นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 534 จะต้องรักเธอ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 534 จะต้องรักเธอ
จินจิ่นหรานได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา เขาอุ้มหลิวเสี่ยวหนิงในท่าเจ้าสาวขึ้นมาค่อยๆ วางลงบนเตียง
“เพราะว่าเป็นเธอ ดังนั้นฉันเลยทำเพื่อเธอได้ทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้”
จินจิ่นหรานที่ทั้งพูดความอบอุ่นจากปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับผิวของหลิวเสี่ยวหนิง และลึกลงไปถึงหัวใน
เขารักหลิวเสี่ยวหนิงดังนั้นเขายอมทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ
หัวใจที่เต้นอยู่ของหลิวเสี่ยวหนิงกลับรู้สึกมึนๆ งงๆ
เธอรู้สึกว่า จินจิ่นหรานตรงหน้าเหมือนกับแหของความอ่อนโยน ค่อยให้ทำให้เธอเข้าไปติดร่างแห
“จินจิ่นหรานน ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เจอนายก็คงจะดี…..”
หลิวเสี่ยวหนิงพูดพึมพำเสียงเบา ถ้าหากไม่ได้พบกับจินจิ่นหรานเธอก็คงจะชอบเฉินจุนเหยียนตลอดไปมั้ย
คอยวิ่งตามคนคนนั้นคลอด จนเก็บความรักเอาไว้ในความประหม่า
จินจิ่นหรานทำหน้าอึ้งเล็กน้อย เขายื่นมือไปหยิบเส้นผมทัดหูให้กับหลิวเสี่ยวหนิงแล้วพูดว่า”ฉันหวังว่าจะได้พบเธอและจะต้องรักเธอ”
ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวหนิงก็ยิ้มหวานออกมา เธอเข้าไปจูบจินจิ่นหรานอีกครั้ง ค่อยๆ จูบละเมียดละไม
คนอย่างเธอทำไมถึงได้เจอความรักที่อ่อนโยนอย่างนี้นะ
ทั้งสองจูบกันอยู่นาน หลิวเสี่ยวหนิงเป็นคนรุกเธอนั่งคร่อมอยู่บนตักของจินจิ่นหราน นิ้วก็ปลดกระดุมเสื้อของเขา
จินจิ่นหรานจับมองของหลิวเสี่ยวหนิงไว้ มองด้วยสายตามึนงง”เสี่ยวหนิง เธอคิดดีแล้วหรอ”
หลิวเสี่ยวหนิงยกยิ้ม เพียงส่งเสียงครวญครางเสียงเบาออกมาและปลดกระดุมของจินจิ่นหราน แต่จินจิ่นหรานไม่ตอบสนองและยังปฏิเสธ
“เสี่ยวหนิง อย่าทำเรื่องที่จะทำให้เสียใจภายหลังเลยนะ”
จินจิ่นหรานมองปฏิกิริยาของหลิวเสี่ยวหนิง นึกถึงข่าวในโทรศัพท์ รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่แรกแล้ว ว่าตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงอยากทำเรื่องนี้ แต่เธอทำไม่ได้
“จินจิ่นหราน…….”หลิวเสี่ยวหนิงจับหน้าของจินจิ่นหราน สุดท้ายก็จูบกันอีก
ทั้งสองจ้องตาไม่พูดไม่จากัน บรรยากาศที่เต็มไปด้วยห้วงแห่งรักก็ค่อยๆ สงบลง
และเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลิวเสี่ยวหนิงถึงดึงสติกลับมาแล้วรีบเดินออกไปเปิดประตู
“เก็บของเสร็จรึยัง ออกเดินทางกันเถอะ……”
ผู้จัดการที่ยืนอยู่หน้าประตูมองตาหลิวเสี่ยวหนิงที่แดงเล็กน้อย และเหลือบมองจินจิ่นหรานที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยเสื้อเชิ้ตที่ยับยู่ยี่ ก็หยุดพูด
“เอ่อ…ใกล้แล้ว”หลิวเสี่ยวหนิงแอบพูดในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว เธอเมื่อกี้ร้อนใจไป โดยลืมไปเลยว่าตอนบ่ายยังมีงานถ่ายโฆษณาอยู่
สังเกตสายตาของผู้จัดการ หลิวเสี่ยวหนิงก็มีท่าทีประหม่า จินจิ่นหรานที่ตอนนี้จัดการกับเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ลุกขึ้นมายืนข้างๆ หลิวเสี่ยวหนิง
“เธอไปทำงานเถอะ คืนนี้ฉันมารับเธอไปกินมื้อดึก”จินจิ่นหรานหน้านิ่ง ก็เหมือนกับว่าผู้จัดการเห็นเป็นภาพลวงตาก็ไม่ปาน
หลิวเสี่ยวหนิงที่แก้มแดงขึ้นมา เธอผลัดเอวของจินจิ่นหรานแล้วพยักหน้ารัวๆ :”งั้นนายกลับไปก่อนนะ”
จินจิ่นหรานยิ้มให้แล้วจุ๊บที่หน้าผากของหลิวเสี่ยวหนิง”ฉันรอตลอดนะ”
พอพูดจบเขาก็หันไปทางผู้จัดการแล้วพยักหน้าให้อย่างมีมารยาท แล้วหันหลังเดินออกไป
ผู้จัดการยืนเอาแขนกอดอกอยู่กับที่ สายตาเย็นเยือกมองหน้าหลิวเสี่ยวหนิง
หลิวเสี่ยวหนิงถึงกับขาสั่นแล้วรีบเข้าไปแต่งตัวในห้อง:”ใกล้แล้ว ฉันใกล้จะเสร็จแล้ว!”
…………
บนรถตู้ หลิวเสี่ยวหนิงนั่งอยู่เบาะหลังไม่กล้าจะหายใจแรง ค่อยๆ เหลือบมองสีหน้าของผู้จัดการที่นั่งอยู่ข้างๆ
ผู้จัดการเม้มปาก ที่นอนหลับตาอย่างเอือมๆ ก็ลืมตาขึ้นจ้องหลิวเสี่ยวหนิง:”เธอบ้าไปแล้วหรอ ห๊า?”
“ขอโทษค่ะ………..”หลิวเสี่ยหนิงโกรธตัวเองที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง
“แม่ทูนหัว ฉันขอร้องเธอล่ะ เธอแยกแยะหน่อยได้มั้ย เธอไม่รู้หรอว่าตอนนี้เป็นช่วงพิเศษ”
ผู้จัดการหมดคำจะพูด เมื่อก่อนคิดว่าหลิวเสี่ยวหนิงเป็นเด็กดีเชื่อฟัง แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
“ฉันรู้แล้วๆ ……..”หลิวเสี่ยวหนิงพึมพำตอบ
“เธอรู้อะไร! เธอต้องรู้ว่าจะไม่ก่อเรื่องให้มากนัก!”ผู้จัดการที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนแม่กำลังสั่งสอนลูกเลย “มีความรักได้ แต่ต้องดูเวลาด้วย มีถ่ายโฆษณาตอนบ่ายก็ไม่ต้องทำแล้วใช่มั้ย”
หลิวเสี่ยวหนิงที่ถูกว่ากล่าวตักเตือนก็เอาแต่เงียบ ทำได้เพียงนิ่งรับฟัง
ผู้จัดการเห็นเธอทำหน้าอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงไม่นานก็มาถึงกองถ่าย
ก่อนที่จะถึงคิดถ่ายโฆษณาตอนบ่ายมีการถ่ายเพิ่ม นอกจากโฆษณาสั่นแล้ว ยังมีการถ่ายนิตยสารชุดหนึ่งด้วย
เมื่อก่อนเป็นหลิวเสี่ยวหนิงถ่ายคนเดียว แต่วันนี้มีเพิ่มนายแบบเข้ามาด้วย
หลังจากที่หลิวเสี่ยวหนิงเปลี่ยนชุดที่จะถ่ายก็เดินตามผู้ช่วยออกมาที่สถานที่ถ่ายทำ ก็มีร่างสูงใหญ่ที่วินาทีต่อมาหันมาทางเธอ
“สวัสดี ฉันวิลเลียมนะ”
ผู้ชายที่พูดตัวสูง ใบหน้าหล่อยิ้มให้ทำให้รู้สึกเป็นมิตร หลิวเสี่ยวหนิงเห็นอย่างนั้นก็ยื่นมือออกไปทักทายเขาตามมารยาท
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลิวเสี่ยวหนิง”
พอพูดจบหลิวเสี่ยงหนิงคิดจะชักมือกลับแต่คิดไม่ถึงว่าวิลเลียมจะไม่ปล่อยมือง่ายๆ
เขาที่ยังยิ้มอยู่สายตามองอย่างโลมเลียตัวหลิวเสี่ยวหนิง สายตาแบบนี้ทำให้หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกไม่ชอบใจ
“คุณสวมชุดเดรสนี้สวยมาก”วิลเลียมมองหลิวเสี่ยวหนิงแล้วถึงปล่อยมือ
หลิวเสี่ยวหนิงกำมือแน่น แต่หน้าก็ยังยิ้มอยู่
ช่างภาพได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เริ่มการถ่าย วิลเลียมเป็นนายแบบมืออาชีพดังนั้นท่าทางที่แสดงออกมานั้นดีมาก และบวกกับหลิวเสี่ยวหนิงก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเหมาะสม
“ดี วิลเลียมเอามือของคุณจับที่เอวของหลิวเสี่ยวหนิง”ช่างภาพชูมือขึ้นกลางอากาศจัดท่าทาง
วิลเลียมยิ้มให้หลิวเสี่ยวหนิงแล้วยื่นมือจับที่เอวของเธอ จากนั้นก็กระชับให้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตน
หลิวเสี่ยวหนิงตกใจแต่เห็นช่างภาพไม่ว่าอะไร ตนเลยไม่กล้าที่จะพูดอะไร
แต่ใครจะรู้ว่าวิลเลียมคนนี้ได้คืบจะอาศอก ดึงหลิวเสี่ยวหนิงเข้าใกล้ไม่หยุด มือที่วางอยู่ที่เอวของเธอก็ไม่อยู่นิ่ง
หลิวเสี่ยวหนิงตัวแข็งทื่อ แต่ยังทำหน้ายิ้มแย้มไว้อยู่
“หลิวเสี่ยวหนิงผ่อนคลายหน่อย ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ”ช่างภาพเอ่ยบอก
หลิวเสี่ยวหนิงได้ยินอย่างนั้นก็สูดลมหายใจเข้าพยายามไม่สนใจคนข้างๆแล้วตั้งใจถ่าย
“วิลเลียมหันหลังแล้วก้มหน้าเข้ามาใกล้”
วิลเลียมได้ยินคำสั่งของช่างภาพก็ยิ่งเหิมเกริม มือของเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปที่แผ่นหลังของหลิวเสี่ยวหนิง แก้มของเขาก็เข้ามาใกล้กับซอกคอของเธอ
“คืนนี้นัดกันมั้ย ฉันสนใจเธอนะ”
หลิวเสี่ยวหนิงได้ยินอย่างนั้นก็เกร็งคอ ใบหน้าที่ยิ้มอยู่ก็เริ่มจะไม่ยิ้มแล้ว