บัญชามังกรเดือด - บทที่ 658 กลับหลงเจียง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 658 กลับหลงเจียง
ท่านอาวุโสที่สามราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางศีรษะ!
เมื่อครู่นี้ เขาได้รู้สึกถึงรสชาติแห่งความตายอย่างชัดเจน!
เขาแน่ใจว่า ชีวิตนี้ของเขา ครั้งนี้ถือว่าเขาได้เข้าใกล้ความตายมากที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัสมา!
เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงตวาดของฉินเทียนแล้ว เขาก็สติแตก คิดไม่ถึงว่าเขาจะทนไม่ได้จนต้องคุกเข่าลง
เขารู้สึกว่า ตัวเขาทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ล่วงเกินคนที่ไม่ควรจะล่วงเกิน!
เป็นแบบนี้ได้ยังไง? เขาเป็นถึงท่านอาวุโสที่สามเชียวนะ!
ยศถาบรรดาศักดิ์อย่างท่านอาวุโสที่สามเนี่ยนะ!
ท่านอาวุโสใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เห็นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็มีสีหน้างุนงงเหมือนกัน เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลยว่า แส้มังกรที่อายุน้อยผู้นี้ ไม่นึกเลยว่าจะร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้!
เดิมทีพวกเขาคิดว่า แม้ว่าจะไม่สามารถเพิกถอนตำแหน่งของฉินเทียนได้ แต่พวกเขาก็จะใช้สถานะของพวกเขาในการกดดันฉินเทียน
ให้ฉินเทียนเชื่อฟังคำพูดของพวกเขาได้ในอนาคต
แต่คาดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะกลับถูกเล่นงานตรงๆ แบบนี้!
เขารู้ศักยภาพของท่านอาวุโสที่สามดี ในมังกรซ่อนรูป แล้วเขาเป็นผู้มีฝีมือชั้นเซียนโดยสมบูรณ์ เมื่อเผชิญหน้ากับฉินเทียนแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะไม่ตอบโต้อะไรเลยแบบนี้
เพลงดาบอันแปลกประหลาดของฉินเทียนนั้นยังวนเวียนฉายซ้ำซ้อนอยู่ในสมองของเขา เขารู้สึกได้ดีว่า แม้แต่เขาเองก็คงหนีไม่พ้นจุดจบเดียวกันกับท่านอาวุโสที่สามได้
“ฉินเทียน นับว่าเธอมีความกล้าหาญยิ่งนัก!”
“แต่ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนว่ามังกรซ่อนรูปไม่ใช่สถานที่ที่เอาไว้แสดงความกล้าหาญของคนไม่มีสติปัญญา พวกเรารอดูตอนต่อไปก็แล้วกัน!”
พูดพลาง ก็เดินกลับออกไปด้วยความลำบากใจพร้อมกันกับท่านอาวุโสที่สาม
จูจูปรบมือและพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “ท่านอาวุโสทั้งสองท่านค่อยๆ เดิน พวกเราไม่ส่งนะ”
“หลังจากกลับไปแล้ว ถ้าจะให้ดีก็เตือนลูกศิษย์ลูกหาของพวกเธอทีนะว่า ตอนนี้มังกรซ่อนรูปของพวกฉันมีแส้มังกรแล้ว ทางที่ดีก็เตือนให้พวกเขาเจียมตัวกันเอาไว้บ้างหล่ะ”
“มิเช่นนั้น เกล็ดมังกรนี้ จะจบชีวิตพวกเขาเอง!”
ฉินเทียนเจ๋งอะไรขนาดนี้ จะฆ่าท่านอาวุโสที่สามเสียต่อหน้า คงไม่มีใครดีใจมากไปกว่าเธอแล้ว
เฒ่าหัวมังกรเองยังอดยิ้มไม่ได้และพูดต่อว่า “ไอ้เด็กเปรต ช่างกล้าหาญไม่น้อยเลยทีเดียว!”
“จู่ๆ ตอนนี้ฉันก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่า ที่ฉันมอบแส้มังกรและเกล็ดมังกรให้เธอ จริงๆ แล้วมันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องไหม”
“เจ้าเด็กน้อย เธอคงไม่ใช้เลือดล้างมังกรซ่อนรูปหรอกใช่ไหม?”
ฉินเทียนมองเฒ่าหัวมังกรและตอบอย่างยิ้มๆ ว่า “ใช้เลือดล้างมังกรซ่อนรูปมันเป็นสิ่งที่ท่านอาวุโสต้องการอยากจะเห็นไม่ใช่หรือ?”
เฒ่าหัวมังกรหัวเราะเสียงดัง “เจ้าเด็กน้อย นึกไม่ถึงว่าจะกล้ายอกย้อนฉันอีกด้วย!”
“ออกไปซะ คนหนุ่มสาว ไปทำเรื่องที่คนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอควรทำซะเถอะ”
“ตาแก่อย่างฉันยังอยู่ที่นี่ ตราบใดที่ไม่ได้เป็นเรื่องทำลายสวรรค์ หากเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ฉันเชื่อว่าฉันยังต่อสู้แทนเธอได้อยู่”
ฉินเทียนรู้ดีว่าสิ่งที่เฒ่าหัวมังกรหมายถึงคือ ให้เขาลงมือทำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าการเป็นแส้มังกรนั้นมันก็ไม่เลวเลยทีเดียว
“เธอจะกลับหลงเจียงใช่ไหม? พอดีฉันก็ต้องกลับไปเหมือนกัน ไปเถอะ พวกเรากลับไปพร้อมกันเลย!” จูจูโอบแขนของฉินเทียน และเดินออกไปด้านนอกด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เฒ่าหัวมังกรพูดอย่างไม่ค่อยพอใจนักว่า “ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้เธอไป!”
“อีกอย่าง แม่สาวน้อย ระวังภาพลักษณ์ด้วย ดึงดึงกอดกอด แบบนี้มันดูไม่ค่อยดีนัก!”
จูจูหันหน้ากลับไปทำหน้าทะเล้นใส่ แกล้งทำเป็นโกรธและตอบว่า “ฉันไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรนั้น!”
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น เขาก็จงใจตะโกนเสียงดังว่า “นี้ก็ดึกมากแล้ว เธอไปค้างที่บ้านฉันสักคืนก่อนดีไหม แล้วพรุ่งนี้พวกเราค่อยออกเดินทางกัน”
ฉินเทียนหน้าตาเคร่งเครียด ผู้หญิงคนนี้เร่าร้อนขึ้นมาอีก ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
แม้ว่ามันจะดึกมากแล้ว แต่ทำไมถึงขัดขวางความรู้สึกอยากกลับบ้านของเขาแบบนี้ด้วยหล่ะ
จูจูยังพูดเล่นอีกว่า ถ้าฉินเทียนไปนอนที่บ้านเขาจริงๆ เขากลัวว่าเขาจะตกใจตายเสียก่อน
ยังเป็นเฮลิคอปเตอร์พิเศษลำนั้นที่ เทพลักซ่อนใช้ตอนมารับตัวฉินเทียน จุดหมายปลายทางครั้งนี้คือหลงเจียง
บนเครื่องบิน จูจูพูดกับเซียวยาง อย่างมีเลศนัยว่า “เซียวยางเธอกล้าล่วงเกินฉินเทียนไหม?”
เซียวยางตะลึงอยู่ชั่วครู่ ก็รีบตอบกลับไปว่า “ลูกพี่ นี่หมายความว่าอะไรหรือ?”
“ฉินเทียนเป็นเจ้าของวิหารเทพเป็นผู้สง่างาม แค่ออกคำสั่งเพียงครั้งเดียว บรรดาผู้ยิ่งใหญ่และผู้มีอิทธิพล หรือแม้แต่ เทพลักซ่อนก็จะถูกกดจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว”
“ฉันจะไปกล้าล่วงเกินเขาได้ยังไงหล่ะ!”
“อีกอย่าง กำลังเพียงหยิบมือเดียว ฉันเกรงว่าจะทำอะไรเขาไม่ได้”
จูจูเบิกตาโตและพูดว่า “ถ้านอกจากปัจจัยนี้หล่ะ?”
เซียวยางรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่า จูจูต้องการจะพูดอะไรกันแน่
“เธอดูอะไรนี้!” จูจูถลกเสื้อของฉินเทียนอย่างไม่เกรงใจ และหยิบเอามีดสันโค้งสีดำทมิฬที่เหน็บอยู่ตรงบริเวณเอวของเขาออกมา
มีดสันโค้งเล่มนี้ ฉินเทียนชอบทั้งน้ำหนักและขนาดของมัน ที่ซ่อนไว้ในเสื้อผ้านั้น เป็นเพราะว่าไม่อยากให้ได้เห็นนั่นเอง
“นี่คือ….เกล็ดมังกร!”
“เย็ดแมร่ง นี่มันคือเกล็ดมังกรจริงๆ ด้วย!”
“คุณฉิน เกล็ดมังกรไปอยู่ในตัวของเธอได้ยังไง?”เซียวยางตกใจจนเกือบตกเครื่องบินลงมา
ฉินเทียนกระแอมและพูดว่า “เฒ่าหัวมังกรบีบเข้นว่าต้องให้ฉันรับไว้”
“หลงตัวเองไปหน่อยไหมเธอ!” จูจูหัวเราะและพูดว่า “เซียวยาง เธอเข้าใจแล้วใช่ไหม? ตอนนี้เขาคือแส้มังกร!”
“อำนาจและกำลังของแส้มังกร เธอควรรู้ดีอยู่แล้วนะ ฉันขอเล่าเรื่องจริงให้เธอรู้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ ฉินเทียนเกือบใช้มีดเล่มนี้ฆ่าท่านอาวุโสที่สามไปแล้ว”
“นับจากนี้ แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่กล้าล่วงเกินเขาเลยด้วยซ้ำ”
“เธอกล้าไหมหล่ะ?”
สีหน้าของเซียวยางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และรีบตอบกลับไปว่า “พี่เทียน ถ้าก่อนหน้านี้น้องชายทำอะไรให้ไม่ถูกใจ ขอท่านผู้ใหญ่ได้โปรดใจกว้าง อย่าถือผู้น้อยเลยนะครับ!”
“จากนี้น้องชายจะทำตัวให้ดีขึ้น และจะไม่กล้าฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ใดๆ อีกแน่นอน!”
จูจูเองก็เลียนแบบท่าทีของเขา และจงใจตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ใช่ค่ะ พี่เทียน!”
“ก่อนหน้านี้น้องสาวไม่รู้ประสีประสา ได้โปรดท่านอย่าได้ถือสาเลยนะคะ!”
“จากนี้ไป น้องสาวจะเชื่อฟังคำสั่งพี่อย่างแน่นอน หากพี่เทียนต้องการอะไร แค่ออกปากสั่งเท่านั้นก็พอ!”
แส้มังกร ไม่ได้มีอำนาจพิเศษอะไรกับโลกภายนอก หน้าที่หลักที่สำคัญของเขาก็คือตรวจสอบภายในของมังกรซ่อนรูป ลงมือจัดการก่อนได้ แล้วค่อยรายงาน เป็นดั่งกระบี่อาญาสิทธิ์
แมร่งเอ๊ย ตราบใดที่เป็นสมาชิกของมังกรซ่อนรูป แล้วใครกล้าไม่กลัวบ้างหล่ะ!
ฉินเทียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พอแล้วยัง”
“ขอแค่เธอไม่มาระรานฉันอีก และไม่ปีนขึ้นเตียงฉันและใช้มีดมาบีบบังคับกันอีก แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว”
“ยัยเด็กอ้วน!”
เมื่อพูดถึงเรื่องที่ปีนขึ้นเตียงแล้วใช้มีดบีบบังคับเขา จูจูก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“เธอกล้ามาเรียกฉันว่าหมู ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!” เขาลุกขึ้นมาทะเลาะกับฉินเทียน
เซียวยางเองก็เกาหัวและหัวเราะด้วยความเคอะเขิน
“โอเคโอเค หยุดโวยวายได้แล้ว”
“ถ้ายังทะเลาะโวยวายอยู่อีก เครื่องบินจะตกแล้วนะ” ฉินเทียนผลักจูจูออกไป และไม่กล้าชวนทะเลาะต่ออีกเลย
ออกจากบ้านมานานเป็นเดือน เขาไม่ได้แตะต้องตัวผู้หญิงเลย เขารู้สึกว่าสมาธิของเขาในตอนนี้ นับวันยิ่งด้อยลงเรื่อยๆ แล้ว
หรือเป็นเพราะความเร่าร้อนของหญิงสาวผู้นี้?
แต่จิตใจของเขาไม่ได้อยู่ที่จูจูอีกแล้ว ตอนนี้เขากลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ผู้หญิงคนอื่นต่อให้ดีแค่ไหน ก็ดีไม่เท่าภรรยาที่บ้านของเขาแน่นอน
เมื่อคิดได้ว่าจะได้เจอหน้าภรรยาอีกในไม่ช้านี้แล้ว ฉินเทียนก็มองออกดูเมฆดำที่นอกหน้าต่าง ราวกับเห็นท้องฟ้าปลอดโปร่งกว้างไกลออกเป็นหมื่นลี้
ไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการทำภารกิจจนสำเร็จและมุ่งหน้ากลับบ้านได้อีกแล้ว
พวกเขาพูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะ เฮลิคอปเตอร์บินไปยังท้องฟ้าในยามค่ำคืน เสียงหัวเราะของหนุ่มสาว ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
ในไม่ช้า ก็มาถึงเขตนอกเมืองของหลงเจียง
เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้บินเข้าไปในเมือง แต่ลงจอดที่ลานแห่งหนึ่งนอกเมือง
จูจูจัดแต่งทรงผม และสีหน้าอารมณ์ของเธอก็กลับมาดูเข้มงวดอีกครั้ง ยังไงก็ตามเมื่อกลับมาที่นี่ เขาก็เป็นหัวหน้าของภาคๆ หนึ่งเหมือนกัน
ผู้นำทางตอนใต้ ก็จะมีลักษณะของผู้นำทางตอนใต้
“ฉันกับเซียวยางมีธุระที่จะต้องทำต่อ คงไม่เข้าเมืองแล้วนะ”
“เพื่อเป็นการแสดงว่ามังกรซ่อนรูปตอนใต้ของพวกฉัน ยินยอมและให้ความร่วมมือในการทำงานกับแส้มังกร ตอนนี้ฉันขอมอบข้อมูลนี้ให้แก่เธอ”