บัญชามังกรเดือด - บทที่ 203 ทำตัวอันธพาล
บัญชามังกรเดือด บทที่ 203 ทำตัวอันธพาล
ฉินเทียนนึกขึ้นได้ทันที กล่าว: “ใช่แล้ว เธอชอบดื่มน้ำแกงปลา ฉันจะไปซื้อปลาเดี๋ยวนี้ ตอนกลางวันจะส่งไปให้เธอ”
หลินเซวี่ยกล่าวเสียงเบา: “แบบนี้ไม่ได้ ตอนกลางวันเธอยังต้องอยู่เป็นเพื่อนหลิวหรูยู่ อาจจะไม่ต้องการพบหน้าคุณ”
“กลางคืนเถอะ”
“ยุ่งมาตลอดทั้งวันแล้วกลับบ้าน ได้ดื่มน้ำแกงปลาอุ่นๆสักคำ เธอจะต้องซาบซึ้งใจอย่างแน่นอน”
“ยังมีอีกเรื่อง ไปตลาดซื้อปลาตามสบาย จะไม่มีความจริงใจเกินไป คุณผู้ชาย ปลาตัวนี้ คุณไปจับด้วยตัวเองจะดีที่สุด”
“จับด้วยตัวเอง?” ฉินเทียนอึ้งไปครู่หนึ่ง กล่าว: “ไปจับที่ไหน?”
หลินเซวี่ยยิ้มกล่าว: “สถานที่ตกปลาธรรมชาติที่ริมแม่น้ำนอกเมืองเยอะแยะ คุณว่างไม่มีอะไรทำ ก็ไปตกค่ะ”
“คุณลองคิดดู สละเวลาไปตกปลาด้วยตัวเอง ตั้งอกตั้งใจทำน้ำแกงให้เธอ เธอจะไม่ใจละลาย?”
ดวงตาของฉินเทียนเปล่งประกายขึ้นมา: “ขอบคุณเธอมากหลินเซวี่ย ผมรู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรแล้ว”
หลินเซวี่ยกล่าวกำชับ: “การเดินทางไปที่นั่นไม่สะดวก ทางที่ดีคุณให้เหลิ่งเฟิงหารถออฟโรดสักคัน……ไม่ได้การแล้ว เธอเดินมุ่งหน้ามาทางฉันแล้ว”
“หลินเซวี่ย เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร ท่าทางลับๆล่อๆ?” ซูซูเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หลินเซวี่ยรีบร้อนกล่าว: “ไม่มีอะไรค่ะ เพื่อนสมัยเรียนของดิฉันคนหนึ่ง”
“ใช่แล้วประธานซู คุณผู้ชายบอกว่าตอนกลางวันจะส่งอาหารมาให้คุณ”
ซูซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: “ให้เขาไปตาย!”
พูดไป ก็มุ่งหน้าเดินตรงไปยังสตูดิโอถ่ายภาพที่สร้างขึ้นชั่วคราว
หลินเซวี่ยแลบลิ้น มองดูโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้วางสาย เธอกล่าวเสียงเบา: “คุณผู้ชาย คุณได้ยินแล้วใช่ไหมคะ?”
“ครั้งนี้ คุณทำให้เธอโมโหแล้วจริงๆ”
ปลายสายด้านนี้ แน่นอนว่าฉินเทียนได้ยินแล้ว กล่าว: “วันนี้เธออาจจะง่วงอยากนอน มีโอกาส จะต้องให้เธอได้นอนหลับเป็นอย่างดีสักครู่”
หลินเซวี่ยนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง: “ดูไปก็ไม่ค่อยจะมีชีวิตชีวาจริงๆ พวกคุณไม่ได้ทะเลาะกันทั้งคืนหรอกมั้งคะ?”
ฉินเทียนนึกถึงความบ้าคลั่งเมื่อกลางดึก กล่าวโพล่งออกมา: “ไม่มี……วางสายก่อนแล้ว หลินเซวี่ย กลางคืนขอเชิญเธอดื่มน้ำแกง”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉินเทียนก็เริ่มต้นแผนการ
ก่อนอื่น เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างลับๆ จะรบกวนเหลิ่งเฟิงและคนอื่นๆไม่ได้
อีกอย่าง เหลิ่งเฟิงเจ้าตัวแสบเหล่านี้ เมื่อคืนนี้เปิดประสบการณ์โลกใหม่ที่สวนสัตว์ร้าย ตอนนี้กำลังจัดทำแผนการฝึกซ้อมอย่างตื่นเต้น คงจะไม่มีกะจิตกะใจไปตกปลาเป็นเพื่อนเขา
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ ดำเนินการตามลำพัง
หลินเซวี่ยกล่าว ทางที่จะไปตกปลาธรรมชาติริมแม่น้ำ เดินทางค่อนข้างลำบาก นั่นง่ายมาก ถึงอย่างไรก็มีเวลา ไปซื้อรถออฟโรดมาสักคันก่อน
มาถึงร้าน4Sโตโยต้าแห่งหนึ่ง พบว่าที่ประตูห้อมล้อมไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก ด้านในมีเสียงด่าที่ค่อนข้างอวดดีดังลอยมา เขาเดินเข้าไปอย่างอดไม่ได้
เห็นเพียงแค่ด้านข้างรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง ชายชราอายุราวๆห้าสิบปีคนหนึ่งนั่งพิงรถอยู่บนพื้น หัวแตกเลือดไหล
บริเวณรอบๆ คนหนุ่มเจ็ดแปดคนสวมใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง บริเวณหน้าอกของพวกเขา ติดป้ายชื่อตัวแทนฝ่ายขายของร้าน4S
ชายชราจับเสื้อของหนึ่งในชายหนุ่มเอาไว้ กล่าวอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น: “ยังมีหรือไม่มีความยุติธรรมอยู่?”
“คาดไม่ถึงว่าพวกแกจะกล้าตีคน!”
“ฉันรับรถใหม่มาจากพวกแกที่นี่ ยังไม่ทันถึงหนึ่งเดือน เหตุขัดข้องเยอะมากมายขนาดนี้!”
“พวกแกซ่อมไม่ได้ ก็ควรจะเปลี่ยนใหม่ให้ฉัน!”
“ฉันต้องการอะไหล่แท้จากศูนย์!”
บนป้ายชื่อของชายหนุ่มคนนี้ เขียนเอาไว้ว่าผู้จัดการตัวแทนฝ่ายขาย
เขาหันไปถ่มน้ำลายใส่ชายชรา กล่าว: “ไอ้แก่ แหกตาสุนัขของแกดู ที่นี่มันคือที่ไหน!”
“คิดจะแบล็กเมล์พวกเรา แกแม่งอยากตายมากใช่ไหม?”
“เห็นได้ชัดว่าแกขับจนรถพังเอง!”
“พวกเราต้อนรับแกเป็นอย่างดี แกแม่งยังคิดจะขวางประตู!”
“ไอ้แก่สารเลว คิดเรื่องเงินจนเป็นบ้าแล้วละมั้ง?”
“ทุกคนอย่าได้ฟังเขาพูดจาไร้สาระ ไอ้แก่คนนี้ก็คือนักต้มตุ๋น รถของพวกเราไม่มีปัญหาด้านคุณภาพใดๆ”
“ไอ้แก่ ขืนแกยังไม่ไปอีก เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะทุบรถของแกซะ?”
พนักงานตัวแทนฝ่ายขายบริเวณรอบๆสองสามคน ต่างก็ด่ากราดอย่างค่อนข้างอวดดี มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ถึงขนาดหยิบไม้เบสบอลอันหนึ่งออกมาจากในร้าน4S
ชี้ไปที่ศีรษะของชายชรา กล่าว: “ไอ้แก่สารเลว ถ้ายังไม่รีบไสหัวไปอีก เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะตีแกให้ตาย?”
เมื่อเห็นว่าคนของร้าน4Sอวดดีขนาดนี้ ลูกค้าบริเวณรอบๆก็ชี้ไม้ชี้มือ แต่ว่าต่างก็ไม่กล้าออกหน้า
“แกตีซิ!”
“มีความสามารถก็ตีฉันให้ตายซิ!”
ชายชราภายใต้ความฮึกเหิม นำศีรษะหันไปดันหน้าอกของชายหนุ่มที่กำลังถือไม้เบสบอล
ทันทีที่ชายหนุ่มถือไม้เบสบอลกลอกตามองบน กำลังจะทุบลงไป
“หยุด!” ฉินเทียนตะโกนสุดเสียง พุ่งตัวเข้าไป
เมื่อครู่เขารู้สึกว่าเสียงของชายชราค่อนข้างคุ้นเคย ตอนที่ชายชราพลิกตัว ในที่สุดก็เห็นได้อย่างชัดเจน
เขาผลักชายหนุ่มที่ถือไม้เบสบอลอยู่ออกไป ประคองชายชราเอาไว้ กล่าว: “ลุงหลี่ ทำไมถึงเป็นอา?”
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เธอคือ เสี่ยวเทียน?” ชายชราก็อึ้งไป
ชายชราชื่อว่าหลี่จง ก่อนหน้านี้ เป็นพนักงานส่งอาหารอยู่บริษัทเดียวกันกับฉินเทียน ตอนที่ฉินเทียนเพิ่งเข้าสู่ธุรกิจ เป็นหลี่จงที่สอนงานเขา
หลี่จงเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนั้นดูแลฉินเทียนไม่น้อยเลย
ต่อมา หลังจากที่ฉินเทียนเกิดเรื่อง ก็ขาดการติดต่อไป
คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันที่นี่
หลี่จงได้เจอคนสนิท ดึงมือของฉินเทียนเอาไว้ร้องไห้กล่าวฟ้อง: “เสี่ยวเทียน พวกเขารังแกคน!”
“โรคไขข้ออักเสบที่ขาทั้งสองข้างของฉัน นับวันอาการก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น จนปัญญาจะไปส่งอาหารได้อีก ฉันจึงใช้เงินที่สะสมมาหลายปีนี้ ทั้งยังไปหายืมเงินจากญาติพี่น้องมาอีกเล็กน้อย”
“ซื้อรถโคโรล่าคันนี้ เพื่อวิ่งรถบริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชัน”
“ถึงแม้จะได้กำไรไม่มาก แต่ว่าก็ถือว่าไม่ต้องตากแดดตากฝน”
“คิดไม่ถึงว่า รถคันนี้ยังซื้อมาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ก็เกิดปัญหาแล้ว”
“หน้าปัดรถยนต์มักจะรีเซ็ตเป็นการตั้งค่าจากโรงงานโดยไม่มีสาเหตุอันนั้นไม่พูดถึง เครื่องยนต์ก็มีปัญหา เสียงดังผิดปกติ ความเร็วต่ำกระตุก ยังมีบางครั้งอยู่ดีๆก็เครื่องดับ”
“ฉันมาหาพวกเขา ตอนแรก พวกเขายังตรวจสอบดูให้ เคาะนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็บอกว่าซ่อมเสร็จแล้ว”
“แต่ว่า ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขเลยแม้แต่น้อย”
“ฉันร้องขอให้พวกเขาเปลี่ยนอะไหล่ ตอนแรกพวกเขาบอกว่ากำลังส่งออกมาจากโรงงาน”
“ตอนนี้ อยู่ๆก็ไม่ยอมรับแล้ว ปัญหาไม่เพียงไม่ได้รับการแก้ไข คาดไม่ถึงว่ายังตีคน!”
“เสี่ยวเทียน เธอว่าบ้านเมืองยังมีขื่อมีแปอยู่หรือไม่? ร้าน4Sก็สามารถทำตัวเป็นอันธพาลได้หรือ?”
เมื่อได้ยินหลี่จงร้องไห้และฟ้อง สีหน้าของฉินเทียนเคร่งขรึม
เขาทราบดีว่า หลี่จงค่อนข้างลำบาก หลังจากหย่า ก็เลี้ยงดูลูกสาวด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
เพื่อไม่ให้ลูกสาวด้อยไปกว่าคนอื่น ปกติเขาจะประหยัดกินประหยัดใช้ ก่อนหน้านี้ตอนที่วิ่งส่งอาหาร ทำงานวันละสิบกว่าชั่วโมงเกือบจะทุกวัน
ตอนนี้ ใช้เงินที่สะสมมาครึ่งชีวิตซื้อรถคันหนึ่ง ก็นับว่าชีวิตมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ร้าน4Sที่มีพฤติกรรมแบบนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่เจ็บไม่ปวด อาจจะไม่คาดคิดว่าสำหรับคนแบบหลี่จง ก็คือภัยพิบัติ
“ไม่เป็นไรแล้วลุงหลี่ มอบให้ผมจัดการ”
เขาลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม กล่าว: “เรียกเถ้าแก่ของพวกแกออกมาพบฉัน!”
“แกว่าอะไร?” ผู้จัดการตัวแทนฝ่ายขายน้ำเสียงดูถูก กล่าว: “ไอ้หนุ่ม แกอยากจะแส่เรื่องชาวบ้าน?”
“ฉันขอเตือนแก ควรมองสถานการณ์ให้ออก อย่ากวนน้ำให้ขุ่นสุ่มสี่สุ่มห้า”
“จะบอกแกตามตรง ที่เปิดร้าน4Sได้ เถ้าแก่ของพวกเราจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา”
“นั่นไม่ใช่ที่คนแบบแกพูดว่าต้องการพบก็ได้พบ”
“เข้าใจแล้วหรือไม่? พนักงานส่งอาหาร!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ พนักงานเหล่านั้นต่างก็หัวเราะชอบใจกันขึ้นมา
ทุกคนที่มองดูต่างคร่ำครวญ นี่ก็คือเหตุผลที่พวกเขาไม่เต็มใจจะแส่เรื่องชาวบ้าน ใครต่างก็ทราบดี น้ำของร้าน4Sลึก
“เอาละพ่อหนุ่ม ไม่ต้องทำเรื่องราวให้ใหญ่ต่อ ให้พวกเขาชดใช้ค่ารักษาพยาบาลมาพอแล้ว”
“รถมีความขัดข้อง สามารถนำไปให้ร้านซ่อมรถดูได้”
“ก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โต สุดท้ายแล้วคนที่เสียเปรียบมากที่สุดก็คือตัวเอง” เห็นว่าฉินเทียนยังค่อนข้างอายุน้อย มีคนกลัวว่าเขาจะวู่วามจนเสียเปรียบ ห้ามปรามด้วยคำพูดดีๆ