บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 36
บทที่ 36 รายงานตัวที่มหาวิทยาลัย 1
เวลาใกล้เที่ยงในวันที่ 27 สิงหาคม ทางเข้าหลักของมหาวิทยาลัยตงไห่ ถนนซานหาว เมืองเชิ่งเทียน จังหวัดตงไห่
ภายในมหาวิทยาลัยเปิดเพลงที่ให้อารมณ์ร่าเริงและสดใสเพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่ ทั้งสองฟากถนนเต็มไปด้วยธงสีสันสดใสมากมายพร้อมกับพร้อมกับป้ายสีแดงที่เขียนชื่อคณะต่างๆ มากมายติดไว้ตามต้นไม้ ทั้งหมดนี้ทำให้ฉากที่เห็นดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ตั่งอ้ายฉินตัวดำที่มีความสูงน้อยกว่า 170 ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าของมหาวิทยาลัยตงไห่ พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระบนหลัง เขาเงยหน้าขึ้นมองคำ 4 คำบนซุ้มประตูที่เขียนว่า มหาวิทยาลัยตงไห่ ยังมีความหวัง จากนั้นเขาก็กระชับสายกระเป๋าให้แน่นขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไป
“พี่ชายที่นี่ใช่คณะการศึกษาพิเศษไหม” ตั่งอ้ายฉินล้วงกระเป๋าหยิบจดหมายรับรองที่เปียกโชกมา “ผมคือตั่งอ้ายฉินและนี่คือจดหมายรับรองของผมครับ”
“ตั่งอ้ายฉินสาขาวิชาการศึกษาพิเศษ ตั่งอ้ายฉินเป็นชื่อที่น่าสนใจทีเดียว” ผู้ที่พูดคือนักศึกษารุ่นพี่ที่คอยทำหน้าที่ต้อนรับเด็กใหม่ หลังจากตรวจเช็ครายชื่อเขาก็พูดขึ้นว่า “หอพักของนายอยู่ทางทิศตะวันออก ชั้น 3 ห้อง 313 ให้เดินจากตรงนี้ไปทางทิศตะวันออกจากนั้นก็เลี้ยว…. ทำไมนายถึงเอาข้าวของมามากมายขนาดนี้ พวกเราไม่มีคนว่างพอดีช่วยนายคนนะนายต้องเอามันไปด้วยตัวเอง คนทั้งหมดไปเองได้ใช่ไหม?”
(ชื่อนี้เป็นคล้ายๆ กับ การเชิดชูพรรคคอมมิวนิสต์จีน)
ใบหน้าสีดำผอมบางของตั่งอ้ายฉินแสดงรอยยิ้มที่เรียบง่ายออกมา “ไม่เป็นไรครับพี่ชายผมจัดการเองได้”
อันที่จริงแล้วใช่ว่าจะมีคนไม่พอหรอก แต่ทั้งหมดเป็นเพราะรุ่นพี่พวกนี้นั้นจ้องแต่จะหานักศึกษาสาวๆ เท่านั้น มันจึงไม่แปลกอะไรที่ตั่งอ้ายฉินจะถูกละเลย
เมื่อเขาเดินมาแล้วเลี้ยวที่หัวมุม เขาก็พบเจอกับเหตุการณ์ที่กำลังวุ่นวายอยู่ตรงหน้าเขา ขนาดเขาตอนนี้กำลังมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาจากคณะวิชาการศึกษาพิเศษและคณะวิชาคอมพิวเตอร์
นักศึกษาจากคณะวิชาการศึกษาพิเศษตะโกนว่า “ที่นี่คือพื้นที่ของคณะวิชาการศึกษาพิเศษ พวกเราไม่ต้อนรับพวกแก่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นนักศึกษาจากคณะวิชาคอมพิวเตอร์ก็ตะโกนกับว่า “โถ่พี่ชาย! เรายืนรอมาที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ได้ผู้หญิงสักคนเลย สงสารพวกเราเถอะ คณะของพวกคุณได้เด็กผู้หญิงไปตั้ง 3 คนแล้วนะ แบ่งให้พวกเราสักหน่อยไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
นักศึกษาจากวิชาการศึกษาพิเศษตอบกลับด้วยความไม่พอใจ “ทำไมพวกเราต้องแบ่งให้พวกแกด้วย?”
นักศึกษาจากคณะวิชาคอมพิวเตอร์ “ให้ตายเถอะ จะยังไม่เห็นใจพวกเราหน่อยหรือยังไง การมีผู้หญิงสักคนหนึ่งอยู่ในชั้นเรียนงั้นมันจะทำให้นักศึกษาทั้งคณะเรียนได้ดีมากขึ้น พวกเราทุกคนก็รู้ว่าในมหาวิทยาลัยตงไห่ของเรานั้น ผู้หญิงเปรียบดั่งสมบัติล้ำค่า”
“รู้แล้วอย่างไร ยังไงพวกเราก็จะไม่แบ่งให้พวกแกอยู่ดี”
….
ตั่งอ้ายฉินไม่สนใจกับเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น เขาเดินตรงต่อไปทางทิศตะวันออกไปที่ห้อง 313 หลังจากเปิดประตูเข้าไปเขาก็พบว่ามีคนอยู่ในห้อง 5 คนแล้ว ซึ่งทำให้ห้องที่แต่เดิมก็ดูแคบอยู่แล้วยิ่งแคบลงไปอีก
แต่เดิมตั่งอ้ายฉินก็เป็นคนที่พูดไม่เก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนมากมายอย่างนี้เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก
โชคดีที่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนขึ้นและยื่นมือมาทักทายเขาก่อน “สวัสดีเพื่อน ฉันหวังหลงมาจากเมืองฉงเต่า ส่วนพวกเขาตรงนี้คือพ่อแม่ที่มาส่งฉัน แล้วนายล่ะชื่ออะไร?”
ลักษณะของหวงอาหลงนั้นใกล้เคียงกับตั่งอ้ายฉิน ผิวเข้ม จมูกกว้าง ดวงตาดำสนิทดูมีพลัง
“สวัสดี! สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า ผมตั่งอ้ายฉิน” ตั่งอ้ายฉินประหลาดใจอย่างมาก เมืองฉงเต่านั้นอยู่สุดทางเหนือ ส่วนมหาวิทยาลัยตงไห่นั้นอยู่สุดทางใต้ นี่พวกเขาเดินทางข้ามจากเหนือมาใต้ขึ้นมาเรียนที่นี่งั้นเหรอ?
เมื่อได้ยินว่าชื่อของเขาคือตั่งอ้ายฉิน พ่อแม่ของหวงอาหลงก็ประหลาดใจอย่างมาก แต่พวกเขาก็เก็บอาการเอาไว้ไม่ได้แสดงมันออกมา จัดการได้ยินชื่อนี้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าตั่งอ้ายฉินนั้นเป็นเด็กกำพร้า
หวงอาหลงนั้นกระตือรือร้นอย่างมาก เขารีบแนะนำเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่นั่งอยู่ที่เตียงที่ 3 อย่างตื่นเต้น “ส่วนคนนี้คือเกาหยาน เป็นชาวยูนนานจากทางใต้ เขามาถึงที่นี่ก่อนฉัน”
เกาหยานมีความสูงประมาณ 175 ซึ่งสูงกว่าทั้งสองคน สร้อยข้อมือสีเงินที่อยู่ในข้อมือซ้ายของเขาดูสะดุดตาอย่างมาก เขาเดินทางมาที่ตงไห่พร้อมกับของเขา
ทั้ง 3 คุยกันอยู่คู่หนึ่งก่อนที่ตั่งอ้ายฉินจะไปจัดข้าวของเขาที่เตียงชั้นล่างของเตียงหมายเลข 2 เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเตียงชั้นบนเขาก็พบกับกระเป๋า 2 ใบที่มีชื่อเขียนติดไว้ว่า ถานเสี่ยวเทียน
ดูเหมือนว่าถานเสี่ยวเทียนจะมาถึงนานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไปไหน
เมื่อเวลา 12:00 น มาถึง พ่อของหวงอาหลงก็เชิญทุกคนไปทานอาหารกลางวันด้วยกันอย่างอบอุ่น ซึ่งครอบครัวตระกูลเกาพยายามปฏิเสธหลายครั้ง แต่ครอบครัวตระกูลหวงก็เชิญเขาอย่างกระตือรือร้นหลายครั้งจนในที่สุดพวกเขาก็ต้องยอม
ทั้งสองครอบครัวรวมกับตั่งอ้ายฉินเป็นทั้งหมด 6 คน ทั้ง 6 คนออกไปทานอาหารที่ร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่ด้านนอกมหาวิทยาลัย
ตั่งอ้ายฉินเป็นคนเมืองเชิ่งเทียน ตัวเขานั้นชินกับรสชาติอาหารที่ของที่นี่แล้ว แต่กลับทั้ง 2 ครอบครัวรสชาติอาหารของที่นี่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ทรมานสำหรับพวกเขา
ครอบครัวตระกูลหวงมาจากเมืองฉงเต่า พวกเขาคุ้นเคยกับอาหารเบาๆ ส่วนอาหารของที่นี่ทั้งมันและเค็มจนพวกเขายากที่จะกลืนได้
พ่อและลูกชายของตระกูลเกานั้นดีกว่าพวกเขาเล็กน้อย แต่สำหรับพวกเขามันก็ยังกินยากอยู่
เมื่ออาหารจบลงอย่างเร่งรีบ พ่อแม่ของหวงอาหลงและพ่อของเกาหยานบอกลาลูกๆ ของพวกเขาพร้อมน้ำตาก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้านของตน
กลับไปที่ห้องพัก เมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว ตอนนี้ทั้งห้องก็เหลือนักเรียนเพียง 3 คน
วันรายงานตัวอย่างเป็นทางการคือวันพรุ่งนี้ ทั้งสามคนถือว่ามาก่อนเวลา
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ประตูห้องก็เปิดออก เด็กผู้ชายที่ตัวสูงกว่า 190 เซ็นเดินเข้ามาแล้วถามอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ถานเสี่ยวเทียนมาถึงหรือยัง?”
ตั่งอ้ายฉินมองขึ้นไปบนเตียงที่อยู่เหนือหัวเขาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็ใส่หัว “กระเป๋าของเขาอยู่ที่นี่ แต่พวกเราไม่รู้ว่าเขาไปไหน แล้วฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย”
“โอ้เป็นอย่างนั้นเหรอ? ถ้าเขากลับมาให้บอกเขาด้วยว่าให้เขาเป็นรายงานตัวกับครูหลี่ที่ชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย”
เด็กชายร่างสูงจากไป
ไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกเพราะอีกครั้ง เด็กสาว 2 คนเดินเข้ามาแล้วมองไปรอบๆ ก่อนที่จะแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาและถามว่า “เพื่อนนักศึกษา เจ้าของกระเป๋าบนเตียงชั้น 2 นั้น อยู่ที่ไหน?”
หวงอาหลงรีบออกหน้าทันที “รุ่นพี่กำลังหมายถึงถานเสี่ยวเทียนหรือเปล่าครับ ตั้งแต่มาพวกเราก็ยังไม่เจอเขาเหมือนกันครับ”
ทั้งสองสาวดูผิดหวังมากยิ่งขึ้น “เมื่อเขากลับมา เมื่อเขากลับมาฝากบอกเขาด้วยว่า พี่สาวคนที่ส่งเขามาที่นี่ให้พวกพี่มาดูแลเขา หากเขาขาดเหลืออะไรให้ไปหาพวกพี่ที่หอพักทางตะวันออกห้อง 324 ได้ตลอดเวลา”
ทันทีที่ 2 สาวจากไป เกาหยานก็ดูมีพลังมากขึ้นมาทันที “ดูขาที่เรียวยาวของพี่สาว 2 คนนั้นสิ คนที่ชื่อถานเสี่ยวเทียนนี้จะต้องเป็นหนุ่มหล่อแน่ๆ เลย”
หวงอาหลงเห็นด้วย “ไม่ใช่แค่ขาเท่านั้นนะ แม้แต่ผิวของพวกเธอก็ขาวอย่างมาก”
ทั้งสองคนน้ำลายไหล
แม้ว่าตั่งอ้ายฉินจะไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมา แต่ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่นอนอยู่ที่เตียงชั้น 2 ของเขาอย่างมาก
ประมาณ 15:00 น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นกลุ่มนักศึกษา 5-6 คนทั้งชายและหญิง พวกเขาทั้งหมดเดินเข้ามาที่กลางห้องพร้อมกับรุมล้อมหญิงสาวผมสั้นที่อยู่ตรงกลางเรากับหมู่ดาวที่ล้อมดวงเดือน
ตั่งอ้ายฉินรู้สึกราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ตีเข้าที่หน้าอก หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
ในตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวในหัวใจของเขา บนโลกนี้มีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?
สาวผมสั้นที่อยู่ตรงหน้าเขามีคิ้วราวกับภูเขาในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากคดเคี้ยวเข้ารูปราวกับพระจันทร์ รอยยิ้มรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเธอนั้นทำให้ทั้ง 3 สหายในห้อง 313 พูดอะไรไม่ออก