บัญชามังกรเดือด - บทที่ 260 นายหักหลังฉัน
บัญชามังกรเดือด บทที่ 260 นายหักหลังฉัน
“ใคร?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฉีชุนอึ้งไปครู่หนึ่ง สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“คุณชายสาม ขอโทษ”เหล่าหม่ากัดฟัน จากนั้นหลีกให้ร่างที่มีสเน่ห์ออกมา
ที่ด้านหลังของเขา ยังมีอีกคนหนึ่ง
ฉินเทียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ นั่งไขว่ห้าง ในมือถือมีดม้งเล่มยาวที่มีชื่อของเหล่าหม่า
กำลังยิ้มตาหยีมองมาที่เขา
“เหล่าหม่า นายหักหลังฉัน?”เมื่อคิดอะไรได้ ฉีชุนก็รีบถอยหลัง
สีหน้าของเหล่าหม่าที่ย่ำแย่ กัดฟันแล้วพูดว่า:“ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ทำไงได้ สู้เขาไม่ได้จริงๆ !”
เมื่อคิดถึงตอนที่เขาแสดงมีดม้งแบบที่สอง ทีแรกนึกว่าจะชนะ ทว่าตอนที่สับสนนั้น ก็ถูกฉินเทียนแย่งมีดไป
แม้กระทั่งตอนที่ฉินเทียนลงมือ เขายังมองไม่ชัดเลย
ก่อนหน้าที่ฉินเทียนจะลงมือนั้น เขาทำกล้องวงจรปิดพัง เพราะไม่อยากให้ฉีชุนเห็น
เพราะแบบนี้ จึงนำให้เจ้าหมอนี่เข้ามา
“ตอนนี้ ยังจะได้สูตรจากภรรยาของฉันอยู่ไหม?”ฉินเทียนตบมีดม้งที่อยู่ในมือ จากนั้นหัวเราะแล้วมองไปที่ฉีชุน
ฉีชุนกัดฟันแล้วพูดว่า:“ถือว่าฉันมองพลาดไปเอง……”
เขาถอยหลังทีละก้าว ทีแรกคิดว่า เมื่ออยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย จากนั้นตะโกนเสียงดัง และถอยเท้าวิ่งเข้าไปที่รถ
ยื่นมือพร้อมเปิดประตูรถ
เสียงหึของฉินเทียน มือที่สะบัดไป มีดม้งที่เร็วดั่งสายฟ้าฟาด
เสียงดังพลัก ทะลุมือของฉีชุน จากนั้นก็ตอกไว้ตรงประตูรถ
“อ๊ะ!”
ความเจ็บปวดเข้ากระดูก ทำให้ฉีชุนคุกเข่าลงที่พื้น สีหน้าซีดขาว ร้องเสียงโหยหวน
ฉินเทียนลุกขึ้น จากนั้นเดินเข้าไปช้าช้า
“ไม่เอา!”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน อย่าฆ่าฉันเลย!”หวงอิงอิงตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบคุกเข่าลงที่พื้น
ฉินเทียนยกเท้าขึ้น จากนั้นก็เหยียบฝ่ามือที่ถูกตอกทะลุของฉีชุน ค่อยๆ ชักมีดออกมามือเดียว
จากนั้นก็มองมีดสีขาวเล่มนั่น ที่ถูกชักออกมาจากฝ่ามือของตนเอง แล้วกลายเป็นสีเลือด
ฉีชุนได้ยินเสียงมีดที่ไปเสียดสีกับกระดูกของตนเอง เสียงร้องเจ็บปวด จนสลบลงไป
เขาเป็นคุณชายที่คาบช้อนทองมาเกิด มีชีวิตที่สุขสบาย อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร่ำรวย เมื่อไหร่กันที่เขาต้องมาทรมานเช่นนี้!
นักเลงที่อยู่รอบๆ รวมถึงหม่าหงเทา เมื่อเห็นสีหน้าของฉินเทียน ต่างก็รู้สึกว่าเขาราวกับปีศาจ
“ฉินเทียน อย่าฆ่าคนเลย!”ซูซูที่เห็นก็อดพูดไม่ได้
“วางใจเถอะที่รัก”ฉินเทียนยิ้มแล้วรับปาก
“หืม?”เจิ้งจี๋รู้สึกไม่ถูกต้อง จึงพูดขึ้นว่า:“เธอเป็นเมียของนาย?”
“เมียของนายไม่ใช่เมียของฉันหรอกเหรอ?”
คำว่า“ภรรยา”ในปากทีแรกของฉินเทียน ทุกคนต่างคิดว่าหมายถึงกงลี่
เพราะว่าเจิ้งจี๋เข้าใจว่า ภรรยาของเขา ได้หนีตามฉินเทียนไป
ตอนนี้ ดูจากสภาพแล้ว ภรรยาของฉินเทียน คือซูซู?
เป็นไปได้ยังไง!
“นายพูดบ้าอะไร!”กงลี่พูดโมโหจนหน้าแดง:“คุณฉินเทียนกับประธานซู เป็นสามีภรรยากันมาหลายปีแล้ว!”
“ครั้งนี้คุณฉินเทียนช่วยฉันไว้ แต่ว่าระหว่างฉันกับนายไม่มีอะไรต่อกันแล้ว!”
เจิ้งจี๋อ้าปากกว้าพูดไม่ออก
ทันใดนั้นที่เห็นฉินเทียนถือมีดม้งแล้วเดินเข้ามา เขาก็ตะโกนอย่างตกใจ จะหันหน้าวิ่งหนี
ฉินเทียนปรากฏด้านหน้าอย่างสายฟ้าฟาด จากนั้นใช้มีดม้งตบหน้าเขาแล้วพูดว่า:
“รบกวนนายลองนึกหน่อยสิว่า เมื่อวานฉันบอกนายแล้วใช่หรือเปล่า”
“หากว่าฉันพบนายอีก ฉันจะจัดการนายให้ย่อยยับ?”
พูดไป พร้อมกับใช้คมมีดม้ง กรีดไปที่ตัวเขา
ฉินเทียนเข้าใจขนาดระยะห่างดี ปลายมีดที่กรีดเอาเสื้อผ้าของเขา เป็นช่องโหว่ว
เจิ้งจี๋รู้สึกอย่างชัดเจนว่า ปลายมีดเหมือนกับงูพิษดีๆ นี่เอง ที่มาขยับเขยื้อนบนร่างกายของเขา
มีเหงื่อไหลเต็มทุกที่บนร่างกาย
“ไว้ชีวิตด้วย!”
“ฉันผิดไปแล้ว!”
“ฉันมันเลว ฉันไม่ใช่คน!”
“พี่เทียน ไม่ใช่ ท่านเทียน ไว้ชีวิตด้วย!”เจิ้งจี๋ตกใจจนวิญญาณไม่อยู่กับตัว จากนั้นคุกเข่าร้องขอชีวิต
“หากจะทำให้ฉีชุนฟื้น ฉันยังพอมีประโยชน์”ฉินเทียนร้องหึ ยกมีดม้ง แล้วกลับไปนั่งที่เดิม
เจิ้งจี๋เมื่อได้สติ ก็รีบรับคำสั่ง
ตอนนี้เขาหยูดทำไว้แค่นี้ นอกจากหม่าหงเทาแล้ว ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ก็คือพวกนักเลงพวกนั้น ที่ถูกฉินเทียนใช้เส้นเหล็กตีข้อมือหรือข้อเท้าจนกระดูกแตก ล้มลงที่พื้น
แม้ว่าหม่าหงเทาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่า เขาได้สูญเสียเจตจำนงการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ที่เขายังอยู่ คือหนึ่งฉินเทียนยังไม่ได้สั่งให้เขาไป อีกอย่างหนึ่ง เขาอยากดูด้วยว่า ฉินเทียนอยากจะทำอะไรกันแน่
ส่วนซูซูและกงลี่ ก็ไม่รู้ว่าฉินเทียนอยากจะทำอะไรกันแน่ ต่างก็หวาดกลัวแล้วไปยืนอยู่ข้างหลัง
เจิ้งจี๋ก็รีบทำให้ฉีชุนที่สลบตื่นขึ้น ราวกับหมาที่นอนตายอย่างนั้น จากนั้นลากมาที่ด้านหน้าฉินเทียน
จากนั้น ก็เอาน้ำมาสาด
ฉีชุนร้องเสียงหลง ในที่สุดก็ฟื้นขึ้น
เมื่อเห็นฉินเทียนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ที่ถือมีดม้งมา ก็เหมือนกับราชาสูงส่งเช่นนั้น
เสียงโกรธของเขา ในสายตาปรากฏเสียงโกรธยิ่งกว่าอะไร
ฉินเทียนยดมีดม้งมาวางพาดไว้ที่คอ แล้วพูดว่า:“นายไม่ยอม?”
ฉีชุนตัวสั่นเทา ขณะนั้นเองถึงได้เข้าใจว่า คนฉลาดต้องรู้จักสถานการณ์
“อย่าเพิ่งใจร้อน!”
“ฉันยอมรับ ฉันเองที่ทำผลิตภัณฑ์ปลอมเลียนแบบของพวกนาย”
“เพียงแค่ปล่อยฉันไป ฉันจะทำลายของพวกนี้ทันที”
“อีกอย่าง พวกนายจะให้ฉันชดใช้เท่าไหร่ก็ยอม”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูซูก็ผ่อนคลายลง เธอคิดว่า นี่เป็นผลลัพท์ที่ไม่เลว
แต่ใครจะคิดว่า ฉินเทียนกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า:“แบบนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ”
“เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ก็เล่นนานอีกสักหน่อยดีกว่า”
ฉีชุนเสียงสั่นแล้วพูดว่า:“นายอยากจะเล่นยังไง?”
ฉินเทียน:“โทรศัพท์”
“บอกให้คนที่อยู่เบื้องหลังนาย มาช่วย”
“นายพูดอะไร?”
“นายกล้าสั่งให้ฉันเรียกคนมา?”
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินเทียน ไม่เพียงแค่ฉีชุนที่อึ้ง
แม้แต่ซูซู กงลี่ หม่าหงเทา เจิ้งจี๋ รวมถึงนักเลงที่บาดเจ็บเหล่านั้น ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
หม่าหงเทาครุ่นคิดสักครู่ จากนั้นพูดเสียงขรึมว่า:“คุณฉิน พลังของตระกูลฉีในเมืองเจิ้ง มันไม่ใช่แบบที่คุณจินตนาการไว้”
“ทะเลาะกันจนมาถึงขนาดนี้ หากพวกนายอยากจะมีชีวิตต่อไปล่ะก็ รีบหนีออกไปเร็วๆ ดีกว่า”
“มิเช่นนั้น หากว่าฉันโกรธล่ะก็ มีชีวิตรอดออกจากเมืองเจิ้งไม่ได้แน่!”
เขาที่เพิ่งจะโดนฉินเทียนทำให้ยอม ตอนนี้ กลับมีความอยากจะปกป้องฉินเทียน
ฉีชุนกัดฟันแล้วหัวเราะอย่างเย็นชาว่า:“จริงด้วย”
“ฉันขอเตือนนายว่าอย่าหาเรื่องตายดีกว่า รีบไสหัวกลับหลงเจียงไปซะ”
“มิเช่นนั้น แค่เพียงฉันโทรศัพท์ไป รับรองได้ว่า นายและผู้หญิงของนาย อย่าคิดจะออกจากเมืองเจิ้งตลอดกาล”
“จริงด้วยฉินเทียน พวกเรารีบไปกันเถอะ!”กงลี่พูดอย่างตรึงเครียด
เธอใช้ชีวิตในเมืองเจิ้งมาหลายปี พลังของตระกูลฉี เคยได้ยินมาบ้างอยู่
จะว่าเป็นตระกูลแรกของเมืองเจิ้งเลยก็ว่าได้
ในความเป็นจริง ทีแรกที่รู้ว่าเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังการปลอมสินค้าคือฉีชุนซึ่งเป็นคุณชายของตระกูลฉี เธอก็รู้สึกว่า เรื่องมันไม่ธรรมดาแล้ว
ภายใต้การนจ้องมองของทุกคน ฉินเทียนหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า:“งั้นเหรอ?งั้นฉันอยากจะให้ช่วยสอนหน่อยว่า พลังตระกูลแรกของพวกนายหน่อย”
“อย่ามัวแต่ไร้สาระ โทรศัพท์!”
“ได้!”
“นายอย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”ในสายตาของฉีชุนเผยถึงความปลิ้นปล้อนร้ายกาจ
เขาควักโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรศัพท์ กัดฟันแล้วพูดว่า:“พ่อ!”
“ผมอยู่ตรงโรงงานชานเมืองเหนือ ถูกคนทำร้าย”
“คนๆ นั้นบอกว่า อยากจะพบท่าน ไม่งั้นจะฆ่าผม!”
“พ่อ มาช่วยผมด้วย!พาทีมเสือดำมาด้วย!”