บัญชามังกรเดือด - บทที่ 323 คุณเชื่อผมไหม
บัญชามังกรเดือด บทที่ 323 คุณเชื่อผมไหม
ร้านเหล้าที่ชื่อ“เอ็มจี” เสียงดนตรีที่ดังสนั่น เด็กหนุ่มสาวที่รักความบันเทิงรื่นเริง กำลังสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง
ฉินเทียนเดินผ่านความวุ่นวายนี้ ตรงไปยังที่นั่งด้านในสุดของร้านเหล้า เจอชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
เขาอายุประมาณสี่สิบ ท่าทีสุขุมลุ่มลึก แต่ในตอนนี้ กำลังนั่งเมาอยู่คนเดียว
ขวดเหล้าเปล่า วางตั้งเรียงรายกันอยู่เต็มโต๊ะ
แม้ที่ดื่มจะเป็นแค่เบียร์ธรรมดา แต่เขาก็แต่งตัวดูดี นาฬิกาข้อมือที่สวมใส่ก็มีราคาแพง
ดังนั้น ในบางครั้งก็จะมีหญิงสาว เข้ามาพูดคุยทักทาย
ไม่คิดว่า ชายหนุ่มจะไม่สนใจเลย
สุดท้าย หญิงสาวเหล่านั้นก็ต้องจากไปอย่างหมดอารมณ์
“น้อง เอาเบียร์มาอีก !”
ดื่มหมดขวดสุดท้าย เขาตะโกนเรียกด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
พนักงานเดินเข้ามาหา พูดด้วยรอยยิ้ม“คุณผู้ชาย ยังดื่มไหวเหรอครับ ?”
“คุณดื่มไปเยอะมากแล้วนะครับ”
“ไม่ต้องพูดมาก!”
“กลัวฉันไม่มีจ่ายหรือไง ? ไปเอาเหล้ามา!”เขาแสดงบัตรเครดิตแพลทินัมใบหนึ่งให้ดู
พนักงานยังอยากจะพูดอะไรอีก ฉินเทียนโบกมือให้เขา และกล่าว“นายไปทำงานเถอะ”
“เขาเป็นเพื่อนของผม”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นฉินเทียน ก็ผงะเล็กน้อย แล้วกล่าว“นายเป็นใคร ? ฉันไม่รู้จักนาย”
ฉินเทียนยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ฟู่เจียง รองประธานของบริษัทซิงถู”
“นายรู้ได้ยังไง?”ฟู่เจียงมีสติขึ้นมาเล็กน้อย
ฉินเทียนตอบ“ หลิวหรูยู่เห็นคุณเป็นเพื่อน ในตอนนั้น เพราะเห็นแก่คุณ จึงได้ตกลงเซ็นสัญญากับซิงถู”
“มาตอนนี้ คุณทำแบบนี้กับเพื่อนเหรอ ?”
“เขาถูกบริษัทซิงถูของคุณใส่ร้ายป้ายสี ต้องทุกข์ทรมานใจ แต่คุณกลับมานั่งดื่มเพื่อลืมความทุกข์อยู่ที่นี่ ? ”
ดวงตาฟู่เจียงแดงก่ำ กัดฟันพูด“พูดมา ว่านายเป็นใครกันแน่ !”
“นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?”
เมื่อเห็นฉินเทียนหัวเราะเยาะและไม่พูดอะไร สายตาของเขา ก็มีความรู้สึกผิดที่มากมายปรากฏ
ลังเลอยู่ชั่วครู่ ก็พูดเสียงแผ่ว“หรูยู่ให้นายมาหาฉันเหรอ ?”
“ฉัน ต้องขอโทษเธอด้วย!”
ฉินเทียนยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ขอโทษเธอ หมายความว่าไง?”
“คุณยอมรับว่าคุณใส่ร้ายเธอเหรอ? ”
“ไม่ใช่นะ!”ฟู่เจียงพูดอย่างตื่นตัว“เรื่องนี้ เป็นการวางแผนของหวางเฉียง!”
“สุนัขรับใช้ตัวนี้ ขายบริษัทให้หวงฉาวไม่ฟังความคิดเห็นของฉันเลย”
ฉินเทียนยิ้มเยาะ“เหรอ?”
“แต่คุณก็สามารถแสดงตัว ช่วยชี้แจงแทนหรูยู่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่ปิดเครื่องแล้วหนีหาย มานั่งดื่มเพื่อลืมทุกข์อยู่แบบนี้”
“คุณคิดว่า ดื่มจนเมามาย ก็จะสามารถลบล้างความรู้สึกผิดที่มีของคุณได้อย่างนั้นเหรอ?”
“นายไม่เข้าใจ ว่าฉันเองก็มีความทุกข์ของตัวเองเหมือนกัน !”ฟู่เจียงกัดฟัน ดวงตามีน้ำตาไหลซึมออกมา
ฉินเทียนมองออก ว่าฟู่เจียงคนนี้คงรู้สึกผิดอยู่มากจริงๆ คนคนนี้ น่าจะเป็นคนดีอยู่เหมือนกัน
“ไปล้างหน้าล้างตา ผมจะรอคุณด้านนอก ”
พูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกไป
หลังจากที่ฟู่เจียงล้างหน้าล้างตาเสร็จ แม้จะยังดูกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่ายังพอมีสติ
ในซอยที่เงียบสงบ เขามองฉินเทียน ถามด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มลึกอีกครั้ง“หรูยู่เธอให้คุณมาหาผม ใช่ไหม?”
ฉินเทียนส่ายหัว และพูด“เธอไม่อยากต้องลากใครมาลำบาก”
“เธอก็ไม่อยากจะชี้แจงอะไรทั้งนั้น ตั้งใจจะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว ”
ฟู่เจียงรีบพูดขึ้นมา“ ทำแบบนั้นได้ยังไง !”
“หากเป็นแบบนั้น เธอได้จบเห่แน่ !”
ฉินเทียนยิ้มเยาะแล้วพูด“แล้วจะให้ทำยังไง คุณช่วยเธอได้ไหมล่ะ?”
ฟู่เจียงถอนหายใจ และกล่าว“ตอนเกิดเหตุ ผมไม่ได้อยู่ในประเทศ”
“มูลนิธิสหประชาชาติสำหรับเด็กยากจนตั้งใจจะเชิญหลิวหรูยู่มาเป็นทูตประจำเอเชีย ผมกำลังเดินเรื่องพวกนี้ให้เธออยู่”
“หลังจากที่กลับมา ได้ยินเรื่องนี้เข้า ผมก็ไปหาหวางเฉียงในทันที ขอให้เขาจัดงานแถลงข่าว เพื่อช่วยหลิวหรูยู่ชี้แจงเรื่องนี้”
“ในตอนนั้น ผมยังไม่รู้เรื่อง ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นการวางแผน ของหวางเฉียงภายใต้การยุยงของ จ้าวซวู่”
“จนกระทั่งหวางเฉียงมาบอกผม ว่าเขาจะปล่อยขายบริษัทนี้”
“ขายมันให้กับบริษัทหวงฉาว ในราคาสามร้อยล้าน ”
“เขาข่มขู่ผม ไม่ให้เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น——”
ฉินเทียนยิ้มเยาะแล้วพูด“ทำไม หรือคุณก็มีความลับอยู่ในมือของเขาด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่!”
ฟู่เจียงพูดอย่างขุ่นเคือง“ผมรู้ ว่าวงการบันเทิงเป็นเหมือนถังย้อม”
“แต่ผมฟู่เจียงพูดได้อย่างไม่ละอายว่า ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาในวงการนี้ ไม่เคยทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมมาก่อนแต่อย่างใด!”
“รูปถ่ายในงานเลี้ยงอาหารค่ำของหรูยู่ที่หวางเฉียงถ่ายไป ในตอนนั้นเขาบอกว่า จะเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น”
“ผมไม่คิดว่า เขาจะจิตใจหยาบช้าได้ขนาดนี้ !”
“เขารู้ว่าภรรยาของผมกำลังป่วยหนัก ต้องใช้เงินจำนวนมาก เขาขู่ผม หากกล้าทำอะไรไม่ดี ผมจะไม่ได้เงินเลยสักบาท!”
พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็ตบหน้าตัวเองอย่างรู้สึกผิด
“ฉันฟู่เจียงเป็นสัตว์เดียรัจฉานตัวหนึ่ง!”
“เพื่อเงิน ฉันทนมองเพื่อนถูกผลักลงเหว แต่กลับไม่มีความกล้าที่จะไปช่วยเหลือเธอ!”
“รบกวนคุณบอกหรูยู่ผมฟู่เจียงต้องขอโทษเธอด้วย!”
“ชาติหน้า ผมจะขอตามรับใช้เธอเพื่อเป็นการชดใช้ให้!”
ฉินเทียนมองชายตรงหน้าที่กำลังร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก จู่ๆก็เข้าใจคำพูดหนึ่ง คนเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ก็ไม่อาจจะทำตามใจตัวเองได้
“เมื่อกี้คุณบอกว่า มูลนิธิสหประชาชาติสำหรับเด็กยากจนจะเชิญหลิวหรูยู่ไปเป็นทูตประจำเอเชียงั้นเหรอ?”
“ใช่ เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เลขาธิการของมูลนิธิ คุณมิเชลตั้งใจจะเดินทางมามอบใบประกาศเกียรติบัตรให้กับหรูยู่ด้วยตนเอง”
“แต่ตอนนี้มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมได้ติดต่อไปหามิเชล เขาบอกว่า หวังว่าพวกเราจะยุติเรื่องอื้อฉาวนี้ได้โดยเร็วที่สุด”
“ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงมอบงานที่สำคัญเช่นนี้ ให้กับดาราสาวที่มีเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ไม่ได้แน่ ”
ฉินเทียนขบคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าว“ตอนนี้ ช่วยเหลือหลิวหรูยู่ ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป ”
“ฟู่เจียง คุณเชื่อใจผมหรือเปล่า?”
ฟู่เจียงอึ้งไปชั่วขณะ แล้วกล่าว“คุณจะให้ผมเชื่ออะไรคุณ?”
ฉินเทียนพูดอย่างจริงจัง“ขอแค่คุณทำตามที่ผมบอก ผมรับประกัน ว่าจะสามารถช่วยหลิวหรูยู่ชี้แจงเรื่องอื้อฉาวทั้งหมดนี้ได้”
“อีกทั้งคุณก็สบายใจได้ ผมจะไม่ให้คุณต้องมีปัญหาเรื่องเงินในการรักษาภรรยาของคุณด้วย ”
“ซิงถูถูกปล่อยขายในราคาสามร้อยล้าน หุ้นของคุณมีอยู่สิบเปอร์เซ็นต์ จะได้รับเงินในส่วนนี้สามสิบล้านใช่ไหม?”
“ผมสามารถให้คุณได้เลยในตอนนี้ห้าสิบล้าน ซื้อหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์นี้ของคุณ”
“จริงเหรอ? ”ฟู่เจียงมีใบหน้าที่เหลือเชื่อ แล้วกล่าว“แล้วคุณจะให้ผมทำอะไร?”
“ฉันต้องการให้คุณไปต่างประเทศในทันที ไปหามิเชล คุณไม่ต้องกังวล เรื่องทางฝั่งของมูลนิธิ ผมจะให้คนไปจัดการให้เรียบร้อย”
“หลังสามวัน คุณต้องพามิเชลเดินทางมา แล้วมอบใบประกาศเกียรติบัตรให้กับหลิวหรูยู่ด้วยตนเอง”
“เมื่อมีสถานะเช่นนี้ ข่าวลือทั้งหลายจะได้รับการพิสูจน์ว่าไม่มีมูลความจริง”
ฟู่เจียงมองฉินเทียนอย่างพินิจพิเคราะห์ อยู่เป็นเวลานาน เขาก็กัดฟันแล้วพยักหน้า กล่าว“ตกลง!”
“ผมจะลองเชื่อคุณดูสักครั้ง”
“ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณมีอำนาจและความสามารถอะไร กล้าที่จะพูด ว่าสามารถเคลียร์กับมูลนิธิได้”
“แต่ผมรู้ ว่าใบประกาศเกียรติบัตรนี้ มันสำคัญกับหรูยู่เป็นอย่างมาก ไม่ว่ายังไง ผมเองก็จะพยายามเพื่อเธออย่างเต็มที่อีกสักครั้ง!”
“มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำ ส่วนเรื่องที่คุณจะซื้อหุ้นของผมในราคาห้าสิบล้าน——”
“รอก่อนแล้วกัน ตอนนี้ซิงถูยังไม่ได้เซ็นสัญญากับหวงฉาวอย่างเป็นทางการ ไม่แน่ว่าอาจจะยังพอมีทางหนีทีไล่อื่น”
“หากหวางเฉียงจะเซ็นสัญญานั้นจริงๆ ผมก็ค่อยขายมันให้คุณ”
“หากไม่เซ็น หุ้นนี้ ผมก็คงไม่ขาย ซิงถู เป็นเลือดเนื้อของผม!”
ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ได้”
“หลังสามวัน ผมจะรอข่าวดีจากคุณ ”