นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 79
ตอนที่ 79 – ล่อเสือออกจากเขา
จู่ ๆ เจียงเสวี่ยกล่าวว่า “จะทะลุมิติแล้ว เสี่ยวเฉิน ฉันช่วยเหลืออะไรที่โลกภายในได้ไหม”
อันที่จริงความหมายโดยนัยของประโยคนี้ก็คือหมายความว่าอีกฝ่ายรู้สถานะนักท่องเวลาของชิ่งเฉินแล้ว
แต่นี่ไม่สำคัญ เพราะคืนนั้นที่ช่วยคน เขาได้เปิดเผยรายละเอียดมากเกินไปจริง ๆ
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “น้าเจียงเสวี่ยยังไงอย่ามาข้องแวะกับเรื่องประเภทนี้เลยครับ ไม่แน่ว่ารอถึงตอนพวกเรากลับมา ผมจะมีหนทางแก้ไขแล้ว”
หลี่ถงอวิ๋นกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ข้าง ๆ “พวกแม่พูดอะไรกันอยู่น่ะ หนูฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ”
ชิ่งเฉินมองเธออย่างรู้สึกขำอยู่บ้าง เรื่องมาถึงวันนี้ เป็นเด็กหญิงคนนี้ที่ปิดบังได้ดีที่สุด
นอกจากตนเองแล้ว เหมือนจะไม่มีคนรู้สถานะนักท่องเวลาของอีกฝ่ายจริง ๆ
ในเวลาเดียวกัน ที่เขตเมิ่งทางเหนือเมืองลั่ว
ลู่หยวนพาทีมทะลุทางภูเขาเล็ก ๆ อันขรุขระมาถึงหมู่บ้านต้าจวง รถออฟโร้ด 7 คันเขรอะโคลนทั้งคัน
ในหมู่บ้านแห่งนี้มีคนทั้งหมดสามคนแยกย้ายกันโทรศัพท์มารายงาน บอกว่าในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าห้าคนสะพายเป้ปีนเขาเข้าไปในภูเขาต้า มีข้อเท้าหรือแขนเป็นเหล็ก
คนแจ้งเบาะแสไม่ได้พูดว่าห้าคนนี้เป็นอาชญากร เพียงบอกว่าพฤติกรรมน่าสงสัย
ลู่หยวนให้ผู้ใหญ่บ้านเรียกสามคนนี้มา จากนั้นให้ลูกน้องสมาชิกทีมพาพวกเขาไปสอบสวนในห้องสอบเดี่ยว ตัวเขาเองสอบสวนคนแจ้งเบาะแสคนแรก
คนแจ้งเบาะแสคนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น ผิวหนังดำมะเมื่อม มองแวบแรกก็คือชาวนาตัวจริงเสียงจริง
ลู่หยวนถามว่า “คุณเห็นพวกเขาเวลาเท่าไหร่ครับ”
ในบ้านอิฐเรียบง่าย ชายชรากล่าวด้วยแววตาลุกลี้ลุกลนว่า “น่าจะบ่ายสามหรือสี่นะ พอเห็นพวกเขาผมก็แจ้งตำรวจเลย”
ลู่หยวนรู้สึกทันทีว่าไม่ถูกต้องอยู่บ้าง “พวกเขาใส่เสื้อผ้าแบบไหน”
“ก็ชุดกีฬานอกบ้านอย่างที่พวกคุณคนเมืองใส่กันนะ เรียกว่าอะไรนะ ใช่ แจ็กเก็ต!” ชายชราตอบ
“มีผู้หญิงไหม” ลู่หยวนสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
ชายชราอึ้งไป “เหมือนจะไม่มีนะ……”
“แจ็กเก็ตพวกเขาสีอะไร ตอบผมมาใน 10 วิ!”
ชายชรากระอึกกระอักบอกว่าจำไม่ได้
“คุณรับเงินเท่าไหร่มาแจ้งความเท็จ” ลู่หยวนลุกขึ้นยืนอย่างโมโห “คุณรู้หรือไม่ว่าแจ้งความเท็จอย่างนี้จะมีคนบาดเจ็บล้มตายมากแค่ไหน”
ไม่ต้องถามรายละเอียดอะไรอีกแล้ว คนแจ้งเบาะแสจริง ๆ จะไม่เป็นอย่างนี้เลย
ถ้าลู่หยวนไม่มีพลังในการประเมินเล็กน้อยนี้ก็ไม่ต้องอยู่ในคุนหลุนแล้ว
เขาหมุนตัวเดินออกจากบ้านหลังนี้ สมาชิกคุนหลุนคนหนึ่งถามว่า “ด้านคุณเป็นยังไงครับหัวหน้าทีมลู่ ด้านผมไม่ถูกต้องนิดหน่อย ภรรยาเขาบอกว่าเมื่อวานจู่ ๆ เขาเอาเงินแบงก์ใหม่เอี่ยมหนึ่งปึกกลับบ้าน”
“ล่อเสือออกจากเขา” ลู่หยวนยืนอยู่นอกประตูครุ่นคิดเงียบ ๆ แต่การล่อเสือออกจากเขานี้มีความหมายอะไรล่ะ เขตเมืองยังมีสมาชิกทีมคุนหลุนหกคนเฝ้ารักษาการณ์อยู่ ถึงเขาจะไม่อยู่ อีกฝ่ายพอมีความเคลื่อนไหวก็อาจจะล่าถอยอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ได้รึเปล่า
ไม่ถูก! ลู่หยวนเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน เขาเหล่าจวิน!
อีกฝ่ายพยายามสุดกำลังดึงเขามายังสถานที่ไกลปืนเที่ยงนี้ก็เพื่อให้เขาเร่งไปเขาเหล่าจวินไม่ทัน!
จากที่นี่กลับเขตเมืองใช้เวลา 4 ชั่วโมง จากเขตเมืองตรงไปเขาเหล่าจวินต้องใช้อีกเกือบ 3 ชั่วโมง
คนร้ายทำทุกสิ่งนี้ล้วนเพียงเพื่อแย่งชิงเวลา 7 ชั่วโมงนี้เท่านั้น
ดังนั้นแผนการในคืนนี้ของอีกฝ่ายจะต้องยุติใน 7 ชั่วโมง
ม่านราตรีลึกล้ำ
พวกเขาต้องวิ่งแข่งในความมืดมิด
นับถอยหลังถึงศูนย์
นับถอยหลังคืนกลับ : 48:00:00
พริบตาที่ความมืดจางหายไปอีกครั้ง ชิ่งเฉินยังคงสวมหน้ากากหน้าแมว
ยืนอยู่ในทางเดินอันมืดสลัว
ในห้องขังเดี่ยว เยี่ยหว่านและหลินเสี่ยวเสี้ยว “เพิ่ง” จะฉีดยาแปลงพันธุกรรมเข็มนั้นให้หลิวเต๋อจู้เสร็จ
หลิวเต๋อจู้ที่ทะลุมิติมาด้วยกันถูกสองคนนี้ที่ข้างกายขู่จนสะดุ้ง เขาบ้วนทองคำหนึ่งแท่งในปากออกมากล่าวว่า “ฮีโร่ทั้งสองปล่อยผมก่อนได้รึเปล่าครับ ฉีดก็ฉีดเสร็จแล้วนิ!”
ชิ่งเฉินเดินเข้าห้องขังเดี่ยวช้า ๆ ถามเสียงเย็นว่า “ทำไมไม่ตอบข้อความ”
เยี่ยหว่านกับหลินเสี่ยวเสี้ยวมองหน้ากันแล้วถอยไปด้านข้าง ก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่โลกภายนอก
เห็นแค่หลิวเต๋อจู้นอนบนเตียงตอบอย่างระมัดระวังว่า “บอสใหญ่ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากตอบคุณ หลัก ๆ คือผมอยู่กับเพื่อนนักเรียนตลอดเลย ไม่มีโอกาสอ่านอุปกรณ์สื่อสาร”
อันที่จริงหลิวเต๋อจู้พูดปด อย่างน้อยตอนเขาเข้าห้องน้ำก็สามารถตอบชิ่งเฉินได้ เพียงแต่เพื่อนนักเรียนเต็มคันรถเล่นกันสนุกสนานเกินไป หลังจากถึงที่หมายทุกคนก็มารวมตัวกันปาร์ตี้รอบกองไฟอีก จนถึงขนาดที่ลืมเรื่องอุปกรณ์สื่อสารนี้ไปเลย
ชิ่งเฉินยังไม่รู้ทุกอย่างนี้ จึงอธิบายว่า “หลังจากกลับไปครั้งนี้ วันชาติเจ็ดวันอย่าออกจากบ้าน เข้าใจไหม”
หลิวเต๋อจู้อึ้งไป “บอสใหญ่ครับ ผมถึงเขาเหล่าจวินแล้วนะ รอให้ผมกลับจากเขาเหล่าจวินค่อยซ่อนตัวในบ้านได้รึเปล่า”
ครั้งนี้ถึงคราวชิ่งเฉินอึ้งแล้ว
ณ ขณะนี้ เพื่อนนักเรียน 47 คนหนึ่งคันรถของหลิวเต๋อจู้ทั้งหมดมาถึงเขาเหล่าจวินแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังเล่นเกมที่หูเสี่ยวหนิว, จางเทียนเจินจัดขึ้นอยู่
จนกระทั่งหนึ่งวินาทีก่อนที่การนับถอยหลังจะถึงศูนย์ ข้างกองไฟในบ้านโฮมสเตย์ ทุกคนยังเล่นเกมตีกลองส่งดอกไม้* กันอยู่เลย ตอนที่เสียงกลองหยุดลง คนที่ถือดอกไม้คนนั้นก็จะแสดงโชว์
ในโลกภายนอก เสียงกลองยังดำเนินต่อไป
ชิ่งเฉินเงียบไปพักใหญ่ “พวกคุณไปเขาเหล่าจวินแล้ว? อยู่โฮมสเตย์ไหน”
หลิวเต๋อจู้กล่าวว่า “เรียกว่ารีสอร์ทอวิ๋นซ่างอะไรเนี่ยแหละ เหมือนจะค่อนข้างมีชื่อเสียงที่เขาเหล่าจวิน พวกเราไปกันทั้งหมด 47 คน นักเรียนย้ายเข้าของเมืองไห่ควักเงินเลี้ยงทุกคนให้อยู่ที่นั่นสามวัน”
ชิ่งเฉินถามว่า “นี่เป็นทริปที่ตกลงกันล่วงหน้านานแล้วเหรอ ทำไมไม่เคยพูดถึงกับผมเลย”
หลิวเต๋อจู้เห็นบอสใหญ่เหมือนจะเกิดโทสะก็รีบอธิบายว่า “ไม่ได้ตกลงล่วงหน้านานมากหรอกครับ ต้นเรื่องก็คือนักเรียนย้ายเข้าเมืองไห่คิดแผนปุบปับ แถมเดิมทีตกลงว่าจะออกเดินทางเช้าวันที่ 1 เดือนตุลาคม ผลคือเพราะว่าโรงเรียนปล่อยเร็วก็เลยไปล่วงหน้า”
เวลานี้หลิวเต๋อจู้งึมงำในใจว่าดูท่าบอสใหญ่จะไม่ได้เป็นเพื่อนนักเรียนของเขาเลย ไม่งั้นทำไมจะไม่รู้เรื่องของเขาเหล่าจวิน
ส่วนชิ่งเฉินในขณะนี้ สีหน้าด้านหลังหน้ากากหน้าแมวสงบลงโดยสิ้นเชิงแล้ว
รีสอร์ทอวิ๋นซ่าง เจียงเสวี่ยเคยเอ่ยถึง
เดิมทีเจียงเสวี่ยก็อยากจะจองโฮมสเตย์นี้ แต่อีกฝ่ายขนาดค่อนข้างใหญ่ ในช่วงวันชาติเหมือนจะรับแค่ลูกค้าเป็นกลุ่ม
กุญแจสำคัญที่สุดคือ รีสอร์ทอวิ๋นซ่างก็อยู่ข้างบ้านพวกเขาเอง
ชิ่งเฉินมองหลิวเต๋อจู้คิดในใจว่า ที่แท้เมื่อกี้เสียงหัวเราะกับเสียงกลองที่สนุกสนานนั่นก็คือสิ่งที่พวกนายทำออกมา……
มันน่านัก!
เสียงของหลายสิบคนที่ผสมปนเปกัน อยู่ห่างไปห้าสิบกว่าเมตร แม้แต่ชิ่งเฉินก็ไม่สามารถแยกแยะเสียงที่คุ้นเคยบางส่วนในนั้นออก
ดูท่าคนร้ายจะมาเพื่อหลิวเต๋อจู้
บนเขาเหล่าจวินนี้ ในด้านสว่างไม่มีนักท่องเวลาที่มีมูลค่ายิ่งกว่าหลิวเต๋อจู้แล้ว
แต่ชิ่งเฉินคิดไม่ตกว่าคนร้ายอาศัยอะไรถึงรู้ล่วงหน้าว่าหลิวเต๋อจู้กับพวกจะมาเขาเหล่าจวิน
เห็นชัด ๆ ว่านี่เป็นสิ่งที่มีการเตรียมการมา แม้แต่พวกหลิวเต๋อจู้อยู่ที่โฮมสเตย์อวิ๋นซ่างก็ยังทราบกระจ่าง
“มีสายข่าว” ชิ่งเฉินกล่าวโดยสงบ “มีคนเอาแผนเที่ยวของพวกคุณไปมอบให้คนร้าย ไม่เพียงรู้ว่าพวกคุณอยู่ที่โฮมสเตย์ไหน แม้แต่เรื่องที่ไปถึงก่อนกำหนดหนึ่งวันก็ลังบอกกับคนร้าย”
หลิวเต๋อจู้มองหน้ากากหน้าแมวเบื้องหน้า “บอสใหญ่ คุณพูดอะไรครับ”
…………………………………………………….
*เกมตีกลองส่งดอกไม้ คล้าย ๆ รีรีข้าวสาร ผู้เล่นนั่งล้อมวงส่งดอกไม้เป็นทอด ๆ ในขณะที่กลองกำลังตี พอกลองหยุด ดอกไม้อยู่ที่ใครคนนั้นต้องร้องเพลง, ตอบคำถาม, หรือดื่มเหล้า
คำว่ารีสอร์ท (客栈) กับโฮมสเตย์ (民宿) นี่สารภาพว่ามั่วค่ะ 555 ไม่รู้ว่าตรงรึเปล่า
<