บัญชามังกรเดือด - บทที่ 667 ให้คุณได้เปิดโลกทัศน์
บัญชามังกรเดือด บทที่ 667 ให้คุณได้เปิดโลกทัศน์
ฉินเทียนยิงปืน ด้านหนึ่ง เพื่อการป้องปรามเจ้าหมอสองคนที่อยู่เบื้องหน้า อีกด้านหนึ่ง ก็เพื่อการป้องปรามคนที่อยู่ด้านในลานคนนั้น
หลิวหรูยู่ถูกลักพาตัวไปเป็นเวลานานมากแล้ว ในช่วงระยะเวลานี้ ก็เพียงพอให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย
ฉินเทียนยิงปืนเพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี
และโชคดีที่การยิงครั้งนี้ ช่วยชีวิตของหลิวหรูยู่ที่อยู่ตรงขอบปากเสือเอาไว้ได้ มิฉะนั้นแล้ว ก็แทบไม่อยากจะคาดคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆ
เพราะว่าเสียงธรรมดาทั่วไปนั้น ยากที่จะทะลุผ่านเข้าไปยังในห้องที่ปิดสนิทนี้แล้วลอยไปถึงหูของไป๋เสี่ยวจิ้งได้
เสียงปืนที่ดังขึ้นโดยไม่คาดคิด ไม่เพียงแต่ทำให้ชายชุดดำทั้งสองตรงหน้าตื่นตกใจเท่านั้น ยังกระเทือนไปถึงทุกคนที่อยู่ในห้องอีกด้วย
ภายใต้การนำทีมของหัวหน้าหม่าเฟิง พวกเขาพุ่งเข้าไปพร้อมกับร้องอุทานออกมา
“พวกแกเป็นใครกัน?”
“รู้หรือไม่ว่าที่นี้คือที่ไหน? รีบปล่อยคนของพวกเราเดี๋ยวนี้นะ!”
เมื่อมองไปยังฉินเทียน แล้วเห็นเจียงฮั่นและคนอื่นที่ถูกมัดด้วยเชือกอยู่ด้านหลัง หม่าเฟิงก็ตื่นตกใจขึ้นมา
ต่อให้เขาคิดฝันก็คิดไม่ถึง ว่าจะมีคนกล้ามาก่อเรื่องต่อหน้าประตูตระกูลของมังกรซ่อนรูป
อีกทั้ง กล้ามัดคนของพวกเขา!
ฉินเทียนยิ้มเย็นชา “หากว่ากล้ายิงปืนออกมา พวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย”
เมื่อคำพูดจบลง กลุ่มมีดม้งและเหลยเป้ารวมถึงกลุ่มคนของเขี้ยวมังกร ในมือถือปืนที่ยึดเอาไว้ ทั้งหมดชี้ไปยังเจียงฮั่นและคนอื่นๆ
หากว่าอีกฝ่ายกล้าที่จะยิงปืนออกไป เช่นนั้นเจียงฮั่นและคนอื่นๆ ก็คงต้องถูกทุบตีจนกลายเป็นตะแกรงไปก่อน
“หม่าเฟิง นี้แกเป็นบ้าไปแล้วหรือ? รีบวางปืนลงซะซิ!”
“นี่แกอยากจะให้ฉันตายไปหรือยังไง?”
“ได้ยินแล้วหรือยัง ทุกคนวางปืนลงซะ!”
เจียงฮั่นส่งเสียงร้องอย่างโหดเหี้ยม เมื่อถูกปืนเล็งมาตรงศีรษะ เขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว
ที่สำคัญก็คือ เขาไม่อาจที่จะระบุตัวตนของฉินเทียนได้ และดูเหมือนว่า เขากล้าที่จะยิงปืนออกมาจริงๆ!
ภายในองค์กรของมังกรซ่อนรูปในเมืองจิ่นหู ผู้รับผิดชอบเจียงชงเป็นหัวหน้าใหญ่ และหม่าเฟิงเป็นหัวหน้าเล็ก
ส่วนเจียงฮั่นนั้นเป็นหลานชายของเจียงชง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เรียนมาไม่มีทักษะใด แต่ว่าก็ยังได้รับหน้าที่หัวหน้าดูแลจัดการทีม
ไม่ว่าจะด้วยความสัมพันธ์หรือว่าระดับชั้น ล้วนแต่อยู่เหนือกว่าหม่าเฟิง
ดังนั้นหม่าเฟิงไม่กล้าที่จะละเลย พร้อมกับรีบวางปืนลง สมาชิกในกลุ่มของเขารีบทำตามด้วยความหวาดกลัว
“วางอาวุธลง!”
“เก็บมันขึ้นมา!”
ฉินเทียนส่งเสียงคำรามดังกรุ่นโกรธออกมา ก่อนจะเดินก้าวใหญ่ไปยังหม่าเฟิง
“นายจะทำอะไรกัน!” หม่าเฟิงคำรามดัง ก่อนที่จะหลบไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว
ความหวาดกลัวของสมาชิกกลุ่มมังกรซ่อนรูป ไม่เพียงแต่เป็นเพราะว่ามาตรฐานของปืนไฟของพวกเขา นอกจากข้อนี้แล้ว พวกเขาทุกคน ยังเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ
หม่าเฟิงสามารถเป็นหัวหน้าเล็กได้ ก็อาศัยพลังของตนเองถึงได้ไต่เต้าขึ้นมาได้
ดังนั้นความเร็วของเขาจึงเร็วมาก
กระทั่งในความคิด ความสามารถของตนนั้นมีอยู่หลายกระบวนท่าที่จะจู่โจมฉินเทียนกลับ
ที่ทำให้เขาคิดฝันก็ไม่แม้แต่จะคาดคิดถึงก็คือ ความเร็วของฉินเทียนทั้งๆ ที่มองเห็นว่าช้ามาก
แต่กลับทำให้เขาหลบเลี่ยงไม่ทัน เสียงดังปึงปัง ก่อนที่จะคว้าท้ายทอยของเขาเอาไว้
เสียงร้องดังประหลาด พลังทั่วทั้งกายของเขาแผ่กระจายออกมา และในตอนที่เขากำลังจะต่อต้านนั้น จู่ๆ บนท้ายทอยของเขา ก็ถูกกำลังภายในจากมือของฉินเทียนหลั่งไหลเข้ามา
เหมือนกับว่าจะถูกบีบลงตรงจุดสำคัญ
ร่างกายของเขาชา กำลังภายในที่หลอมรวมขึ้นมาจู่ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
มือเท้าของหม่าเฟิงอ่อนแรงลง และไม่มีแรงที่จะต่อต้านได้ เป็นเหมือนกับลูกไก่ที่เป็นนักโทษอยู่ในกำมือของฉินเทียน
นาทีถัดมา ปืนในมือของฉินเทียน เล็งไปที่หน้าผากของเขา
“หลิวหรูยู่อยู่ที่ไหน พาฉันไปเดี่ยวนี้!”
คำสั่งนั้นดูสั้นกระชับ แต่ว่า กลับไม่อนุญาตให้มีข้อสงสัยใด!
ในตอนนี้ หม่าเฟิงเป็นเหมือนกับวิญญาณที่ตายไปแล้ว เขาไม่เคยพบกับคนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อนเลย
“อยู่ทางห้องทางปีกเหนือ……” เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว
ฉินเทียนผลักเขาไป แล้วเดินหน้ามุ่งไปยังห้องทางปีกเหนือ
การกระทำต่างๆ สำเร็จไปอย่างราบรื่น เมื่อยกเท้าขึ้น เกิดเสียงดังปังขึ้นจากประตูที่ถูกปิดล็อคเอาไว้จากด้านใน ประตูที่ถูกจัดทำขึ้นเป็นพิเศษก็เปิดออกในทันที
ภายในห้อง ไป๋เสี่ยวจิ้งที่ตอนแรกเตรียมจะออกไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้น ทำจนเขาตื่นตกใจขึ้นมา
“ใคร!”
เสียงอุทานดังจนเขาต้องกระโดดหลบไปอีกด้านหนึ่ง
เมื่อมองเห็นหลิวหรูยู่ที่ตัวสั่นเทาอยู่ตรงมุมหนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของฉินเทียนก็แดงก่ำขึ้น
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาช่วยเธอแล้ว
เมื่อเอ่ยออกมา เขาเดินก้าวใหญ่ๆ เข้าไป
“แม่งเอ๊ย! หยุดนะ!”
“ไอ้ลูกหมา แกโผล่มาจากที่ไหนกัน?” เมื่อไป๋เสี่ยวจิ้งมีท่าทีตอบสนองกลับ ก็มาพร้อมกับเสียงคำรามกรุ่นโกรธและต้องการจะกระโจนเข้าใส่
ฉินเทียนแม้แต่มองก็ยังไม่เหลือบมอง แล้วจับหม่าเฟิงโยนเข้าไปด้านใน
ท่ามกลางเสียงร้องอุทาน หม่าเฟิงก็เป็นเหมือนกับกระสุนปืนเนื้อมนุษย์ ฟาดเข้าใส่ไป๋เสี่ยวจิ้งอย่างแรงจนเกิดเสียงดังปึงปัง
ทั้งสองคนกระโจนเข้าไปพร้อมกัน
“ฉินเทียน!”
ท่ามกลางความสิ้นหวัง เมื่อมองเห็นชายผู้นี้ หลิวหรูยู่ที่เต็มไปด้วยทั้งโศกและยินดี ส่งเสียงร้องเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ก่อนจะพุ่งเข้าในอ้อมแขนของฉินเทียน
เธอกอดคอของฉินเทียนเอาไว้แน่น ส่งเสียงร้องไห้อย่างขมขื่นออกมา ร่างกายบอบบางสั่นเทา
ฉินเทียนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เอ่ยเสียงต่ำ “เป็นฉันที่ดูแลได้ไม่ดีพอ”
“ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“เรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว” เขาตบไหล่เธอเบาๆ เพื่อปลอบโยน
พร้อมกับอดคิดขึ้นมาในใจไม่ได้ว่า หลิวหรูยู่เป็นที่นิยมเกินไปแล้ว และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ภายหน้าตนเองควรที่จะจัดการให้มีผู้คุ้มกันใช่หรือไม่ คอยปกป้องคุ้มครองใกล้ชิด
ไป๋เสี่ยงจิ้งและหม่าเฟิงที่ชนกันจนเละ ตามองเห็นดาวสีทองส่องประกาย ในที่สุดก็ได้สติกลับมา
หม่าเฟิงเมื่อครู่ที่เห็นวิธีการที่น่ากลัว ไม่กล้าที่จะพูดออกมา แต่ไป๋เสี่ยวจิ้งนั้นต่างออกไป
ภาพฝันดีของเขาถูกทำลายลงไป เขาโกรธเสียจนดวงตาแดงก่ำ
“ไอ้สารเลว!”
“หากว่าวันนี้ไม่มีคำอธิบายให้ฉัน แกและนางคนชั้นต่ำนี้ก็ไปตายด้วยกันเถอะ!”
เขาดึงดาบโค้งที่จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษของสมาชิกกลุ่มมังกรซ่อนรูปออกจากเอวของหม่าเฟิง
ดาบโค้งชนิดนี้ ฉินเทียนเคยเห็นคลังเก็บของที่เก็บอาวุธโดยเฉพาะในเมืองหลวงมามากแล้ว
สามารถบอกได้ว่า แต่ละเล่มนั้น ล้วนแต่เป็นของชั้นเลิศ
“ระวัง!”
“พวกเรารีบไปกันเถอะ!” เมื่อหลิวหรูยู่มองเห็นไป๋เสี่ยวจิ้ง ก็ตื่นตกใจจนกรีดร้องออกมา
“อยากเห็นฉันฆ่าเขาด้วยตาของตัวเองหรือไม่?” ไม่คิดเลยว่า ฉินเทียนไม่เพียงแต่หันกลับมามอง แต่ยังพูดออกมาอย่างผ่อนคลาย
หลิวหรูยู่ตะลึงงัน
เมื่อเห็นว่าฉินเทียนถึงกับกล้าที่เมินเฉยตนเอง ไป๋เสี่ยวจิ้งอับอายเสียจนกลายเป็นโกรธจัด ตะเบ็งเสียงดัง แล้วฟาดดาบไปทางฉินเทียนอย่างแรง
ฉินเทียนไม่แม้แต่จะหันมอง ก็ใช้ขาเตะออกไปราวกับฟ้าคำราม กระแทกเข้าที่กลางหน้าท้องของไป๋เสี่ยวจิ้ง
ท่ามกลางเสียงร้องครวญครางอย่างอนาถ ไป๋เสี่ยวจิ้งกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนส่งเสียงดังออกมา ก่อนร่วงลงพื้น แล้วกระอักเลือดคำโตออกมา เพียงพริบตาก็ราวกับเหลือชีวิตอยู่เพียงแค่ครึ่งหนึ่ง
“พี่เทียน ด้านนอกมีคนมา!”
“คงจะสะเทือนไปถึงผู้ที่รับผิดที่นี้แล้ว”
“ท่านว่า พวกเราต้องหลบไปหรือไม่?” เหลยเป้าดินเข้ามา แล้วพูดด้วยความเป็นกังวล
ฉินเทียนยิ้มแล้วพูดออกมา “เป้าจื่อ เขี้ยวมังกรของพวกนายไม่เคยเตะต้องมังกรซ่อนรูปมาโดยตลอดใช่หรือไม่?”
“คืนวันนี้ ฉันจะให้นายได้เปิดโลกทัศน์”
“ไปยกเก้าอี้มา ฉันจะคอยผู้รับผิดชอบของพวกเขาอยู่ด้านนอก!”
เหลยเป้าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงเคร่งขรึม “ครับ!”
ไฟทุกดวงถูกเปิดออก ทั่วทั้งลานสว่างไสวขึ้น
ตรงกลางนั้นมีเก้าอี้ไถ่ซืออยู่ตัวหนึ่ง ฉินเทียนนั่งลงอย่างสงบ ใต้ฝ่าเท้าเหยียบลงบนไป๋เสี่ยวจิ้งที่ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ดวงตาคู่หนึ่ง จ้องมองไปยังประตูอย่างเย็นชา
การกระทำเช่นนี้ รู้สึกเป็นเหมือนกับราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งขุนเขา
และถึงแม้ว่าหลิวหรูยู่จะหวาดกลัว แต่ทว่ามีฉินเทียนอยู่ที่นี้ เธอเองก็ไม่อยากจะจากไป ได้แต่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความตื่นตกใจ
ด้านนอกของเรือนใหญ่ เกิดเสียงดังติดต่อกัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ใครเป็นคนยิงปืน?”
“หัวหน้าใหญ่ ท่านเองก็มาแล้ว!”
“เร็ว รีบเข้าไปดู!”
เสียงฝีเท้าดังมากมายหลายสิบคน ล้อมรอบผู้รับผิดชอบของท้องถิ่นกันเข้ามา