[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 64 ไฟล์ 8 : นกน้อยในกล่อง [3]
พวกเราเดินผ่านระหว่างเสาโทเทม และกลับมาที่โลกเบื้องหน้า เทียบกับแสงแดดที่มันมัวๆ ยังไงไม่รู้ที่โลกเบื้องหลัง แสงแดดที่โลกเบื้องหน้านี่ก็อำมหิตไม่ต่างกันเลย ฉายให้เห็นเงาเข้มๆ บนพื้น เงาของฉันตามหลังเงาของโทริโกะที่เดินนำหน้าฉันอยู่ เรื่องที่เธอไม่ได้เดินอยู่ข้างๆ ฉันมันทำให้รู้สึกเหงาๆ ยังไงไม่รู้สิ
พอฉันเงยหน้าขึ้นมา ก็มีรถสีดำคันนึงจอดอยู่ที่สวนหน้าบ้าน เป็นรถหรูที่มองแวบเดียวก็รู้เลย แถมตัวรถก็ยังขัดมาเงาวับ ถึงขนาดที่สะท้อนเห็นหน้าของตัวเองได้เลย
เห็นแบบนั้น ฉันก็ตระหนกขึ้นมาเลย อาจจะมีใครเห็นเราเดินลอดผ่านเกทออกมาก็ได้ แต่พอพวกเราเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นได้ว่าไม่มีใครอยู่ในรถ
โทริโกะพึมพำขึ้นมา
“เธอมีแขกสินะ”
“รถแพงน่าดูเลยนะนั่น คิดว่าเป็นพวกยากูซ่าหรือเปล่า?
ฉันหลุดปากพูดออกมาโดยไม่ทันได้คิด
“การโยงรถราคาแพงกับยากูซ่าแบบทันทีเลยเนี่ย ฉันว่ามันเหมือนเด็กเลยนะ”
โทริโกะพูดออกมาด้วยเสียงเรียบเฉยเลย
แถมฉันก็เถียงไม่ออกเลยด้วยแบบนี้
“ม- ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ฉันก็เป็นเด็กแบบนี้แหละ”
“การตอบโต้แบบนั้นก็เหมือนเด็กเหมือนกันนะ”
“อึก…”
วันนี้ โทริโกะดูจะขี้แกล้งจังเลยแฮะ…
ระหว่างที่ฉันคิดอยู่แบบนั้น โทริโกะก็ดึงสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมา แล้วก็กดโทรออกไป
“โอ๊ะ โหลๆ? กลับมาแล้วนะ แต่เห็นว่าเธอมีแขกอยู่ด้วย ให้รออยู่นอกบ้านมั้ย? …โอ้ ได้เลย โอเค เข้าใจแล้ว อ้า รู้แล้วล่ะ เจอกันนะ”
โทริโกะวางสาย แล้วก็หันมาหาฉัน
“เธอบอกว่าพวกเราเข้าไปได้เลย แค่ทำให้มั่นใจว่าพวกเราเก็บปืนของพวกเราออกไปให้ดีก็พอ”
“อะ… เข้าใจแล้ว”
ฉันปลดซองปืนที่ยังมีมาคารอฟอยู่ข้างในออกมา แล้วก็ยัดมันเก็บเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง ก่อนที่เราจะเดินเข้าบ้านกัน
พอพวกเราเปิดประตู ก็เห็นรองเท้าสีดำอันใหญ่คู่นึงถอดทิ้งไว้ที่ประตูทางเข้าด้วย รองเท้าของผู้ชายแน่นอน ฉันกับโทริโกะหันมามองหน้ากัน ก่อนจะถอดรองเท้าของตัวเองและเดินเข้าไปข้างในบ้าน แล้วพวกเราก็ได้ยินเสียงของคุณโคซากุระดังลอยมาจากช่องประตูทางด้านซ้ายของโถงทางเข้าด้วย
“พวกเราอยู่นี่ เข้ามาเลย”
ประตูห้องนี้มันปิดอยู่ตลอด ก็เลยไม่เคยเห็นข้างในของห้องเฉพาะกิจนี่มาก่อนเลย ฉันแอบมองส่องเข้าไปข้างในผ่านประตูที่เปิดอยู่ ก็เห็นว่ามันเป็นห้องรับแขกที่มีพรมผืนนึง คุณโคซากุระกับชายคนนึงที่ไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันของเซ็ทโซฟา โดยที่มีโต๊ะเตี้ยๆ ตัวนึงคั่นกลาง
ผู้ชายคนนั้นหันมาหาพวกเรา ลุกขึ้น แล้วก็โค้งให้พวกเรา
“ต้องขอโทษที่เข้ามารบกวนด้วยนะครับ”
เขาเป็นชายตัวสูง แขนยาวขายาว หน้าผอมแก้มตอบ ผมหยิกยาวของเขาถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย ชุดสูท 3 ชิ้นแบบตัดพอดีตัวของเขาดูราคาแพงน่าดู ดูเหมือนจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ นะ แต่ท่าทางการวางตัวที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาทำนั่นยิ่งทำให้การประมาณอายุของเขายากเข้าไปใหญ่เลย
“อ- เออ หวัดดีค่ะ…”
“สวัสดีค่ะ”
ฉันพยักหน้าให้อย่างเก้ๆ กังๆ ในขณะที่การทักทายของโทริโกะดูจะเป็นธรรมชาติมากกว่า
“คุณโคซากุระคะ คนคนนี้คือ…?”
“จำที่ฉันเคยเล่าให้ฟังได้มั้ย? เรื่องที่ว่ามีองค์กรภาคเอกชนที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับอีกโลกนึงอยู่ เขามาจากองค์กรที่ว่านั่นยังไงล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นยื่นนามบัตรมาให้ หลังจากการแนะนำของคุณโคซากุระ
“ยินดีที่ได้พบนะครับ ตามที่ผมเข้าใจ พวกท่านคงจะเป็นท่านคามิโคชิและท่านนิชินะสินะครับ? ผมเคยได้ยินเรื่องของพวกท่านมาแล้ว ผมมิงิวะจากกลุ่มวิจัย DS ครับ”
ในนามบัตรที่ฉันได้รับมาเขียนไว้ว่า: [มูลนิธิ―องค์กรส่งเสริมการวิจัย DS―หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ—มิงิวะ โยอิจิโร่]
TN: ตรงนี้เป็นจุดที่ผมเจอปัญหาในการแปลพอควรเลยครับกับ 般財団法人 (Ippan Zaidan Houjin) หรือ General Incorporated Foundation (GIF) เพราะคำนี้ไม่มีชื่อไทยใช้เรียกเลยครับ หมายถึง นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นโดยไม่แสวงหาผลกำไรในญี่ปุ่น ซึ่งหากเทียบกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non Profit Organization : NPO) แล้ว GIF จะมีความยืดหยุ่นและอิสระในการประกอบกิจกรรมมากกว่า NPO ตราบใดที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์เข้าสู่นิติบุคคล แต่จะมีความยุ่งยากกว่าในด้านการจัดการเรื่องภาษีนิติบุคคล ซึ่งในไทย คำที่ใกล้เคียงกันก็พอใช้คำว่า “มูลนิธิ” ได้ครับ แม้ว่าความหมายจะไม่ตรง 100% ก็ตาม
“อ้อ ถ้างั้น คนที่รับซื้อสิ่งแปลกปลอมที่พวกเราเอากลับมาจากโลกเบื้องหลังก็คือ…”
“ใช่แล้วครับ อันที่จริง ที่ผมมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อมาซื้ออีกชิ้นนึงด้วยเหมือนกัน”
คุณมิงิวะพูด พลางชี้ไปที่กระเป๋าเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“เปลือกหอยไร้จุดจบที่พวกเธอเอากลับมาก่อนหน้านี้ไงละ โซราโอะจัง ไม่ดีใจเหรอ? มีกินมีใช้แล้วนะทีนี้”
คุณโคซากุระพูดแซวมา ที่เท้าของเธอตอนนี้มีถุงกระดาษใบใหญ่วางอยู่ด้วย ดูไม่เหมือนกับว่าเธอจะเอาขนมถุงใหญ่มาฝากพวกเราเลยน่ะ…
หรือว่า มันจะเป็นปึกธนบัตร? แถมคุณโคซากุระก็จ่ายเงินให้ฉันเป็นเงินสดตลอดเลยด้วยสิ
“ผมได้ฟังมาว่าพวกท่าน 2 คนเดินทางไปยัง UBL และมีชีวิตรอดกลับมาได้จนถึงตอนนี้ 2-3 ครั้งแล้วด้วย เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบครับ”
“เออ ขอบคุณค่ะ”
ฉันตอบกลับไปอย่างงงๆ ยังไม่เข้าใจเลยว่าตัวย่อที่เขาพูดเมื่อกี้มันหมายความว่าอะไร
แต่ก็เป็นโทริโกะที่ถามขึ้นมา
“UBL นี่หมายถึงอะไรเหรอ?”
“Ultrablue Landscape (ทิวทัศน์แสงเหนือฟ้า)―ผมเชื่อว่าพวกท่านทั้งสองเรียกมันว่า [โลกเบื้องหลัง] นะครับ”
ฉันเสียวสันหลังวาบเลย แสงเหนือฟ้า ไม่มีทางอยู่แล้วล่ะที่เขาจะไม่ได้หมายถึงแสงสีฟ้านั่น
“โอเค แล้ว DS นี่ย่อมาจากอะไรน่ะ?”
ครั้งนี้ คุณมิงิวะใช้เวลาซักพักนึง ก่อนจะตอบคำถามนั้นของโทริโกะ
“…Dark Science (วิทยาศาสตร์มืด) ครับ”
““ดาร์กไซแอนซ์?!””
พวกเราตกใจจนเผลอพูดทวนคำพูดซ้ำออกมาอย่างดังเลย องค์กรส่งเสริมการวิจัยวิทยาศาสตร์มืด? นี่มันจะเป็นยังไงกันแน่เนี่ย?
โทริโกะกับฉันหันมามองหน้ากัน โล่งอกไปทีที่ได้เห็นว่าเธอก็งงเหมือนกับฉันเลย ถ้าเกิดฉันถูกถามว่ามันฟังดูเท่หรือเปล่านี่ ไม่รู้เลยแฮะว่าควรจะตอบไปว่ายังไงดี
คุณมิงิวะยิ้มแห้งๆ ออกมาก่อนจะพูดต่อ
“ผมทราบครับว่ามันฟังดูเหมือนกับว่ามีความชั่วร้ายบางอย่างแฝงอยู่ในชื่อด้วย ชื่อนั้นเพียงแค่ถูกตั้งขึ้นในตอนที่ความนิยมในการตั้งชื่อ ณ เวลาที่องค์กรได้ก่อตั้งขึ้นเท่านั้นเอง ตามทันหรือเปล่าครับ… ‘วิทยาศาสตร์มืด’ นั้น ดูเหมือนจะถูกใช้กล่าวถึงวิทยาศาสตร์ในแขนงที่เราไม่เข้าใจและหยั่งไม่ถึงนั่นเอง”
“องค์กรมันถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะคะ?”
“ต้นยุค ’90 ครับ ในทุกวันนี้ คุณอาจเรียกศาสตร์แขนงนี้ว่า Marginal Science (วิทยาศาสตร์ชายขอบ), Trans-science (วิทยาศาสตร์ขั้วตรงข้าม) หรือวิทยาศาสตร์นอกรีตที่ยังไม่ไดรับการพิสูจน์กระมังครับ”
เอาจริงๆ จะอันไหน ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันเลยนะ
ชักตะหงิดๆ แล้วสิ เขาคงไม่ได้อยู่กับพวกลัทธิใช่มั้ย? ในตอนที่ใครซักคนเริ่มพูดถึง [วิทยาศาสตร์แขนงที่เราไม่รู้และไม่เข้าใจ] เนี่ย แทบจะมั่นใจได้เลยนะว่ามันต้องเกี่ยวอะไรซักอย่างกับวิทยาศาสตร์เทียม (Pseudoscience) แน่นอนเลย ไหนจะเรื่องเงินสดปริมาณมากที่ถูกส่งให้นั่น มันยิ่งสนับสนุนเรื่องที่ว่ามีอะไรแหม่งๆ เกิดขึ้นแล้วเข้าไปอีก
“ซัทสึกิก็อยู่ในองค์กรนี้ด้วยเหรอ?”
โทริโกะถามออกมาด้วยเสียงที่กดต่ำ
และคุณมิงิวะก็พยักหน้าตอบ
“ใช่ครับ คุณอุรุมะ ซัทสึกิเป็นสมาชิกรับเชิญที่กลุ่ม DS คนคนนั้นไปยัง UBL และนำเอาวัตถุแปลกปลอทจากในโลกนั้นกลับมาได้เป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่คนคนนั้นได้หายสาปสูญไป และผมเองก็เป็นกังวลกับเรื่องนี้เหมือนกันครับ”
เขาพูดออกมาอย่างเงียบๆ โทริโกะก็ยื่นหน้าเข้าไปหาเขาเลย
“ฉันมีเรื่องจะขอ ช่วยพาฉันไปที่ศูนย์วิจัยนั้นหน่อยได้หรือเปล่า? ฉันอยากจะตามหาเบาะแสให้ได้ว่าซัทสึกิไปที่ไหนน่ะ”
เอาจริงเหรอเนี่ย…?
ดูจากสายตาของโทริโกะที่จ้องคุณมิงิวะด้วยอารมณ์พุ่งพล่านจนแทบจะพุ่งเข้าใส่เขาอยู่แล้วนั่น… รู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้แฮะ
ตั้งสติหน่อยสิ โทริโกะ ถ้าเกิดเขาเป็นพวกลัทธิจะทำยังไงล่ะ? ไม่รู้สึกถึงอันตรายเลยหรือไง? นี่เธอจะยอมทำมันทุกอย่างเลยเพื่อจะหาตัวคุณซัทสึกิเลยงั้นเหรอ?
“เรื่องนั้น…”
คุณมิงิวะลังเลไป แต่โทริโกะก็ยังกดดันต่อ
“ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าซัทสึกิจะทำงานให้ศูนย์วิจัยด้วย จนกระทั่งเมื่อกี้ มีอะไรที่พอจะบอกได้หรือเปล่า? จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้”
ในวินาทีที่ฉันเข้าใจ ฉันก็ยกมือขึ้นมา ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้ามันจำเป็น โทริโกะก็คงไปที่นั่นคนเดียวแน่
“ฉ- ฉันด้วยค่ะ! ฉันขอไปศูนย์วิจัยนั้นด้วยคน!”
ฉันร้องออกไปด้วยเสียงสั่นๆ แล้วโทริโกะก็หันมามองที่ฉัน
“แน่ใจเหรอ?”
“แน่อยู่แล้วสิ”
สิ่งที่ฉันคิดอย่าง อย่ามาถามซอกแซกกันแบบนั้นจะได้มั้ย อยู่ในน้ำเสียงของฉันอย่างชัดเจนเลย
“แล้วทำไมต้องโมโหด้วยล่ะ?”
“ไม่ได้โมโหซักหน่อย”
“…ฉันคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ ช่วยไม่ได้ ฉันจะไปด้วยก็แล้วกัน”
คราวนี้เป็นตาฉันแล้วที่เป็นฝ่ายตกใจที่ได้ยินแบบนั้น โทริโกะเองก็ดูจะตกใจเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนอาสาเอง แต่คุณโคซากุระก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“ฉันส่งตัวยัยติงต๊อง 2 คนให้ไปแบบส่งๆ แล้วก็ไม่ใส่ใจอะไรต่อ ทำเป็นเหมือนกับว่าอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นหลังจากนี้มันไม่ใช่ปัญหาของฉันแล้วไม่ได้หรอกนะ ฉันจะตามไปด้วยในฐานะผู้ดูแลของพวกเธอด้วย ได้ใช่มั้ย?”
คำถามสุดท้ายนั่น ถามไปที่คุณมิงิวะ
“จะดีจริงๆ เหรอครับ?”
คุณมิงิวะยังดูไม่แน่ใจ แต่คุณโคซากุระก็พยักหน้าให้
“แน่สิ ให้ยัยพวกนี้ได้เห็น… จุดจบที่ที่พวกผู้ติดต่อประเภท 4 ถูกพาไป”
มีความมุ่งมั่นอยู่ในน้ำเสียงของคุณโคซากุระเลย ในที่สุด คุณมิงิวะก็พยักหน้า ก่อนจะหันหลังให้ฉันกับโทริโกะ
“ถ้าอย่างนั้น ผมควรจะเป็นฝ่ายเสนอคำเชิญสินะ ต้องขออภัยที่ขาดการไตร่ตรองแบบนี้ด้วยนะครับ”
“จะดีเหรอ?”
“ครับ ผมขอให้พวกคุณทุกคนตามผมมาด้วย”
พอโทริโกะถามไป คุณมิงิวะก็โค้งให้พวกเราอย่างสุภาพ ฉันแอบเหลือบมองที่ข้างตัวไปที่โทริโกะตอนที่เธอพยักหน้าตอบ ก็เห็นว่าริมฝึปากเธอบึ้งตึงไปหมด ความรู้สึกไม่สบายใจนี่มันเอ่อขึ้นมาจนกดไม่อยู่เลยแฮะ
TN: เปิดตัวละครสำคัญคนใหม่นะครับ ขอให้ทุกคนจำน้าคนนี้เอาไว้ด้วยนะ
ใครที่สงสัยว่าหน้าตาน้าเขาเป็นยังไง อนาคตจะมีภาพให้เห็นแน่นอน