นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 40 ไขความลับ
ตอนที่ 40 – ไขความลับ
หลี่ซูถงพาแมวใหญ่จากไป เขาเพียงพูดว่าจะสอนชิ่งเฉินด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้พูดว่าจะสอนอะไร
แต่หลินเสี่ยวเสี้ยวที่รู้จักคุ้นเคยเจ้านายกลับเข้าใจ ขณะนี้เจ้านายอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ดีเป็นพิเศษแบบพิเศษ
การสืบทอดอัศวินมาถึงรุ่นของหลี่ซูถงแทบจะขาดด้วนไปแล้ว ถึงเขาจะไม่เคยเอ่ยถึงจากปาก แต่หลินเสี่ยวเสี้ยวได้เห็นกับตาตัวเองว่าเขาเลือกผู้สืบทอดคนแล้วคนเล่า แล้วก็ล้มเหลวไปทุก ๆ ครั้ง
หลินเสี่ยวเสี้ยวรู้ว่าเจ้านายจิตใจร้อนรน
เส้นทางสายนั้นเดินได้ยากเกินไป ถึงขนาดที่ว่าเขากับเยี่ยหว่านอยากจะเดินยังเดินไม่สำเร็จ
ขณะนี้ เครื่องแบบนักโทษบนตัวชิ่งเฉินเปียกโชกไปหมดแล้ว เส้นผมของเขาชุ่มน้ำ หอบหายใจอย่างหยุดไม่ได้
ความทรมานของ waterboarding เป็นสิ่งที่จะทิ้งเงามืดในจิตใจให้กับผู้คน
“ผมชื่นชมคุณมากเลยนะ” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว “ผมก็ไม่รู้ว่าคุณรอดชีวิตในห้องมืดเล็กถึงสี่วันได้ยังไง ยังไงซะผมทนอยู่ 36 ชั่วโมงก็ไม่ไหวแล้ว แม่เยี่ยแกร่งกว่าผมหน่อย 47 ชั่วโมง”
“แกร่งกว่าหน่อย?” เยี่ยหว่านเหลือบมองเขา
“แกร่งกว่าช่วงหนึ่ง โอเคยัง” หลินเสี่ยวเสี้ยวเอ่ยอย่างหมดความอดทน
ชิ่งเฉินค่อย ๆ หยุดหอบ “พวกคุณก็เคยถูกขังในห้องมืดเล็ก?”
“อืม” หลินเสี่ยวเสี้ยวพยักหน้า “สำหรับคนทั่วไปเป็นการทรมานชนิดหนึ่ง สำหรับพวกเราเป็นเพียงการทดสอบชนิดหนึ่ง จำเป็นต้องทำ ตอนที่เจ้านายให้พวกเราเอาคุณเข้าห้องมืดเล็ก ผมก็รู้ว่าเขาอยากเลือกคุณ แต่ถ้าเกิดคุณผ่านมาไม่ได้ เขาก็ไม่แคร์ที่จะดูคุณตายไป ชีวิตและความตายที่เจ้านายเคยเห็นมันเยอะเกินไปแล้ว จิตใจก็เปลี่ยนเป็นแข็งแล้ว”
หลินเสี่ยวเสี้ยวยิ้มแล้วกล่าวต่อว่า “แต่จิตใจไม่แข็งก็ไม่ได้นะ ยุคสมัยนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ คุณก็อย่าไปโทษเขา”
เยี่ยหว่านหยิบผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินเข้มที่ทั้งนุ่มทั้งหนายื่นให้ชิ่งเฉิน “เช็ดตัวเถอะ ตอนที่ waterboarding คนที่สามารถอดทนเท่าคุณมีไม่มาก คนทั่วไปฉี่แตกเป็นเรื่องปกติมาก”
ดูเหมือนว่าที่เยี่ยหว่าน waterboarding ให้คนก็ไม่ใช่ครั้งแรก
ทว่าตอนนี้เขายอมรับชิ่งเฉินจากส่วนลึกของจิตใจแล้ว
เวลานี้ หลินเสี่ยวเสี้ยวไปห้องนอกห้องสอบสวนถือถาดอาหารเข้ามา บนถาดอาหารคือข้าวหนึ่งชาม ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานที่สีกลิ่นรสยอดเยี่ยมหนึ่งจาน โจ๊กข้าวขาวหนึ่งชาม
ชิ่งเฉินคิดแล้วหยิบโจ๊กชามนั้นขึ้นมา เยี่ยหว่านพูดกับหลินเสี่ยวเสี้ยวว่า “นายแพ้แล้ว นายติดหนี้ฉันหนึ่งพันไคว่”
ชิ่งเฉินอึ้ง “พวกคุณเล่นพนันกันเหรอ”
“ไม่ผิด” หลินเสี่ยวเสี้ยวเอ่ยอย่างจนใจ “ตอนนี้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณต่ำมาก ๆ เห็นอาหารอยู่ตรงหน้าแล้วน่าจะอยากกินของที่หวานมาก ๆ ถึงจะถูก นี่เป็นคำตอบที่ร่างกายบอกสมองของคุณ ดังนั้นผมพนันว่าคุณจะกินซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานก่อน”
เยี่ยหว่านกล่าวว่า “แต่คุณไม่ได้กินมาสี่วันแล้ว คนฉลาดจะเลือกกินโจ๊กก่อน ระงับสัญชาตญาณของร่างกายตนเองแล้วบอกกับตัวเองว่าอะไรจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ผมพนันว่าคนที่สามารถรอดชีวิตจากห้องมืดเล็กกับ waterboarding จะไม่โง่ขนาดกินซี่โครงหมูก่อน”
ชิ่งเฉินกินโจ๊กขาวลงไปช้า ๆ เขาสัมผัสได้ว่าร่างกายที่เย็นเฉียบของตนเองกำลังอบอุ่นขึ้นมาช้า ๆ
ก่อนหน้านี้ที่โลกภายนอกไม่ว่าจะประสบกับเรื่องที่ทรมานสักแค่ไหน เมื่อเทียบกับเรื่องรางที่ประสบในหลายวันนี้ล้วนไม่นับเป็นอะไรเลย
เพื่อนร่วมรุ่นของเขายังอยู่ที่ห้องเรียน ตกหลุมรัก เล่นเกม ทว่าเขากลับเริ่มต้นชีวิตซึ่งไม่รู้อนาคตแล้ว
แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้ว่า สรุปแล้วตนเองจะเดินไปที่ไหน
หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวขึ้นมากะทันหันว่า “สรุปว่า อันที่จริงหลังจากคุณเข้ามาไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลชิ่ง ดังนั้นจึงมาหาเจ้านายเล่นหมากรุก ช่วยคลายวงล้อมให้ตัวเอง”
“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า เรื่องมาถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่มีอะไรให้ปิดบังแล้ว
หลินเสี่ยวเสี้ยวถามอีกว่า “ดังนั้นตอนนี้ความจริงแล้วคุณกับตระกูลชิ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเลยใช่ไหม ไม่ได้ใช้ชีวิตที่ตระกูลชิ่ง แล้วก็ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งด้วยเลย”
“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้าอีกครั้ง
หลินเสี่ยวเสี้ยวยินดีขนาดหนัก “งั้นก็ไม่เลวเลย คาดว่าเจ้านายก็คิดถึงจุดนี้จึงตัดสินใจรับคุณ”
เยี่ยหว่านกล่าวกับชิ่งเฉินว่า “คุณสามารถวางใจได้ สถานะโลกภายนอกของคุณมีแค่ผม, หลินเสี่ยวเสี้ยว, เจ้านายที่รู้ แม้แต่หลี่ตงเจ๋อยังจะไม่บอกเลย พวกเราจะรักษาความลับนี้ให้คุณ”
ชิ่งเฉินถอนหายใจโล่งอก “ขอบคุณ…… หลี่ตงเจ๋อเป็นใคร”
“หลี่ตงเจ๋อชมรมเหิง” หลินเสี่ยวเสี้ยวมีความสุขแล้ว “ชมรมเหิงเป็นองค์กรใต้สังกัดอัศวินเรา ความสามารถของอัศวินเกรงว่ายังยิ่งใหญ่กว่าในจินตนาการของคุณ ดูท่าคุณก็ไม่รู้สักเรื่องเกี่ยวกับโลกข้างนอก หลายวันนี้ผมสองคนจะช่วยเสริมความรู้ให้คุณ”
เยี่ยหว่านกล่าวว่า “จริงสิ ลู่ก่วงอี้นั่นยังค่อนข้างจะภักดีต่อคุณเลย หลายวันนี้เขารับความเจ็บปวดไม่น้อยเพื่อคุณ ยังเกือบจะลงมือใส่เจ้านายแล้ว”
“อืม ขอบคุณที่เตือน” ชิ่งเฉินพยักหน้า
“คุณรู้จักหลิวเต๋อจู้, หวงจี้เซียนไหม ยังมีเจี่ยนเซิงที่ชอบด่าคนนั่น” หลินเสี่ยวเสี้ยวถาม
“ผมรู้จักหลิวเต๋อจู้กับหวงจี้เซียน ก็ไม่ถือว่ารู้จัก เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมปลายของผม” ชิ่งเฉินอธิบาย
“เดี๋ยวนะ คุณอยู่ที่โลกภายนอกก็เป็นนักเรียนมัธยมปลายทั่วไปเหรอ” หลินเสี่ยวตกตะลึง ถึงเขาจะรู้สถานการณ์ของโลกภายนอกมาบ้าง แต่จากที่เขาเห็นชิ่งเฉินอยู่ที่โลกแห่งนั้นก็น่าจะร้ายกาจมาก ๆ สิ
ความสามารถและพลังใจที่ชิ่งเฉินแสดงออกมาล้วนไม่น่าจะเป็นสิ่งที่นักเรียนทั่วไปคนหนึ่งจะสามารถครอบครอง
ชิ่งเฉินกล่าวว่า “โลกภายนอกเป็นโลกที่ค่อนข้างสงบสุข ไม่มีผู้เหนือมนุษย์ ไม่มีอวัยวะจักรกล แล้วก็ไม่มีแก๊งองค์กร สงบสุขรุ่งเรือง ในยุคสมัยอย่างนี้แม้แต่คนทั่วไปก็ไม่เลว จะไม่มีอันตรายถึงชีวิตอะไร”
“อิจฉาจริง ๆ” หลินเสี่ยวเสี้ยวทอดถอนใจ
ชิ่งเฉินถามว่า “คนที่พูดภาษาถิ่นนั่นถูกขังอยู่ที่ไหน”
“ก็ถัดจากห้องสอบสวนนี้ไปอีกไม่กี่ห้อง ทำไมเหรอ” หลินเสี่ยวเสี้ยวถาม
“ผมสามารถจะไปถามเขาไม่กี่คำถามได้ไหม” ชิ่งเฉินถาม
“ได้แน่นอน” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวด้วยรอยยิ้มแฉ่ง “คนกันเองทั้งนั้น ยังจะมีอะไรที่ไม่สามารถล่ะ ภายหลังคุกหมายเลข 18 นี่คุณวางก้ามได้เลย”
ชิ่งเฉินคิดดู เขาเอาผ้าขนหนูตอน waterboarding ก่อนหน้านี้มาคลุมหน้า แล้วให้หลินเสี่ยวเสี้ยวช่วยหยิบอีรีดเดอร์หนึ่งเครื่องให้ตัวเอง แล้วจึงมาถึงนอกห้องเดี่ยวที่ขังเจี่ยนเซิงเอาไว้
ประตูเลื่อนโลหะเปิดออก เยี่ยหว่านเดินเข้าไปคุมตัวเจี่ยนเซิงก่อน
คนบ้านเดียวกันชาวโลกคนนี้อายุประมาณสามสิบ
เจี่ยนเซิงอ้าปากด่าเป็นการใหญ่ ว่า “เหล่าจื่อให้เอ็งไอ้หนู……”
ยังไม่รอให้เขาพูดจบ ชิ่งเฉินเขียนคำสามคำบนอีรีดเดอร์เงียบ ๆ ให้อีกฝ่ายหยุดสบถด่า “ซอยควนไจ่*”
เจี่ยนเซิงอึ้งไป “ไอ้หนูเอ็งเป็นชาวโลก?”
“ขอถามคุณสักหน่อย” ชิ่งเฉินเขียนต่อ “คุณไม่ใช่คนชวนโจวเหรอ ทำไมถึงทะลุมิติมาถึงที่นี่ ตัวคุณอยู่ที่เมืองลั่วเหรอ”
“ก่อนหน้านี้เหล่าจื่อที่เมืองลั่วทำธุรกิจนิดหน่อย ไม่รู้แม่งอะไรก็ทะลุมาที่บัดซบนี่แล้ว” เจี่ยนเซิงเห็นเขาเป็นชาวโลกบ้านเดียวกันก็ตอบดี ๆ
“คุณทำงานอะไร” ชิ่งเฉินเขียนบนอีรีดเดอร์อีกครั้ง
“ขายตั๋วผี” เจี่ยนเซิงตอบ “เอ็งเป็นชาวเมืองลั่วเรอะ”
เพียงแต่ชิ่งเฉินไม่มีแผนจะตอบคำถามของเขา ทว่าหมุนตัวจากไป
จนถึงตอนนี้ เยี่ยหว่านจึงได้ปล่อยอีกฝ่าย
เจี่ยนเซิงเห็นประตูเลื่อนโลหะปิดตัวลงช้า ๆ จู่ ๆ ก็ตระหนักว่าคนบ้านเดียวกันกับตนเองคนนี้ไม่ได้มีเจตนาจะช่วยตนเองเลย ด่าออกมาอีกทันที
แต่เจี่ยนเซิงหันไปคิดอีกทีก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องอยู่บ้าง เด็กหนุ่มนี่ในเมื่อเป็นชาวโลก เหตุใดดูท่าทางแล้วมีฐานะสูงมากที่โลกภายในกันล่ะ?!
หลินเสี่ยวเสี้ยวที่สอบสวนตัวเองก่อนหน้านี้คนนั้น แล้วยังชายหนุ่มร่างบึกคนนั้นล้วนให้ความร่วมมือกับอีกฝ่าย
ในนักท่องเวลามีบุคคลที่ร้ายกาจขนาดนี้แล้วเหรอ
ส่วนหลินเสี่ยวเสี้ยวที่นอกประตูมองดูชิ่งเฉิน ก่อนอื่นมองผ้าขนหนูบนหน้าอีกฝ่าย แล้วก็มองอีรีดเดอร์ในมืออีกฝ่าย
เด็กหนุ่มคนนี้เพิ่งจะประสบกับห้องมืดเล็กแล้วยังประสบกับ waterboarding ผลคือยังสามารถรักษานิสัยพฤติกรรมที่รอบคอบขนาดนี้ได้อีก?!
……………………………..
*ซอยควนไจ่ (宽窄巷) เป็นซอยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองเฉิงตู เสฉวน
ตอนที่แปลถึงซี่โครงหมูเป็นเวลาสี่ทุ่ม ทรมานมาก ๆ
ตอนที่ 41 – นักเลงบ้านผู้สูงอายุ