นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 642 เปิดตัวยัยจิ้งจอก
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 642 เปิดตัวยัยจิ้งจอก
“พวกเรารักกันมาก ขอให้พวกคุณอย่าคิดไปเอง”
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็หันไปมองฮ่อหยุนเฉิงและฮ่อหยุนเฉิงก็มองเธออย่างมีแผนอยู่ในใจแล้ว
รูปคู่รักหวานราวกับน้ำผึ้งถูกถ่ายเอาไว้อย่างรวดเร็ว และรูปถ่ายหรือคลิปแสดงความรักต่อกันของพวกเขาทั้งสองนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว
ภายในคืนนั้น ภาพคู่รักของทั้งคู่ก็ถูกแชร์ไปบนโซเชียลอย่างรวดเร็ว มีคนไม่น้อยที่รู้สึกอิจฉา
“คิดไม่ถึงว่าประธานทั้งสองคนจะรักหวานซึ้งกันขนาดนี้ หวานจนฉันรู้สึกอิจฉา.
ก็มีคนมาคอมเมนท์ใต้ภาพ ชั่วพริบตาก็สามารถกลบข่าวเรื่องที่เฉินเจียวเข้ามาทำงานในบริษัทได้
หลังจากที่นักข่าวแยกย้ายกันไปแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็มาส่งซูฉิงที่บริษัทสตาร์เอนเตอร์เทนเมท์ และตัวเองก็กลับมาที่ห้องทำงานคนเดียว
แต่ใครจะรู้ว่าพอเปิดประตูห้องทำให้งานเข้ามาก็เห็นเฉินเจียวนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานของตน
ฮ่อหยุนเฉิงหน้าเคร่งขึ้นมาทันที :เธอมาทำอะไรที่นี่ รีบลุกขึ้นแล้วออกไปซะ:
“หยุนเฉิง คุณกลับมาแล้วหรอ”
แต่เฉินเจียวกลับไม่ฟังที่ฮ่อหหยุนเฉิงพูดเลย กลับเดินเข้าหาแล้วลูบไล้เบาๆ ตรงไหล่ฮ่อหยุนเฉิง พร้อมเขย่งเท้าพ่นลมหายใจข้างหูของฮ่อหยุนเฉิง
“ฉันรอคุณตั้งนาน คุณยังจะไล่ฉันไปอีกหรอ…….”
เฉินเจียวพูดด้วยน้ำเสียงหวาน ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินแล้วรู้สึกขนลุก
เขาค่อยๆ ผลักเฉินเจียวออก ไม่มองเธอด้วยซ้ำ:”คุณเฉิน ช่วยมีมารยาทด้วย”
“ไม่ต้องหรอก”
เฉินเจียวที่ถูกฮ่อหยุนเฉิงผลักออกจากตัว ก็ยื่นมือไปจับตัวเขาไว้
“เมื่อกี้ไปไหนมาหรอ ฉันรอคุณตั้งนาน”
มือของเฉินเจียวที่ลูบไล้ไปตามตัวของฮ่อหยุนเฉิง สุดท้ายไปหยุดอยู่ที่กล้ามท้องของฮ่อหยุนเฉิง
“คิดไม่ถึงว่าไม่เจอกันตั้งนาน หุ่นของคุณยังเฟิร์มขนาดนี้”
พอได้ยินอย่างนั้นแววตาของฮ่อหยุนเฉิงก็เย็นเยือก เดินอ้อมออกจากตัวเฉินเจียว:”อย่าทำเป็นได้คืบแล้วจะเอาศอก”
“ไม่ได้หรอ ฉันอุตส่าห์คิดถึงนะ”
เสินเจียวที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ดี ก็หยุดมือของตัวเอง แต่ก็ยังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของฮ่อหยุนเฉิง บิดตัวทำท่าทางอ่อยไปมา
ฮ่อหยุนเฉิงหลับตาเพราะไม่อยากจะมองต่อ
“คุณเป็นถึงคุณหนูตระกูลเฉิน ไม่ควรจะทำเรื่องอย่างนี้นะ”
ฮ่อหยุนเฉิงที่หันหลังให้กับเฉินเจียว ในหัวมีแต่ภาพของซูฉิงผุดขึ้นมาไม่หยุด
ถ้าหากเธอทำอย่างนี้กับเขา เขาไม่อยากจะคิดเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ติดหนี้บุญคุณตระกูลเฉิน ตนก็คงไม่ต้องมาทนหล่อนอยู่อย่างนี้อีก
เฉินเจียวที่เข้ามาทำงานในบริษัทตั้งแต่เช้า เขาก็อยากจะไล่เฉินเจียวออกจากบริษัทแล้ว
“จริงหรอ……..”
เฉินเจียวทำหน้าตาน่าสงสาร ยิ่งทำให้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกรำคาญ
เขาปิดเปลือกตาลงไม่อยากจะมองเฉินเจียวอีก
“ถ้าไม่มีอะไรก็เชิญคุณออกไปได้แล้ว”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันจะทำเรื่องอย่างนี้ได้หรอ”
เฉินเจียวเห็นฮ่อหยุนเฉิงทำหน้าอย่างนี้ก็รู้สึกน่าเบื่อ แล้วก็กลับไปทำหน้าเหมือนเดิม
“ไม่จำเป็น”
ฮ่อหยุนเฉิงปฏิเสธออกไปตามตรง ยิ่งทำให้เฉินเจียวหมดคำจะพูด
“โอเค คุณอย่ามาเสียใจที่หลังก็แล้วกัน!”
เฉินเจียวกัดฟันกรอด จัดการเสื้อผ้าของตัวเองแล้วก็ผลักประตูออกไป
“เข้ามาข้างในหน่อย เอาเก้าอี้กับโต๊ะมาเปลี่ยนให้ผมด้วย”
หลังจากที่เฉินเจียวออกไปแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็ทำหน้าขรึมเรียกเลขาเข้ามาเปลี่ยนโต๊ะและเก้าอี้ทำงานให้กับเขา
หลายวันต่อมา คุณปู่ฮ่อได้จัดงานเลี้ยงขึ้น เพื่อนัดพบปะเพื่อนเก่านักธุรกิจ
ครั้งนี้จัดงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลฮ่อ ถึงแม้ว่าคุณปู่ฮ่อจะอำลาวงการนี้มานานหลายปี แต่วงการธุรกิจก็ถือว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีท่านอาวุโสลายคนที่เป็นเพื่อนเก่าของท่าน และก็มีซีอีโอคนใหม่หลายคนที่มาร่วมด้วย
คุณปู่ฮ่อนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน ท่านที่ตอนนี้อายุมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องไม้เท้า แต่ก็ยังให้ความรู้สึกน่าเกรงขามไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
นี่ถือเป็นผลจากการอบรมเลี้ยงดูของตระกูลฮ่อ คนทั่วไปเห็นจนชินตาแล้ว
“คุณปู่ ทำไมต้องมาจัดงานเลี้ยงด้วยตัวเองด้วย แค่คุณปู่บอก พวกเราก็จัดการให้แล้ว!”
ฮ่อหยุนเฉิงเดินพาซูฉิงเข้ามาในงาน ซูฉิงที่ยิ้มให้กับคุณปู่ฮ่อเพื่อเป็นการแสดงความยินดี ทำให้คุณปู่ฮ่อยิ้มออกมา
“เอาละ ๆ เธอใส่ใจก็ดีแล้ว แต่ครั้งนี้ก็แล้วไปนะ ครั้งหน้าเดี๋ยวจะให้พวกเธอจัด”
คุณปู่ฮ่อนั้นมีความสุขมาก จากนั้นให้ฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงมานั่งอยู่ข้างๆ ตน
มีนักธุรกิจหลายคนที่อยากจะเข้าคุยธุรกิจกับฮ่อหยุนเฉง แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงของคุณปู่ฮ่อ เลยไม่มีใครกล้าเข้ามา
แขกที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างก็ทะยอยเข้ามาร่วมงาน งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว คุณปู่ฮ่อก็สั่งให้คนปิดประตู
เพื่องานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ ฮ่อหยุนเฉิงได้สั่งให้คนประดับตกแต่งบ้านอย่างสวยงาม คุณปู่ที่อายุมากแล้ว ไม่ชอบแสงระยิบระยับที่แยงตามาก ดังนั้นเลยเน้นความสง่างามและมีภูมิฐาน
และตอนที่ประตูกำลังจะปิดนั้น ก็มีเสียงแหลมดังขึ้น
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!”
ก็ได้ยินเฉินเจียวสวมชุดราตรีสีม่วง ม้วนผมดูเป็นผู้ดี
และไหล่ของเธอที่ค่อนข้างกว้างยิ่งดีมีสง่าราศี
การแต่งตัวของเธอเป็นที่ดึงดูดสายตาของทุกคนมาก และยังมีคนไม่น้อยแอบเปรียบเทียบกับซูฉิง
ซูฉิงที่สวยแบบคม ครั้งนี้สวมชุดราตรีเรียบๆ แต่ถ้าเทียบกับเฉินเจียวดูด้อยไปเลย
ซูฉิงไม่ได้สนใจ เพราะวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ฮ่อ คุณปู่ชอบความราบเรียบ ดังนั้นเธอเลยไม่คิดจะแต่งตัวอะไรมาก
“คุณเฉินมาช้าจัง ทำให้พวกเรารอตั้งนาน”
ไม่รู้ว่าใครพูดออกมา แล้วก็ดึงดูดความสนใจของแขกไม่น้อย
ก็เห็นเฉินเจียวยกยิ้มเบาๆ พร้อมกับปรบมือ ก็มีคนเดินมาจากข้างหลังพร้อมกับถือถาดมาโดยข้างบนถาดมีผ้าสีแดงปิดคลุมไว้อยู่
“นี่คือ?”
คุณปู่ฮ่อชี้ไปที่สิ่งของที่อยู่ด้านหลังพร้อมกับเอ่ยถาม
“นี่คือของขวัญที่หนูเอามามอบเป็นของคุณวันเกิดให้กับคุณปู่ฮ่อค่ะ ถึงแม้ว่ามีเพียงแค่คนสนิทที่เข้าร่วม แต่หนูที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทของหยุนเฉิงก็เลยต้องมาร่วมงานด้วย”
พอเฉินเจียวพูดมาอย่างนั้น ก็ทำให้พวกแขกที่มาร่วมงานพูดชมว่ารู้ความ
เฉินเจียวปรบมือขึ้นอีกครั้ง ผ้าคลุมสีแดงก็ถูกเปิดออก
ก็เห็นเป็นแหวนหยกปรากฏต่อหน้าทุกคน ภายใต้แสงไฟที่สะท้อนกับหยกสีเขียวก็รู้ได้ทันทีว่าราคาไม่ธรรมดา
“นี่คือแหวนหยกที่หนูประมูลได้จากงานประมูลครั้งที่แล้ว หนูรู้สึกชอบ และรู้สึกว่าเหมาะสมกับคุณปู่ฮ่อ เลยประมูลมาค่ะ”
แหวนวงนี้ดูราคาก็ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่าเฉินเจียวจะลงทุนมอบของแพงขนาดนี้ให้กับคุณปู่ฮ่อ ก็ถือว่าทำด้วยใจจริง
“อืม เด็กคนนี้ใส่ใจดีจริงๆ”
คุณปู่ฮ่อนั้นดีใจมาก แล้วรีบสั่งคนให้มารับแหวนไปเก็บ
“แหวนนี่ เป็นหลิวเฉิงอวี่ทำให้ค่ะ ใช้เวลานานถึงเก้าพันเก้าร้อยแปดสิบเอ็ดวัน มีการแกะสลักรังสรรค์ออกมาทุกตำแหน่งของแหวนเลย”
พอได้ยินหลิวเฉิงอวี่ ทุกคนก็ตื่นตกใจ
นั่นมันนักแกะสลักระดับโลกเลยนะ ได้ผลงานของเขามาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว คิดไม่ถึงว่าเฉินเจียวจะไปเจอเขาได้!
“ไม่ใช่ได้ยินว่าซูฉิงเป็นศิษย์น้องของหลิวเฉิงอวี่หรอ ทำไมเธอไม่ได้รับมอบจากหลิวเฉิงอวี่ด้วยตัวเองละ”
“เรื่องฐานะจริงหรือปลอม ใครจะรู้ได้ละ”