นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 558 ไปเลือกของขวัญเป็นเพื่อนเธอ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 558 ไปเลือกของขวัญเป็นเพื่อนเธอ
ซูฉิงแอบรู้สึกตกใจ วันนี้นักข่าวได้บุกเข้ามาในบริษัทถือเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงมากและก็ทำให้ซูฉิงลืมเรื่องนี้ไปเลย
ซูฉิงที่นวดขมับก็พูดพึมพำออกมา
ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ปลายสายได้ยินอย่างนั้นเหมือนจะนึกถึงอารมณ์ของซูฉิงก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้:”ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลาฉันจะช่วยเธอไปเลือกเอง”
และตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงมารับซูฉิงเธอก็ยังกลุ้มกับการเลือกของขวัญ ฮ่อหยุนเฉิงเห็นอย่างนั้นก็จับมือของเธอ
“เธอจะเลือกอะไรให้กับคุณปู่ท่านก็ชื่นชอบหมดแหละ”ฮ่อหยุนเฉิงพูดเป็นความจริง แววตาของซูฉิงนั้นดีมากจริงๆ ถ้าหากจะส่งอะไรให้ท่าน เขาก็นึกออกว่าคุณปู่จะต้องพูดชมยังไง
“แต่ฉันคิดว่าเหมือนขาดอะไรไป”ซูฉิงแตะที่คางตัวเอง คิดว่ายังขาดอะไรอยู่
ฮ่อหยุนเฉิงเห็นอย่างนั้นก็เข้าไปกระซิบข้างหูของซูฉิง:ฉันจะพาเธอไปที่ๆ หนึ่ง”
ตอนที่ลงจากรถซูฉิงก็มองเห็นโรงแรมอยู่ข้างหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ฮ่อหยุนเฉิงที่มองอยู่ก็จูงมือเธอเข้าไปข้างบน
นี่เป็นร้านอาหารหรอ เสียงดนตรีแจ๊ซเปิดอยู่ มีคนพูดคุยกันอยู่
แต่ทว่าซูฉิงกลับสังเกตเห็นว่าข้างในมุมสุดของโรงแรมมีประตู เธอเงยหน้าขึ้นมองฮ่อหยุนเฉิง และเขาก็พาเธอเดินไปทางนั้น
พอหลังจากเปิดประตู ก็เห็นเป็นทางเดิน เดินไปจนสุดแล้วก็มีชายร่างบึกบึนยืนเฝ้าอยู่ทางเข้า
พวกเขาเห็นฮ่อหยุนเฉิงก็ทำหน้านิ่ง
“ที่นี่คือที่ไหนหรอ”ซูฉิงเงยหน้าขึ้นถาม ความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่ในใจก็ถูกดึงออกมา
ฮ่อหยุนเฉิงหยิบเอาการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นออกไป ซูฉิงที่มองดูก็รู้สึกคุ้นๆ เธอนึกอยู่สักพักก็พูดออกมา:”ข้างล่างคือเฉิงปี้หรอ”
เฉิงปี้นี้ ซูฉิงรู้ว่าเป็นบ่อนพนันหินที่ใหญ่ที่สุด คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ที่นี่
“เธอเคยมาหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงมองอย่างตะลึงเพียงแป๊บเดียวก็ทำหน้ากลับไปเป็นเหมือนเดิม
ซูฉิงยิ้ม:”เคยได้ยินน่ะ แต่ไม่เคยมา”
ถึงแม้จะได้ยินอย่างนั้น แต่ซูฉิงก็จำได้ว่าตอนนั้นตนเคยทำเรื่องหนึ่ง ถ้าหากว่าถูกคนขุดคุ้ยเรื่องขั้นมาเกรงว่าจะทำให้ซวยได้
แต่ว่าฮ่อหยุนเฉิงเขาให้ซูฉิงมาที่นี่กะทันหัน ก็เกิดความคิดที่จะหาของขวัญให้กับคุณปู่ฮ่อ
ทั้งสองเดินตามบันไดลงไปข้างล่าง จุดท้ายทางก็เป็นห้องโถงใหญ่
ซูฉิงคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีคนเยอะขนาดนี้ เห็นคนเดินเข้ามาก็ไม่มีใครสนใจ เพียงแค่มองไปที่โต๊ะตรงกลาง
ซูฉิง กวาดสายตามองไปรอบๆ ที่อย่างนี้เธอพึ่งเคยมาสัมผัสเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกตื่นเต้น
“ไปเลือกเลยว่าเธอชอบอะไรก็ซื้อเลย”ฮ่อหยุนเฉิงที่จับมือซูฉิงแล้วเอ่ยปากบอก
สายตาที่มองไปทั่วของซูฉิงก็หันมามองฮ่อหยุนเฉิง”มีคนนัดนายมาที่นี่หรอ”
ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้ว แต่เขาก็ยอมรับการคาดเดาของซูฉิงว่าใช่
มีคนนัดเขามาที่นี่นี่จริง แต่ที่ฮ่อหยุนเฉิงพาซูฉิงมาด้วยนั้น….
“ความสามารถในการสืบที่เก่งของเธอไม่ได้เป็นสายลับก็น่าเสียดาย”ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ๆ ก็รู้สึกนอย ซูฉิงทำให้เขาเซอร์ไพรส์เยอะมาก
“สายลับ?”พอได้ยินกันอยู่สองคนซูฉิงก็รู้สึกโมโห “อย่าพูดถึงเลย วันนี้ฉันได้เจอกับสายลับจริงๆ”
“ซูฉิงที่ทำหน้าเซ็งขึ้นมาแล้วก็รู้สึกถึงข้อมือที่ขยับ
“วันนี้ที่บริษัทมีนักข่าวบุกเข้ามา กลัวว่าจะมาถ่ายอะไรไปได้ไม่น้อย”
“สืบได้เรื่องมั้ย”ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วถาม
“ไม่ได้ น่าจะไม่ใช่นักข่าวของบริษัทอะไร”ซูฉิงส่ายหน้าไปมา
และทันใดนั้นเองก็มีคนเดินมาทางพวกเขา ซูฉิงเงยหน้ามองก็เห็นว่าเป็นชายวัยรุ่นยิ้มเดินมา
และที่ซูฉิงกล้าที่จะคาดเดาก็เพราะว่าพวกเขาที่ตอนถึงจะเข้ามาก็มีสายตาจ้องมองอยู่จริงถึงตอนนี้
และก็เป็นคนที่อยู่ตรงหน้า
“ประธานฮ่อ รอนานเลยนะครับ”ชายคนถึงแม้จะยิ้มให้ แต่ท่าทางกลับทำให้รู้สึกเย็นเยือก
ฮ่อหยุนเฉิงก็มีสีหน้าเรียบ เพียงแค่พยักหน้าให้เขา:ประธานเฟิง”
ซูฉิงที่พอได้ยินชื่อนี้ก็แววตาสั่นไหวและรู้สึกสงสัย
“ท่านนี้คือคู่หมั้นของประธานฮ่อ คุณซูใช่มั้ยครับ”เฟิงไป่โจวมองซูฉิงแล้วเอ่ยถาม
สายตาของที่มองมาซูฉิงก็พยักหน้าเล็กน้อย ด้วยความมึนงง
ถ้าเป็นอย่างที่คาดเดาไว้ คนนี้เป็นประมุขของตระกูลเฟิง และเป็นลุงแท้ๆ ของเฟิงรั่วเหยียน
ทันใดนั้นซูฉิงก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเฟิงจริงๆ ด้วย
ตอนนั้นคุณปู่ของเธอเพื่อที่จะหลบหนีจากพวกตระกูลเหล่านี้เลยพาตนไปอยู่ที่บ้านนอก และตอนนี้เพราะเธอกับฮ่อหยุนเฉิงจะแต่งงานกันเธอเลยมาเจอเรื่องพวกนี้อีกครั้ง
“คุณซูเจอผมเหมือนจะไม่พอใจ “เฟิงไป่โจวเอ่ยเสียงเบา เป็นการฉุดซูฉิงออกมาจากความคิด
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ได้เจอคุณเฟิงถือว่าเป็นเกียรติมาก “ซูฉิงยิ้มระรื่น
“พ่อของผมกับคุณปู่ของคุณเป็นเพื่อนกันมาหลายปีเลยนะครับ”เฟิงไป่โจวมองมาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
ซูฉิงเลือกที่จะไม่พูดอะไร แต่ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดว่า:”ไม่รู้ว่าประธานเฟิงนัดผมมาที่นี่ทำไมหรอครับ”
พอได้ยินอย่างนี้เฟิงไป่โจวก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย”แน่นอนว่าเพราะสิ่งของที่ประธานฮ่อกับผมต้องการ”
…………
อีกด้าน ทางฝั่งของหลิวเสี่ยวหนิงที่เดินออกมาจากสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์และกำลังจะรอรถผู้จัดการมารับที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
เธอก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ตอนข้อความของจินจิ่นหราน แน่นอนว่าต้องตำหนิเรื่องที่จินจิ่นหรานพาเธอไปหาของกินจนทำให้อ้วนด้วย
และทันใดนั้นเองเหมือนหลิวเสี่ยวหนิงจะได้ยินเสียงอะไรขึ้นมา เธอมองไปรอบๆ กลับไม่พบใครที่ลาดจอดรถเลย
“แปลกจัง……..”หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตา เดิมที่นึกว่าตัวเองหูฝาด แต่ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
เธอกำโทรศัพท์แน่น แล้วเดินไปตามเสียงที่ได้ยินอย่างระมัดระวัง
เป็นเสียงคนพูดคุยกันที่จัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลิวเสี่ยวหนิงยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
“พวกนี้เธอคิดว่าพอมั้ย”
“อย่าให้มันมากเกินไปนะ”
หลิวเสี่ยวหนิงค่อยๆ พิงกับกำแพงและก็เห็นว่ามีคนสองคนคุยกันอยู่มุมหนึ่ง
รถข้างหน้าจอดบังไว้ และบวกกับหลิวเสี่ยวหนิงไม่กล้าที่จะแอบฟังอย่างโจ่งแจ้ง เลยเห็นหน้าคนหนึ่งเพียงครึ่งหน้า
“ขอร้องละ ฉันพานายเข้ามาก็เสียงแรงไปมากแล้ว ยังจะกลับมาเอาเงินเพิ่มอีก”
“ฉันจะรับเงินถึงจะทำงาน ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอ”
“ถึงยังไงฉันก็อยู่ที่นี่ อยากจะถ่ายอะไรก็ถ่ายก็ได้ ไม่ต้องการนายด้วยซ้ำ ถึงยังไงฉันก็จะติดต่อคนที่อยู่เบื้องหลังนานคนนั้น”
พอได้ยินอย่างนั้นหลิวเสี่ยวหนิงก็หรี่ตาลง เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ ด้วย บริษัทมีเกลือเป็นหนอน
หลิวเสี่ยวหนิงคิดจะบันทึกเสียงเป็นหลักฐาน แต่ตันนี้เองก็มีเสียงรถยนต์ขับเข้ามา