบายๆ เอนตัวเข้าไปใกล้ฮ่อหยุนเฉิง และแกล้งทำเป็นจับแขนของอีกฝ่าย
“จริงสิ ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีหนังน่าสนุกด้วย คุณไปดูกับฉันสิ ฉันว่าซูฉิงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”
ร่างของฮ่อหยุนเฉิงเคลื่อนห่างจากมิเชลโดยไม่รู้ตัว มองลงไปที่มือของหญิงสาวแล้วค่อยๆ ดึงแขนของเขาออก
“แต่ผมว่าเขาต้องว่าอะไรแน่นอนครับ แล้วคุณเองก็เห็นแล้วว่าผมยังมีงานอีกมากที่ยังไม่เสร็จ คุณกลับไปก่อนดีไหมครับ…แล้วผมก็คิดว่าเราควรอยู่ห่างกันไว้จะดีกว่านะครับ”
“ก็แค่ดูหนังเองนะคะ ฉันไม่บอกหล่อนหรอกค่ะ”
ฮ่อหยุนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมองและบอกกับเธออย่างจริงจังว่า “แต่ผมไม่ชอบครับ ผมไม่อยากทำซูฉิงเสียใจ และเราก็ไม่เหมาะสมกันเลยด้วยครับ คุณเข้าใจไหมครับ?”
มิเชลคาดการณ์คำตอบของฮ่อหยุนเฉิงไว้อยู่แล้วว่าจะตอบแบบนี้ แต่พูดตามตรง เธอไม่สนใจ มีสุภาษิตโบราณในจีนว่า ถ้ากลัวก็เท่ากับเราอ่อน ต่อให้เปลี่ยนก็น่าจะเป็นเหมือนเดิม
“คุณไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำหลายครั้งหรอกค่ะ แต่ที่ฉันจีบคุณก็เป็นเรื่องของฉัน เมื่อเวลาผ่านไปคุณอาจไม่ชอบฉัน”
“…อย่างที่คุณพูดแล้วกัน”
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกหมดหนทางกับมิเชล ไม่รู้ว่าเธอหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากแค่ไหน ก็เลยตามเลย แต่ทั้งหมดก็เท่านั้น เมื่อมิเชลถามฮ่อหยุนเฉิง ฮ่อหยุนเฉิงถึงตอบกลับ และส่วนใหญ่มักจะไม่สนใจเธอ
เมื่อเวลาผ่านไป พนักงานจำนวนหนึ่งในตระกูลฮ่อกรุ๊ปก็ได้รู้ว่าเจ้านายของพวกเขากำลังกิ๊กกั๊ก ก่อนจะมารวมตัวกันที่ห้องทำงานเพื่อที่อยากจะกินเผือก สุดท้ายคือมีครั้งหนึ่งที่หลินเหยียนเฟิงพบเข้าตอนที่พนักงานทั้งสองคนซุบซิบกัน
เป็นผลให้ในคืนวันนั้น ในช่องทางการสื่อสารของพนักงานส่วนใหญ่ได้มีการซุบซิบกันมากมาย ซึ่งกำลังวิเคราะห์ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะหวั่นไหวหรือไม่
และฮ่อหยุนเฉิงไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย ตอนนี้เขาเพียงต้องการกำจัดมิเชลที่มาพัวพันโดยเร็วที่สุด หรือให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าตัวเขาไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด และทำให้เธอปล่อยมือจากตัวเขา
ส่วนซูฉิงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง โดยพื้นฐานแล้วจะหึงอยู่สองสามวัน แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ว่าอะไร กลับชอบเธอมากขึ้นด้วยซ้ำ
ระหว่างคู่รักก็ต้องมีแรงกระตุ้น
เพียงแต่ว่ามนุษย์นั้นจะมีวันที่เหน็ดเหนื่อยเข้าสักวัน
ถ้ามิเชลเป็นแบบนี้ไปอีกนาน คงจะหมดความอดทนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอไปหาฮ่อหยุนเฉิงทุกวันเป็นเวลาสามวันติด ไม่ว่าจะไม้แข็งหรือไม้อ่อนก็ไม่เป็นผล ดูเหมือนฮ่อหยุนเฉิงจะติดตั้งเกราะป้องกันไว้เลย ไม่เมินก็ปฏิเสธออกมาตรงๆ ไม่เหลือแม้แต่ความให้เกียรติที่ตอนแรกมีเลยด้วยซ้ำ
มิเชลยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้ใจฮ่อหยุนเฉิงมาอย่างสมบูรณ์ แต่ให้เธอสะกดรอยตามไปเรื่อยๆ เธอก็ค่อยๆ หมดความสนใจเหมือนกัน
ในเมื่อไม่ได้ผล ก็ต้องลองใช้วิธีอื่นแล้วกัน
ในวันนี้ มิเชลเรียกบอดี้การ์ดทุกคนที่เดินทางมาจีนพร้อมกับเธอเข้ามาในห้อง สองมือกอดอกและถามอย่างเคร่งขรึม
“ฉันจะถามพวกนายว่า ฮ่อหยุนเฉิงคนนี้ จะต้องจีบยังไงถึงจะได้”
บอดี้การ์ดสี่ห้าคนมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่ามิเชลคลั่งไคล้ผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าหญิงจะถามคำถามนี้ เลยไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
บอดี้การ์ดพวกนั้นมีคนจีนอยู่ด้วย และก็อยู่ในตระกูลเดอโกลมาเป็นเวลานาน เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงลองพูดออกไป
“องค์หญิงครับ ตอนที่ผมเคยดูละครโทรทัศน์ พวกคนที่ไม่สามารถได้ใจของคนที่รักก็จะจับเขามาอยู่ด้วยกันกับตัวเอง ประธานฮ่อดูแล้วน่าจะใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อนไม่ได้ ถ้างั้น…องค์หญิงลองวิธีนี้ดูไหมครับ? จับเขากลับฝรั่งเศส คนเขาไม่ได้บอกว่าความรักจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหรือครับ บางทีอาจจะใช้ได้ก็ได้นะครับ”