นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 55 ลองเชิงและข่าวใหม่
ตอนที่ 55 – ลองเชิงและข่าวใหม่
ระหว่างคาบ หวังอวิ๋น, ไป๋หว่านเอ๋อร์, หูเสี่ยวหนิว, จางเทียนเจินสี่คนมารวมตัวกันที่ทางเดิน
เหล่านักเรียนที่ไป ๆ มา ๆ ส่วนใหญ่สวมเครื่องแบบนักเรียน ทว่าพวกเขาสี่คนเพราะเครื่องแบบยังไม่ได้รับแจกจึงล้วนสวมใส่เสื้อผ้าของตนเอง ดูแล้วสะดุดตาเป็นพิเศษ
เพียงแต่ตอนที่พวกเพื่อนนักเรียนเดินผ่านข้างตัวพวกเขาล้วนจงใจหลีกเลี่ยงนิดหน่อย
สาเหตุนี้ก็คล้ายกับที่บนรถเมล์มีที่ว่างมากมาย สาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่แถวหลังเดี่ยว ๆ คนส่วนใหญ่ล้วนจะเลือกไม่นั่งกับเธอ นอกเสียจากไม่มีที่นั่งแล้ว
หูเสี่ยวหนิวมองนาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์ทองคำแท้บนข้อมือตัวเอง เวลาพักยังมีอีก 8 นาที เขาลดเสียงลงถามว่า “คุยฝั่งพวกเธอก่อน มีอะไรผิดปกติไหม”
ไป๋หว่านเอ๋อร์ยิ้มแล้วเหลือบมองหวังอวิ๋น “สิ่งผิดปกติอื่นไม่มี จะมีก็นักเรียนชายคนหนึ่งจงใจเปลี่ยนที่นั่งเพื่อหวังอวิ๋น”
“เธออย่าพูดเหลวไหลสิ” หวังอวิ๋นตีแขนไป๋หว่านเอ๋อร์ “เผื่อคนเขาไม่ได้มีความหมายอื่นล่ะ”
“เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ” ไป๋หว่านเอ๋อร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงกำกวม
ทว่าเวลานี้จู่ ๆ หูเสี่ยวหนิวถามว่า “เขาเป็นนักท่องเวลารึเปล่า เพราะประเมินได้ว่าพวกเธอเป็นนักท่องเวลา ดังนั้นเลยเปลี่ยนมาอยู่ข้างพวกเธอ”
อันที่จริงหูเสี่ยวหนิวทราบชัดมากว่านักเรียนชายมัธยมปลายถึงในใจจะเกิดความรู้สึกแอบชอบ ก็ไม่ถึงขนาดจะออกหน้าออกตาแลกตำแหน่งกับคนอื่นเพื่อเข้าใกล้นักเรียนหญิงที่หมายปองตั้งแต่วันแรก
ดังนั้น หูเสี่ยวหนิวแรกสุดเลยคือรู้สึกว่าไม่ถูกต้องอยู่บ้าง
หวังอวิ๋นและไป๋หว่านเอ๋อร์สบตากัน “น่าจะไม่มั้ง?”
“พวกเธอต้องรู้นะว่าที่นี่คือเมืองลั่ว หนึ่งในสถานที่สิบเก้าแห่งที่นักท่องเวลารวมตัวกัน ข้าง ๆ ตัวซ่อนนักท่องเวลาเอาไว้มันปกติมาก” หูเสี่ยวหนิววิเคราะห์ “ระวังหน่อย ถ้าเผื่อเขาสามารถฟังที่พวกเราใช้ภาษาอังกฤษคุยกันเข้าใจอาจจะเกิดเรื่องใหญ่”
“เขาน่าจะฟังไม่เข้าใจหรอก” หวังอวิ๋นกล่าว “พวกเราคุยถึงเขาซึ่งหน้า เขาทำโจทย์เลขไม่เคยสะดุดเลย”
“เอางี้” หูเสี่ยวหนิวกล่าว “คาบต่อไปพวกเธอสังเกตดูหน่อยว่าเขาจะก้มหน้าลงดูท้องแขนตัวเองบ่อย ๆ รึเปล่า เข้าใจความหมายของฉันไหม บนท้องแขนของคนคนหนึ่งจู่ ๆ ปรากฏเลขนับถอยหลัง ไม่ว่าจะเกิดความอยากรู้หรือว่ารู้สึกแปลกใหม่ล้วนจะไปเหลือบดูเป็นครั้งคราว นิสัยประเภทนี้ต้องหลังจากเขาเคยชินอย่างสิ้นเชิงถึงจะค่อย ๆ เลิก”
หวังอวิ๋นคิดดูแล้วตอบรับว่า “ได้ ฉันจะสังเกตดู”
หลังหนึ่งคาบเรียน ทั้งสี่คนมาประชุมกันที่ทางเดินอีกครั้ง
“เป็นไง” หูเสี่ยวหนิวถาม
หวังอวิ๋นส่ายหน้า “45 นาที เขาไม่ได้มองท้องแขนสักครั้ง ถึงจะไม่มีเรื่องให้ทำนั่งเหม่อเฉย ๆ ก็ไม่ก้มหน้าลงดูท้องแขน”
หูเสี่ยวหนิวโล่งอก จางเทียนเจินถามว่า “จะเป็นว่าเขาเดาออกรึเปล่าว่าอาจมีคนจับตาดูเขา ดังนั้นเขาจงใจไม่มองแขน”
หูเสี่ยวหนิวใคร่ครวญ “สำหรับตอนนี้ขีดฆ่าความเป็นไปได้ว่าเขาเป็นนักท่องเวลาไปก่อน จิตใจของวัยรุ่นทั่วไปไม่ได้ควบคุมตัวเองและอดทนขนาดนี้ แล้วก็ไม่สามารถคิดได้อย่างรอบด้านแบบนี้ด้วย ถ้าเกิดเขาเป็นอย่างที่เธอพูดจริง ๆ งั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว”
จางเทียนเจินกล่าวล้อเล่นว่า “งั้นเขาอาจจะชอบหวังอวิ๋นจริง ๆ”
“จริงสิ ด้านพวกนายเป็นไง มีความคืบหน้าไหม” หวังอวิ๋นถาม
“ไม่มี” หูเสี่ยวหนิวส่ายหน้าอย่างนิ่งเฉย “หลิวเต๋อจู้แกล้งโง่ได้เก่งเกินไปแล้ว ตอนนี้พวกเรายังไม่สามารถทะลวงด่านทางเขา จะต้องค่อย ๆ สั่งสมความรู้สึก”
“หรือว่าไปทะลวงด่านทางเจียงเสวี่ยก่อนปะ” จางเทียนเจินกล่าว “แบบนี้ ก่อนที่พวกเราจะไปถึงเมืองหมายเลข 18 ก็จะสามารถอาศัยเธอทำความเข้าใจสถานการณ์ของเมืองหมายเลข 18 สักหน่อย”
“ได้แต่ทำอย่างนี้ล่ะนะ แต่ด้านนั้นก็เหมือนกับจะสนิทสนมกันไม่ค่อยจะง่ายเลย” ไป๋หว่านเอ๋อร์กล่าว “เดี๋ยวนะ พวกนายจำได้ไหมว่าเมื่อวานเด็กผู้หญิงคนนั้นร้องเรียกพี่ชิ่งเฉิน จะต้องเป็นชิ่งเฉินคนนั้นของห้องพวกฉัน ครอบครัวสองครอบครัวนี้น่าจะใกล้ชิดกันมาก”
“หรือว่าจะเริ่มลงมือที่ชิ่งเฉินคนนี้ก่อน?” จางเทียนเจินกล่าว
“อืม งั้นก็ลงมือจากชิ่งเฉิน ใช้เขาทำความรู้จักกับเจียงเสวี่ยอีกที” หวังอวิ๋นพยักหน้า
……
กลับมาตอนพักคาบที่สอง ชิ่งเฉินกำลังนั่งในห้องเรียนไถโทรศัพท์มือถือ บันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับนักท่องเวลาทั้งหมด
เวลานี้ข้าง ๆ มีเสียงดังขึ้นมาว่า “ชิ่งเฉิน หนานเกิงเฉิน อะ นี่เป็นน้ำที่เมื่อกี้พวกเราไปร้านค้าโรงเรียนเอามาให้พวกนาย”
หนานเกิงเฉินเงยหน้าขึ้นมอง ถึงกับเป็น Nongfu Spring* ที่เพิ่งหยิบมาจากตู้เย็น ข้างนอกขวดยังมีหยดน้ำเกาะอยู่เต็ม
เพราะว่านิ้วเปียกน้ำ นิ้วมือเรียวยาวขาวผ่องของอีกฝ่ายยิ่งเปล่งประกายบริสุทธิ์ขึ้นไปอีก
เพื่อนนักเรียนในห้องแอบมองมาทางนี้ มีคนคิดในใจว่าชิ่งเฉินกับหนานเกิงเฉินสนิทสนมกับนักเรียนย้ายเข้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
นักเรียนย้ายเข้าถึงกับยังซื้อน้ำให้พวกเขาด้วย
หนานเกิงเฉินถามอึ้ง ๆ ว่า “นี่คือ……ให้ฉันเหรอ”
ไป๋หว่านเอ๋อร์ยิ้มกระจ่าง “แหงสิ”
“โอเค ขอบคุณ!” หนานเกิงเฉินตื่นเต้นขึ้นมา
เพียงแต่ชั่วขณะนี้ ชิ่งเฉินก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือคล้ายกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ข่าวหนึ่งชิ้นบนโทรศัพท์มือถือ : ในประเทศทลายรังโจรผิดกฎหมายแห่งหนึ่งได้สำเร็จ ช่วยเหลือนักท่องเวลาที่ยอมรับสถานะบนอินเตอร์เน็ต 12 คนได้สำเร็จ
ในนี่ยังรวมไปถึงเน็ตเซเล็บที่มีชื่อเสียงซึ่งหายตัวไปกะทันหันคนหนึ่ง
ตามรายงานข่าว กลุ่มคนร้ายลักพาตัว 12 คนนี้ไปไว้ในโรงงานร้างชานเมือง ใช้วิธีการขมขู่คุกคามให้ได้รับข้อมูลตัวตนที่โลกภายในของทั้ง 12 คน
แล้วก็อาศัยการข่มขู่ความปลอดภัยของชีวิตคนในครอบครัวของพวกเขา บังคับนักท่องเวลาให้ใช้ร่างกายขนถ่ายสินค้าให้พวกเขา ด้วยวิธีการยัดยาเข้าทวาร, ช่องท้อง, ช่องปาก ทะลุโลกภายนอกภายใน
ณ สถานที่ก่อเหตุ หน่วยงานรักษากฎหมายตรวจยึดยาโลกภายในได้ปริมาณมาก ในนี้เป็นยาแปลงพันธุกรรมเสียเป็นส่วนใหญ่
รายงานแจ้งว่า ยาแปลงพันธุกรรมสองชนิดในที่เกิดเหตุไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายได้เลย แต่สามารถปรับปรุงโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม : อาการหูหนวกทางพันธุกรรมแต่กำเนิด, โรคหัวใจทางพันธุกรรมแต่กำเนิด
จนถึงขณะนี้หน่วยงานรักษากฏหมายจับกุมผู้ต้องสงสัยทำผิดกฏหมายได้ 4 คน ยังมี 9 คนอยู่ระหว่างหลบหนี ตามที่ผู้ต้องสงสัยสารภาพปากเปล่า ผู้ต้องสงสัย 9 คนที่หลบหนีเป็นนักท่องเวลา
ข่าวชิ้นนี้ชวนตกตะลึงจริง ๆ
อาชญากรรมเกี่ยวกับนักท่องเวลาก่อนหน้านี้ยังอยู่ต่างประเทศ ปัจจุบันนี้ในประเทศก็ปรากฏเรื่องที่โหดร้ายน่าเหลือเชื่ออย่างนี้ขึ้นมาแล้ว
ตอนนี้ เกรงว่าไม่มีใครกล้าประกาศกลางสาธารณะว่าตัวเองเป็นนักท่องเวลาอีกต่อไปแล้วสินะ?
เริ่มตั้งแต่วันนี้ นักท่องเวลาทุกคนล้วนจะต้องเงียบกริบ
เหมือนกับว่าทุกคนล้วนอยู่ในป่ามืดทึบ
“ชิ่งเฉิน?” หวังอวิ๋นด้านข้างรออยู่พักใหญ่ เห็นชิ่งเฉินไม่สนใจเธอก็ส่งเสียงเตือนขึ้นมาอีกครั้ง
ชิ่งเฉินได้สติกลับมารับน้ำแร่น้ำพุไป “ขอบคุณ แต่ทีหลังไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้แล้ว”
“พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันไหมล่ะ ทีหลังต้องขอรบกวนให้ช่วยดูแลมาก ๆ นะ” หวังอวิ๋นยิ้มแล้วนั่งลง
เพื่อนนักเรียนในห้องฮือฮา อะไรยังไง ชิ่งเฉินกับนักเรียนย้ายเข้าสองคนนี้ยังเป็นเพื่อนบ้านกันด้วย?!
ชิ่งเฉินนั่งประจำที่อย่างสงบเงียบ เพียงพริบตาเดียวก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอะไร
เขาไม่สนใจสายตาอิจฉาเลื่อมใสหรือว่าแปลกประหลาดของพวกเพื่อนนักเรียน แล้วก็ไม่ได้ไปสนใจเสียงโห่ร้องของเพื่อนนักเรียนชายบางคนด้วย
เขาเพียงค่อย ๆ เริ่มทำความเข้าใจนิสัยของหวังอวิ๋นกับไป๋หว่านเอ๋อร์
คนพวกนี้อยู่ภายใต้รัศมีของผู้มีการศึกษาระดับหัวกะทิ พบเห็นโฉมหน้าของโลกมาแต่ต้น มีการคิดคำนวณของตัวเอง
แต่ทว่าถึงที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็ไม่เคยได้รับความทุกข์ยากอย่างแท้จริงเลย ความเจนโลกบนตัวอีกฝ่ายล้วนมาจากผู้ใหญ่ ยังไม่เคยถูกสังคมพิสูจน์
ดังนั้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนพวกเธอยังทำเป็นเมิน ไม่กี่ชั่วโมงหลังก็พลิกทัศนคติอย่างกะทันหัน ดูฝืนเป็นพิเศษ
ขณะนี้ หวังอวิ๋นยิ้มขึ้นมา “ดูอะไรเหรอโฟกัสจัง เรียกนายก็ยังไม่มีปฏิกิริยาเลย”
ว่าแล้ว เด็กสาวก้มลงมาใกล้ดูโทรศัพท์มือถือของเขา ตอนที่เธอเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน กลิ่นน้ำหอมอันบรรยายไม่ถูกบนตัวอีกฝ่ายลอยเข้าจมูกของชิ่งเฉิน
อีกฝ่ายเหมือนจะจงใจ
แต่ตอนที่เด็กสาวเห็นข่าวบนโทรศัพท์มือถือ ร่างกายก็แข็งทื่อไปเลย
………………………..
*ยี่ห้อเครื่องดื่มจีน มีน้ำแร่และชาต่าง ๆ มีร้านทางการใน shopee ด้วย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเพราะงงกับชื่อไทย ในเพจ fb official เขียนว่า หนองฟู่ แต่ใน shopee เขียน นองฟู อิหยังนิ
ตอนที่ 56 – เจ้านายสองท่าน