บัญชามังกรเดือด - บทที่ 625 ยังจำฉันได้หรือเปล่า
บัญชามังกรเดือด บทที่ 625 ยังจำฉันได้หรือเปล่า
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งหยุน ฉินเทียนก็ตกใจจนอ้าปากค้าง เขาไม่เคยคาดคิดมากก่อนเลยจริงๆ ว่าที่นี่จะมีความซับซ้อนได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้
เรื่องการตายของคู่สามีภรรยาเหลิ่งจุ้นจะต้องมีความลับอื่นซ่อนไว้อยู่แน่นอน คาดไม่ถึงว่าจะมีใครบางคนริเร่มที่จะบอกกับเหลิ่งหยุน
และคนคนนั้น เป็นไปได้มากว่าจะเคยเป็นศิษย์เก่าของมหาลัยโทยามะกับแม่ของเหลิ่งหยุน
เช่นนั้นที่จริงแล้วเธอคือใครกันล่ะ?
เพราะอะไรถึงไม่ยืนขึ้นมาตรงๆ และทำไม จะต้องรอให้ถึงสองปีถึงค่อยแจ้งเหลิ่งหยุนกันล่ะ?
ภายในนี้ ที่จริงแล้วอาจจะมีแผนร้ายที่บอกใครไม่ได้อยู่?
ขบวนความคิดของฉินเทียน เริ่มสับสนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างกะทันหัน
นอกจากนี้ ทันใดนั้นเขาก็คิดขึ้นมาว่า เพราะอะไรถึงต้องเป็นมหาลัยโทยามะด้วยล่ะ? เรื่องราวนี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหูรั่วหลันด้วยหรือเปล่า?
เมื่อมองดูแล้วดูเหมือนว่าคนกับเรื่องราวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ฉินเทียนยังคงรู้สึกอยู่ตลอดว่า ภายในเรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
แต่ทว่าคิดจนสมองจะแต่ก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี
เหลิ่งหยุนยิ้มอย่างเสน่ห์ พลางกล่าวว่า “อย่าว่าแต่พี่คิดไม่ออกเลย แม้แต่ฉันก็คิดไม่ออกเหมือนกัน”
“แต่ฉันเชื่อว่า ไม่นานนี้ จะต้องมีคำตอบอย่างแน่นอน พวกเราแค่รอการแลกเปลี่ยนการแข่งขันครั้งใหญ่ของอู้ไถให้ดีก็พอ”
“แล้วอีกอย่าง——”
“เกิดอะไรขึ้นกับโพสต์ฉลองวันเกิดอันนั้นน่ะ?”
“ฉันอยากจะรู้จริงๆ หลังจากนี้หนึ่งเดือน เป็นวันเกิดของราชาแห่งสวรรค์คนไหน และราชาแห่งสวรรค์คนไหน ถึงได้คุ้มค่าให้พี่ระดมผู้คนมาเป็นจำนวนมากมายขนาด ที่ทำให้ส่งบัตรเชิญไปทั่วโลกได้”
โทนเสียงที่อยู่ข้างในนั้น รู้สึกเสียอกเสียใจเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ฉินเทียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ทำไม เธอหึงอย่างนั้นเหรอ?”
“หรือว่าคงจะไม่ใช่วันเกิดของราชินีงูของพวกเราหรอกใช่ไหม? ฉันจัดงานวันเกิดให้รุ่นน้องคนเล็กของตัวเอง คงไม่มีอะไรพอที่จะวิจารณ์ได้หรอกใช่ไหม?”
เหลิ่งหยุนเบ้ปาก แล้วกล่าวอย่างคับแค้นใจว่า “พี่ยังคงแกล้งฉันมาจนถึงตอนนี้เลยสินะ”
“ที่จริงแล้ววันเกิดของฉันไม่ใช่หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ดังนั้นไม่มีทางเป็นฉันไปได้หรอก”
“ช่างมันเถอะ พี่ไม่อยากจะพูดก็ไม่ต้องพูดหรอก ขี้เกียจจะสนใจพี่แล้ว”
หลังจากที่เดินเป็นเพื่อนเหลิ่งหยุนครู่หนึ่ง ฉินเทียนก็หาข้อแก้ตัวแล้วจากมา
เฉินเสี่ยวอี้ใกล้จะหมดความอดทนแล้ว คืนนี้ ฉินเทียนจะต้องรับคำท้าทายของต้วนเตาหลิวมิยาโมโตะนะ
ทำไมเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าฉินเทียนจะทำตัวเหมือนเป็นคนไม่มีเรื่องอย่างไรอย่างนั้น
เขาพาฉินเทียน กลับไปถึงห้องบอลรูมมูแล็งรูฌอย่างเร่งรีบ ให้ฉินเทียนกลับไปพักผ่อนที่ลานด้านหลัง แล้วเขาก็วิ่งเสาะหาไปโดยรอบ ไปยังที่ที่เร้นลับ และนำแผ่นดิสอีกสองสามแผ่นมาด้วย
“ฉันบอกว่า เด็กน้อยอย่างนายคงจะไม่เอาแผ่นหนังมาใส่ให้ฉันดูจริงๆ หรอกใช่ไหม?”
“บอกนายแล้วนี่ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น——”
เมื่อเห็นเฉินเสี่ยวอี้ทำเป็นลึกลับซับซ้อน แล้วปิดม่านที่อยู่ในห้องทั้งหมด จากนั้นก็นำแผ่นดิสใส่ลงไปใรเครื่องเล่น ทำเอาฉินเทียนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
เขายังคิดว่า เฉินเสี่ยวอี้ทำไปเพื่อประจบเขา ต้องการเล่นมรดกอันยอดเยี่ยมทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นให้เขาได้ดู
เมื่อภาพออกมา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ฉากนั้นเป็นป่าไผ่ เนื่องจากอุปกรณ์การถ่ายทำที่ไม่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นภาพที่ออกมาดูแล้วเลือนรางเล็กน้อย
แต่ทว่า สำหรับเชี่ยวชาญอย่างฉินเทียนนี้ มองแค่เพียงแวบเดียว ก็สามารถมองเห็นสาระสำคัญที่อยู่ภายในได้
ชายชาวญี่ปุ่นสองคนที่อยู่ในชุดซามูไรสีดำยืนตรงอยู่ข้ามกัน แล้วยืนนิ่งอยู่ประมาณสามวินาที หนึ่งคนในนั้นก็แผดเสียงก้องออกมา ทันใดนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วคนหนึ่งก็กระโจนไปข้างหน้า แล้วซามูไรก็จู่โจมด้วยดาบอย่างดุดัน
ซามูไรที่ถูกจู่โจม สีหน้าจริงจัง แล้วถอยหลังก้าวอย่างต่อเนื่องสามก้าว หลังจากนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วตะโกนเสียงดังสนั่น และฟันลงไป
ดูแล้วธรรมดามาก ตัดขวางได้อย่างเก้งก้างมาก ฉินเทียนร้องเชียร์อย่างอดไม่ได้
ทิศทางของดาบ ดาบ โอกาส การสะบัดมันช่างงดงามมาก ดาบที่ฟันลงไป มันตัดขาดการรุกโจมตีของฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“นี่คือเทคนิคต้วนเตาหรือเปล่า? เป็นวิธีการที่ค่อนข้างดีเลยจริงๆ” เขากล่าวชมเชย
เฉินเสี่ยวอี้กล่าวอย่างตื่นเต้น “พวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งคือเทคนิคต้วนเตา อีกคนหนึ่งคือเทคนิคเตาหลิว”
“คุณยังต้องดูต่อไปอีก”
เพียงแค่ได้เห็นการโจมตีของคนนั้น หลังจากอานุภาพดาบถูกตัดไปแล้ว การแสดงออกที่จริงจัง แล้วโจมตีออกไปอีกครั้ง ดาบในมือของซามูไร เปล่งประกายออกมา
ดาบฟันกันครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนดั่งสายน้ำไหล ที่ต่อเนื่องไม่รู้จบอย่างไรอย่างนั้น การไหลพุ่งราวสายน้ำเข้าหาฝ่ายตรงข้ามอย่างแนบเนียนไม่มีที่ติ
คนที่เป็นฝ่ายตั้งรับก็อยากที่จะใช้เทคนิคต้วนเตา คิดอยากที่จะฟันเตาหลิวของฝ่ายตรงข้าม จำเป็นต้องจับข้อบกพร่องที่อยู่ระหว่างการจับดาบได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ฝ่ายตรงข้ามใช้ เนื่องจากมันถูกเรียกว่า “เตาหลิว” ดาบต่อดาบ เปรียบเสมือนเป็นร่างกายหนึ่ง
เมื่อดูวีดีโอไปแล้วหลายแผ่น เฉินเสี่ยวอี้ก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เป็นอย่างไรบ้าง คุณมีข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์บ้างแล้วหรือยัง?”
“นิกายของต้วนเตาหลิวนี้ พอเห็นชื่อก็จะทราบถึงความหมายแฝง ก็คือการเอาวิชาต้วนเตาและวิชาเตาหลิว แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่”
“มิยาโมโตะเป็นรุ่นพี่ของซูซูกิ ว่ากันว่าสำหรับทั้งสองทักษะนี้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สมบูรณ์แบบเรียบร้อยแล้ว!”
“พี่เทียน หากว่าไม่ได้แล้วล่ะก็ พวกเรายังมีสามสิบหกกลยุทธ์ ซึ่งหนีคือยอดกลยุทธ์อย่างหนึ่งนะ”
ฉินเทียนหัวเราะเยาะและด่าว่า “นายก็ประเมินฉันต่ำเกินไปแล้วนะ!”
“นายออกไปทำธุระข้างหน้าเถอะ ฉันจะพักผ่อนสักหน่อย หลังจากนี้อีกสองชั่วโมงค่อยมาเรียกฉัน”
“ครับ!”เฉินเสี่ยวอี้กลืนน้ำลายลงคอ แล้วจากไปอย่างจิตใจกระสับกระส่าย
ภายในห้อง ฉินเทียนก็ดูการแสดงเทคนิดต้วนเตาและเทคนิคเตาหลิวของซามูไร้อีกรอบหนึ่ง หลังจากนั้น ก็รู้สึกเบื่อหน่าย แล้วเปลี่ยนเป็นระบบโทรศัพท์ จากนั้นก็เปิดเครือข่ายมืด
หลังจากที่ดูแล้ว ก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้
เนื่องจากมาคืนวานนี้ หลังจากเขาให้จูกวางจือใช้บัญชีทางการของวิหารเทพส่งบัตรเชิญแล้ว จนถึงเวลาหมดเขตตอนนี้ ข้างล่างก็มีข้อมูลตอบกลับมาหลายสิบข้อความ
ที่ทำให้ฉินเทียนคิดไม่ถึงก็คือ คำตอบกลับแรก ไม่คาดคิดว่าจะเป็นองค์กรหนึ่งของฝั่งเอเชียตะวันออก เรียกว่ายาซา
นี่ถือได้ว่าเป็นโลกสีเทาของเอเชียตะวันออกยกเว้นประตูแดง เป็นกลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกไม่ต่ำกว่าแสนคน และกระจายไปอยู่อีกหลายสิบประเทศ
ท้องถิ่นของญี่ปุ่น ต่างก็มีสมาชิกของยาซา
ผู้นำสูงสุดของยาซาเรียกว่าเจ้าพ่อ ฉินเทียนจำได้ว่า ตัวเองเหมือนจะเคยเจอหน้าเขามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมเท่าไรนัก
“เทพราชามาเยือนญี่ปุ่น ซายาคงจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นเจ้าของบ้าน”
“ภายในสามวัน เมืองโทยามะคงจะมีคนที่ติดดอกไม้สีแดงเล็กๆ ที่หน้าอกอยู่มากมาย แล้วยังมีพองเพื่อนทั้งหลายของเทพราชารวมไปถึงวิหารเทพด้วย มีความต้องการอะไรก็ตาม ต่างก็สามารถไปหาพวกเขาได้”
“ในวันเกิดของราชาแห่งสวรรค์ เจ้าพ่อของยาซาจะมาอวยพรวันเกิดด้วยตัวเอง”
ติดดอกไม้สีแดงเล็กๆ ที่หน้าอกอย่างนั้นเหรอ? ฉินเทียนไม่คิดมาก่อนเลยว่า ยาซาจะใช้วิธีการอย่างคาดไม่ถึงนี้มาเพื่อเข้าร่วมกับตัวเอง
แต่เมื่อคิดดูแล้วก็เข้าใจเหตุผลได้ ถึงอย่างไรก็สถานะของทุกคนก็ถูกปิดเป็นความลับอย่างมาก
หลังจากที่กลับมาจากมหาวิทยาลัยโทยามะมา ดูเหมือนว่าบนถนนสายนี้ บริเวณประตูทางเข้าห้องบอลรูมอยู่หลายคน ที่ติดดอกไม้เล็กๆ สีแดงไว้บนอก ต่างก็เป็นผู้ชายที่ดูเคร่งขรึมทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจนัก ทว่าครุ่นคิดดูตอนนี้ นั่นคงจะเป็นสมาชิกของยาซาแน่นอน
“ประตูแดงขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ในวันเกิดนี้ ต้องมาเยือนโทยามะด้วยตัวเอง เพื่อนำส่งคำอวยพร”
“ปาโบลแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ตั้งตารอที่จะได้เฉลิมฉลองกัน”
“เฟิงหยุนถังแห่งมอคซิโก ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ภายในสิบวันนี้ เจอกันที่โทยามะ”
“ตระกูลเคอร์รี่ ฮัวเรซ ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“ตระกูลนักบุญเปโตร ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“โปโลแห่งสมาคมวาฬทะเลดำ ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“อเมริกัน ฟลามิงโก ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“ทูตสวรรค์แห่งนรกขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“กลุ่มทหารรับจ้างจิ้งจอกแดง ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
“บริษัททหารรับจ้างคอซแซค ขอแสดงความยินดีกับเทพราชารวมถึงราชาแห่งสวรรค์ ไม่เจอไม่แยกย้าย”
…
ในบรรดาชื่อองค์กรที่ดูสับสนวุ่นวาย ฉินเทียนก็ยังพบเชื่อที่น่าสนใจเป็นพิเศษอยู่อีกสองสามชื่อ
นอกจากซิซิลี จากัวร์ อัศวินเทมพลาร์แห่งยุโรป และวิศวกรตะวันออกกลางแล้ว คาดไม่ถึงว่ายังมีอีกหนึ่ง คือตระกูลร็อคฮิลเลอร์
และข้อความที่ร็อกฮิลเลอร์ก็ยังมีความน่าสนใจมากทีเดียว
“ท่านเทพราชา คุณยังจำฉันได้ไหม? ฉันชื่อลั่วลั่ว”