[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 45 แผนช่วยเหลือทหารอเมริกันในสถานีคิซารากิ
- Home
- [นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 45 แผนช่วยเหลือทหารอเมริกันในสถานีคิซารากิ
โทริโกะที่เหมือนจะดึงสติกลับมาได้ ก่อนจะลั่นไก AK ของเธอเข้าใส่มัน
จากนั้น พวกทหารก็เปิดฉากยิงต่อแทบจะในทันที เสียงกระหึ่มของไรเฟิลจู่โจมปัดความเงียบสงัดของป่าออกไปไม่เหลือ แสงไฟจากปากกระบอกปืนของพวกเขาสว่างวาบจนตาของพวกเราที่คุ้นชินกับความมืดนี่แทบบอด
พอผู้หญิงคนนั้นถูกยิง กรามล่างของเธอก็ตกลง *กริ๊ง-กริ๊ง! กริ๊ง-กริ๊ง-กริ๊ง!* เสียงแหลมของกระดิ่งดังออกมาจากปากที่อ้าค้าง แล้วพริบตานั้น ฉันก็รู้สึกเหมือนถูกหนามทิ่มวิ่งไปตามแขนขาของตัวเองเลย
แล้วจู่ๆ ก็มีมือโผล่ขึ้นมาข้างๆ หน้าของผู้หญิงที่ลำต้นต้นไม้ มือซ้าย 3 ข้างที่มีนิ้วยาว ที่ลำต้นของต้นไม้ต้นข้างๆ ก็มีนิ้วโผล่ออกมาด้วย คราวนี้ เป็นมือขวา 3 ข้าง แล้วทันใดนั้น ผู้หญิงร่างเปลือยที่มี 6 แขนก็ชูตัวขึ้นสูงในแสงสว่าง โดยใช้ต้นไม้ซ้ายขวาช่วยพยุงตัว ตั้งแต่เอวของเธอลงไป ไม่ใช่ร่างของมนุษย์เลย กลับเป็นร่างของงูที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่วาววับแทน
ที่เสี้ยวนึงของความคิดที่เป็นอัมพาตของฉัน ฉันก็ได้ข้อสรุปออกมาจนได้
ว่าแล้วเชียว ฉันรู้ว่ายัยนั่นเป็นใคร
“คันคันดาระ”
มีเรื่องผีในอินเตอร์เน็ตเรื่องนึง ที่เด็กชายเหลวแหลก 3 คน เข้าไปในป่าตรงส่วนที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไป แล้วก็ไปเจอเข้ากับสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งงู ชื่อของตัวประหลาดนั่นคือ [คันคันดาระ (姦姦蛇螺)] เป็นชื่อที่ทำให้เป็นรูปร่างของมันมากกว่าจะมีความหมายซะอีก สื่อถึงผู้หญิง (女 : Onna) ที่มี 6 แขน และครึ่งล่างที่เป็นเหมือนงู (蛇 : Hebi) พอดูเธอตรงๆ แล้วเนี่ย รูปร่างที่ดูไม่ได้เหมือนผีเลย กลับเหมือนสัตว์ประหลาดในหนังไม่ก็ในเกมมากกว่าแล้วเนี่ย มันก็รู้สึกท่วมท้นขึ้นมาเลย
ลำตัวส่วนงูของเธอที่หนาพอจะใช้แขนโอบรอบได้เลยเลื้อยไปรอบๆ ส่งให้ตัวของคันคันดาระออกมาให้เห็นในพื้นที่เปิดโล่ง ขนาดเป็นตรงส่วนที่ดูเหมือนชิ้นส่วนของมนุษย์―แขน 6 ข้างที่ออกมาจากข้อไหล่พวกนั้น ยาวไปจนถึงข้อนิ้วของมัน บิดเบี้ยวราวกับว่ามันเป็นแมลงที่ไร้ขาบางชนิด
พอร้อยโทเรียกคนข้างหลัง ทหารก็เริ่มออกวิ่งกระจายตัวกันไปทั่วบริเวณ ทั้งข้างในและข้างนอกเชือก ก่อนจะช่วยกันระดมยิง เมื่อเจอกับแนวยิงเป็นชุด ร่างของคันคันดาระก็สั่นชักกระตุก รวมทั้งยังมีเสียงดังเหมือนกระดิ่งเป็นร้อยๆ กระทบดังพร้อมๆ กัน
“อ๊าาา!”
โทริโกะร้องออกมาเสียงดั่งลั่น พวกทหารกับฉันเองก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แล้วก็เดินตัวเซไปเลยเหมือนกัน
มันเจ็บ―เจ็บทั้งแขนทั้งขา! เจ็บเหมือนโดนหนามทิ่ม เจ็บเหมือนถูกไฟเผา เจ็บจนต้องร้องโอดครวญออกมาเลย
ทหารนาวิกทุกคนเองก็ทรมาณจากมันเหมือนกัน บางคนก็ล้มลงไป เหมือนกับว่าแขนขาของพวกเขาแข็งเกร็ง งอไม่ได้ จนดิ้นไปทั่วกับพื้นเลย ความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึกนี่มันเจ็บขึ้นเรื่อยๆ เลย ท่าไม่ดีแล้ว!
ระหว่างที่ต้องอดทนต่อต้านกับความน่ากลัวและความเจ็บปวด ฉันก็เพ่งสมาธิไปที่ตาข้างขวาของตัวเอง ร่างของคันคันดาระก็จางลงไป จนเริ่มเห็นเป็นรูปร่างอื่นไป
ใบหน้าที่น่ากลัวนั่นหายไปแล้ว แม้แต่แขน 6 ข้างอันเป็นเอกลักษณ์นั่นก็หายไปด้วย
สิ่งที่โผล่มาแทนที่ คือท่อนไม้ทรงสี่เหลี่ยม 6 ท่อนที่ขยับไปมาพร้อมกัน ฉันเรียกมันว่าท่อนไม้ทรงสี่เหลี่ยม แต่มันก็ไม่ได้ดูเหมือนกับว่าทำมาจากไม้จริงๆ หรอกนะ มันเป็นวัตถุสีขาวที่ทำมาจากวัสดุอะไรซักอย่าง ประกอบกันเป็นรูปตัว V 3 ตัว เคลื่อนไหวด้วยการหมุนไปมา การขยับนั่นดูคล้ายกับการขยับตัวของงู แต่ก็ต่างออกไปอยู่นะ มีแค่จุดที่ท่อนไม้ทรงสี่เหลี่ยมแตะกันเท่านั้นที่ถูกทาด้วยสีแดง ราวกับว่าเป็นโจทย์ปริศนาไม้ขีดไฟ มีรูกระสุนคว้านไปทั่วพื้นผิวของท่อนไม้นั่น แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ทำให้เจ้านั่นเคลื่อนไหวได้ลำบากขึ้นเลยซักนิด
“ท- โทริโกะ ถอยกลับไปแล้ว”
ฉันพูด พร้อมกับกัดฟันแน่นอดทนกับความเจ็บปวดที่ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามเสียงของกระดิ่ง
“ปืนกระบอกโตๆ ไปเอาของใหญ่ๆ มาเลย! นี่มันใช้ไม่ได้ผล!”
“เข้าใจแล้ว! เดี๋ยวฉันกลับมานะ!”
โทริโกะตบหลังฉัน ก่อนจะใช้ขาสั่นๆ ของเธอวิ่งกลับไปข้างหลัง เสียงย่ำเท้าของเธอค่อยๆ จางหายไปไกล
ในทัศนวิสัยที่พร่ามัวของฉัน ฉันก็เห็นภาพซ้อนกันของท่อนไม้ทรงสี่เหลี่ยมสีขาวกับหน้าของยัยผู้หญิงน่ากลัวนั่น ตอนที่ฉันจ้องตาเธอกลับไป หนีไปไหนก็ไม่ได้ ฉันก็เกิดความลังเลบางอย่างขึ้นมาในใจพอดี
ทำไมยัยนี่ถึงจ้องมาที่ฉันล่ะ? ยัยนั่นจ้องมาที่ฉันตลอดเวลาเลย ยังกับว่าเรากำลังแข่งจ้องตากันอยู่งั้นแหละ… นี่ขนาดยังมีคนอื่นๆ อยู่อีกตั้งเยอะเลยนะ
ไม่สิ… หรือว่าจะ?
ยัยนั่นพยายามจะขู่ฉันให้กลัวงั้นเหรอ? ทำให้ฉันเบือนหน้าหนีไป? การโจมตีของพวกเราจะไม่โดนตัวมันถ้าเกิดเรารับรู้ตัวยัยนั่นไม่ได้ เพราะงั้น เพื่อจะหยุดไม่ให้พลังของตาขวาของฉันทำงาน ยัยนั่นก็เลยจ้องเขม็งมาที่ฉันด้วยสีหน้าน่ากลัวสุดขีดเหรอ…?
พริบตาที่ฉันคิดได้แบบนั้น ฉันก็เดือดขึ้นมาจนแม้แต่ฉันยังตกใจตัวเองเลย
…จะดูถูกกันเกินไปแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นใครน่ะฮะ? เป็นอันธพาลแดนเถื่อนที่ไหนหรือไง?
ถ้าคิดว่าจะทำให้ฉันกลัวจนต้องเบือนหน้าหนีล่ะก็ ฝันไปเถอะ ฉันนี่แหละจะฆ่าแกแทน… จะฆ่าแกด้วยตาข้างนี้นี่แหละ!
…ถึงจะไม่ใช่ว่าฉันจะเป็นคนลงมือจัดการก็เถอะนะ!
คนอื่นอาจจะคิดว่าหลังจากมองหน้ายัยนั่นมานานขนาดนี้ ก็คงชินขึ้นมาบ้างสินะ แต่เพราะอะไรไม่รู้ ฉันถึงปรับตัวให้คุ้นกับหน้าาน่ากลัวของยัยนี่ไม่ได้ซักที แต่ถึงยังงั้น ฉันก็ยังจ้องหน้านั่นไม่ละสายตาอยู่ดี การมองเห็นของฉันเริ่มเจ็บแปลบขึ้นเรื่อยๆ หัวฉันก็เริ่มเจ็บแล้วเหมือนกัน ใบหน้าของคันคันดาระมันเริ่มบิดเบี้ยวเป็นเกลียว จนกะไม่ถูกแล้วว่ามันอยู่ห่างออกไปแค่ไหนกันแน่ รู้สึกเหมือนว่ายัยนั่นถอยห่างออกไปเรื่อยๆ เลย
เดี๋ยว อย่าหนีนะ อยู่ตรงนั้นซะดีๆ ตอนนี้ โทริโกะกำลังกลับไปเอาปืนกระบอกใหญ่ๆ มายิงหน้าแกอยู่ แค่นัดเดียว แกก็เหลือแต่ซากแล้ว…
แล้วตอนนั้น ก็มีเสียงแตรดังลั่น ดังขนาดที่กลบเสียงกระดิ่งซะไม่เหลือเลยด้วยซ้ำ