บัญชามังกรเดือด - บทที่ 693 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 693 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ได้ยินคำพูดของ หยางต้าว แล้ว แววตาของเว่ยเทียนเหอ และ จ้าวคง ก็เป็นประกายขึ้นพร้อมกัน
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมเสียจริง!”
“สมแล้วที่เป็นผู้นำตระกูลหยาง!”
“เร็วสิ พวกเรารีบโทรศัพท์ไปหา หวังเหล่าหู่ กัน!” เว่ยเทียนเหอ พูดด้วยความตื่นเต้น
จ้าวคง ค่อนข้างใจเย็น เขาหัวเราะและพูดว่า “เจ้าบ้านเว่ย คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
“หวังเหล่าหู่ สามารถครอบครองแผ่นดิน ฮั่นจง ได้ คุณคิดว่าเขาจะเป็นคนโง่อย่างนั้นหรือ?”
“ฉินเทียนได้ชี้แจงต่อสาธารณชนแล้วว่า เถียโถว คนนั้นก็คือ ราชาเถียสิบสาม แถมยังมีแผ่นป้ายอาญาสิทธิ์ ไม่ว่ามันจะเป็นของจริงหรือของปลอมก็ตาม คุณคิดว่า หวังเหล่าหู่ จะกล้าเสี่ยงง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ตาเฒ่าคนนี้ เขาน่าจะเหมือนกับพวกเรา แทบอยากจะให้ฉินเทียนเริ่มเปิดศึกกับพวกเราอยู่แล้วหล่ะ!”
“ถ้างั้นจะทำยังไงดี?”เว่ยเทียนเหอ สงสัย
หยางต้าว หัวเราะและตอบว่า “ต้องล่อเสือตัวนี้ออกมา ต้องทำให้จุดสำคัญของเขาเจ็บปวดเสียก่อน ฉันมีวิธีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงมือ พวกเราต้องได้รับการสนับสนุนจากบุคคลคนหนึ่งก่อน”
“ใครหรือ?”
หยางต้าว กำลังจะพูดต่อ แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นสายโทรเข้าที่แสดงบนหน้าจอนั้น แววตาของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
“เขามาแล้ว”
“ฮัลโหล หัวหน้าว่าน!” หลังจากรับสายแล้ว น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนเป็นแสดงความเคารพขึ้นมา
ในสาย เป็นน้ำเสียงแหบๆ “ทำตามที่คุณพูด พวกเราอนุญาตให้พวกคุณสังเวยเสือหนึ่งตัวได้ เสร็จเรื่องแล้วค่อยแบ่งเอาอาณาเขตของเขา แต่ว่า____”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก จะต้องทำสำเร็จเท่านั้น ห้ามล้มเหลวอย่างเด็ดขาด”
“ศักยภาพของ หวังเหล่าหู่ อาจจะไม่เพียง พวกคุณคอยช่วยเสริมอย่างลับลับก็แล้วกัน!”
หยางต้าว รีบตอบกลับไปว่า “เข้าใจแล้วครับ!”
“ฉันจะให้เจ้าหมีเล่อกับชิงเฉินไปคอยช่วยอย่างลับลับ”
“หลังจากเสร็จเรื่องแล้ว แผ่นดิน ฮั่นจง จะเป็นของพวกเรา ตามคำสัญญาก่อนหน้านี้ พวกเราจะมอบเงินช่วยเหลือพิเศษให้พวกคุณอีกปีละพันล้าน”
หลังจากวางสาย เขาก็ยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ
“เจ้าบ้านทั้งสอง ภารกิจครั้งใหญ่ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตอนนี้ พวกเราเริ่มลงมือกันได้”
“หวังเหล่าหู่ มีลูกตอนแก่ สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือลูกชายคนนี้แหละ”
“ฉันได้ยินมาว่า เด็กคนนี้ถูกเลี้ยงมาแบบไม่ยำเกรงต่อสิ่งใดๆ รังแกผู้คน วางอำนาจบาตรใหญ่ ก่อกรรมทำชั่วทุกอย่าง”
“พวกเราเริ่มจากการลงมือกับเขาก่อนแล้วกัน!”
จากนั้น เขาก็บอกเล่าแผนการออกมาเบาๆ
“ยอดเยี่ยมไปเลย!”
“วิธีนี้ ไม่ว่ายังไง หวังเหล่าหู่ ก็ต้องไปฆ่าฉินเทียนอย่างแน่นอน เมื่อรวมกับความช่วยเหลืออย่างลับลับของพวกเรา ฉินเทียนกับไอ้ตูดหมา ราชาเถียสิบสาม อะไรนั้น ยังไงซะก็ต้องตายอยู่ที่นี่แน่ๆ!”
“เมื่อถึงเวลานั้น หากว่าวิหารเทพจะต่อว่าหรือลงโทษลงมา โทษทัณฑ์ก็คงต้องตกไปอยู่ที่ หวังเหล่าหู่ อยู่ดีหล่ะ!”
“เวลาไม่คอยท่า พวกเรารีบไปจัดการกันเถอะ!”
“ผู้นำตระกูลหยาง เชิญคุณไปเดินชมคฤหาสน์ หูซื่อ ด้วยตัวเองสักรอบเถอะ!”
“มอบให้ฉันหรือ!” ในแววตาของ หยางต้าว ปรากฏรอยยิ้มของผู้มากประสบการณ์
……
คฤหาสน์ หูซื่อ
เป็นอีกครั้งที่กลับมาที่นี่ ความรู้สึกของทุกคน ต่างล้วนเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแล้ว
มองทอดสายตาออกไป แม้ว่ามีเพียงซากปรักหักพัง และหญ้ารกชันเต็มไปหมด แต่เพราะในใจยังมีความหวัง พวกเขาจึงดูเหมือนเห็นแสงสว่าง
มองเห็นความอลังการอันงดงามของสถานที่แห่งนี้หลังจากฟื้นคืนความเจริญรุ่งเรือง
เถียโถว นิ่งเงียบไปชั่วครู่และถามฉินเทียนว่า “คุณเจตนาทำเรื่องตะลึงไปทั่วโลกแบบนี้ เพื่อดึงดูดสายตาและความสนใจจากคนทั้งโลกใช่ไหม?”
ฉินเทียนพยักหน้า
“จับปลาในน้ำขุ่นยังไงหล่ะ”
“บ่อน้ำใน ฮั่นจง นี้ มันดูเงียบเหงามานานแล้ว”
“ตอนนี้ถึงเวลาที่จะทำให้พวกเขาอยู่อย่างไม่เป็นสุขแล้วหล่ะ”
ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว!
ฉินเทียนรู้ดีว่าการถูกฆ่ายกครัวของ หูซื่อ มันผ่านมานานมากแล้ว ตอนนี้เขาต้องการจะพลิกแฟ้มคดี หากเขาเลือกที่จะปฏิบัติการจู่โจมอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง มันจะทำให้เรื่องยากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เขาได้ประกาศไปแล้วว่าจะสืบสวนคดีโศกนาฏกรรมหมู่อย่างละเอียดที่สุด ขณะที่การมี หานหลิง อยู่ ก็เท่ากับเป็นการคนน้ำในสระให้ขุ่น
เชื่อได้ว่าบรรดาคนที่มีความลับอยู่นั้น ไม่ช้าก็จะทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ขอแค่พวกเขาเคลื่อนไหว สุดท้ายหนีไม่พ้นต้องเผยหางจิ้งจอกออกมาเอง
เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะสืบสาวราวเรื่องได้เอง
นี่คือแผนการทั้งหมดของฉินเทียน
ตอนนั้นที่อยู่ที่นี่ ทุกคนต่างรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่กลุ่มปรสิตเล็กๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ในใจก็รู้สึกอึดอัดแปลกๆ อยู่ไม่น้อย
ตอนนี้ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ฉินเทียนจะบูรณะคฤหาสน์ หูซื่อ ขึ้นใหม่ ทุกคนต่างรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเจ้าของที่นี่ไปเสียแล้ว
ฉีลิ่ว โหวชง และสมาชิกคนอื่นๆ ของ เถียโถว ต่างพากันตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ หยิบไม้กวาดและร่วมทำความสะอาดกันอย่างเต็มที่
ในไม่ช้า นอกจากจุดที่ถูกเผาอย่างรุนแรง จนพักอาศัยไม่ได้แล้วจริงๆ พวกเขาก็ได้จัดเก็บห้องที่สภาพยังสมบูรณ์อยู่เรียบร้อยไปได้หลายห้อง
จากนี้ไป ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของแก๊งหัวเหล็ก
หานหลิง มาพร้อมกับ เถียโถวและฉินเทียน ท่าทีเคร่งขรึม และนำเอาแผ่นป้ายอาญาสิทธิ์นั้นไปวางไว้ตรงจุดกึ่งกลางที่กลางห้องโถงอย่างระมัดระวัง
อย่ามองว่านั้นเป็นเพียงป้ายเหล็กธรรมดาแผ่นหนึ่ง แต่ตัวอักษรสามตัว “บัญชาราชาเทพ” ที่ส่องสว่างวูบวาบอยู่นั้น ราวกับเป็นตัวแทนของเกียรติยศอันสูงสุดเลยก็ว่าได้
ราวกับเสื้อพระราชทานที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ในสมัยโบราณเลยก็ว่าได้
แม้ว่าเรื่องที่ทำอยู่อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็ดูสมบูรณ์แบบในตัวของมัน
จากนั้น ฉินเทียนและ ทั้งหมดสิบแปดคน เพื่อตระเตรียมไว้
คร่าวๆ ก็คือ ฉีลิ่วกับโหวชงเป็นผู้อารักขาซ้ายขวา นำสองกลุ่มเล็ก ทำการฝึกอบรมพิเศษและออกลาดตระเวนความปลอดภัย
ลุงเฉามีอายุและดูสุขุมหนักแน่น ให้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าพ่อบ้าน
บรรดาสมาชิกที่ขาพิการ ก็ต่างแบ่งงานกันทำ
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ฉินเทียนสั่งให้คนไปตลาดซื้อแผ่นป้ายสำหรับเขียนข้อความไว้ติดเหนือประตู และเขียนข้อความด้วยตัวเองว่า จวนราชาสิบสาม
จากนั้น คือจะซ่อมแซมต่อยังไงดี นี่สิเป็นคำถามที่ยาก
เพราะนี้ไม่ใช่อาคารธรรมดาทั่วไป แรกเริ่มนั้นได้ทำการออกแบบตามสวนสวยงามของราชวงศ์ ได้มีการเชิญช่างฝีมือที่มีความชำนาญด้านสถาปัตยกรรมโบราณมาจากทั่วประเทศ
ตอนนี้คงหาคนเหล่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น กระดาษพิมพ์เขียวในตอนนั้น ก็ถูกเผาจนเป็นขี้เถ้าในกองเพลิงไปนานแล้ว
ในขณะที่ฉินเทียนกำลังคิดจะโทรศัพท์หาลิฉุน เพื่อขอให้เขาแนะนำผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบให้เขาสักสองสามคน ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งเข้ามารายงานว่า
“ท่านหัวหน้า หยางต้าว ผู้อารักขาใหญ่ มาถึงแล้ว”
“บอกว่ามีธุระต้องการขอพบ”
ห่ะ?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ แววตาของ เถียโถว ก็แสดงความดุร้ายออกมา
สีหน้าของ หานหลิง ก็เปลี่ยนไป ถามด้วยความกังวลว่า “เขามาทำอะไร?”
“ฉินเทียน คงไม่ได้มาหาเรื่องหรอกใช่ไหม? ในบรรดาสามตระกูลใหญ่ แม้ว่า หยางต้าว จะอายุน้อยที่สุด แต่ก็ร่ำลือกันว่า เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมลุ่มลึกที่สุด!”
“ต่อหน้าคนอื่นๆ ที่โรงแรมเขาทำเป็นสนับสนุนพวกเรา หรือว่าลับหลังจะหาทางแก้แค้นพวกเรากันแน่นะ?”
ฉินเทียนตอบอย่างเย้ยหยันว่า “ทุกคนไม่ต้องตื่นเต้น”
“เขาคิดจะทำอะไร เรียกเขาเข้ามาถามดูก็รู้แล้ว”
ไม่นานนัก หยางต้าว ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เขาถอนใจและพูดว่า “เห็นที่นี่แล้วก็คิดถึง อดที่จะรู้สึกเศร้าใจไม่ได้เลย”
“โชคดีที่ยังมีราชาเถียสิบสามกับผู้อารักขาฉินมาอยู่ที่นี่ เต็มใจที่จะซ่อมแซมคฤหาสน์หลังนี้ ฉันคิดว่า บรรดาดวงวิญญาณวีรบุรุษของ ตระกูลหู เมื่อได้รับรู้แล้ว จะต้องชื่นใจอย่างแน่นอน”
“ฉันรู้มาว่า การก่อสร้างคฤหาสน์หลังนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากคิดจะซ่อมแซมแล้วล่ะก็ คงต้องมีเรื่องยากลำบากอย่างแน่นอน”
“โชคดีที่ฉันรู้จักบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านสวนและสถาปัตยกรรมโบราณ พวกเขาเป็นมืออาชีพมากๆ”
“พวกคุณลองคุยกับพวกเขาสักหน่อย ขอแค่คุณพอใจ ฉันสัญญาว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!”
พูดพลาง เขาก็ยื่นนามบัตรแผ่นหนึ่งออกมามอบให้กับฉินเทียนอย่างกระตือรือร้น
“จินเจียน ผู้จัดการใหญ่บริษัทเป่ายู่ ?”
“ใช่แล้ว!”
“คุณจินเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียง ได้ยินมาว่า ก่อนหน้านื้เขาเคยทำการซ่อมแซมโบราณวัตถุในพระราชวังต้องห้ามมาก่อน เขามีความรู้อย่างลึกซึ้งในด้านของสถาปัตยกรรมโบราณ รวมทั้งสวนอีกด้วย”
“บอกตามตรงนะ สวนในบ้านของฉัน ก็เป็นฝีมือของเขาเอง”
“คุณฉิน จะให้ฉันเรียก คุณจิน มาหน่อยไหม พวกคุณลองคุยกันดู และลองฟังความคิดเห็นจากเขาต่อหน้ากันสักหน่อย?”