บัญชามังกรเดือด - บทที่ 537 กล่าวโทษด้วยความโศกเศร้า
บัญชามังกรเดือด บทที่ 537 กล่าวโทษด้วยความโศกเศร้า
ในที่สุดฟ้าก็สว่างแล้ว
เจ็ดโมงครึ่ง จวี้อี้ถังที่โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาว ทั้งตึกห้องอาหารก็เริ่มรับประทานอาหารในเวลาเดียวกัน
อาหารป่าที่หายากและอาหารทะเลแต่ละชนิดมีทุกอย่าง
รวมหัวหน้าของตระกูลเล็กใหญ่เหล่านั้นไว้ที่นี่ อีกทั้งคนเก่งมีความสามารถของแต่ละยุทธจักร กินข้าวให้อิ่มหนำสำราญ
แปดโมง ออกเดินทางตรงตามเวลา
คนนับร้อย รถหนึ่งร้อยกว่าคัน ฉากยิ่งใหญ่อลังการมาก เจี่ยงเส้าที่รับผิดชอบให้ความร่วมมือทำงานยุ่งจนเหงื่อไหลท่วมทั้งตัว
จัดการทำเรื่องตลอดครึ่งชั่วโมง ถึงทำให้ทุกคนมีตำแหน่งที่นั่งของตัวเอง
เขานั่งในรถคันแรกอยู่เป็นเพื่อนลิเหลียง ด้านหลังก็เป็นเฉินเถิง หยางหยวนชิ่ง หม่าจั๋วชุนและตระกูลอื่นๆ
เรียงตามลำดับ ออกจากเมือง ขับมุ่งหน้าไปตำบลเซวียนหยวนซึ่งห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร
จากทางเข้าตำบล ขับมุ่งหน้าไปอีกห้ากิโลเมตรก็คือเวทีเซวียนหยวน
นั่นเป็นบริเวณในหุบเขา เวทีหินธรรมชาติขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ด้านบนลึกประมาณครึ่งฟุต กว้างสี่นิ้วมีรอยร้าวยาวถึงสิบเมตร
ตามคำร่ำลือ เป็นกษัตริย์เซวียนหยวนทำสงครามต่อสู้กับชือโหยวที่นี่ ใช้ดาบเซวียนหยวนในมือฟันแยกออกมา
สุดท้ายกษัตริย์เซวียนหยวนเอาชนะชือโหยว
ดังนั้นที่นี่ก็ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่หนึ่ง โดยเฉพาะคือห่างจากเมืองจิ่นหูค่อนข้างใกล้ ปกตินักท่องเที่ยวเยอะมาก
แต่ตอนนี้รอบ ๆ สิบกิโลเมตรทั้งหมดต่างก็ถูกเคลียร์ให้ว่างเปล่า อีกทั้งมีมาตรการการป้องกันอย่างเข้มงวด
มองเห็นขบวนรถหยุดลงอย่างช้า ๆ หัวหน้าคนชุดดำหันวิ่งไปทางรถคันแรกอย่างตื่นเต้น
“คุณชาย ต่างก็ได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว”
ลิเหลียงพยักหน้าพูดอย่างดีใจ“ลำบากพวกคุณทีมเสินเฟิงแล้ว”
“เสินเฟิง เดี๋ยวคุณตามข้างกายผม”
“ครับ!”
รถทั้งหมดต่างก็จอดบนพื้นที่ว่างด้านนอก คนนับร้อยเดินตามลิเหลียง เดินเข้าไปข้างในจากปากทางเข้าหุบเขา
เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดังนั้นสิ่งปลูกสร้างรอบ ๆ ครบครันมาก
รอบ ๆ เวทีเซวียนหยวนยังมีศาลาหกเหลี่ยมมากมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน
เมื่อก่อนอยากที่จะขึ้นเวทีเซวียนหยวนต่างก็ต้องเก็บค่าใช้จ่าย
นาทีนี้บันไดตึกที่ผ่านเวทีเซวียนหยวน ถูกประตูรั้วเหล็กล็อคขึ้นมาอย่างแน่นหนา
มองเห็นดาบหินยักษ์สลักด้ามหนึ่งนอนราบบนเวที ลิเหลียงเหมือนมองเห็นความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์เซวียนหยวนในยุคโบราณ
และเกียรติยศอันนี้ในวันนี้เป็นของเขา !
ทั้งเจ็ดเมืองทางใต้มีพลังศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้ทรัพย์สินของตระกูลเล็กใหญ่เหล่านี้รวมกันขึ้นมาก็มีนับล้านล้านแล้ว
พอกลายเป็นผู้นำ เขาก็สามารถควบคุมอุตสาหกรรมนับล้านล้านนี้ได้
ด้วยเหตุนี้ เขามีความมั่นใจไปแข่งกับพลังที่แข็งแกร่งใด ๆ ทั่วประเทศแม้กระทั่งต่างประเทศด้วย
“อาเจี่ยง เชิญขึ้นเวทีเถอะ”
“คุณเป็นพิธีกร” สงบสติอารมณ์ที่ตื่นเต้น เขาก็ฟื้นคืนภาพลักษณ์ของคุณชายที่อ่อนโยนใจดีและใจกว้างคนนั้นมาอีก
“ลิเหลียง โอกาสของพวกเรามาแล้ว!”
“คุณพักผ่อนก่อน ผมจัดการเอง!”เจี่ยงเส้าดูเหมือนตื่นเต้นกว่าลิเหลียงเสียอีก
รั้วเหล็กถูกเปิดออก เขามาถึงบนเวทีอย่างตื่นเต้น
มองกลุ่มคนที่หนาแน่นด้านล่างเวที เขาใช้ไมโครโฟนที่เตรียมพร้อมไว้นานแล้วพูดเสียงดัง“ทุกท่าน เงียบ!”
“ตอน นี้ยังไม่ถึงเวลาที่ลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการ ยังมีเจ้าบ้านหลายท่านยังมาไม่ถึง ขอให้ทุกท่านรออย่างอดทน อย่าใจร้อน”
“ฟังผมพูด ทุกคนเอาตามเขตพื้นที่บริหารของเมืองที่ไม่เหมือนกัน ยืนแยกเป็นทีม”
ภายใต้คำชี้แนะของเขา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนก็แบ่งเป็นสองสามทีมแล้ว
แบ่งเป็นเมืองซื่อไห่ เมืองหยุนชวน เมืองตงหัว เมืองฝูหลิง เมืองหนานเจียง เมืองเป่ยเจียง
เขตพื้นที่บริหารสองสามเมืองนี้ นอกจากหลินตงผู้รับผิดชอบของเมืองตงหัว และเหยียนซิวผู้รับผิดชอบของเมืองฝูหลิงอยู่ในสถานที่
ที่เหลือตระกูลจี้แห่งซื่อไห่ อานกั๋วแห่งหนานเจียง หลินหลงแห่งเป่ยเจียง จ้าวเทียนเผิงแห่งหยุนชวนต่างก็ยังมาไม่ถึง
ส่วนเมืองอู่หูก็เป็นห้าตระกูลใหญ่ พวกเขาเวลานี้ต่างก็นั่งในศาลาหนึ่งแล้ว
มองเห็นในสถานที่งานแบ่งออกเป็นแถวแล้ว เจี่ยงเส้าดื่มน้ำอึกหนึ่ง พูดเสียงดังอีกครั้ง“ตอนนี้ ผมประกาศกติกาการเลือกตั้งผู้นำ”
“ทุกคนก็มองเห็นแล้ว อยู่ที่ด้านหลังของผมมีเก้าอี้ทั้งหมดสิบเอ็ดตัว”
“เก้าอี้สิบเอ็ดตัวนี้เป็นตัวแทนสิบเอ็ดใบ ผู้รับผิดชอบสมาคมของหกเมือง บวกกับพวกเราห้าตระกูลใหญ่ของเมืองจิ่นหู”
“ตอนนี้ ขอให้ผู้รับผิดชอบและเจ้าบ้านที่มาถึงสถานที่งานแล้ว ขึ้นมาบนเวที!”
ภายใต้การเรียนเชิญของเขา ลิเหลียง หยางหยวนชิ่ง เฉินเถิง หม่าจั๋วชุน หลินตงและเหยียนซิว ขึ้นบนเวทีตามลำดับ นั่งบนเก้าอี้แล้ว
เก้าอี้ที่เหลือ นอกจากมีตัวหนึ่งเป็นของเจี่ยงเส้า ที่เหลือยังมีสี่ตัว
บนพนักเก้าอี้ด้านหลังติดกระดาษโน๊ตอยู่ เขียนว่าหนานเจียง เป่ยเจียง หยุนชวนและซื่อไห่
ผู้รับผิดชอบของเขตพื้นที่บริหารสี่เมืองนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้มาถึง
อาศัยโอกาสนี้ เจี่ยงเส้ายืนบนเวทีหยิบไมโครโฟนด่าประนามการทำความผิดของฉินเทียน
ยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ถึงสุดท้ายสองดวงตาแดงแล้ว
นี่ไม่ใช่เสแสร้งออกมา คิดถึงลูกสาวที่รักของตัวเองนั่น ถูกฉินเทียนเดรัจฉานนั่นทรมานทั้งคืน เขาพ่อแก่คนนี้ตื่นเต้นจนหนวดสั่น ปวดใจมาก!
เป็นลิเหลียงยืนออกมาอย่างกล้าหาญในช่วงเวลาที่สำคัญ รับปากแต่งงานกับลูกสาวของเขา ถึงทำให้เจี่ยงเถียนเถียนหาความหวังที่จะมีชีวิตต่อไปอีกครั้ง
ยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ พ่อลูกพวกเขาสองคนจะมีจุดจบแบบไหน
ฟังการกล่าวโทษของเขาแล้ว เจ้าบ้านสองสามท่านที่เหลือต่างก็คิดถึงเรื่องเศร้าใจ
“ไอ้ฉินเทียน ฆ่าปีศาจดำและปีศาจขาวของฉันอย่างโหดร้าย!”
“ตระกูลหยางอยู่ร่วมโลกกับเขาไม่ได้!”หยางหยวนชิ่งยืนขึ้นมาคำรามด้วยความโกรธ
ฟังคำพูดของเขาแล้ว เถ้าแก่น้อยใหญ่เหล่านั้นที่ด้านล่างเวทีที่มีการคบหากับตระกูลหยางได้ร้องตระโกนพร้อมกัน
“ฆ่าฉินเทียน!”
“ฆ่าคนชั่วที่เนรคุณคนนี้!”
เฉินเถิงก็ยืนออกมาแล้ว พูดอย่างตื่นเต้น“ยังมีพวกเราตระกูลเฉิน!”
“สามพี่น้องพญายมสามตาของตระกูลเฉิน ทั้งหมดต่างก็ตายในมือของฉินเทียน!”
“ไม่ตายพวกเราจะไม่เลิกลากับเขา!”
คนที่สนับสนุนตระกูลเฉินร้องตระโกนไม่ตายจะไม่เลิกลา!
พวกเขาต่างก็แสดงท่าที หม่าจั๋วชุนลังเลเล็กน้อยก็พูดเสียงดัง“ฉินเทียนฆ่าบูชาอู่ของฉัน ลักพาตัวลูกชายของฉัน!”
“ความแค้นนี้ไม่ชำระ สาบานจะไม่เป็นคน!”
ด้านล่างเวที เถ้าแก่ที่ทำขนส่งสินค้าเหล่านั้นของสมาคมแก๊งค์หม่าโห่ร้องพร้อมกัน“ความแค้นนี้ไม่ชำระ!”
“สาบานจะไม่เป็นคน!”
จากนั้นเป็นหลินตงและเหยียนซิว
พวกเขากล่าวโทษอย่างเศร้าโศกเสียใจมาก ฉินเทียนเคยมาพื้นที่ของพวกเขา พวกเขาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น เห็นฉินเทียนเป็นเพื่อน
คิดไม่ถึงฉินเทียนเนรคุณอย่างนี้ เพื่อบีบบังคับพวกเขาให้ลงคะแนนเสียง กระทั่งบุกรุกเข้าบ้าน ฆ่าองครักษ์ของตน
พวกเขาสองคนพูด คนของเมืองตงหัวและเมืองฝูหลิงที่อยู่ด้านล่างเวทีก็เกลียดศัตรูเหมือนกัน
เถ้าแก่และคนในยุทธจักรที่รีบมาจากหนานเจียง เป่ยเจียง หยุนชวนและเมืองซื่อไห่เหล่านั้นที่เหลือก็มองหน้ากัน
นาทีนี้พวกเขาจู่ ๆ ไม่พอใจเล็กน้อยต่อผู้นำของเขตพื้นที่บริหารเมืองของตัวเอง
งานประชุมผู้นำ งานประชุมทวงหนี้เลือดจากศัตรู เรื่องที่สำคัญอย่างนี้ ผู้นำของพวกเขาทำไมถึงมาช้าได้ล่ะ
นี่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีหน้าตาเล็กน้อย
“ฉินเทียนฆ่าคุณชายน้อยจี้ คนทั้งเมืองซื่อไห่ต่างก็อยากฟันมันเป็นชิ้นๆแล้วให้หมากิน!
“วันนี้ถ้าเขากล้ามา ผมเจียวไท่เป็นคนแรกที่สู้!”
ผู้ชายคนหนึ่งมือกำมีดเหล็ก คำรามเสียงดังด้วยความโกรธ
เขามีชื่อว่าเจียวไท่ เปิดยิมศิลปะการต่อสู้ที่เมืองซื่อไห่ ปกติได้รับการดูแลของตระกูลจี้ไม่น้อย
เจ็ดปีก่อน หลังถูกจี้ซิงอายุสิบกว่าปีทำให้พ่ายแพ้แล้ว เจียวไท่ก็ยืนยันว่าจี้ซิงก็คืออู๋ฉวี่ซิงที่ฟ้าส่งมาเกิดให้กับศิลปะการต่อสู้ของเมืองซื่อไห่ให้มีการพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรือง
ดังนั้นความใฝ่ฝันที่ใหญ่ที่สุดของเขาก็คือเข้าร่วมตระกูลจี้ ถึงแม้ว่าเป็นคนติดตามเล็ก ๆ ให้กับจี้ซิงก็พึงพอใจ