บัญชามังกรเดือด - บทที่ 576 ไม่ค่อยปกติ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 576 ไม่ค่อยปกติ
ในความเป็นจริงแล้ว วันหยุดก็มาที่บริษัท หลิวชิงแค่ต้องการสงบสติอารมณ์ลง และคิดหาทางที่ดีต่อไป
ในช่วงเวลาหนึ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองที่ซูยู่กรุ๊ป และช่วยซูซูจัดการเรื่องราว
แต่ภายในใจของเธอ กลับไม่ได้อยู่ที่นี่เลย
ตัวเธอเอง เธอก็ชื่นชอบบรรยากาศโดยรอบและผู้คนของที่นี่ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความฝันที่เธอไล่ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเล็กน้อยมาก
ตั้งแต่เด็กนางก็เป็นคนที่รู้ชัดเจนว่าตนเองต้องการอะไร และไม่เคยปล่อยให้ปัจจัยที่ไม่จำเป็น มาขัดขวางก้าวย่างของตนเอง
บัดนี้ฉินเทียนกลายเป็นผู้นำของเจ็ดเมืองทางใต้ ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ว่า การพัฒนาต่อจากนี้ของซูยู่กรุ๊ป ก็คงจะไปได้สวย
หรืออาจจะใช้เวลาไม่กี่ปี ก็สามารถเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำของประเทศได้
ฉะนั้น หลิวชิงรู้สึกว่า ถึงเวลาต้องจากไป
กลับสู่บริษัทแม่ และเลื่อนตำแหน่งสูงอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ในแผนการของเธอ เธอต้องการจะเป็นCEOของเทียนฟู่ แคปปิตอล และก็เป็นตำแหน่งนั้นของมิเชล
กับราชวงศ์ทวีปยุโรป กับผู้มีอิทธิพลของดูไบ กับผู้ทำธุรกิจน้ำมันปิโตรเลียม กลายเป็นราชินีทุนนิยมที่แท้จริง
ฉะนั้น ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างยากที่จะเอ่ย ถึงแม้จะรู้ว่าฉินเทียนและซูซู จะต้องเหนี่ยวรั้งอย่างแน่นอน
แต่เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว
ไม่คาดคิดว่า แผนการที่สวยหรู ต้องล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะโทรศัพท์จากฉินเทียน
เธอคาดไม่ถึงว่า……จะถูกไล่ออก!
อีกทั้งเถ้าแก่ใหญ่ยังเป็นคนเอ่ยปากด้วยตัวเอง
สิ่งนี้สำหรับเธอผู้ที่มีความรู้ความสามารถค่อนข้างสูงแล้ว มันช่างน่าอับอายขายหน้าเสียจริงๆ!
ฉะนั้น เธอจะต้องถามให้ชัดเจน!
เธอหลิวชิง จะไม่ยอมให้คนอื่นมาบงการโดยเด็ดขาด!
“อะแฮ่ม ประธานหลิว อย่าตื่นเต้นไปเลย……..”
ฉินเทียนก็ตกใจอย่างมาก เมื่อเห็นท่าทีของหลิวชิง ก็คล้ายกับว่าจะกระโดดมากัดตนเองในวินาทีถัดไป
เขาก็ตระหนักได้ว่า ตนเองค่อนข้างเอาแต่ใจ หรือจะพูดได้ว่า วิธีการค่อนข้างง่ายและป่าเถื่อน
“นั่น เกี่ยวกับกับความสัมพันธ์ของฉันกับเหล่าจู อันที่จริงคือ……..”
“เป็นอย่างไร?” หลิวชิงจ้องเขม็ง แล้วกล่าวถามอย่างนิ่งๆ
“ก็คือ คุณก็เห็นนี่ ว่าเขากินจนอ้วนใช่ไหมล่ะ?”
“หืม?”
“สิ่งนี้กับความอ้วนเกี่ยวอะไรกัน?”
“แน่นอนว่าอ้วนก็ไม่ดีสิ!”
“เหมือนกันกับคุณไง รูปร่างดีขนาดนี้ เพียงแค่เห็นก็รู้ว่ามีวินัยในตัวเองอย่างมาก เป็นคนที่ให้ความใส่ใจทั้งภายในและภายนอก”
หลิวชิงหน้าแดง: “เฮ้อ!”
“สิ่งนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน”
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ!”
ในที่สุดฉินเทียนก็นึกถึงคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้
“อ้วน ร่างกายก็ไม่ดีไง สิ่งนี้คุณก็ทราบดี อันที่จริง เหล่าจูก็เป็นโรคด้วย”
“อืม เพราะว่าอ้วนจึงทำให้เกิดโรค เบาหวาน ความดัน และไขมันในเลือดสูง”
หลิวชิงพยักหน้า แล้วกล่าวด้วยจิตสำนึกว่า: “นี่ก็เป็นไปได้……”
ฉินเทียนรีบกล่าวว่า: “ใช่แล้วล่ะ!”
“เหล่าจูสุขภาพร่างกายไม่ดี และฉัน พอดีว่ามีงานวิจัยและประสบการณ์ เกี่ยวกับการฝังเข็มและการรมยา”
“เขามาพบฉัน และให้ฉันรักษาโรคให้เขา”
“ใช่แล้ว รักษาโรค!”
“ฉันฝังเข็มเพื่อลดระดับไขมัน และลดความดันให้เขา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกายให้แก่เขา”
“มิตรภาพอันลึกซึ้งของพวกเรา ได้ก่อตัวขึ้นจากสิ่งนี้!”
“จริงเหรอ?” หลิวชิงค่อนข้างสงสัย เธอรู้สึกว่าฉินเทียนกำลังล้อเล่นอยู่ แต่เมื่อฟังดูแล้วก็เหมือนกับว่ามีเหตุผล และไม่มีความผิดปกติ
ฉินเทียนตบหน้าอกเพื่อเป็นการรับประกันว่า มันเป็นเรื่องจริง จริงเสียยิ่งกว่าทองคำแท้
หลิวชิงเงียบต่อไป เธอรู้สึกลังเลใจ
“พูดเช่นนี้ ต่อไปฉันก็สามารถอยู่ได้แค่ที่ซูยู่กรุ๊ปเหรอ?”
ถึงแม้จะค่อนข้างใจสั่น แต่ถึงอย่างไรอนาคตที่สดใส ก็พังทลายลงในทันใด เธอยังค่อนข้างรู้สึกหดหู่
ฉินเทียนทอดถอนใจ แล้วกล่าวว่า: “เรื่องนี้ ไม่อาจบีบบังคับได้”
“ถ้าหากคุณไม่เต็มใจ ฉันก็จะโทรศัพท์ไปหาเหล่าจูอีกที ให้คุณกลับไปก็ได้”
หลิวชิงเงียบไปเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “คุณให้เวลาฉันได้คิดสักหน่อยนะ………”
“คุณคิดจริงๆ เหรอว่า สักวันหนึ่ง ซูยู่กรุ๊ป จะสามารถครอบครองสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั้นได้?”
ฉินเทียนยิ้มแล้วกล่าวว่า: “เราควรจะมีความฝันสิ ถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงๆ ล่ะ?”
“คุณไม่คิดเหรอว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนคนหนึ่งคือสถานภาพ? ฉะนั้น ทำไมถึงไม่ทำให้สถานภาพของตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นอีกล่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินเทียนดูสงบนิ่ง และคล้ายกับเต็มไปด้วยความมั่นใจ แววตาของหลิวชิง จึงแสดงความแตกต่าง
เธอคิดมาโดยตลอดว่า ตนเองเป็นคนที่มีสถานภาพยิ่งใหญ่อย่างมากคนหนึ่ง กระทั่งเป็นผู้หญิงที่บ้าคลั่งอย่างมาก โดยปกติแล้ว เธอจะพยายามระงับความปรารถนาของคนเองอย่างเต็มที่ เพราะมักจะถูกคนรอบข้างมองว่าเป็นคนบ้า
กระทั่งความฝันเธอก็ไม่คาดคิดว่า สักวันหนึ่ง จะได้พบผู้ชายคนหนึ่ง ที่บอกว่าสถานภาพของเธอนั้นน้อย
ว่ากันว่าผู้ชายเป็นต้นไม้ใหญ่ ผู้หญิงเป็นเถาวัลย์ แต่เมื่อก่อน นางคิดว่าตัวเองเป็นต้นไม้ใหญ่
ผู้ชายที่เธอได้พบเจอ ไม่มีใครที่จะสามารถทัดเทียมเธอได้
แต่ในเวลานี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า เธอคู่ควรแค่เป็นเถาวัลย์ที่คอยพึ่งพาอาศัย
เพียงแค่เธอไม่แยกจากไม่ทอดทิ้ง พันล้อมเอาไว้ให้แน่น เช่นนั้นสักวันหนึ่ง ต้นไม้ใหญ่ที่สูงเสียดฟ้าต้นนี้ ก็จะพาเธอไปชื่นชมทัศนียภาพที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก
เพียงคิดถึงจุดนี้ เธอก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที!
“ตกลง ฉันรับปากคุณ!”
“ฉันหลิวชิง นับแต่นี้ต่อไป ก็คือคนของคุณ!”
“คุณจะให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะทำอย่างนั้น!”
เดิมทีคำพูดนี้เป็นการแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ แต่เมื่อเห็นสายตาแปลกๆ ของฉินเทียนแล้ว เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่า การแสดงออกไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไรนัก
อะไรคือ คนของเขา?
เธอหน้าแดงขึ้นมาทันที จิตใจสับสนว้าวุ่นอย่างไม่มีเหตุผล คนที่ดีเลิศอย่างเธอ คาดไม่ถึงว่าจะไม่รู้ว่าไม่ควรพูดอะไร
“อะแฮ่ม เอ่อ ฉันยินดีต้อนรับคุณในนามของซูยู่กรุ๊ป”
“ในส่วนของสวัสดิการ รวมทั้งเงินเดือน โบนัส กระทั่งสิทธิของผู้ถือหุ้น คุณก็กำหนดเองก็แล้วกัน”
“ฉันมีธุระ ขอตัวกลับก่อน”
ฉินเทียนพูดประโยคหนึ่ง และกำลังจะออกไป
ความสวยของหลิว ไม่จำเป็นต้องสงสัยปกติ สิ่งที่ทำให้คนสัผัสไม่ได้ถึงความอ่อนโยนและงดงาม ก็เพราะเธอเคยชินกับความสูงส่ง จึงเว้นระยะห่างจากผู้คนหลายพันลี้
นั่นคือท่านประธานหญิงผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ตามมาตรฐาน
แต่ในเวลานี้ เธอที่สวมชุดทำงาน สวยมีเสน่ห์และหน้าแดง ฉินเทียนจึงรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
รีบกลับบ้านไปหาภรรยาเถอะ!
“เดี๋ยวก่อน——” เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู หลิวชิงก็ตะโกนให้เขาหยุด
“ยังมีธุระอะไรอีกเหรอ?” เห็นสีหน้าของหลิวชิงผิดปกติ ฉินเทียนจึงอดไม่ได้ที่จะงุนงง
หลิวชิงกำลังจะพูดแล้วก็หยุด เหมือนกับว่าเรื่องที่ต้องการจะพูด ค่อนข้างยากที่จะเอ่ยปาก
เพียงแต่ลังเลใจเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “คุณต้องการกลับไปหาประธานซูเหรอ?”
ฉินเทียน: “ใช่แล้ว”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
หลิวชิงก้มหน้าลงดื่มชา แสร้งทำเป็นพูดเรื่อยเปื่อย
“ประธานซู ช่วงนี้เธอดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยปกตินัก มักจะใจลอยอยู่บ่อยๆ ถามนางก็ไม่บอก…….”
“คุณกลับมาก็ดีแล้ว ไปดูเธอหน่อยเถอะ หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“ถึงอย่างไร ซูยู่กรุ๊ปก็เป็นของเธอ ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เธอไม่สามารถเป็นอะไรไปได้หรอก”
ฉินเทียนจิตใจเข้มแข็ง
เขาก็มองออกว่า ถึงแม้ว่าหลิวชิงจะแสร้งทำเป็นพูดเรื่อยเปื่อย แต่อันที่จริงแล้ว กำลังเตือนสติเขาอย่างจริงจัง
เกิดอะไรขึ้นกับซูซู?
เขาไม่มีกะจิตกะใจอยู่ที่นี่อีกแม่แต่วินาทีเดียว จึงพุ่งออกไป และขับรถมุ่งไปยังอุทยานมังกร
เวลาสิบเอ็ดโมงเช้า รถland cruiserก็มาถึงอุทยานมังกร
เมื่อเห็นหมายเลขป้ายทะเบียนที่คุ้นเคย ทหารยามที่เฝ้าประตู สมาชิกหมาป่าเดียวดายก็เข้ามาต้อนรับด้วยความตื่นเต้น
พวกเขายังคิดว่า ฉินเทียนจะเหมือนปกติที่เคยเป็น จดรถแล้วทักทายพวกเขา หรือพูดไร้สาระสองสามคำ
ไม่คาดคิดว่า รถไม่เพียงแต่ไม่ชะลอความเร็ว แต่กลับเพิ่มความเร็ว เร่งเครื่องเสียงดังหึ่ง แล้วพุ่งเข้าไปโดยตรง
เหล่าพี่น้องหมาป่าเดียวดายที่ยกมือขึ้นเตรียมจะทักทาย ก็แข็งทื่ออยู่กลางอากาศ รอยยิ้มบนใบหน้าก็แสดงความเก้อเขิน