บัญชามังกรเดือด - บทที่ 101 ผู้ชายสารเลว
“เซวเหรินจากเจี้ยนเหรินกรุ๊ป ฉันเองก็เคยได้ยินมาบ้าง อาจารย์หวาง คุณพูดถึงเรื่องนี้ทำไม” อู๋เฟยสติไม่อยู่กับตัว
หวางกังตาลยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายเซว มีเกียรติมากกว่าคุณที่มีสถานะเป็นคุณชายอู๋หรือไม่?”
“เซวเหริน ถ้าอย่างนั้นฉันก็เทียบไม่ติด”
“อาจารย์หวาง เขาคงจะไม่—”
หวางกังตาลเอ่ยอย่างภาคภูมิใจว่า “พูดอย่างไม่ปิดบัง เซวเหริน เป็นลูกค้าประจำของฉันมาหลายปีแล้ว”
“เขาเพิ่งจะมาที่หลงเจียงเมื่อวานนี้เอง ดังนั้นจึงแจ้งฉันอย่างรีบร้อน ให้เส่งสินค้าจำนวนหนึ่งไปให้เขา”
เมื่อเห็นว่าอู๋เฟยยังคงสงสัยอยู่เล็กน้อย หวางกังตาลก็พูดเหมือนตัดรำคาญ “เซวเหรินใช้ยาของฉัน โทรมาหาฉันเมื่อเช้านี้”
“เขาพูดว่าเมื่อวานตอนเย็น นั่นเรียกว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ความยิ่งใหญ่”
“เขาสั่งให้ฉันเตรียมเอาไว้อีกเยอะๆ ต่อจากนี้เขาจะต้องใช้อีกเยอะ
“อู๋เฟย ถ้าคุณยังไม่เชื่อ ฉันจะโทรหาเซวเหรินตอนนี้เลย ให้คุณฟังด้วยหูของตัวเองว่าเขาพูดอย่างไร!”
มันเป็นไปไม่ได้!
มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง!
ซูซูไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่จำเป็น” อู๋เฟยยิ้ม ก่อนจะพูดว่า : “ฉันแค่คิดไม่ถึง เป็นถึงคุณชายของเจี้ยนเหรินกรุ๊ป ยังต้องพึ่งพายาพวกนี้ด้วย”
“อายุยังน้อยอยู่แท้ๆ หรือว่าร่างกายของเราไม่แข็งแรง?”
“โลกภายนอกไม่ได้บอกว่า เขาให้ความสำคัญกับการฝึกฝนตนเองเป็นอย่างมาก และไม่มัวเมาผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?”
ความอยากรู้อยากเห็นของหวางกังตาลถูกกระตุ้นขึ้น เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงต่ำพร้อมรอยยิ้ม: “ที่นี่ยังมีความลับอีกอย่าง คนธรรมดาฉันจะไม่บอกหรอกนะ-”
อู๋เฟยยิ้มและพูดว่า “อาจารย์หวาง นี่คือเงินหมื่นหยวน ฉันเลี้ยงน้ำชาคุณ”
“อย่ากังวล ตราบใดที่ ยาเม็ดจีนกังยังเป็นยาที่ดี ผมก็จะกลายเป็นลูกค้าระยะยาวของคุณเช่นกัน”
หวางกังตาลรู้สึกเบิกบานใจ จิบกาแฟแล้วเอ่ยว่า “พูดถึงเซวเหรินคนนี้ ภายนอกไร้ที่ติก็จริง”
“แล้วคุณรู้ไหม ทำไมเขาถึงไม่ชอบผู้หญิง”
อู๋เฟยรีบเอ่ย “ทำไม?”
หวางกังตาลเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีลับลมคมนัย: “ทำไม เจี้ยนเหรินกรุ๊ปถึงต้องไปที่เมืองหลวงเพื่อต่อยอดธุรกิจ เท่าที่ฉันรู้มา พวกเขาเล็งตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงของจังหวัดไว้ตระกูลนึง”
“เซวเหริน เท่ากับว่าได้แต่งงานเข้าบ้านของฝ่ายหญิง ผู้หญิงคนนั้น หรือก็คือภรรยาของเขา เป็นคนพิการ”
“แต่ว่า มันก็เหมือนเจ้าหญิงและลูกเขย เขาเซวเหรินกล้าลับหลังเจ้าหญิงไปทำอะไรไปทั่วหรือ?”
“เขากล้า แต่ก็แค่ ทำมันอย่างลับๆ”
“แต่การกดขี่ทางจิตใจแบบนี้ ก็ทำให้เขามักจะทำอะไรได้ไม่เต็มที่เช่นกัน”
“ดังนั้น ถึงมีความต้องการ ยาเม็ดจีนกังของฉันเป็นจำนวนมากเพื่อรักษาร่างกาย”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ” อู๋เฟยเอ่ยด้วยความประหลาดใจ: “ตกลงแล้วเป็นคุณหนูคนใหญ่คนโตขนาดไหน ถึงได้เก่งขนาดนั้น?”
“ฉันเองไม่รู้แน่ชัด ตระกูลยิ่งใหญ่มั่งคั่ง คนธรรมดาจะไม่ไปสืบถามเรื่องนี้”
“แต่ว่าฉันได้ยินมาว่า เซวเหรินและคุณหนูคนนั้น ดูเหมือนจะรู้จักกันตอนที่พวกเขาไปเรียนที่ต่างประเทศ”
“เซวเหรินต้องรู้จักฐานะของคุณหนูคนนั้นแน่นอน ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายพิการ หน้าด้านตามจีบเขามาถึงสามปี ในที่สุดก็จีบติด”
“อั้ยหยาคุณชายอู๋ ฉันบอกคุณไม่ได้อีกแล้ว”
“คุณชายเซวสั่งฉัน ให้เตรียมยาเพิ่ม ส่งไปที่คฤหาสน์ของเขาในเขตชานเมืองทางตะวันออก วันนี้เขาจะใช้มัน”
“ฉันไปก่อนนะ!”
……
คฤหาสน์ในเขตชานเมืองด้านตะวันออก วันนี้จะต้องใช้
ซูซูที่อยู่ถัดไป ตกใจจนหน้าซีด
เซวเหรินคนนี้ ไม่เพียงแต่แต่งงานแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นยังเลียแข้งเลียขา แต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ในเมืองอีก
เขามีภรรยา ใช้ชีวิตที่วุ่นวายอยู่ข้างนอก คิดไม่ถึงว่าต่อหน้าตน ยังเสแสร้งทำเป็นรักเดียวใจเดียวไร้เดียงสาอีก
คิดว่าตนเป็นหนึ่งในเหยื่อของเขา ซูซูทั้งรู้สึกละอายทั้งรู้สึกโกรธ ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไป
“ซูซู ผมกลับมาแล้ว”
“หลายๆ เรื่องในบริษัท มันน่ารำคาญจริงๆ”
“แต่ว่าผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้เวลาที่เหลือทั้งหมด ฉันเป็นของคุณ”
“คุณเป็นอะไรไปซูซู ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดี?”
ซูซูกัดฟันก่อจะเอ่ยว่า “เซวเหริน คุณบอกฉันที ตกลงแล้วคุณแต่งงานแล้วหรือยัง”
“ฉันอยากฟังความจริง!”
สีหน้าของเซวเหรินเปลี่ยนไป ผ่านการแสดงออกของซูซู เขารู้ทันที ว่าเขาถูกเปิดโปงแล้ว
เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้า: “ผมยอมรับ ผมโกหกคุณ”
“แต่ซูซู คุณให้โอกาสผม ฟังผมเล่าเรื่องได้ไหม?”
“ผมสัญญา หลังจากฟังแล้ว ถ้าคุณต้องการจะไป ผมจะไม่รั้งคุณ”
ซู่ซู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องอะไร?”
เซวเหรินเอ่ยอย่างเจ็บปวด: “ครั้งหนึ่ง มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในช่วงวัยกำลังเติบโต ในช่วงอายุที่ดีที่สุด ได้พบกับคนที่ใช่ที่สุดในชีวิต”
“เขาสาบาน ชีวิตนี้ถ้าไม่ใช่เธอก็จะไม่แต่งงาน!”
“ใครจะไปรู้ โชคชะตากลั่นแกล้งคน เด็กผู้ชายไม่สามารถต้านทานการจัดแจงของที่บ้านได้ ไปเรียนในต่างประเทศได้”
“ในตอนนั้น ครอบครัวสัญญากับเขา แค่เขาตั้งใจเรียนให้จบ เขาก็จะได้รับอนุญาตให้กลับมา แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”
“จนกระทั่งต่อมา เด็กชายคนนั้นถึงรู้ว่า เขาถูกหลอก ครอบครัวโกหกเขา ให้เขาไปเรียนต่างประเทศเป็นเรื่องโกหก”
ซูซูถูกเรื่องราวนี้ดึงดูด อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “ความจริงคืออะไร?”
“ความจริงก็คือ ครอบครัวของเด็กชาย ต้องเผชิญกับวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากแก้ไขไม่ได้ก็จะล้มละลาย”
“พวกเขาส่งเด็กชายไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะพวกเขารู้ว่า มีคุณหนูของตระกูลใหญ่โตที่จะสามารถช่วยพวกเขา ไปโรงเรียนที่นั่นด้วย”
“แม่ของเด็กชายเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว เป็นพ่อของเขาที่เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ พ่อของเขาคุกเข่าลงบนพื้นขอร้องให้เด็กชายไปทำให้คุณหนูคนนั้นรู้สึกดี”
สีหน้าของซูซูเปลี่ยนไปเล็กน้อย: “ดังนั้น เด็กชายคนนั้นก็ไปตามจีบคุณหนูคนนั้น?”
เซวเหรินรีบเอ่ยต่อว่า: “เด็กผู้ชายยังคิดถึงผู้หญิงที่อยู่ในใจของเขา แน่นอนว่าเขาไม่เห็นด้วย”
“ให้เขาปั้นหน้าเพื่อไปเอาใจผู้หญิงที่เขาไม่ชอบเลยแม้แต่น้อย เขาทำไม่ได้”
“แต่ในเวลานี้ คุณหนูของตระกูลใหญ่ ตกหลุมรักเด็กชายคนนี้ และไล่ตามจีบอย่างบ้าคลั่ง”
“สุดท้ายแล้ว……”
ซูซูเอ่ยทั้งน้ำตา “เด็กชายตอบตกลง?”
เซวเหรินถอนหายใจแล้วเอ่ย: “เด็กสาวได้เสนอให้เด็กชาย ขอแต่งงานในมหาวิทยาลัยอย่างเปิดเผย เธอยังบอกด้วยว่า หากเด็กชายไม่เห็นด้วย เธอจะฆ่าตัวตาย”
ซูซูตกใจมาก
เซวเหรินเอ่ยเสียงต่ำ: “เพื่อวงศ์ตระกูล เพื่อช่วยชีวิตเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชาย จำเป็นต้องตกลง”
ซูซูเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เด็กคนนั้นคือคุณใช่ไหม?”
เซวเหรินเอ่ยอย่างเจ็บปวด: “ซูซูฟังผมนะ การแต่งงานของผมกับเขา เป็นเพียงพิธีการ ผมไม่รักเขาเลย”
“คนที่ผมรักคือคุณ ซูซู ถ้าคุณไม่สามารถตอบรับผมได้ ผมคงอยู่ไม่ได้จริงๆ”
ซู่ซู่กัดฟันไม่พูดอะไร
ในตอนนั้นเอง มีเสียงดังมาจากด้านนอก
“ว้าว ขอแต่งงาน!”
“นี่กำลังฉายรายการอะไรอยู่ ดูเบื้องหลังแล้ว น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยโทรอนโตในแคนาดา”
เซวเหรินและซูซูยังไม่ทันรู้สึกตัว ในอากาศ เสียงที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด ต่ำและเข้มก็ดังขึ้น
“คุณหนูพานเหม่ยเออร์จากภาควิชาเศรษฐศาสตร์ ผมเซวเหรินจากภาคแผนกการจัดการ”
“ตอนนี้ ผมมาแล้ว”
“คุณหนูพานเหม่ยเออร์ ตั้งแต่ผมเจอคุณครั้งแรก ผมก็ตกหลุมรักคุณ”
“ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่มีอิสระสูง มีมุมมองความรักที่พิเศษไม่เหมือนใคร”
“เหมือนกับที่ชูถิงบรรยายไว้ในผลงานชิ้นเอกของเธอ《ต้นโอ๊ก》—”
“ถ้าฉันรักคุณ ฉันจะไม่มีวันเป็นเหมือนพุ่มดอกรุ่งอรุณ อวดตัวเองด้วยกิ่งก้านสูงของคุณ
ถ้าฉันรักคุณ จะไม่มีวันเลียนแบบนกที่โง่เขลา ร้องเพลงซ้ำซากเพื่ออาศัยอยู่ใต้ร่มเงา…”
ซูซูรีบออกจากห้องส่วนตัว ก็มองเห็นหน้าจอขนาดใหญ่ในร้านอาหาร
หน้าอาคารเก่าแก่ขนาดใหญ่ด้านหน้า เซวเหรินคุกเข่าลงบนพื้น ถือดอกไม้เอาไว้ในมือ
เขาอ่าน《ต้นโอ๊ก》เหมือนเมื่อคืนนี้ ด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมและมั่นคง
“นี่มันเรื่องอะไร?”
“ซูซู คุณฟังผม!”
“บริกร พวกคุณเปิดอะไร ปิดให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“ปล่อยฉันนะ ไอ้ผู้ชายสารเลว!” ซูซูสะบัดมือตบหน้าเซวเหริน ปิดปากแล้ววิ่งออกไป