นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 587 หนีงานอย่างไม่มีสาเหตุ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 587 หนีงานอย่างไม่มีสาเหตุ
จินจิ่นหรานมองหน้าหลิวเสี่ยหนิงที่มองมาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวังก็พยักหน้า
ทั้งสองจูบกันอีกครั้ง แล้วจินจิ่นหรานก็ไปส่งหลิวเสี่ยวหนิงที่บริษัท
พอเดินมาถึงหน้าประตู หลิวเสี่ยวหนิงก็เจอผู้จัดการฉุดแขนไว้แน่น
“ยัยเด็กคนนี้นี่ พอมีความรักแม้แต่งานก็ไม่เอาแล้วใช่มั้ย”ผู้จัดการใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของหลิวเสี่ยหนิง
“ขอโทษด้วยค่ะ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะเมื่อวานถ่ายละครเสร็จแล้วเลยดีใจไปหน่อย”
หลิวเสี่ยวหนิงใช้ความน่ารักทำเป็นพูดออดอ้อน แต่ผู้จัดการไม่หลงกล เธอลากหลิวเสี่ยวหนิงไปพร้อมกับพูด:”ไปกันเถอะรีบเข้าไปแต่งตัว อีกเดี๋ยวจะต้องไปที่งานแถลงข่าวโปรโมทละครแล้ว”
ทีมกองถ่ายได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อโปรโมทละครเรื่องใหม่ ดังนั้นนักแสดงนำต่างก็ต้องมา ตอนที่หลิวเสี่ยวหนิงมานั้นก็เห็นเฉินจุนเหยียนนั่งรออยู่ในงานแล้ว
“ขอโทษด้วยนะคะ ที่ฉันมาสาย”หลิวเสี่ยวหนิงรีบเดินเข้าไปหาเฉินจุนเหยียนแล้วพูดขอโทษ
“ไม่เป็นไร งานแถลงข่าวยังไม่เริ่ม”เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แต่ว่าเมื่อคืนเธอกลับไปเร็วนะ ไม่สบายรึเปล่า ฉันได้ยินผู้จัดการเธอบอกว่าเธอคออ่อน ทำไมเมื่อคืนถึงดื่มเยอะละ”
หลิวเสี่ยวหนิงทำแก้มป่องไม่พูดอะไร แต่ท่าทางอย่างนี้ก็ทำให้เฉินจุนเหยียนมองออก เขาก็หัวเราะขึ้นมาทันที
“ที่แท้แอบหนีไป……..”
เฉินจุนเหยียนยังไม่ทันพูดจบ หลิวเสี่ยหนิงก็ยกมือขึ้นตบหลังมือของเขา สื่อว่าอย่าพูดออกมา
หลังจากที่หลิวเสี่ยวหนิงคบกับจินจิ่นหรานอย่างเป็นทางการแล้ว เธอกับเฉินจุนเหยียนก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ทว่าความสนิทของทั้งสองคนตกอยู่ในสายตาของใครบางคน
เพียงไม่นานงานแถลงข่าวก็เริ่มขึ้นแล้ว นักแสดงและทีมผู้กำกับก็ขึ้นไปบนเวทีเพื่อให้สัมภาษณ์
เพราะได้มีการซักซ้อมลำดับการไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นงานแถลงข่าวครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น จนมาถึงการสัมภาษณ์ช่วงสุดท้าย
หลิวเสี่ยวหนิงที่เป็นนักแสดงนำในละครเรื่องนี้ เดิมทีบริษัทสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ตั้งใจที่จะสนับสนุนโปรโมทเธอ ดังนั้นหลิวเสี่ยวหนิงจึงเป็นคนแรกที่ถูกสัมภาษณ์
“ขอถามหน่อยค่ะ ตอนที่เริ่มถ่ายทำละคร คุณได้ร่วมงานกับทีมกองถ่ายรู้สึกมีปัญหาหรืออุปสรรคมั้ยคะ”
“คำถามนี้หรอคะ……….”หลิวเสี่ยวหนิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดช้าๆ
“บรรยากาศกองละครของเราถือว่าผ่อนคลายมาก ให้ความร่วมมือกันอย่างดี ที่จริงแล้วก็ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรเลยค่ะ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นมากมาย เดี๋ยวจะกระซิบบอกอะไรพวกคุณนะคะว่าที่จริงแล้วเทคนิคการถ่ายภาพของช่างภาพเราแย่มากเลยค่ะ”
เธอพูดมาอย่างนี้ก็ทำนักข่าวที่อยู่ด้านล่างต่างก็หัวเราะออกมา หลิวเสี่ยวหนิงก็ยิ้มกว้าง แล้วมองไปทางทีมกองถ่ายด้วยสายตาขอโทษ
“จากที่ได้ลองเล่นละครรักสบายๆ ความรู้สึกตอนถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง”
“ส่วนตัวคิดว่าเหมือนกลับไปในช่วงสมัยมัธยมอีกครั้ง ทำให้ดูเด็กลงไปไม่น้อยเลยค่ะ”
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างสบาย ตามกำหนดการสัมภาษณ์ หลังจากคำถามสุดท้ายจบลงหลิวเสี่ยวหนิงก็ถือว่าสัมภาษณ์เสร็จแล้ว
แต่ไม่รู้ทำไมนักข่าวคนสุดท้ายยังมาไม่ถึงงานแถลงข่าว ผู้จัดงานเห็นอย่างนั้นก็ลังเลว่าควรจะไปบอกให้หลิวเสี่ยวหนิงจบการให้สัมภาษณ์ดีมั้ย และทันใดนั้นเอง ก็มีนักข่าวคนหนึ่งอยู่ตรงมุมยกมือขึ้น
เป็นนักข่าวหญิงวัยรุ่น สวมชุดสูททำงานสีดำ ตอนที่มองไปทางหลิวเสี่ยวหนิงด้วยสีหน้าเป็นมิตรและยิ้มให้
“ฉันอยากขอถามหน่อยค่ะ ในฐานะที่คุณเป็นนักแสดง คุณคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคืออะไรคะ”
คิดไม่ถึงว่านักข่าวคนนี้จะถามออกมาอย่างนี้ หลิวเสี่ยวหนิงก็อึ้งแล้วตอบคำถาม”ฉันคิดว่าน่าจะเป็นความรับผิดชอบนะคะ ”
“ความรับผิดชอบงั้นหรอ”
นักข่าวได้ยินคำตอบที่น่าสนใจก็ยกยิ้มกระหยิ่มออกมา
“แต่ว่าตามรายงาน บอกว่าตอนที่คุณถ่ายละครได้หนีงานอย่างไม่มีสาเหตุ นี่คือความรับผิดชอบที่คุณพูดถึงมั้ยคะ และก่อนหน้านี้ยังก่อเรื่องวุ่นวายไว้มากมาย อย่างเช่นเรื่องที่คุณจับปลาสองมือ แต่เหมือนว่าสุดท้ายการออกมาชี้แจงก็ยังคลุมเครืออยู่ งั้นตอนนี้คุณสามารถชี้แจงได้มั้ยคะว่าเรื่องเป็นอะไรยังไง”
หลิวเสี่ยวหนิงที่คิดไม่ถึงว่าจะเจอคำถามอย่างนี้ก็ถึงกับหน้าถอดสี แล้วก็หันไปมองผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้างๆ
ทีมฝ่ายผู้จัดงานก็คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นอย่างนั้น และปกติแล้วคำถามของพวกนักข่าวที่ร่วมงานสัมภาษณ์นั้นต่างก็ต้องถูกตรวจสอบก่อน และฝ่ายผู้จัดงานล้วนเป็นพนักงานของบริษัทสตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์ เพื่อที่จะโปรโมทหลิวเสี่ยวหนิงต้องถามคำถามที่เพิ่มกระแสไปในทางที่ดีแน่ คงจะไม่ถามคำถามที่บีบบังคับอย่างนี้
และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เป็นการถ่ายทอดสดด้วย คำถามอย่างนี้ถูกถามออกไปเกรงว่าจะมีผลกระทบในทางที่ไม่ดี
และเป็นอย่างที่คาดไว้ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากแพตฟอร์มถ่ายทอดสด ดังนั้นทุกคนเลยเริ่มให้ความสนใจว่าหลิวเสี่ยวหนิงจะตอบคำถามนี้ยังไง จนมีพวกแฟนคลับไม่ดีถือโอกาสนี้ปลุกกระแส เริ่มด่าหลิวเสี่ยวหนิง เพื่อทำให้เรื่องใหญ่โต
ผู้จัดการเห็นอย่านั้นก็กำลังจะก้าวไปข้างหน้า หลิวเสี่ยหนิงกำมือแน่น:”ฉัน………..”
ทว่าหลิวเสี่ยวหนิงพูดยังไม่ทันจบ ไม่รู้ว่าเสียงดังมาจากไหน
“เรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องจริง เธอเคยหนีงานอย่างไม่มีสาเหตุ และเมื่อกี้ตอนอยู่ที่ด้านหลังเวลาเธอยังทำตัวสนิทชิดเชื้อกับเฉินจุนเหยียนอีก
ทุกคนต่างก็หน้าเปลี่ยนสี พวกผู้สื่อข่าวต่างก็ถ่ายรูปรัวๆ จนบางคนก็ทนไม่ไหวอยากจะเข้าไปสัมภาษณ์
พวกพนักงานต่างก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันคาดคิดทำให้รู้สึกมึนงง ตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ก็คือรีบหยุดการถ่ายทอดสด
สถานการณ์ในตอนนี้ คือพวกนักข่าวก็ทำได้เพียงหยุดการสัมภาษณ์ทันที และพวกพนักงานก็รีบพาหลิวเสี่ยวหนิงกับเฉินจุนเหยียน ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ก่อนออกไปหลิวเสี่ยวหนิงยังได้ยินฝ่ายจัดงานดังขึ้น:”เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้ใครเป็นคนพูด!”
หลิวเสี่ยหนิงคิ้วขมวดเป็นปม เรื่องวันนี้จงใจที่จะเล่นงานเธอ
“ฉันได้โทรไปบอกทางฝ่ายบริษัทแล้ว เดี๋ยวพวกเขาจะรีบมาจัดการเรื่องนี้”ผู้จัดการก้าวเข้ามาพูดปลอบหลิวเสี่ยวหนิง
ทว่าหลิวเสี่ยวหนิงกลับก้มหน้า ใครพูดอะไรก็ฟังไม่เข้าหู
เธอนึกถึงเรื่องที่ตนตอบคำถามเรื่องความรับผิดชอบเมื่อกี้ แต่เธอเองก็มีความรับผิดชอบกับงานของเธอมั้ย
เรื่องหนีกองถ่ายละคร แม้แต่เรื่องความรักที่คลุมเครือของพวกเขา ล้วนก็เป็นเรื่องจริง
ทันใดนั้นเองในความรู้สึกสังเวทก็ผุดขึ้นมาในใจเธอ
นี่สิคือตัวตนที่แท้จริงของเธอ ซึ่งแตกต่างจากคนที่สวยสมบูรณ์ในหน้าจออย่างสิ้นเชิง
หลิวเสี่ยวหนิงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก และกำลังจะเอ่ยพูด แต่เฉินจุนเหยียนที่เร็วกว่าเอ่ยขึ้นพูดมาก่อน”กลับไปที่บริษัทค่อยว่ากัน”
เขาที่ทั้งพูดทั้งตบไหล่ปลอบหลิวเสี่ยวหนิง คำพูดที่หลิวเสี่ยวหนิงกำลังจะเอ่ยออกมาเมื่อสักครู่ก็ดำได้เพียงกลืนลงคอไป พร้อมกับก้มหน้ากำลังคิดอะไรอยู่
ใช้เวลาเพียงไม่นานการถ่ายทอดสดนี้ก็ขึ้นอันดับสูงสุด และติดอันดับหนึ่งในการค้นหาที่เป็นกระแสร้อนแรงมากที่สุด แม้สองเรื่องที่เคยเงียบไปแล้วก็ถูกคนขุดคุ้ยให้เป็นกระแสอีกครั้ง ส่วนซูฉิงที่อยู่ที่บริษัทก็รู้เรื่องสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว
เธอรีบติดต่อไปทางทางประชาสัมพันธ์ แต่ขณะเดียวกันซูฉิงก็รู้สึกแปลกใจว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้แน่