นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 579 แพ้ราบคาบ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 579 แพ้ราบคาบ
เฉินเจียวที่โตมาจนป่านนี้ ไม่เคยแพ้ราบคาบอย่างนี้มาก่อน
เดิมทีของพวกนี้น่าจะเป็นของเธอ แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา วันนี้ขึ้นอยู่กับซูฉิง ทำให้เฉินเจียวกำมือแน่นอยู่ข้างลำตัว
เธอไม่ยอม
เพียงแต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครสนใจว่าเฉินเจียวกำลังคิดอะไรอยู่ ทุกคนต่างสนใจที่คุณปู่ฮ่อกับซูฉิง
“คุณปู่ฮ่อ ของขวัญนี้คุณปู่ชอบมั้ยคะ”
ซูฉิงยิ้มมองคุณปู่ฮ่อ ถึงแม้จะเห็นท่าทางแล้วซูฉิงก็รู้ว่าคุณปู่ฮ่อนั้นพอใจมาก แต่เธอก็อยากได้ยินคุณปู่พูดออกมา
“ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่”
แต่กลับไปเป็นอย่างที่คิด คุณปู่ฮ่ออยากจะเห็นซูฉิงขอร้องให้ชื่นชมเลยพูดออกมาอย่างนั้น
ก็เห็นเพียงซูฉิงยิ้ม แล้วมองคุณปู่ด้วยสีหน้าน่าสงสาร”คุณปู่ฮ่อ หนูตั้งใจเตรียมของขวัญนานขนาดนั้น ยังมีอะไรที่คุณปู่ไม่พอใจหรอคะ”
“ของขวัญที่เธอเตรียมมาไม่มีปัญหาอะไรเลย ที่ปู่ไม่พอใจก็คือตาเฒ่ากู้ชวนนั่น”
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็กะพริบตาอย่างอยากรู้
คุณปู่มือยกแขนขึ้นมากอดอกมือยังเล่นลูกปัดอยู่แล้วพูดเสียงเรียบ”ตอนแรกตาแก่นั้นปู่พูดยังไงก็ไม่ยอมที่จะขายหยกหลิงหลงที่แกะสลักเสร็จแล้วให้ ปู่ให้ของดีกับเขาตั้งเยอะ สุดท้ายแล้วเขาก็หลอกปู่ มันน่าโมโหจริงๆ”
พอนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้น
คุณปู่ฮ่อก็โมโหขึ้นมา
แต่ได้ยินหยกหลิงหลงสามคำนี้ออกมา ซูฉิงก็ตะลึงเล็กน้อย ของสิ่งนั้นไม่ใช่เป็นของกู้ชวนเองหรอ
ซูฉิงที่รู้สึกซับซ้อนแววตาร่อกแลก จากนั้นก็ขยับเข้าไปพูดใกล้ๆ ข้างคุณปู่ฮ่อ
“คุณปู่ฮ่อ คุณปู่ลองคิดดูนะคะ คุณปู่กู้ชวนได้เลิกแกะสลักมานานหลายปีแล้ว เขาสาบานว่าจะไม่แกนสลักให้คนอื่นแล้ว และดูสิเป็นยังไงละ ตอนนี้คุณปู่ก็ไม่ใช่ทำให้เขาผิดคำสาบานแล้วหรอคะ”
คุณปู่ฮ่อได้ยินอย่างนั้นก็ฉีกยิ้มออกมาแล้วยกมือขึ้นชี้หน้าผากซูฉิง
“ปู่ไปทำให้เขาผิดคำสาบานได้ยังไง เป็นเธอเองต่างหาก แต่ปู่ก็คิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่า เธอจะเซอร์ไพรส์ปู่ขนาดนี้”
“ขอแค่คุณปู่ดีใจก็พอแล้วค่ะ”
“ดีใจสิดีใจ ปู่จะไม่ดีใจได้ยังไง แต่ว่าเรื่องที่ปู่ยิ่งดีใจก็คือเธอกับหยุนเฉิงรีบมีหลานตัวอ้วนให้ปู่อุ้มสักคน”
“คุณปู่คะ!”
คิดไม่ถึงว่าคุณปู่ฮ่อจะพูดเรื่องอย่างนี้ในงานเลี้ยงวันเกิด ซูฉิงคอหดเกร็ง มองหน้าคุณปู่ฮ่อด้วยความเขิน
คุณปู่ฮ่อเห็นอย่างนั้นยังอยากจะพูดอะไร แต่ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็ได้คว้าเอาตัวซูฉิงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแล้ว
หลังจากที่มอบของขวัญให้คุณปู่แล้ว งานเลี้ยงก็ดำเนินมาครึ่งทางแล้ว คุณปู่ฮ่อถึงแม้ว่าจะชอบเสียงดีง ถ้าเสียงดังมากเกินไปก็ทำให้ท่านหนวกหู พองานเลี้ยงดำเนินการไปได้พอเหมาะแล้ว คุณปู่ฮ่อก็เดินทางกลับ
ถึงแม้จะบอกว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดคุณปู่ฮ่อ แต่พูดตามจริงแล้วได้เชิญแขกตระกูลใหญ่มาล้วนเป็นคนในสังคมทั้งนั้น
พวกเขานอกจากจะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ยังอยากจะเชื่อมสัมพันธ์ และงานเลี้ยงตอนนี้ก็กลายเป็นงานสังสรรค์ดื่มกันแล้ว
ซูฉิงนั่งกินเค้กอยู่บนโซฟา มองฮ่อหยุนเฉิงที่คุยกับคนอื่นอยู่ไกลๆ ด้วยความรู้สึกเบื่อ
“พี่ซูฉิง!”
และเวลานี้เอง หลิวเสี่ยวหนิงที่เดินยกกระโปรงเข้ามาหา และจินจิ่นหรานก็เดินตามหลังเธอมา
ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้าทักทายหลิวเสี่ยวหนิง ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลิวเสี่ยวหนิงก็เป็นคนอื่นพูดก่อน
“พี่ซูฉิง พี่ตามสืบเรื่องคนที่บุกเข้ามาบริษัทได้รึยัง และเกลือเป็นหนอนในบริษัทได้ พวกเขาเป็นใคร บอกฉันได้มั้ย”
“ทำไมหรอ”ซูฉิงมองหน้าซูฉิง น้อยมากที่จะเห็นเธอมีท่าทีแตกตื่นอย่างนี้
“แน่นอนว่าจะต้องสั่งสอนพวกเขาให้หลาบจำ ทั้งสองคนนั้นร้ายเกินไปแล้ว ทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นมาและทำร้ายฉันเกือบจะ….”พอพูดมาถึงตรงหนี้หลิวเสี่ยวหนิงก็หยุดชะงัก
“ทั้งสองคนนั้นฉันจะส่งพวกเขาเข้าตารางแน่ แต่ว่าก่อนอื่นเธอกยาดจะสั่งสอนพวกเขาให้สาแก่ใจยังไง”
ซูฉิงมองหลิวเสี่ยวหนิงพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
“อืม……ยังคิดไม่ออกเลย”
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้า “แต่ว่าพอมาคิดไตร่ตรองดูแล้วถ้าหากฉันทำผิดต่อพวกเขา พวกเขาจะต้องฟ้องฉันกลับแน่ ฉันก็คงจะเสียเปรียบแน่”
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็ขยับเข้าไปใกล้หลิวเสี่ยวหนิง”ไม่หรอก ฉันคิดว่าเธอทำอะไร ตระกูลของเขาคนนั้นจะต้องปกป้องเธอแน่”
‘เพราะพวกเธอทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน ทำให้คนรู้สึกอิจฉาตาร้อน”
ซูฉิงตั้งใจพูดล้อหลิวเสี่ยวหนิง จนทำให้หลิวเสี่ยวหนิงแก้มแดงลามไปจนถึงใบหู
เธอหันไปมองจินจิ่นหรานที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มหวานออกมา
ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็ถึงกับนวดขมับ รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าพูดแบบนี้จะยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกอิจฉา
“อ้อ ทางฝั่งกองละครความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง ฉันจำได้ว่าพวกเธอใกล้จะถ่ายเสร็จแล้ว”
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้า”ใช่แล้วค่ะ ใกล้จะจัดงานเลี้ยงปิดกล้องแล้ว ยังเหลืออีกสองฉาก น่าจะวันมะรืนก็น่าจะถ่ายเสร็จแล้ว”
“ต่อจากนั้นต้องรบกวนเธอสักหน่อย เพราะจะต้องถ่ายโปรโมทละคร เธอกับเฉินจุนเหยียนก็ตั้งใจทำงานนะ”
ถึงแม้ว่าตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงมีแฟนแล้ว แต่ถ้าพูดตามจริงเฉินจุนเหยียนกับหลิวเสี่ยวหนิงนั้น ทั้งสองมีฐานแฟนคลับคู่จิ้นของพวกเขามาก ดังนั้นจะต้องแสดงละครเพื่อที่ที่จะทำให้รั้งแฟนคลับให้อยู่ต่อได้ การโปรโมทละครใหม่ของบริษัทต้องการที่จะมีกระแสอย่างนี้
หลิวเสี่ยวหนิงก็ไม่ใช่นักแสดงใหม่ รู้กฎเรื่องนี้ดี เธอพยักหน้ารับคำและไม่มีข้อโต้แย้งอะไร
และทันใดนั้นเองตอนที่ซูฉิงหันไปก็เห็นข้างๆ ของฮ่อหยุนเฉิงได้กลายเป็นเฉินเจียวแล้ว เธอถือแก้วแชมเปญอยู่ยิ้มมองหน้าฮ่อหยุนเฉิง แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน
แต่ฮ่อหยุนเฉิงที่หันหลังให้กับซูฉิงทำให้ซูฉิงไม่รู้ว่าเขามีสีหน้าท่าทียังไง
หลิวเสี่ยวหนิงมองตามสายตาของซูฉิงก็คิ้วขมวด
“พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ”
ซูฉิงพูดเสียงขรึม แล้วยกกระโปรงพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปทางนั้น
ส่วนหลิวเสี่ยวหนิงที่นั่งอยู่บนโซฟาเห็นอย่างนั้นก็หันไปถาม”ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรอ”
จากความรู้สึกของหลิวเสี่ยวหนิง เธอมองออกว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องชอบฮ่อหยุนเฉิงแน่
แต่กล้าที่จะมาแย่งกับพี่เสี่ยวฉิง หลิวเสี่ยวหนิงคิดว่าคนนี้มีความกล้ามาก
“เธอก็คือเฉินเจียว เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิน อัจฉริยะด้านพนันหิน “จินจิ่นหรานที่เกลี่ยปลายนิ้วของหลิวเสี่ยวหนิงเล่นพร้อมกับตอบอย่างช้าๆ
“พนันหินงั้นหรอ”หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตาแล้วถามอย่างอยากรู้ขึ้นมา
“อืม ตระกูลเฉินมีเชื่อเสียงเรื่องการพนันหิน และเฉินเจียวคนนี้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะของตระกูลเฉินในหลายสิบปีมานี้เลยก็ว่าได้”
“เก่งขนาดนั้นเลย”หลิวเสี่ยวหนิงพูดออกมาอย่างตะลึง แต่ไม่รู้ทำไมเธอมองเฉินเจียวแล้วทำให้รู้สึกคุ้นๆ
แต่พอคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ตนไม่เคยเจอเฉินเจียวมาก่อน คิดดูแล้วตนน่าจะคิดไปเองมั้ง