นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 103
ตอนที่ 103 – นักท่องเวลาใหม่
นับถอยหลัง 159:00:00
เหล่านักโทษยังคงถูกขังในห้องขัง
เพราะว่าชิ่งเฉินยังมีเรื่องสำคัญหนึ่งอย่างที่ไม่ได้ทำ :
รุ่งสางวันนี้มาคนใหม่สามสิบกว่าคนเข้ามาหนึ่งครั้ง เวลานี้เยี่ยหว่านเพิ่งจะเอาพวกเขาไปสอบเดี่ยวทีละคนเสร็จ
เยี่ยหว่านกลับมาข้างโต๊ะกินข้าวกล่าวว่า “ในคนใหม่ชุดนี้ นักท่องเวลาเหมือนจะมีเยอะหน่อย ทั้งหมด 37 คน มี 5 คนที่มีปัญหา ถึงพวกเขาจะสามารถบอกสถานที่สำคัญของเมืองหมายเลข 18 ได้ แล้วก็สามารถพูดออกมาว่าตนเองอยู่ที่เขตไหน แต่เนื้อหาที่พวกเขาพูดตรวจสอบแล้วล้วนเป็นของปลอม นี่จะต้องเป็นนักท่องเวลา”
ชิ่งเฉินทอดถอนใจ “ตอนนี้นักท่องเวลาเรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว ทุก ๆ คนหลังจากค้นพบการนับถอยหลังบนแขนตัวเองล้วนจะรีบเร่งอาศัยข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตมาปลอมตัวตนอย่างหนึ่งให้กับตัวเอง เพื่อไม่ให้หลังจากทะลุมิติมาแล้วถูกคนค้นพบตัวตนทันควัน”
ทุกวันนี้องค์กรโลกภายในต่าง ๆ นานาล้วนเริ่มจะสืบสวนแผนการของ “นักท่องเวลา” แถมองค์กรมากมายปฏิบัติต่อนักท่องเวลาอย่างไม่เป็นมิตรเลย
อย่างเช่นในเมืองหกแห่งที่กลุ่มการเงินจินได, คาชิมะควบคุม นักท่องเวลาซวยมาก
เพราะว่าทั้งหมดทะลุมิติจากญี่ปุ่น, เกาหลี ดังนั้นทุกคนแทบจะพูดจีนกลางไม่ได้
มีหนึ่งคนก็นับหนึ่งคน นักท่องเวลาทั้งหมดถูกคัดตัวออกมาแล้ว จากนั้นดำเนินการคุมประพฤติแบบรวมศูนย์
ตามข่าว ญี่ปุ่นและเกาหลีของโลกภายนอกในตอนนี้ยกระดับความคลั่งไคล้ในการเรียนภาษาจีนแล้ว ราคาของคลาสเรียนภาษาจีนหนึ่งคอร์สสูงถึงสามพันหยวน
ณ ขณะนี้ เหล่านักท่องเวลาไม่ว่าจะที่โลกภายนอกหรือโลกภายในล้วนไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง
ถึงขนาดที่ว่านักท่องเวลาทุกคนล้วนเหมือนกับเล่นบทสายลับอยู่ ซ่อนตัวตนของตัวเองสุดกำลัง กลัวว่าจะดึงดูดภัยพิบัติสังหารตัวเอง
“นักท่องเวลาห้าคนนี้จะจัดการยังไง” เยี่ยหว่านถาม “สามารถย้ายไปคุกอื่น ๆ ได้ตรง ๆ เลย”
ชิ่งเฉินคิดดู “พาพวกเขาไปห้องสอบสวนเดี่ยวเถอะ ผมถามเรื่องราวนิดหน่อยไปทีละคน ไม่แน่ว่าจะมีเป้าหมายที่สามารถร่วมมือกัน แถมพวกเราอยู่ที่โลกภายนอกล้วนอาศัยอยู่ที่เมืองเดียวกัน ทีหลังเจอกันก็สามารถจดจำออกได้ง่าย”
……
ห้องสอบสวนเดี่ยวเป็นห้องสีเทาล้วน ผนังสี่ด้านล้วนสร้างด้วยโลหะอัลลอยด์ กลุ่มหลอด LED สีขาวซีดเหนือศีรษะส่องแสงบาดตา นักโทษที่อยู่ข้างในจะเกิดความหวาดกลัวในใจจากจิตใต้สำนึก
บนผนังด้านหนึ่งยังฝังกระจกโลหะด้านเดียวบานมหึมาหนึ่งบาน
ชิ่งเฉินยืนในห้องข้าง ๆ อย่างสงบนิ่ง จากมุมมองของเขา กระจกบานนั้นใสอย่างสิ้นเชิง สามารถมองเห็นนักท่องเวลาที่นั่งอยู่ไม่สุขอยู่ด้านใน
เพียงแต่ว่า กระจกนี้กับกระจกด้านเดียวของโลกภายนอกไม่เหมือนกันอยู่บ้าง
บนนั้นถึงขนาดยังแสดงอุณหภูมิร่างกาย, อัตราการเต้นของหัวใจ, อัตราการหายใจของนักท่องเวลา ตัวเลขที่กะพริบเหล่านั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที
เยี่ยหว่านพานักท่องเวลาหนึ่งคนเดินเข้าห้องสอบสวนเดี่ยว ชิ่งเฉินเห็นอีกฝ่ายแวบแรกก็หัวเราะออกเสียง นี่ไม่ใช่กรรมการนักเรียนอวี๋จวิ้นอี้ของห้องตัวเองหรอกเหรอ?!
ชิ่งเฉินคั่นกลางด้วยกระจกด้านเดียว ใช้วิชาหายใจเปลี่ยนเสียงถามว่า “ชื่อแซ่”
อวี๋จวิ้นอี้นั่งบนเก้าอี้อย่างระแวดระวัง กล่าวว่า “อวี๋จวิ้นอี้”
“เพศ”
“ชาย”
“คุณอยู่โลกภายนอกมีสถานะอะไร”
“คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมอยู่ฝั่งนั้นเป็นแค่นักเรียนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง” อวี๋จวิ้นอี้เอ่ยอย่างหวาดกลัว “นักเรียน ม.ปลายปีสองคนหนึ่ง”
ชิ่งเฉินถามว่า “ข้างตัวคุณยังมีนักท่องเวลาคนอื่นหรือไม่”
พริบตานั้น อวี๋จวิ้นอี้เงยหน้าขึ้นถามว่า “ขอถามหน่อยครับ ที่นี่คือคุกหมายเลข 18 ไหมครับ”
ชิ่งเฉินตอบอย่างสงบนิ่งว่า “ใช่”
อวี๋จวิ้นอี้หวนคิดถึงหลิวเต๋อจู้ที่โม้น้ำลายแตกฟองบนรถบัส อีกฝ่ายบอกว่า ที่นี่หลี่ซูถงไม่ต่างอะไรกับผู้คุมคุก ส่วนหลิวเต๋อจู้ปัจจุบันนี้เป็นคนดังที่อยู่ข้างกายบุคคลยิ่งใหญ่คนนี้!
อีกอย่าง ตอนนั้นมีเพื่อนนักเรียนถามหลิวเต๋อจู้ : หลี่ซูถงรู้สถานะนักท่องเวลาของนายไหม
คำตอบของหลิวเต๋อจู้คือ : รู้ แต่อีกฝ่ายไม่ใส่ใจเลย!
ขณะนี้ อวี๋จวิ้นอี้เหมือนกับจะคว้าฟางช่วยชีวิตหนึ่งเส้นเอาไว้ “คุณเจ้าหน้าที่ครับ! ผมเป็นเพื่อนนักเรียนของหลิวเต๋อจู้นะ คนกันเอง!”
หลินเสี่ยวเสี้ยวมองไปทางชิ่งเฉิน ส่วนสีหน้าของชิ่งเฉินพิลึกขึ้นมา……
พูดตามจริง เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะมีจุดพลิกผันอย่างนี้ หลิวเต๋อจู้มันไปโม้หลอกลวงเยอะขนาดไหนเนี่ย ถึงทำไมอวี๋จวิ้นอี้รู้สึกว่าอยู่ในเรือนจำแห่งนี้รายงานชื่อของหมอนั่นไปก็จะสามารถไม่มีเรื่องได้แล้ว……?
ชิ่งเฉินครุ่นคิดชั่วขณะ เขาจู่ ๆ ก็มีแผนการใหม่
ตำแหน่งของหลิวเต๋อจู้ในเรือนจำ ตลอดมาล้วนเป็นตัวเจ้าหมอนั้นเองที่โม้ออกไป นับว่าเป็นคำพูดข้างเดียว
ตอนนี้ ชิ่งเฉินสามารถหาคนมาพิสูจน์ให้หมอนี่ได้แล้ว
เขาให้เยี่ยหว่านพาอวี๋จวิ้นอี้กลับห้องขัง จากนั้นสอบสวนเดี่ยวนักท่องเวลาสี่คนที่เหลือ
แต่สิ่งที่ช่างน่าผิดหวังคือ สี่คนที่เหลือนี้เป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั่ว ๆ ไป ไม่มีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์มากมายเลย
“ตอนนี้เก็บพวกเขาไว้ยังมีประโยชน์ รอหลังจากผมจัดการธุระเสร็จก็ย้ายพวกเขาไปคุกอื่นเถอะ” ชิ่งเฉินกล่าวกับหลินเสี่ยวเสี้ยว
หลินเสี่ยวเสี้ยวหัวเราะฮิ ๆ ตอบว่า “ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าสักวันคนพวกนั้นที่โลกภายนอกรู้บทบาทของคุณในเรื่องพวกนี้แล้วจะมีสีหน้ายังไง อยากทะลุมิติไปดูจริง ๆ เลย”
ชิ่งเฉินถามว่า “จริงสิ หลิวเต๋อจู้เป็นไง”
“อ้อ หมอนี่ยังขี้ขลาดกว่าที่จินตนาการเอาไว้ซะอีก 9 ชั่วโมงก็จวนจะพังทลายแล้ว” หลินเสี่ยวเสี้ยวตอบ “เดี๋ยวผมจะส่งเขากลับห้องขังเดี่ยวก่อนหน้านี้”
ชิ่งเฉินใบ้กินไปชั่วขณะ ถ้าไม่ใช่ว่าเขากังวลว่าให้หนานเกิงเฉินเป็นนายหน้าแล้วจะชักจูงอันตรายมาให้เด็กนั่น ไม่งั้นจะต้องให้หลิวเต๋อจู้นั่งแช่อยู่ก้นคุกไปแล้ว
แต่จะว่าไป หนานเกิงเฉินรู้ตัวตนแท้จริงของเขา กลับจะไม่เหมาะสมจะเป็นนายหน้า เพราะพอถูกสอบสวนขึ้นมามีความเป็นไปได้มากว่าตนเองจะถูกเปิดโปง
ไม่ใช่ว่าชิ่งเฉินไม่เชื่อถือหนานเกิงเฉิน ทว่าการสอบสวนด้วยตัวของมันเองก็เป็นเรื่องที่โหดร้ายมากอยู่แล้ว คนที่สามารถทนได้มีน้อยยิ่ง
ทว่าหลิวเต๋อจู้ไม่เหมือนกัน ถึงจะมีคนจับหมอนี่ไปก็ได้แต่รู้ว่าหลังม่านยังมีคน แต่ไม่มีทางรู้ว่าคนหลังม่านสรุปแล้วเป็นใคร
………………………..
ตอนที่ 104 – ปัญหาไม่ใหญ่