บัญชามังกรเดือด - บทที่ 26 ฉันชื่อลั่วลั่ว
บทที่ 26 ฉันชื่อลั่วลั่ว
มองเห็นรูปร่างที่ล้ำเลิศ เส้นผมสีบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้า และใบหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่ติบนหน้าจอ พุ่งทะยานออกมาเหมือนยกให้ฟรียังไงอย่างนั้น
เนี่ยชิงหลงกลืนน้ำลายอย่างหนักแน่นแล้วพูดอย่างตื่นเต้น: “ลูกพี่ ทั้งหมดนี้เป็นของพี่หมดเลยครับ!”
“ขอแค่พี่พยักหน้า ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของพี่หมดเลยครับ!”
“คนธรรมดาทั่วไปอยากครอบครองแค่คนเดียวยังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ตอนนี้ทั้งหมดนี้เป็นของพี่หมดเลยนะครับ!”
ไอ้หมอนี่ดูตื่นเต้นกว่าฉินเทียนซะอีก เหมือนลาตัวผู้ที่กำลังแสดงอาการกำหนัด ร้องโฮก ๆ เหมือนเจอฝูงลาตัวเมีย
หวางโป๋เหนียนก็ถอนหายใจแล้วพูด: “ราชาฉิน ฐานะตัวตนของคุณหนูเหล่านี้ล้วนไม่ธรรมดา ตอนนี้คุณจะจัดการยังไงครับ?”
แม้แต่เขาที่เป็นคนมีอายุที่สุภาพเรียบร้อย วินาทีนี้ภายในแววตาเขาก็มีรังสีแห่งความเย้ยหยันด้วย
เขาอยากรู้ว่าราชาเทพที่ทำได้ทุกอย่างจะจัดการกับปัญหาที่จัดการยากนี้อย่างไร
หรือจะพูดอีกอย่างว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาจะยอมรับใคร?
ใบหน้าของฉินเทียนเต็มไปด้วยความหม่นหมอง ยกเท้าขึ้นมาเตะใส่ก้นเนี่ยชิงหลงทีหนึ่งแล้วพูด: “ในเมื่อนายชอบ งั้นก็ยกให้นายหมดเลยแล้วกัน!”
“หากไม่มีการอนุญาตจากฉัน ห้ามก้าวออกไปจากประตูบานนี้!”
“เหล่าหวาง เราไปกันเถอะ”
เพิ่งเดินเลี้ยวพ้นไปหนึ่งโค้ง ตรงหน้าก็เห็นเหล่าคุณหนู“ที่เหมือนยกให้ฟรี”พุ่งตรงเข้ามา
หวางโป๋เหนียนตกใจจนสะดุ้ง รีบหลบอยู่ด้านหลังฉินเทียน
ฉินเทียนก็รีบเอาตัวแนบติดกับผนังเพื่อหลีกทางเช่นกัน
เนื่องจากจำนวนคนเยอะเกินไป ทำให้หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนตุ๊กตาพอร์ซเลน แต่หุ่นร่างกลับร้อนแรงเหมือนกองไฟวิ่งชนเข้าไปในอ้อมอกของฉินเทียน
“โอ๊ย!” เธอร้องเสียงต่ำ นวด ๆ ศีรษะที่กระแทกจนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย มองดูฉินเทียนด้วยใบหน้าที่ใสซื่อแล้วพูด:
“ฉันคือผู้สืบทอดของตระกูลร็อคชิลเลอร์ ชื่อจีนชื่อว่าลั่วลั่ว”
“คุณรู้หรือเปล่าคะว่าราชาเทพอยู่ห้องไหน?”
ร็อคชิลเลอร์?
ฉินเทียนยิ้มเจื่อนพลางพูด: “แม่สาวน้อย มีความจำเป็นด้วยเหรอ?”
ลั่วลั่วพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูด: “คุณปู่บอกกับฉันว่าขอแค่แต่งงานกับราชาเทพคนนั้น ปู่ก็จะให้ค่าสินสอดทองหมั้นหมื่นล้านดอลลาร์กับฉันทันที”
ค่าสินสอดทองหมั้นหมื่นล้านดอลลาร์!
หวางโป๋เหนียนกลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึกอย่างแรง
ลั่วลั่วทำปากจู๋เบา ๆ
เธอเอียงหัวพลางกระพริบดวงตาที่งดงามดั่งอัญมณีคู่นั้น ก่อนจะพูดด้วยสภาพที่ดูขี้งอนเล็กน้อย: “ฉันไม่ได้สนใจเรื่องเงิน ฉันแค่อยากแต่งงานกับผู้ชายตะวันออกที่ลึกลับคนนี้!”
“คุณผู้ชายท่านนี้คะ ราชาเทพอยู่ห้องไหนเหรอคะ? รีบบอกฉันเถอะค่ะ!”
“ขอแค่คุณช่วยฉัน สมุดเช็คเล่มนี้ คุณอยากใส่ศูนย์กี่ตัวก็ตามสบายเลยค่ะ”
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์คู่นี้ จู่ ๆ ฉินเทียนก็รู้สึกว่าตัวเองเลวเล็กน้อย ไม่อาจฝืนโกหกเธอได้
เขากระแอมหนึ่งที มองหวางโป๋เหนียนที่อยู่ด้านหลังแล้วพูดอย่างสุภาพเรียบร้อย: “ราชาเทพอยู่ห้องไหนนะ?”
“ราชาเทพอยู่……”หวางโป๋เหนียนกัดฟันแล้วพูด : “เมื่อกี้ เขาอยู่ห้องนั้นครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ!”
ฉินเทียนเห็นว่าตรงทางเข้าห้องนั้นถูกเหล่าคุณหนูที่บ้าคลั่งห้อมล้อมไว้อย่างแน่นหนา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามอย่างรู้สึกสงสัยเล็กน้อย: “คุณเตรียมจะฝ่าวงล้อมเข้าไปยังไงเหรอ?”
ลั่วลั่วกัดฟันแล้วยัดสมุดเช็คเข้าไปในมือฉินเทียน ถลกกระโปรงขึ้น ถอดรองเท้าส้นสูงที่ฝังเต็มไปด้วยเพชรออก
ปลุกเร้าอารมณ์ ก่อนจะพูดอย่างเสียงดัง: “ถอยออกไปให้หมด!”
“แฟนของราชาเทพมาแล้ว!”
ฉินเทียนรู้สึกตะลึงงันไปเลย
เสี้ยววินาทีที่ประตูห้องถูกชนจนเปิดออก เขาก็รีบพูดในทันที: “รีบไป ๆ!”
เสียงอันสิ้นหวังของเนี่ยชิงหลงดังมาจากด้านหลัง
“โปรดไว้ชีวิตผมด้วยเถิด!”
“พวกคุณฟังผมพูดก่อน ผมไม่ใช่ราชาเทพ จริง ๆ นะครับ……เฮ้อย่าฉีกเสื้อผ้าสิ มีอะไรเราค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันก่อน!”
“กางเกง……อย่าเตะกางเกง!”
หลังจากนั้นก็มีเสียงปังดังขึ้น คาดว่าไอ้หมอนั่นน่าจะจนตรอก ชนหน้าต่างจนพังแล้วกระโดดหนีลงไปจากหน้าต่าง
หวางโป๋เหนียนหัวเราะแล้วพูด: “สมแล้วที่เป็นผู้นำของแก๊งเขี้ยวมังกร”
“ท่านไม่อนุญาตให้เขาก้าวออกมาจากประตูบานนั้น เขาเลยกระโดดลงไปจากหน้าต่าง”
ฉินเทียนก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน: “เหล่าหวาง ต่อไปก็ฝากให้นายจัดการต่อด้วยล่ะ ฉันไม่สะดวกที่จะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน”
“ใช่สิ ถอดถอนตำแหน่งกรรมการ และหน้าที่งานผู้อำนวยการของลู่ซินเจี้ยนด้วย”
“การจัดซื้อของทางการแพทย์เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบ เพิ่มหยางยู่หลันเข้ามาเป็นกรรมการใหม่อีกคน”
“เธอมีประสบการณ์ด้านการจัดจำหน่ายยาเยอะ”
“ครับ! ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ!”หวางโป๋เหนียนตอบกลับอย่างลนลาน
ฉินเทียนเดินออกไปจากประตูที่อยู่ข้าง ๆ กลับไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ก่อน
ณ ตอนนี้ ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ ไม่มีใครที่นั่งอย่างสงบเสงี่ยมเลย ใบหน้าต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาไม่เคยเข้าร่วมงานชุมนุมที่บุกเบิกสไตล์ใหม่แบบนี้มาก่อน
แต่พวกเขาก็รู้เหมือนกันว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าเจ้าพ่อ รวมไปถึงเหล่าคุณหนูที่มีดีครบทุกด้านแล้ว พวกเขาไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรได้เลยด้วยซ้ำ
ราชาเทพก็ไม่ใช่บุคคลที่คนอย่างพวกเขาสามารถประจบประแจงได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่รออย่างซื่อสัตย์
“ฉินเทียน?” ลู่ซินเจี้ยนชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ: “มึงยังไม่โดนกระทืบจนตายอีกเหรอ?”
“พวกมันปล่อยให้มึงรอดออกมาได้ยังไงวะ?”
หยางยู่หลันก็พูดอย่างประหม่าเช่นกัน: “ฉินเทียน ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่?”
“หรือว่าเรากลับกันไหม?”
ฉินเทียนตอบกลับด้วยจิตใจที่สบาย: “แม่ แม่ลืมแล้วเหรอครับ? ผมกับเสี่ยวหม่าเป็นเพื่อนกันนะครับ”
“เสี่ยวหม่า?”จิตใจของหยางยู่หลันจมปลักอยู่กับความวุ่นวายมาโดยตลอด เธอจึงลืมไปแล้วว่าเสี่ยวหม่าคือใคร
“รปภ.คนนั้นน่ะครับ”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของฉินเทียน เธอถึงจะได้สติเหมือนเพิ่งตื่นมาจากฝัน เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ไอ้หนู คิดว่ารู้จักกับรปภ.แค่คนเดียวก็สามารถทำตามอำเภอใจได้แล้วงั้นเหรอ?”
“เป็นแค่รปภ.กระจอก ๆ คนหน่ึง สักพักถ้าเลิกงานเมื่อไหร่ กูจะจัดการอย่างเฉียบขาดให้!”
เมื่อเห็นหม่ายงพิธีกรของงานชุมนุมในครั้งนี้เดินขึ้นเวที ลู่ซินเจี้ยนก็ยิ่งได้ใจ: “หยางยู่หลัน คอยดูเถอะ”
“สมาคมสาขาก่อตั้งขึ้นแล้ว อีกไม่นานก็จะประกาศตำแหน่งกรรมการของฉันแล้ว!”
“ถึงตอนนั้นอย่ามาเลียแข้งเลียขาฉันก็แล้วกัน”
เหล่าเถ้าแก่ร้านยาที่อยู่ข้าง ๆ รีบพูดประจบสอพลอเสียงต่ำทันที มากกว่านั้นคือมีคนถึงกับยัดบัตรเอทีเอ็มให้กับลู่ซินเจี้ยนด้วย
เมื่อหม่ายงเอ่ยปากพูด ทุกคนที่อยู่ด้านล่างก็เงียบลง
“ผมขอประกาศให้ทุกคนทราบ ณ ตรงนี้ สมาคมการแพทย์สาขาหลงเจียง ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ!”
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาดูตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อสายตาของเขามองเห็นฉินเทียนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที
สูดหายใจเข้าลึก ๆ เขามองหน้าฉินเทียนพลางพูดอย่างจริงใจ: “เป็นพระกรุณาธิคุณที่คุณท่านไม่ทอดทิ้ง แต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งเจ้าสมาคมสาขาหลงเจียง”
“วินาทีนี้กระผมแซ่หม่ามีแค่คำพูดเดียวที่อยากจะพูดเท่านั้น เพื่อสมาคมและคุณท่าน ทั้งชีวิตนี้กระผมยินดีที่จะอุทิศทุกสิ่งตลอดจนลมหายใจสุดท้าย!”
คนอื่นไม่รู้เลยว่าหม่ายงกำลังแสดงจิตใจที่ซื่อสัตย์ต่อฉินเทียนอยู่
จู่ ๆ ลู่ซินเจี้ยนก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมา มองหน้าฉินเทียน แสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วพูด: “ไอ้หนู รปภ.ที่ชื่อเสี่ยวหม่าที่แกรู้จักน่ะ เป็นญาติกับผู้อำนวยการหม่าเหรอ?”
ฉินเทียนแค่ยิ้มอย่างเย็นชาไม่ได้พูดอะไร
จะว่าไปคำอธิบายนี้สามารถปกปิดตัวตนได้ดียิ่งขึ้นจริง ๆ
หยางยู่หลันพูดเสียงต่ำ: “แม่ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่เลย ต้องเป็นรปภ.
แบบไหนกันนะถึงจะมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้”
“ฉินเทียน กลับไปต้องขอบคุณคนเขาดี ๆ นะ!”
ลู่ซินเจี้ยนแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด: “เป็นแค่รปภ.เล็ก ๆ คนเดียวเท่านั้นแหละ กูจะบอกพวกมึงให้นะ ถ้ากูจะจัดการพวกมึง แม้แต่ผู้อำนวยการหม่าก็ห้ามไม่ได้!”
“คอยดูเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะถึงการแต่งตั้งตำแหน่งกรรมการแล้ว!
”
หยางยู่หลันตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
เพราะเมื่อรปภ.เล็ก ๆ คนหนึ่งอยู่ต่อหน้ากรรมการแล้ว รปภ.ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
หม่ายงหยุดชะงักไปสักพัก จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมากกว่าเดิม: “ตอนนี้ขอเรียนเชิญเจ้าสมาคมของสมาคมการแพทย์ของเรา คุณหวางโป๋เหนียนขึ้นเวทีครับ”
“ขอเรียนเชิญท่านให้เป็นผู้ประกาศรายชื่อสมาชิกคณะกรรมการด้วยตัวท่านเอง!”
หวางโป๋เหนียน!
ที่เกิดเหตุเดือดพล่านขึ้นมาในทันที
เมื่อเทียบกับราชาเทพที่เลือนรางและยากที่จะคาดเดาได้แล้ว หวางโป๋เหนียนเป็นบ่อเงินบ่อทองที่มองเห็นและจับต้องได้ของพวกเขาต่างหาก!
“เจ้าสมาคมหวาง ฉันเป็นแฟนคลับที่จงรักภักดีของคุณนะคะ!”
“เจ้าสมาคมหวางองอาจสง่าผ่าเผยมากครับ!”
“จากการนำพาของเจ้าสมาคมหวาง พวกเรายินดีอุทิศชีวิตเพื่อกิจการการแพทย์ที่รุ่งโรจน์!”
ลู่ซินเจี้ยนเอาดอกไม้ที่เตรียมพร้อมไว้ตั้งนานแล้วออกมา วิ่งตรงไปทางเวทีพร้อมกับตะโกนเสียงดัง