บัญชามังกรเดือด - บทที่ 699 แนะนำตัวเอง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 699 แนะนำตัวเอง
“ตกลง ฉันจะรีบไปจัดการ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางต้าว แล้ว จ้าวคงก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
“ชิงเฉินผู้นี้ ฉันเลี้ยงเขามานานหลายปี ตามข้อตกลงระหว่างฉันกับเขาในตอนแรก เขาจะต้องทำภารกิจสิบอย่างให้ฉัน”
“ก่อนหน้านี้เพื่อต้องการเก็บเขาเอาไว้ ฉันเลยยังไม่มอบภารกิจให้เขาไปง่ายๆ ตอนนี้ ได้เวลาแสดงฝีมือของเขาแล้ว!”
เขาเดินกลับออกไปด้วยความตื่นเต้น
คฤหาสน์ หูซื่อ ในวันนี้คือคฤหาสน์ ราชาเถียสิบสาม
เงาของพระอาทิตย์ลาดเอียงไปทางทิศตะวันตก แผ่ปกคลุมอาคารที่ทรุดโทรม สายลมเย็นพัดผ่าน นำพาความเหน็บหนาวมาอย่างบอกไม่ถูก
“หัวหน้า พี่เทียน พวกเขามาถึงแล้ว!”
“คนเยอะมาก!”
มองผ่านนอกประตูออกไป เห็นคนมากมายไม่รู้ว่ามีจำนวนคนเท่าไร เดินมากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน มุ่งตรงมาที่นี่ด้วยแรงอาฆาต ยิ่งไปกว่านั้น คนตรงกลางยังแบกโลงศพมาอีกด้วย
ฉีลิ่วกับโหวชงผู้รับผิดชอบหน้าที่อารักขา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ก่อนที่อีกฝ่ายยังไม่มา พวกเขาถือดาบที่เต็มไปด้วยเลือด มันก็คือการต่อสู้ไม่ใช่หรือ? พวกเขายังไม่เคยกลัวเลยแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นกองกำลังของอีกฝ่ายแบบนี้ เทียบกันแล้ว พวกเขาเป็นเพียงแค่หยดน้ำหยดหนึ่งเท่านั้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง
“ฉินเทียน ทำยังไงดี?”
“คนของพวกเขามีมากเกินไป ต่อให้คุณสู้ก็คงไม่ไหวหรอก!”
“พวกเรารีบไปแจ้งทางการดีไหม!” หานหลิงสีหน้าซีดเผือด จับมือของฉินเทียนและพูดด้วยความหวาดกลัว
ฉินเทียนหัวเราะและพูดว่า “เจ้าหน้าที่ธรรมดาทั่วไป เกรงว่าจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้หน่ะสิ”
เขามองไปยังเถียโถวหูเฟย” คนรับช่วงต่อที่เตรียมไว้ ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ธรรมดาทั่วไปใช่ไหม?”
หูเฟยพยักหน้า “ใช่!”
“ฉันแจ้งให้มังกรซ่อนรูปทราบแล้ว”
ฉินเทียนขมวดคิ้ว และพูดว่า “คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่า มังกรซ่อนรูปอาจจะสมรู้ร่วมคิดกับหวังเหล่าหู่ และ หยางต้าว?”
“บอกพวกเขาเรื่องนี้ พวกเขาจะจัดการอย่างเป็นธรรมให้ได้อย่างนั้นหรือ?”
หูเฟยพูดเสียงเบาๆ ว่า “มังกรซ่อนรูป เขาก็ไม่ใช่คนเลวร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก”
“ฉันแจ้งคนที่เชื่อถือได้ไปแล้ว เดี๋ยวถึงเวลาคุณก็รู้เองแหละ”
ฉินเทียนยิ้มและตอบไปว่า “ตกลง”
“ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ในมังกรซ่อนรูปตะวันตกยังมีคนที่เชื่อถือได้อยู่อีกหรือ”
ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น เสียงตะโกนและเสียงด่าทอก็ดังมาจากด้านนอก
“ฉินเทียน เถียโถวรีบมุดหัวออกมาตายได้แล้ว!”
“ฆ่าพวกมันซะ เพื่อแก้แค้นให้กับคุณชาย!”
“ยังมีผู้หญิงคนนั้นอีกคน ฝังเขาไปพร้อมกับคุณชายซะ!”
“ถล่มคฤหาสน์ หูซื่อให้ราบเป็นหน้ากลอง!”
หานหลิงพูดเสียงสั่นว่า “พวกเขาจะบุกเข้ามาแล้ว ทำยังไงกันดีหล่ะ?”
เถียโถวตะโกนพูดว่า “ทุกคนทำหน้าที่ของตนเอง พวกคุณอยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันออกไปพบพวกเขาเอง!”
“ฉีลิ่ว โหวชง ส่งคนของพวกคุณไปคุ้มครองหานหลิง!”
“ใครกล้าบุกเข้าไปทำร้ายหานหลิงฆ่ามันอย่างไม่ต้องปรานี!”
“หัวหน้า____” ฉีลิ่ว และโหวชง ร้อนใจขึ้นมาทันที สถานการณ์อันตรายขนาดนี้ ยังไม่ให้พวกเขาออกโรง จะเป็นแบบนี้ได้ยังไงหล่ะ?
ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า “คำสั่งของหัวหน้า พวกแกกล้าขัดอย่างนั้นหรือ?ทำตามคำสั่งนั่นแหละ”
“วางใจเถอะ ฉันจะออกไปกับหัวหน้าเอง!”
ฉีลิ่ว และ โหวชงกัดฟันแน่น และตอบเสียงดังว่า “รับทราบ!”
“ใครกล้าแตะต้องฮูหยินของหัวหน้า คงต้องข้ามศพพวกเราไปก่อน!”
พวกเขาทั้งสองตอนนี้เป็นองครักษ์ซ้ายขวา เพียงคำสั่งเดียว บรรดาพี่น้องต่างกุมมีดยาวไว้จนแน่น และคุ้มกัน หานหลิงไว้อย่างแน่นหนา
ฉินเทียนกับเถียโถวเดินมุ่งหน้าไปทางประตู
ด้านนอกประตู หวังเหล่าหู่ยืนอยู่ด้านหน้าฝูงชน พร้อมด้วยดาบรูปหัวผีในมือ
แม้ว่าตอนนี้เขาอายุจะหกสิบปีแล้ว แต่ร่างกายอันแข็งแกร่งและแรงอาฆาตแค้นอันมหาศาล โดยเฉพาะดาบรูปหัวผีในมือนั้น คืออาวุธที่มีชื่อเสียงของเขาอีกด้วย
เขาที่เคยเป็นลูกศิษย์ของเส้าหลิน เริ่มต้นจากการเป็นนักฆ่าด้วยมีดเล่มนี้ ฆ่าไปทั่วทุกตรอกซอกซอย จนกระทั่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดในฮั่นจง
ตอนนี้ เขากำลังจ้องมองไปที่บานประตูทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาอันแดงก่ำ เมื่อคิดว่าคนที่ฆ่าลูกชายอันเป็นที่รักของเขาจนตายนั่นอยู่ด้านใน เขาก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
“วางโลงศพลง!”
เขาคำรามด้วยความโกรธ
“ขอครับ!”
ซื่อต้าจินกังเปล่งเสียงตอบรับ ต่างก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และนำโล่งศพอันหรูหราที่แบกอยู่บนบ่านั้น วางไว้ตรงข้ามกับกลางประตู
ส่วนโลงศพเล็กๆ อีกสองใบ ก็วางไว้ทั้งสองข้างของโลงศพหรูหราใบใหญ่นั้น ดูไปแล้วเหมือนเป็นผู้ติดตามหรือไม่ก็ทาสรับใช้อย่างไรอย่างนั้นเลย
หวังเหล่าหู่ตะโกนพูดว่า “เถียโถว,ฉินเทียน!”
“ฉันให้เวลาพวกแกสามนาที รีบออกมาตายซะ!”
“ไม่งั้น อย่าหาว่าฉันถล่มคฤหาสน์หลังนี้ก็แล้วกัน!”
ทันทีที่สิ้นเสียง เสียงเปิดประตูดังเอี๊ยดอ๊าดก็ดังขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินเทียนกับสายลมพัดมาเบาๆ เขาปรากฏตัวที่ประตูพร้อมกับเถียโถว
หวังเหล่าหู่อดตกตะลึงไม่ได้
ทำไมทั้งสองคนนี้ ถึงมีปฏิกิริยาไม่เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้นะ?
พวกเขา ไม่กลัวตายจริงๆ หรือ?
บนตัวของฉินเทียนมีรัศมีแปลกๆ ออกมา สายลมพัดมาเบาๆ แถมยังมองมาด้วยความโอหัง เวลานี้ เหล่าบรรดาอันธพาลผู้โหดเหี้ยมทั้งแปดร้อยคน รวมทั้งหวังเหล่าหู่กับซื่อต้าจินกัง ต่างถูกสะกดเอาไว้หมดแล้ว
“แก____” หลังจากตะลึงไปอยู่นาน หวังเหล่าหู่ ก็เริ่มทมีฏิกิริยาตอบกลับ พออ้าปากพูดอะไรต่อ เขากลับถูกฉินเทียนขัดจังหวะไว้
“แกอะไรหล่ะ?”
“มาถึงหน้าประตูแล้ว ทำไมคุณไม่รีบเข้ามาข้างในหล่ะ?”
“หรือเพราะรู้สึกละอายใจกับคฤหาสน์หลังนี้?”
ฉินเทียนพูดเร็วมาก
“หวังเหล่าหู่ เท่าที่ฉันรู้มา ก่อนหน้านี้คุณก็เป็นลูกศิษย์ของตระกูลหู ถ้าคุณไม่ได้รับการดูแลจากตระกูลหูแล้วล่ะก็ แม้แต่ที่ยืนในฮั่นจงก็คงไม่มี”
“ตระกูลหูประสบกับภัยพิบัติอันโหดร้าย คุณไม่คิดแม้แต่จะช่วยแก้แค้นให้ แถมยังรีบฮุบสมบัติของ ตระกูลหูไปอีก”
“หวังเหล่าหู่ ตำแหน่งจักรพรรดิใต้ดินของ ฮั่นจง คุณนั่งแล้ว มันไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือ?”
“คุณร่วมมือกับหยางต้าวเว่ยเทียนเหอ และ จ้าวคง ทำร้าย ตระกูลหู ยังไม่รีบพูดความจริงออกมาอีกหรือ!”
คำพูดตอนท้าย จู่ๆ น้ำเสียงของเขาก็ดังขึ้น ราวกับฟ้าคำราม ประกอบกับสีหน้าอันเคร่งขรึม เวลานั้นราวกับมีเทพลงมาพิพากษาลงโทษบนโลกมนุษย์
หวังเหล่าหู่ ราวกับถูกตีแสกหน้า แข้งขาอ่อนจนแทบจะคุกเข่าลง
เขามองฉินเทียนด้วยความงุนงง จนดึงสติกลับมาไม่ได้ไปชั่วขณะ
กูมาเพื่อแก้แค้นไม่ใช่หรือ? ลูกชายกูถูกฆ่าตาย กูควรจะเป็นคนพูดแบบนั้นถึงจะถูกสิ
ทำไมยังไม่ทันพูดอะไรสักคำ กลับถูกอีกฝ่ายกล่าวโทษเสียแล้วหล่ะ?
ซื่อต้าจินกังรวมทั้งลูกน้องอีกแปดร้อยคน ต่างก็รู้สึกงุนงง ทำไมพวกเขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดไปซะอย่างนั้น?
“เฮียหู่ คุณพูดอะไรสักหน่อยสิ” หวังเป้าพี่ใหญ่ของซื่อต้าจินกัง กระซิบเตือน
หวังเหล่าหู่ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
“พูดเหลวไหล!”
“แกคือฉินเทียนใช่ไหม?”
“พวกแกฆ่าลูกชายของฉันไง? ฉันเตรียมโลงศพไว้ให้พวกแกเรียบร้อยแล้ว ว่ามา อยากจะตายยังไงดี!”
เขาตะโกนด้วยความโกรธ
ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า “ขอโทษที ฉันลืมแนะนำตัวไป”
“ถูกต้อง ฉันคือฉินเทียน ส่วนข้างๆ ผู้นี้คือ ราชาเถียสิบสามแห่งวิหารเทพ”
เถียโถวตอบอย่างเย็นชาว่า “ฉันเองที่ฆ่าลูกชายของคุณ มีปัญหาอะไร ก็มาหาฉันได้เลย”
ตาของหวังเหล่าหู่แทบจะถลนออกมา เขาตะโกนเสียงดังว่า “พวกแกอย่ามาอ้างชื่อวิหารเทพ เพื่อหลอกลวงต้มตุ๋น ถึงเป็นวิหารเทพจริงๆ แล้วยังไงหล่ะ?’
“ที่นี่คือฮั่นจง เป็นแผ่นดินของหวังเหล่าหู่!”
“ฉันเตรียมโลงศพไว้ให้พวกแกเรียบร้อยแล้ว พวกแกสองคนลงไปนอนซะ ฉันจะเก็บศพของพวกแกเอง”
“อ่อ เรียกผู้หญิงที่ชื่อหานหลิงออกมาด้วย เขาต้องถูกฝังไปพร้อมกับลูกชายของฉัน!”
“ถ้าไม่ฟังกัน ก็อย่าโทษว่ากูสั่ง ให้หั่นพวกแกเป็นชิ้นๆ หล่ะ!”