บัญชามังกรเดือด - บทที่ 720 บอกเขาไปสิว่าผมเป็นใคร
บัญชามังกรเดือด บทที่ 720 บอกเขาไปสิว่าผมเป็นใคร
พอได้ยินหวังเหล่าหู่พูดว่า ‘ทั้งตระกูลหู’ ในดวงตาของเจ้าอ้วนหมีเล่อก็เผยให้เห็นความดุร้ายขึ้นมา
เขาแสยะยิ้มพลางเอ่ยว่า “คุณนี่ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ ด้วย”
“เพียงแต่ว่า ก่อนหน้านี้คุณไม่พูด ต่อไปก็ไม่มีโอกาสจะให้พูดอีกแล้ว”
“ลงไปพูดในนรกเถอะ!”
ในระหว่างที่พูดเขาก็จะโยนหินเหล็กไฟในมือออกไป
แม้ว่าหินเหล็กไฟนี้จะไม่ใหญ่ แต่อาศัยกำลังข้อมือของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ถังออกซิเจนรั่วได้ ข้างในนั้นคือออกซิเจนที่ถูกอัดอยู่จนเต็ม พอได้เจอกับลักษณะพิเศษของหินเหล็กไฟเข้าก็จะต้องระเบิดขึ้นมาแน่
ทุกหนแห่งในห้องล้วนแต่เป็นวัตถุติดไฟ จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่าภายในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่นาที ที่นี่จะต้องกลายเป็นทะเลเพลิงแน่
รวมถึงคนที่ตายไปแล้วที่อยู่บริเวณทางเดินนั่นด้วย ทั้งยังพวกที่ถูกทำร้ายจนพิการ ก็ล้วนแต่กำลังจะกลายเป็นเถ้าถ่านในทะเลเพลิง
“อย่า…”
“พวกเราไม่เข้าใจบุญคุณความแค้นของพวกคุณ พวกเราก็เป็นแค่พยาบาลตัวเล็ก ๆ ขอร้องท่านล่ะ ให้พวกเราออกไปก่อนเถอะนะ”
ในตอนนี้เอง ด้านหลังก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา
เจ้าอ้วนหมีเล่อหันกลับไป พอมองเห็นพยาบาลสองคนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
“อย่ากลัวไปเลย สวรรค์มีคุณธรรมไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เลยเถิดไปฆ่าคนบริสุทธิ์อย่างแน่นอน”
“มาสิ บอกฉันสิว่าพวกเธอชื่ออะไรกัน”
บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม จากปีศาจที่ฆ่าคนตนหนึ่ง ก็เปลี่ยนเป็นคุณอาที่ดูแล้วอ่อนโยนเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักมาก ๆ คนหนึ่งในทันตา
พยาบาลสองคนดูเหมือนว่าจะถูกขู่ให้เสียขวัญจนมึนงงไปหมด พวกเธอขดตัวแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าอ้วนหมีเล่ออย่างช้า ๆ
“เรียนท่าน ฉันชื่อว่าหยุนเอ๋อร์”
“ฉันชื่อหลันเอ๋อร์”
ท่าทางเรียบร้อยน่าสงสาร ยิ่งเสริมด้วยน้ำเสียงที่หวานหยดย้อย แม้แต่เจ้าอ้วนหมีเล่อก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหว เพียงแต่ว่าเขาไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด
สังหารหวังเหล่าหู่เป็นเรื่องใหญ่ จะให้ผู้หญิงมาทำลายแผนการได้อย่างไร
เรื่องของวันนี้ไม่อนุญาตให้มีใครออกไปอย่างมีชีวิตให้ข้อมูลรั่วไหลโดยเด็ดขาด
“หยุนเอ๋อร์ หลันเอ๋อร์… อย่ากลัวไปเลย”
“ฉันจะแผ่เมตตาให้พวกเธอ”
เขายื่นมือออกไปจะลูบบนศีรษะของหยุนเอ๋อร์และหลันเอ๋อร์ เหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก
ขอเพียงมือที่ฆ่าคนคู่นี้สัมผัสโดนศีรษะของผู้หญิง วินาทีต่อไปก็จะบีบพวกเธอจนแตกกระจุยเหมือนกับบีบแตงโมอย่างไรอย่างนั้น
หยุนเอ๋อร์กับหลันเอ๋อร์ดูราวกับถูกความอ่อนโยนของเจ้าอ้วนหมีเล่อจูงใจ ไม่เพียงแต่ไม่หลบหลีก แต่ยังเข้าใกล้เขา
ในตอนที่มือของเจ้าอ้วนหมีเล่อสัมผัสโดนเส้นผมของพวกเธอนั้นเอง ในดวงตาก็มีความปรารถนาที่จะฆ่าวาบผ่าน
ลงมือในเวลาเดียวกันกับเสียงร้องหวาน ๆ ของสองสาว
แสงอันเยือกเย็นปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
กริชสองเล่มแทงไปทางหน้าอกของเจ้าอ้วนหมีเล่อจากระยะประชิด
อย่ามองว่าพวกเธอเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอที่งามหยาดเยิ้ม เพียงเริ่มลงมือ พละกำลังและความว่องไวนั้นสามารถแทงคนทะลุได้อย่างสมบูรณ์
“นางสารเลว!”
เจ้าอ้วนหมีเล่อสัมผัสได้ถึงท่าทางดุร้าย ด่าออกเสียงด้วยความโกรธ แต่ว่าเขาไม่เพียงแต่ไม่หลบ กลับกันยังยืดอกขึ้นอีกด้วย
เสียงขวับ ๆ ดังขึ้นสองครั้ง กริชในมือของสองสาวแทงทะลุเสื้อของเขาไป ตอนที่จะโดนกล้ามเนื้อนั้นกลับถูกกีดขวางในเวลาเดียวกัน
เป็นไปได้อย่างไร?
นึกไม่ถึงว่าร่างกายที่มีแต่ไขมันนี้จะแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า?
“สาวน้อย ที่แท้พวกเธอก็เป็นองครักษ์ติดตัวนี่เอง!”
“เพียงแต่ว่าดูถูกฉันเกินไปแล้ว!”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะ เจ้าอ้วนหมีเล่อ มือใหญ่เท่าพัดใบลานคู่หนึ่งของเจ้าอ้วนหมีเล่อก็ตบไปทางสองสาวรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด
สองสาวตื่นตระหนก แต่ว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายของพวกเธอนั้นว่องไวมาก เพียงขยับเท้า ก็หลุดออกจากใต้วงแขนของเจ้าอ้วนหมีเล่อแล้ว
“พี่เหลิ่งหยุน ส่งมันมาให้ฉันเถอะ!”
“พี่พาตัวหวังเหล่าหู่หนีไป!”
“มันจะตายไม่ได้ ความแค้นของตระกูลของพวกเรายังต้องอาศัยให้เขาไปเป็นพยาน!”
เด็กสาวที่ชื่อว่าหลันเอ๋อร์เอ่ยปาก ใบหน้าของเธอปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งเปรียบดังกระบี่ด้ามหนึ่งที่ออกจากฝัก
นึกไม่ถึงว่าหยุนเอ๋อร์ก็คือเหลิ่งหยุน
เธอยิ้มพลางเอ่ยว่า “น้องหลัน เจ้าหมอนี่จัดการได้ยาก พี่จะอยู่กับเธอ”
“ฆ่ามันเสีย แล้วค่อยจัดการกับหวังเหล่าหู่!”
ท่ามกลางเสียงตะโกนหวาน ๆ เท้าของสองสาวก็ขยับ เรือนร่างที่งดงามบอบบางเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเหมือนกับผีเสื้อคู่หนึ่ง ต่อสู้กับเจ้าอ้วนหมีเล่อกันเป็นคู่
ความโมโหของเจ้าอ้วนหมีเล่อพุ่งขึ้นสูง มือใหญ่ทั้งคู่โบกจนเกิดเป็นสายลม แทบอยากจะทุบสองสาวให้กลายเป็นก้อนเนื้อเดี๋ยวนี้เลย
ในที่ไกล ๆ หวังเหล่าหู่ที่โดนทุบจนขาทั้งคู่หักก็ตะลึงงัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่านางพยาบาลสองคนที่เขาวางแผนที่จะล่วงละเมิดไปเมื่อกี้นี้จะเป็นยอดฝีมือ
อีกทั้งยังไม่ใช่ยอดฝีมือธรรมดา ๆ อีกด้วย
พอคิดถึงเรื่องเมื่อกี้แล้ว ถ้าหากว่าพวกเธอลงมือกับเขาละก็ เช่นนั้นเขาคงจะตายไปหลายรอบแล้ว เขารู้สึกหวาดกลัวย้อนหลังขึ้นมา
“ความแค้นของตระกูลของพวกเธอ… น้องหลัน…”
เขาจ้องมองหลันเอ๋อร์ พูดพึมพำกับตัวเอง คิดไตร่ตรองอย่างหนัก
ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ฉันนึกออกแล้ว เธอก็คือหูรั่วหลัน! น้องสาวของหูเฟย!”
“เมื่อสามปีก่อนเธออยู่ต่างประเทศเลยรอดพ้นจากเหตุไฟไหม้!”
การค้นพบนี้ทำให้เจ้าอ้วนหมีเล่อตกตะลึงหนัก
“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสมาชิกที่ยังมีชีวิตเหลือรอดของตระกูลหู!”
“คิดอยากจะแก้แค้นให้ครอบครัวงั้นหรือ? สาวน้อย เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”
“ในเมื่อเธอปรากฏตัวแล้ว เช่นนั้นฉันก็จะส่งเธอไปอยู่พร้อมหน้ากันกับครอบครัว!”
ดวงตาของเขาปรากฏความดุร้ายออกมา ใจที่อยากจะฆ่าหูรั่วหลันกับเหลิ่งหยุนแน่วแน่มากยิ่งขึ้น
อาศัยฝีมือที่ฝึกวิชาฟันแทงไม่เข้ามา เขาไม่สนใจกริชสั้นในมือของเหลิ่งหยุนกับหูรั่วหลันเลยสักนิด เปิด ๆ ปิด ๆ ช่องทาง เพียงแป๊บเดียว ก็บังคับให้เหลิ่งหยุนกับหูรั่วหลันยากที่จะเข้าประชิดตัวได้
ดูแล้วเหมือนกับลูกกวางสองตัวที่กำลังต่อสู้ไปรอบ ๆ เสือร้ายที่บ้าคลั่งตัวหนึ่ง
ถ้าพูดถึงความชำนาญในด้านการลอบสังหารละก็พวกเธอเหนือกว่าเจ้าอ้วนหมีเล่อเป็นสิบเท่า แต่แบบเพชรตัดเพชรซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ ไม่ได้ได้เปรียบเลยจริง ๆ
เหลิ่งหยุนพูดขึ้นพร้อมกัน “รั่วหลัน เธอรีบพาหวังเหล่าหู่หนีไป!”
“ถ้ายังไม่ไปอีก พวกเราจะหนีกันไม่ได้แล้วนะ!”
หูรั่วหลันกัดฟัน “มันเป็นหนึ่งในฆาตกรที่ฆ่าครอบครัวของพวกเรา ฉันจะต้องฆ่ามันแน่!”
“ตายเสีย!” เจ้าอ้วนหมีเล่อฉวยโอกาสตอนที่เหลิ่งหยุนกับหูรั่วหลันสนใจเรื่องอื่นอยู่ ใช้สองหมัดที่รุนแรงซัดผัวะ ๆ ให้พวกเธอถอย
เหลิ่งหยุนกับหูรั่วหลันโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง แต่ในระยะเวลาอันสั้นนั้น กลับคิดวิธีที่จะเอาชนะเจ้าอ้วนหมีเล่อไม่ได้
“สาวน้อย ตอนนี้ฉันจะทำให้พวกเธอได้รู้จุดจบของการเสียมารยาทต่อฉัน!”
เจ้าอ้วนหมีเล่อโค้งเอว แล้วหยิบเอาถังออกซิเจนที่อยู่ข้าง ๆ หนึ่งถังขึ้นมาอีกครั้ง
กวัดแกว่งไปตามใจ เสียงดังฟึ่บ ๆ ทำแบบนี้แล้วแรงโจมตีก็จะเพิ่มขึ้นในทันที
ก่อนหน้านี้เหลิ่งหยุนและหูรั่วหลันได้พบเห็นมาแล้ว ความร้ายกาจของอาวุธชิ้นนี้ของเจ้าอ้วนหมีเล่อ ในดวงตาของพวกเธอเผยความกังวลใจขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ตามความสามารถของพวกเธอ ถ้าคิดจะหนีไปก็หนีได้แน่ แต่ว่าห้ามทิ้งหวังเหล่าหู่ไว้น่ะสิ
ในกรณีที่หวังเหล่าหู่ถูกเจ้าอ้วนหมีเล่อฆ่าปิดปาก ถ้าคิดจะหาพยานหลักฐานที่พวกของหยางต้าวสังหารตระกูลหูอีกก็ยากเกินไป
“สาวน้อย พวกเธอรูปร่างหน้าตาสวยงามขนาดนี้ ฉันก็ยังแข็งใจทุบพวกเธอให้แหลกละเอียดไม่ได้จริง ๆ”
“ตอนนี้พวกเธอจะฆ่าตัวตายเอง? หรือจะต้องบีบบังคับให้ฉันลงมือให้ได้?”
เจ้าอ้วนหมีเล่อหิ้วถังออกซิเจนยิ้มแสยะ เข้าประชิดทีละก้าว ๆ
เหลิ่งหยุนและหูรั่วหลันดูเหมือนจะติดอยู่ในทางตันเหมือนลูกแกะสองตัว
ในช่วงเวลาล่อแหลมนี้เอง พื้นที่บริเวณประตูก็มีเสียงแจ่มใสเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“ลงมือกับผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ แกไม่กลัวตกนรกอเวจีหรือไง?”
หืม?
เจ้าอ้วนหมีเล่อตกตะลึง รีบหันหลังกลับ มองไปยังพื้นที่บริเวณประตู มีผู้ชายอายุน้อยรูปร่างสูงโปร่งใบหน้างดงามคนหนึ่งยืนอยู่
เขายืนเอามือไพล่หลัง ใบหน้ามีรอยยิ้มประดับ ดูแล้วงดงามไม่มีพิษมีภัย แต่ว่าดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นกลับมีความน่าเกรงขามดังครอบงำทั้งพื้นพิภพเอาไว้
“แกเป็นใคร?”
“นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ฉินเทียนยิ้มน้อย ๆ “หยุนเอ๋อร์ บอกเขาไปสิว่าผมเป็นใคร จะได้ให้เขาเป็นผีที่ฉลาด”