บัญชามังกรเดือด - บทที่ 53 ตัดริบบิ้น
เห็นฉินเทียนหน้าหม่นลงไม่พูด อู๋เทียนสงก็มีความคิดเข้ามา รีบออกคำสั่งให้คนขับรถไปเอาภาพวาดจากรถมา
เขาถือภาพวาดนี้ ใบหน้าเขาดูตื่นเต้น พูดว่า:“คุณฉิน นี่คือสมบัติที่แสนจะมีค่าที่ผมได้มาจากยุโรป”
“ท่านดูสิ!”
พอเปิดออก บนนั้นเป็นม้าแปดตัวกำลังวิ่งอยู่ ใบหน้าของทุกตัวแตกต่างกันออกไป ดูมีชีวิตชีวาสมจริง
“นี่คือ ภาพม้าแปดพันธุ์ดี?”
“พระเจ้า!”
“นี่คือภาพม้าแปดพันธุ์ดีของท่านสวีเปยหงที่ไม่ได้รับสืบทอด!”ในงาน บางคนเป็นเถ้าแก่ที่มีความรู้รอบตัว พวกเขาต่างพากันอุทาน
“ถูกต้อง!”
อู๋เทียนสงถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดว่า:“นี่คือสมบัติประเทศเรา เคยไปอยู่ในต่างประเทศ ในที่สุดตอนนี้ก็ได้กลับบ้านแล้ว”
“คุณฉิน วันนี้เป็นวันที่ท่านกับคุณซูซูเปิดบริษัทใหม่ ผมเอาภาพวาดนี้เป็นของขวัญให้พวกคุณ”
“ขอให้พวกคุณเฮงๆ ก้าวหน้ายิ่งขึ้น!”
“คุณฉิน ได้โปรดอย่าปฏิเสธ!มีแค่ผู้ที่โดดเด่นท่ามกลางฝูงชนอย่างพวกคุณเท่านั้น ถึงจะเป็นเจ้าของของภาพม้าแปดพันธุ์ดีได้!”
ที่จริงแล้ว ภาพนี้เขาจะเอาให้จางเจี้ยนซวินที่มารับหน้าที่คนใหม่
ตอนนี้ แม้แต่จางเจี้ยนซวินก็ยังให้เกียรติฉินเทียนแบบนี้ เขาจึงเข้าใจดีว่า ควรประจบประแจงใคร
“ฉินเทียน พอเถอะ”หยางยู่หลันพูดเสียงเบา
ถึงภาพม้าแปดพันธุ์ดีจะดี แต่สำหรับฉินเทียนแล้ว ก็แค่ภาพวาดธรรมดา
ก็แค่พอได้ยินเสียงของแม่เขย เขาก็ไม่อยากทำให้เรื่องใหญ่โต ก็พยักหน้า
อู๋เทียนสงรีบวางของขวัญไว้บนโต๊ะด้วยตนเอง
มองเห็นตรงกลาง วางไม้เท้าคู่หนึ่ง ร่มสีดำคันหนึ่ง เขาก็พูดเสียงทุ้ม:“นี่ของขวัญที่ใครให้กัน?”
“ช่างไม่มีแววเสียจริง!”
ซูเหวินเฉิงกับซูหนานตกใจกลัวจนตัวสั่น รีบพุ่งเข้าไป แล้วเก็บ“ของขวัญ”ของพวกเขาออกไป
ในที่สุดอู๋เทียนสงก็โล่งอก รู้ว่าฉินเทียนอภัยให้พวกเขาชั่วคราวแล้ว
เขาต่อว่าอู๋เฟย:“ทำสหพันธ์การแพทย์และยาบ้าบออะไร ไร้สาระจริงๆ!”
“ตั้งแต่นี้ไป ยุบสหพันธ์ทันที ยังไม่รีบขอบคุณคุณฉินกับคุณซูอีก!”
“เดี๋ยวสิ”จางเจี้ยนซวินตะโกนออกมา พูดด้วยรอยยิ้มว่า:“จู่ๆ ผมก็คิดได้ว่า ไม่แย่เลยที่จะก่อตั้งสหพันธ์การแพทย์และยา”
“พวกเราต่างรู้ว่า ชีวิตเป็นเดิมพัน การจัดหาการแพทย์และยา ก็ยิ่งห้ามพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ก่อตั้งสหพันธ์แล้ว ตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นหนึ่งเดียว ควบคุมคุณภาพแบบให้เป็นหนึ่งเดียว จะได้ไม่เกิดความผสมปะปน ถือเป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง ในทุกๆ ด้าน”
“เจ้าสมาคมเถีย สหพันธ์นี้ ก็คืนสู่หัวหน้าสมาคมพวกคุณเถอะ ตอนนี้ คุณเสนอชื่อคนรับผิดชอบที่เหมาะสมเถอะ”
เถียหลินเฟิงรีบพูด:“เลขาธิการจางพูดถูกมาก”
“ผมตัดสินใจว่า คนรับผิดชอบของสหพันธ์ ต้องทำหน้าที่เป็นรองเจ้าสมาคมของสมาคมพวกเราด้วย”
เป็นคนรับผิดชอบสหพันธ์ และยังเป็นรองเจ้าสมาคมของสมาคมด้วย มีเงินสองเท่าเลย!
อู๋เทียนสงตัวสั่นอย่างแรง ครั้งนี้เขารีบกลับมาจากยุโรป เพราะอยากลงสมัครรับตำแหน่งรองเจ้าสมาคมของสมาคม
เถียหลินเฟิงมองไปที่ฉินเทียนเพื่อถาม เขารู้ว่า จากตัวตนของฉินเทียนแล้ว ไม่สนใจตำแหน่งนี้เลย
เขาอยากให้ฉินเทียนเลือกคนที่เหมาะสม
ฉินเทียนคิด แล้วพูดว่า:“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมว่า คนที่มีอำนาจเสนอผู้รับผิดชอบนี้ที่สุด คือคณะกรรมการการแพทย์”
“เจ้าสมาคมหม่า ท่านเสนอชื่อเถอะ”
หม่ายงถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดไปว่า:“คุณหยางยู่หลัน ก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบของคณะกรรมการพวกเรา นิสัยและความสามารถทางธุรกิจของเธอนั้น ทุกคนก็เห็นแล้ว”
“ตอนนี้ ผมขอเสนอคุณหยางยู่หลัน รับหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบของสหพันธ์”
“แบบนี้ พวกเราจะได้สบายใจได้โดยสิ้นเชิง”
หยางยู่หลันรีบอยากจะปฏิเสธ จางเจี้ยนซวินปรบมือพูดว่า:“โอเค!”
“ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้อำนวยการหม่า!”
เลขาธิการจางตกลงด้วยตัวเองแล้ว ใครจะกล้าต่อต้านล่ะ?
ภายใต้การเรียกตัวของอู๋เฟย พวกหลี่เฉิงหนานนั้น เข้าร่วมสหพันธ์ ที่จริงอยากเผชิญหน้ากับคณะกรรมการการแพทย์ และ ฉินเทียน ซูซูกับหยางยู่หลัน
คิดไม่ถึงเลยว่า ตอนนี้ผู้รับผิดชอบจะกลายเป็นหยางยู่หลัน
ตั้งแต่นี้ไป หากพวกเขาอยากได้คุณสมบัติในการจัดหา ก็อยู่ที่หัวหน้าหยางยู่หลัน
“ประธานหยางมีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง ได้เป็นผู้รับผิดชอบนั้นดีสุดๆ แล้ว!”
“ใช่ ประธานหยางเป็นคนเก่าคนแก่ในอุตสาหกรรมของเรา เป็นซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพมานานแล้ว ตอนนี้เป็นผู้รับผิดชอบของสหพันธ์ มีความสามารถจริงๆ”
“ประธานหยาง พวกเราสนับสนุนคุณ!”
คนเจ้าเล่ห์ที่เห็นแกผลประโยชน์กลุ่มนี้ ปรับตัวไปตามสถานการณ์ ทุกคนต่างพากันชื่นชมหยางยู่หลัน
“คุณฉิน คุณซู วันนี้เป็นวังมงคลของพวกคุณ เวลาก็พอประมาณแล้ว ไม่งั้น พวกเราไปตัดริบบิ้นกันเถอะ?”เถียหลินเฟิงสอบถาม
ฉินเทียนส่ายหัว แล้วพูดว่า:“เจ้าสมาคมเถีย คุณเข้าใจผิดแล้ว”
“บริษัทเป็นของภรรยาผม ผมแค่ช่วยเธอก็เท่านั้น”
“ภรรยา ตัดริบบิ้นได้หรือยัง?”
ซูซูเห็นเขาเรียกตัวเองว่าภรรยา ท่ามกลางสาธารณชน ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงและใจเต้นเล็กน้อย
แต่ว่า นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตัวเอง เธอจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ต้องขอบคุณเจ้าสมาคมเถียและเลขาธิการจาง แล้วก็ผู้อำนวยการหม่ามากๆ”
“ตอนนี้ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก เรียนเชิญพวกคุณตัดริบบิ้นร่วมกัน”
“ครับ!”เถียหลินเฟิง จางเจี้ยนซวิน หม่ายง ยินดีมาก
เวลานี้ อู๋เฟยยังคุกเข่าอยู่ที่ใต้เท้าของซูซู ถึงแม้ฉินเทียนไม่เอาความเขาอีก แต่ถ้าไม่พูด เขาก็ไม่กล้ายืนขึ้นมา
ตามองเถียหลินเฟิง จางเจี้ยนซวิน หม่ายงและหยางยู่หลัน เดินขึ้นไปเวที ฉินเทียนพูดเสียงเบา:“ภรรยา ผมเข็นคุณขึ้นไปเอง”
“ไม่ต้อง”
ซูซูพูดออกไป จากนั้นใบหน้าสวยงามก็แดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
เธอลังเลเล็กน้อย กัดฟัน หยิบผ้าห่มที่คลุมขาออก แล้วยืนขึ้นมา
เธอยืนขึ้นมา!
สายตาของผู้ชมทั้งงานต่างตกตะลึง!
ผู้คนต่างรู้ว่า หลังจากเธอได้บาดเจ็บ ท่อนล่างก็เป็นอัมพาต ถูกกำหนดให้เป็นคนพิการไปแล้ว
เอ่อ จะเป็นไปได้ไง?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู๋เฟยที่คุกเข่าอยู่ใต้เท้าซูซู เขาเห็นกับตาว่า นางฟ้าที่บอบช้ำคนนี้ ยืนขึ้นมาต่อหน้าเธอ
นางฟ้าที่เขาเคยอ้อนวอนแต่ไม่ได้มา ตอนนี้ ก็ยิ่งอยู่สูงเกินเอื้อม!
และก็ซูหนาน
เธอตกตะลึงมาก มองดูซูซูที่เปล่งประกายเฉิดฉาย ทันใดนั้นก็รู้สึกละอายใจอย่างมาก
เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ!
เมื่อเทียบกับซูซูแล้ว เธอเทียบไม่ได้แม้แต่ลูกเป็ดขี้เหร่
ภายใต้ความสนใจของทุกคน ซูซูถอนหายใจ เงยหน้าขึ้นเชิดอก ก้าวขึ้นไปที่เวที
มั่นใจมาก สวยมาก!
เวลานี้ เธอที่อาบด้วยแสงอันศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดของพระเจ้า!
“ซูซู!”หยางยู่หลันรีบเข้ามา ร้องไห้อย่างตื่นเต้น ริมฝีปากสั่น และพูดอย่างอื่นไม่ออก
“แม่ ตัดริบบิ้นก่อน”ซูซูพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางยู่หลันมองเห็นฉินเทียนที่อมยิ้มอยู่ด้านข้าง ก็เหมือนจะเข้าใจอะไร เสียงที่เธอได้ยินคืนนั้น เป็นฉินเทียนกำลังรักษาให้ซูซูต่างหาก!
เพิ่งหายดี ซูซูต้องการพักผ่อน รวบรวมกำลัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยืนขึ้นมาในทันที
ตอนนี้ เมื่อมองดูลูกสาวที่เปล่งประกาย เธอรู้สึกจริงๆ ว่า หลังจากที่พระเจ้าล้อเล่นกับเธอ ก็เอาของขวัญโปรยลงมาที่เธออีกครั้ง
“โอเค พวกเราตัดริบบิ้นเถอะ!”เธอเช็ดน้ำตาด้วยความตื้นตัน
หลังจากตัดริบบิ้น ก็ประกาศก่อตั้งบริษัทซูยู่ขึ้นอย่างเป็นทางการ
บริษัทใหม่ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น สามารถเชิญเลขาธิการท้องถิ่น เจ้าสมาคมของสมาคม คณะกรรมการการแพทย์มาเข้าร่วมและตัดริบบิ้นได้ เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน
“เลขาธิการจาง เจ้าสมาคมเถีย ผู้อำนวยการหม่า และก็ทุกคน รีบนั่งเถอะ!”
“ลำบากมาตั้งนาน พวกเราจะเริ่มอาหารกลางวันแล้ว”หยางยู่หลันทักทายอย่างตื่นเต้น
ทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันนี้ พวกเขาพากันนั่ง ทันใดนั้น ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความสุข
“ใครคือฉินเทียน?”ตอนนี้เอง ตรงหน้าประตูใหญ่ จู่ๆ ก็มีเสียงที่ฟังดูเย็นชาเข้ามา
ถึงแม้เสียงจะไม่ดัง แต่ความอาฆาตและร้ายกาจในนั้น ทำให้ทุกคนตัวสั่น
พวกเขาเงยหน้ามองขึ้นไปพร้อมกัน