นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 513 ถูกสะกดรอยตาม
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 513 ถูกสะกดรอยตาม
“บาดแผลเล็กน้อย”ฮ่อหยุนเฉิงเช็ดริมฝีปากเบาๆ
ที่จริงแล้ว แผลแค่นี้สำหรับเขาถือว่าเล็กน้อยมาก จนฮ่อหยุนเฉิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้รับบาดเจ็บเมื่อไหร่ แต่ตอนที่กลับมานั้นรู้สึกแสบเล็กน้อย
“เมื่อก่อนนายก็จัดการกับแผลเล็กน้อยอย่างนี้หรอ”ซูฉิงเลิกคิ้วถาม
ฮ่อหยุนเฉิงก็รู้ว่าซูฉิงเป็นห่วงเลยพ่นลมหายใจเบาๆ ออกมา :”งั้นภรรยาก็ช่วยฉันทำแผลหน่อยสิ รู้สึกเจ็บขึ้นมาแล้ว”
“ใครภรรยานายกัน”ซูฉิงเหลือบตามองบนให้กับฮ่อหยุนเฉิง แล้วลุกขึ้นไปหากล่องพยาบาล
และก็พบว่าห้องของทั้งสองคนก็ไม่มีกล่องพยาบาลเลย ซูฉิงมองดูบาดแผลของฮ่อหยุนเฉิงเลยลุกขึ้นยืน:”ฉันจะไปซื้อสำลีกับไอโอดีน”
ฮ่อหยุนเฉิงเห็นอย่างนั้น คำจะพูดก็กลืนลงคอแล้วลุกขึ้นเพื่อแสดงว่าจะไปกับซูฉิงด้วย
บ้านที่ทั้งสองพักอยู่ไม่ไกลจากร้านขายยา ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงเลยเดินเคียงไหล่กันไป ระหว่างนั้นซูฉิงได้ซื้อของดินมาด้วย
แต่ว่าระหว่างเดินกลับนั้น ซูฉิงก็เดินช้าลง เธอหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง เข้าใจความหมายของสายตาของอีกฝ่าย
มีคนสะกดรอยตามพวกเขา
ฮ่อหยุนเฉิงก็สังเกตได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ทำเป็นไม่รู้
มือของซูฉิงขยับเล็กน้อย หูหิ้วของถุงที่ถืออยู่ก็ขาดลงทำให้เธอตกใจ แล้วหยุดเดินเพื่อจัดการ
จากนั้นซูฉิงก็ถือโอกาสนี้มองไปรอบๆ และก็เหมือนจะสังเกตอะไรได้
“มีสองคน”ตอนที่ซูฉิงหันกลับมากระซิบบอกฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ
ฮ่อหยุนเฉิงตอบรับเสียงเบาแล้วยื่นมือไปรับถึงจากซูฉิง
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปตามปกติ ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งเดินยิ้มมาแต่ไกล
“ต้องขอโทษด้วยที่มารบกวนพวกคุณด้วยนะครับ ขอถามหน่อยพวกแกเป็นคู่รักกันรึเปล่าครับ”คนที่เดินยิ้มมาถามอย่างเป็นมิตรมากเกินไป
“คุณมีธุระอะไร”ซูฉิงเบี่ยงหน้ามองแล้วเอ่ยถามอย่างระวัง
“โอ๊ะ พวกคุณไม่ต้องกลัวนะ ผมไม่ได้มาร้าย ฉันเป็นพนักงานร้านกาแฟข้างหน้า เป็นร้านเล็กๆ ที่พึ่งเปิดใหม่ คู่รักสามารถมาดื่มชาฟรีได้”
เขาที่ทั้งพูดทั้งชี้ไปที่ป้ายติดหน้าอกของตัวเอง ซึ่งบนป้ายเขียนชื่อพนักงานของร้าน
“พวกเราไปดูกันเถอะ”ซูฉิงสังเกตเห็นสองคนที่อยู่ข้างหลังที่ใกล้เข้ามาแล้วเลยคล้องแขนฮ่อหยุนเฉิงยิ้มให้กับเขา
เธออยากจะดูหน่อยว่าคนพวกนี้จะมาไม้ไหน
ฮ่อหยุนเฉิงมีท่าทีลังเลเล็กน้อย ซูฉิงเลยทำเป็นอ้อนขึ้นมาถึงทำให้ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าตกลง
จากนั้นท้องสองคนก็เดินตามพนักงานของร้านไป ซูฉิงคิดว่าเมื่อกี้ฮ่อหยุนเฉิงตั้งใจให้เธออ้อนเขา
พอคิดมาถึงตอนนี้ เธอก็บิดเข้าที่เอวของเขา ฮ่อหยุนเฉิงไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ แต่กับฉวยโอกาสสอดผสานมือกับเธอแน่น
จนเดินเข้าไปในถนนสายหนึ่ง ซูฉิงก็มองเห็นร้านกาแฟ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้านข้างร้านไม่มีร้านอื่น
“ที่นี่แหละครับ”
พนักงานยิ้มตาหยีพูด แล้วยังชี้ไปที่ป้ายที่หน้าประตู ที่เขียนว่าโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคู่รัก
ซูฉิงยิ้มหวาน เธออยากจะดูหน่อยว่ายังมีอะไรรอพวกเขาอยู่
เพียงแค่ซูฉิงรู้สึกสงสัยว่าคนพวกนี้เป็นใคร
หลังจากที่เดินตามพนักงานเข้ามาในร้านแล้ว เสี่ยงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น ซูฉิงกวาดมองไปรอบๆก็เห็นว่าภายในร้านมีคนนั่งอยู่หกเจ็ดคน และตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงเดินเข้ามา สายตาพวกเข้าก็จับจ้องอยู่ที่หน้าของพวกเขา
“พวกคุณนั่งตรงนี้นะ “พนักงานชี้ตำแหน่งที่นั่งให้ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงได้นั่ง เหมือนจะห่างจากหน้าประตูมาก
“ห่อกลับบ้านให้พวกเราก็พอแล้ว”ซูฉิงยิ้มพูด สายตาของเธอมองไปที่มือของพนักงาน เพราะมีรอยสัก
เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แววตาของซูฉิงก็ไหวระริก
จากนั้นพนักงานร้านก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงสายตาของซูฉิงเลยรีบเก็บมือไปด้านหลัง พร้อมกับยิ้มให้
“ร้านของพวกเราทำสดใหม่ ถ้าห่อกลับบ้านจะไม่อร่อยนะครับ”
“งั้นฉันก็ไม่เอาแล้ว ถึงยังไงก็ฟรี”ซูฉิงที่ทั้งพูดทั้งโบกมือให้ จากนั้นก็หันหลังจะเดินออกมาแต่คิดไม่ถึงว่าประตูถูกปิดไว้แล้ว
พวกลูกค้าที่เดิมทีนั่งอยู่ก็ลุกขึ้นมาแล้วก็จ้องทั้งสองคน
“ลูกพี่ คนนี้แหละที่สั่งคนมาจับตัวพี่เฉินไป “และทันใดนั้นเองก็มีคนวิ่งมาจากมุมหนึ่งเข้ามาแล้วชี้ไปที่ฮ่อหยุนเฉิงพูดกับพนักงานของร้าน
พนักงานของร้านมีหน้าเคร่งขรึม เขาจ้องฮ่อหยุนเฉิงอย่างโหดเหี้ยมแล้วพูดข่มขู่ :”ไอ้น้อง นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร กล้ามาจับตัวคนของฉันไป ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย”
“นายหรอที่อยู่เบื้องหลัง “ฮ่อหยุนเฉิงมองไปรอบๆ รู้สึกแปลกๆ
เพราะในมือของคนๆ นั้นไม่มีอาวุธที่น่ากลัวเลย หรือว่าคนนี้……..
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา
และสายตาของพนักงานร้ายก็หลบสายตา แล้วรีบพูด:”แน่นอนสิ!”
“พี่ใหญ่ ยังจะพูดไร้สาระกับพวกมันทำไม ให้พวกมาบอกว่าพี่เฉินอยู่ที่ไหนก็พอแล้ว”คนที่อยู่ข้างหลังเริ่มหมดความอดทน ทำท่าทางโหดเหี้ยมออกมา
“จับตัวมัน!”พนักงานได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกมีเหตุผล จากนั้นก็เอ่ยสั่ง
คนสิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามา ล้อมฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงไว้
หนึ่งในนั้นก็ซัดหมัดเข้าจนทำให้ฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงแยกออกจากกัน ซูฉิงก็หลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็วแล้วล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา
“ผู้หญิงคนนี้คิดจะโทรแจ้งความ! รีบจับตัวเธอไว้!”
พี่ใหญ่ที่เป็นพนักงานของร้านก็คิดไม่ถึงว่าคนที่มากับฮ่อหยุนเฉิงจะฉลาดอย่างนี้ แล้วกันไปมองซูฉิง ชี้ตะโกนสั่งขึ้นมา
ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวจะได้ตัวคนนี้มา แต่ใครจะรู้ว่าซูฉิงที่หน้านิ่งขรึม เหวี่ยงขาเตะเข้ามาถีบตน
“แจ้งความงั้นหรอ?”
ซูฉิงพลิกโทรศัพท์มาดูแล้วก็เห็นว่าหน้าจอแสดงวางสาย เธอยิ้มเบาๆ แววตาร้ายกาจออกมา
“ฉันได้รบกวนคุณลุงตำรวจแล้ว”
เดิมทีคิดว่าแค่ฮ่อหยุนเฉิงคนเดียวก็น่าจะเอาอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าซูฉิงคนนี้ที่ดูเหมือนผู้หญิงอ่อนแอจะสามารถปกป้องตัวเองได้ เดิมทีจำนวนคนที่มากพอสามารถจัดการได้ไม่มีปัญหา
ฮ่อหยุนเฉิงเตะไปที่ข้อมือของคนๆ หนึ่ง เขาโน้มตัวลงไปฉีกเสื้อของชายคนนั้นจนเห็นรอยสักที่ไหปลาร้า
ซูฉิงก้มมองก็กระซิบพูดเสียงเบา:”เป็นคนพวกเดียวกันกับพวกนั้นหรอ”
ก่อนหน้านี้ฮ่อหยุนเฉิงเคยเล่าให้ซูฉิงฟัง ดังนั้นตอนที่ซูฉิงเห็นรอยสักที่มือของพนักงานจองร้านก็พอจะเดาได้แล้ว
“น่าจะมีคนอื่นอีก”ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังจะเชื่อมโยงไปหลายทาง
ซูฉิงที่กะพริบตากำลังจะพูดอะไร คนที่ล้มกองอยู่กับพื้นเห็นสีหน้าของพนักงานร้าน ก็หยิบเอามีดเล็กออกมาจากตัวแล้วพุ่งไปทางซูฉิงที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ไปตายซะเถอะ!”
ซูฉิงแอบพูดในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว แต่ก็น่าจะหลบไม่ทันแล้ว แต่วินาทีต่อมาก็มีมือข้างหนึ่งมาขวางหน้าเธอจับเข้าทีปลายมีแหลมนั่น
ฮ่อหยุนเฉิงเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วสลักมืดเล็กออกไป