บัญชามังกรเดือด - บทที่ 540 ประจานต่อหน้า
บัญชามังกรเดือด บทที่ 540 ประจานต่อหน้า
ฟังคำพูดของพวกเขา ในงานก็วุ่นวายขึ้นมาแล้ว
หรือว่าทุกคนไม่ใช่เห็นด้วยเป็นเอกฉันท์ต้องการเลือกลิเหลียงเหรอ?ทำไมสามเมืองนี้กลับเปลี่ยนแปลงกระทันหันแล้ว?
ถึงแม้พวกเขาไม่ได้ประกาศปฏิเสธเลือกตั้งลิเหลียงออกมา แต่เงื่อนไขที่เสนอออกมาคือสงสัยและรังเกลียดลิเหลียง
อีกทั้งพวกเขาพูดเต็มปากให้ลิเหลียงเรียกฉินเทียนออกมาซักถามต่อหน้า มีเพียงฉินเทียนยอมรับพวกเขาถึงยืนยันว่าฉินเทียนเป็นฆาตกร
ฉินเทียนเป็นฆาตกรเรื่องนี้ หรือว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกกำหนดไว้นานแล้วเหรอ?
ทำไมฟังไปแล้ว อยากที่จะพลิกจังหวะคดีบางอย่างล่ะ?
ไม่ได้รอคนอื่นพูด หลิวชิงเหยาทนไม่ไหวก่อนแล้ว
“อาจ้าว อาหวัง พวกคุณนี่คือหมายความว่ายังไง?”
“อย่างอื่นไม่พูด หรือว่าที่จี้ซิงถูกฉินเทียนตีตายด้วยมือของตัวเอง นี่ยังสามารถเป็นเท็จได้เหรอ?”
“พวกคุณ……คงจะไม่กลัวฉินเทียนหรอกใช่ไหม?”
เผชิญหน้ากับท่าทางที่ตื่นเต้นของหลิวชิงเหยา จ้าวจิ่วรี่และหวังเยว่ ต่างมีท่าทางที่ซับซ้อนบางอย่าง
พวกเขาเหมือนเห็นใจ มีคำพูดมากมายแต่ไม่สะดวกพูดออกมาอีก
จ้าวจิ่วรี่ตั้งแต่ไหนมาไม่รู้จะพูดความในใจยังไง เลยหันหน้าเอาความผิดอันนี้โยนให้หวังเยว่แล้ว
หวังเยว่ยิ้มพูดอย่างอึดอัด“นายหญิง ความแค้นของคุณชาย พวกเราจะต้องแก้แค้นแน่นอน”
“แต่ตอนที่มาคุณท่านกำชับแล้ว ระหว่างพวกเรากับฉินเทียนเป็นความแค้นส่วนตัว”
“ปีศาจนั่นที่ฆ่าพวกเส้นทางความคิดเดียวกับเจ็ดเมืองทางใต้ก็คือความแค้นส่วนรวม”
“ตระกูลจี้ใช้ความเมตตาปฏิบัติต่อผู้คนในสังคม จะต้องทำให้ชัดเจนระหว่างส่วนตัวและส่วนรวม”
“คุณวางใจ ไม่ว่าเป็นความแค้นส่วนรวมหรือความแค้นส่วนตัว ถึงสุดท้ายพวกเราต่างก็ต้องแก้แค้นเพียงแต่ต้องแยกแยะชัดเจน”
“ฉันไม่คิดว่านี่มีความแตกต่างอะไร!” หลิวชิงเหยาฮึอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง โกรธจนหันหน้าแล้ว
ถึงแม้ไม่พอใจแต่ก็ไม่พูดอะไรมากอีก
ยังไงฐานะของหล่อนยังคงมีความอึดอัดเล็กน้อย เรื่องนี้หล่อนยังคงต้องฟังคนของตระกูลจี้
เจี่ยงเส้าทนไม่ไหวแล้ว พูดอย่างโมโห“พวกคุณนี่คือตั้งใจสร้างความวุ่นวาย!”
“ตอนนี้คุณชายลิเหลียงได้รับหกคะแนนเสียงแล้ว บวกกับคะแนนเสียงหนึ่งนั่นของตัวเขาเองได้เป็นเจ็ดเสียงแล้ว”
“เอาตามกฏเขาเป็นผู้นำแล้ว ผมถามความคิดเห็นของพวกคุณก็แค่ให้หน้าแก่พวกคุณ”
“ก็คือไม่มีคะแนนเสียงของพวกคุณก็ไม่สำคัญแล้วอย่างสิ้นเชิง!”
เขาพูดถูก คนเหล่านั้นที่สนับสนุนลิเหลียงที่อยู่ข้างบนข้างล่างเวทีทยอยพยักหน้า
หยางหยวนชิ่งยิ้มอย่างเย็นชา พูด“เจ้าบ้านสองสามท่าน ผมเตือนพวกคุณ รับรู้แนวโน้มของยุคสมัยให้คนฉลาดเป็นวีรบุรุษที่โดดเด่น”
“คุณชายลิเหลียงเป็นผู้นำ สำหรับเจ็ดเมืองทางใต้แล้วเป็นเรื่องที่ดีมาก”
“พวกคุณก็คือไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงเพื่อเถ้าแก่เหล่านั้นของเขตพื้นที่บริหารเมืองพวกคุณหน่อยนะ”
คำพูดนี้ก็มีความหมายที่ข่มขู่บ้างเล็กน้อยแล้ว เห็นชัดมากถ้าหากพวกเขาผู้นำสองสามคนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ อย่างนั้นเถ้าแก่เหล่านั้นของเขตพื้นที่บริหารเมืองพวกเขาก็จะได้รับการโจมตี
ด้านล่างเวทีเป็นเถ้าแก่เหล่านั้นของเมืองซื่อไห่ เมืองหนานเจียงและเมืองเป่ยเจียงต่างก็เปิดเผยสีที่สงสัยออกมาแล้ว
แต่เพราะเวลาปกติสองสามหัวหน้าตระกูลนี้ต่างก็ปฏิบัติต่อพวกเขาไม่เลว แต่ละเขตพื้นที่บริหารเมืองของตัวเองต่างก็มีชื่อเสียงและบารมีมาก ดังนั้นพวกเขาอดทนอยู่ไม่ได้พูด
เฉินเถิงก็เริ่มเพิ่มแรงกดดัน
เผชิญหน้ากับแรงกดดันแต่ละชนิด หวังเยว่เป็นตัวแทนสามเขตพื้นที่บริหารเมือง ไม่ยอมแพ้แม้แต่นิด
เขาพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม“ผมรู้ สร้างพันธมิตรทางธุรกิจเป็นเรื่องที่ดีและก็เป็นเรื่องใหญ่”
“ก็เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นถึงควรจะยิ่งระมัดระวังและรอบคอบ”
“ไม่ให้ฆาตกรที่ทำผิดได้รับโทษตายต่อหน้า จะให้ทุกคนมีใจที่ยินยอมได้ยังไง!”
“เลือกผู้นำก่อนหรือกำจัดปีศาจก่อน เรียงลำดับอันนี้ผมคิดว่าทุกคนต่างก็น่าจะแยกแยะชัดเจน!”
“อีกอย่างพวกคุณไม่ต้องใส่ใจสองสามคะแนนเสียงนี้ของพวกเราได้”
“แต่พออย่างนั้นแล้ว พันธมิตรทางธุรกิจของเจ็ดเมืองทางใต้ยังเป็นกลุ่มที่สมบูรณ์ไหม?”
ความหมายก็คือ พวกคุณไม่ใส่ใจพวกเราได้แต่พวกเราก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของพวกคุณได้เหมือนกัน ไม่รับผู้นำของพวกคุณ
คำพูดนี้ก็คือตอบโต้กลับแล้ว
เจี่ยงเส้าโกรธจนตาแดงแล้วอดไม่ได้ที่จะบุกขึ้นไปต่อยหวังเยว่แรง ๆ สักรอบ
แต่เขารู้ถึงแม้หวังเยว่มองไปแล้วร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ แต่เป็นปรมาจารย์แน่นอนถ้าหากเขาขึ้นไปจะมีแต่หาเรื่องดูถูกตัวเอง
หม่าจั๋วชุนลังเลเล็กน้อย ยิ้มพูดอย่างอึดอัด“ผมกลับคิดว่าคำพูดของสหายหวังเยว่ก็มีเหตุผลนะ”
“คุณชายลิ เจ้าบ้านเจี่ยงไม่งั้นพวกเรารออีกหน่อย?”
“นัดกับฉินเทียนคือเที่ยงวัน ก็ไม่นานแล้วพวกเราก็รอเขามาเลยแล้วกัน ยันกันให้ชัดเจนต่อหน้า”
“ถ้าหากคดีโศกนาฏกรรมเหล่านั้นเป็นเขาที่ทำจริง ๆ ก็ขอให้คุณชายลินำทุกคนไปฆ่าต่อหน้า!”
“เป็นอย่างนั้นแล้วก็ไม่มีคนพูดนินทาอีกแล้ว”
หยางหยวนชิ่งพูดอย่างอารมณ์เสีย“เหล่าหม่า คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
“ทำไมคุณก็เริ่มพูดจาชนิดนี้?”
หม่าจั๋วชุนหุบปากลงแล้วอย่างอึดอัด ตอนนี้ที่รู้สึกไม่สบายที่สุดก็คือเขาแล้ว
เขาก็คือไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้าตอบโต้กับลิเหลียงเหมือนตระกูลจี้ หลินหลงและอานกั๋วอย่างนั้น ไม่สามารถแข็งใจมองเห็นฉินเทียนถูกตีตกลงในนรกชั้นสิบแปดได้อีกจริง ๆ
มีการอธิบายของหวังเยว่แล้ว อีกทั้งการสนับสนุนของหม่าจั๋วชุน ด้านล่างเวทีมีบางคนก็รู้สึกนี่ถึงเป็นลำดับที่ปกติ
กำจัดปีศาจก่อนพิสูจน์พลังของตัวเอง จากนั้นขึ้นตำแหน่งผู้นำอย่างถูกต้องมีเหตุผล
อย่างนี้ก็ยิ่งสามารถให้ทุกคนมีความเลื่อมใสและศรัทธา
สีหน้าของเจี่ยงเส้าน่าเกลียด มองไปทางลิเหลียงอย่างขอความคิดเห็นแล้ว
ใช้ความหมายของเขา ไม่สนใจคนเหล่านี้แล้วประกาศเลือกลิเหลียงให้เป็นผู้นำเลยโดยตรง
สองสามคนนี้ถ้าหากไม่ยินยอม อย่างนั้นก็ปราบปราม!
ถงเหรินและเสินเฟิงที่อยู่ด้านข้างลิเหลียง ดวงตาทั้งหมดก็เปิดเผยความคิดฆ่า
ลิเหลียงเงียบไม่พูด เพราะอะไรเขาต้องเลือกเป็นผู้นำก่อน แล้วค่อยฆ่าฉินเทียน?ก็คือรู้ว่าเหตุการณ์นี้ที่จริงแล้วมีช่องโหว่มากมาย
พอมีการยันกันต่อหน้า ฉินเทียนไม่ยอมรับอย่างนั้นเขาก็เอาหลักฐานอะไรออกมาไม่ได้
เขาสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ ก็คืออาศัยการกระตุ้นอารมณ์ของทุกคน
รอเขาเป็นผู้นำแล้ว เหล่านี้ก็ไม่สำคัญแล้วเดิมทีเขาจะไม่ให้โอกาสฉินเทียนได้โต้แย้งใด ๆ
แต่ตอนนี้ตระกูลจี้ออกหน้านำ ต้องการให้ฉินเทียนมายันกัน เรื่องก็ทำได้ไม่สะดวกเล็กน้อย
เห็นชัดว่าฉินเทียนฆ่าคุณชายน้อยของตระกูลจี้แล้ว เพราะอะไรตระกูลจี้ยังต้องปกป้องเขาล่ะ?
ยังมีหลินหลง มีความแค้นที่ฆ่าสามีกับฉินเทียน
อานกั๋วของหนานเจียง ถึงแม้ก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับฉินเทียน แต่ฉินเทียนตัดแขนข้างหนึ่งของจุยเฟิงแล้ว!
จุยเฟิงเป็นนายพลที่รักและไว้วางใจ
เอาตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเขาต่างก็สมควรที่จะเกลียดฉินเทียนมากนะ!
ยังมีจ้าวเทียนเผิงที่ไม่ได้ปรากฏตัวคนนั้น เขาทำอะไรอยู่อีก?
เดิมทีเป็นเกมหมากรุกที่มีความมั่นใจเต็มร้อยที่จะได้รับชัยชนะ ตอนนี้จู่ ๆ ลิเหลียงเริ่มรู้สึกมีความไม่สงบเล็กน้อยแล้ว
ก็เหมือนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สะสมน้ำเต็ม เขารู้สึกถึงเหมือนเขื่อนที่มั่นคงแข็งแรงดูเหมือนจะปรากฏช่องโหว่เล็ก ๆ แล้ว
เรื่องเล็กไม่ระวังจะทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่
เหตุผลนี้ เขาไม่ใช่ไม่เข้าใจ
ถ้าหากสองสามตระกูลนี้เสนอความคิดเห็นอันนี้ออกมาเร็วสักหน่อย เขาจะคิดหาวิธีจัดการอย่างแน่นอนใช้วิธีการฆ่าที่โหดร้ายอย่างไม่เสียดาย
แต่พวกเขากลับเสนอออกมาในเวลานี้
ต่อหน้าความคิดเส้นทางเดียวกันของเจ็ดเมืองทางใต้ ทำให้ลิเหลียงยากที่จะต่อต้านได้
“น้องชาย ฉันคิดว่าเถ่าแก่สองสามท่านนี้พูดก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล……”
“ไม่งั้นก็เรียกฉินเทียนมายันกันต่อหน้าสักหน่อยแล้วกัน”
“ฉันต้องการให้เขาบอกฉันด้วยปากของเขาเอง!” จู่ ๆ ลิฉุนที่นั่งอยู่ด้านหลังลิเหลียงคิดไม่ถึงเอ่ยปากแล้ว
ถึงแม้หล่อนเป็นผู้หญิง เวลาปกติก็มีคนรู้น้อยมากแต่ฐานะของหล่อนพิเศษมากแล้ว
กระทั่งไม่ต่ำกว่าลิเหลียงแม้แต่นิด
คุณหนูใหญ่ของตระกูลลินะ
ทิ้งความคิดให้ความสำคัญกับผู้ชายและดูถูกผู้หญิง เอาตามหลักเหตุผลแล้วหล่อนถึงจะเป็นคนที่สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูลลิ
คุณหนูใหญ่ลิเอ่ยปากด้วยตัวเอง ต้องการให้ฉินเทียนมาเผชิญหน้ากัน ในงานฮือฮาเป็นบริเวณ