บัญชามังกรเดือด - บทที่ 733 วิญญาณพยาบาท
บัญชามังกรเดือด บทที่ 733 วิญญาณพยาบาท
หยางต้าวรู้สึกอับอายจนกลายเป็นโกรธ เขาหายใจกระหืดกระหอบด้วยความโกรธและเปล่งเสียงหัวเราะออกมา
เขาเผยธาตุแท้ของตนออกมา ราวกับสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง ภายใต้พลังอันลึกลับ เสียงหัวเราะก็ดังกึกก้องไปทั่ว จนหลายคนทนไม่ไหว ต้องเอามือขึ้นมาปิดหู
ฝีมือช่างล้ำลึกเสียจริง!
สีหน้าของฉินชวนเปลี่ยนไป ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู
แม้แต่ฉินเทียนเอง ยังอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใส สมแล้วที่เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ปกติแล้วชายผู้นี้ดูราวกับนักธุรกิจที่มั่่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าแท้จริงแล้วจะมีเบื้องลึกที่ลึกซึ้งถึงเพียงนี้
“เยี่ยม!”
“หัวหน้าใหญ่ว่าน เยี่ยมยอดจริงๆ!”
“ฉันเข้าใจแล้ว!”
“ฉินเทียนกับ เถียโถว พวกเขาเสนอราคาให้สูงกว่าใช่ไหม?”
“ฉันยอมก็ได้ แต่บอกฉันทีเถอะว่าตกลงแล้วพวกเขาจ่ายให้แกเท่าไรกันแน่!”
“บอกมาเถอะ ถ้าฉันจ่ายให้ไม่ได้ วันนี้ฉันก็จะยอมแพ้!”
ว่านเป่ามองไปยังหยางต้าวที่กำลังบ้าคลั่ง สายตาแสดงถึงความหวาดกลัว เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของฉินเทียน แต่เปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้ เขากัดฟันและพูดว่า “ราคาที่คุณฉินเสนอมา แกไม่มีวันจ่ายให้ได้หรอก!”
“หยางต้าว อย่าเสียเวลาอีกเลย ยอมแพ้ซะเถอะ”
“ยังไงวันนี้แกก็หนีลิขิตสวรรค์ไปไม่พ้นหรอก”
หยางต้าวตอบอย่างเยาะเย้ยว่า “ยอมแพ้ก็ได้”
“แต่อย่าเอาคดีโศกนาฏกรรมของตระกูลหูมาใส่ร้ายฉัน!”
“เอาแต่พูดว่าฉันทำร้ายคนตระกูลหู แล้วพวกแกมีหลักฐานหรือเปล่าหล่ะ?”
“ถ้าวันนี้ไม่มีหลักฐาน แล้วยังคิดจะฆ่าฉันอีกล่ะก็ มังกรซ่อนรูปของพวกแกคงติดค้างคำตอบกับคนทั้งโลกแน่ๆ”
หยางต้าวมองไปยังว่านเป่าด้วยสีหน้ายั่วยุ
ทุกคนในที่นี้เต็มไปด้วยความสงสัย เดิมทีหวังเหล่าหู่บอกว่าหยางต้าวเป็นคนฆ่าคนของตระกูลหู แถมยังพูดอย่างชัดเจนและมีเหตุผลอีกด้วย
แล้วหลักฐานหล่ะ?
ไม่มีหลักฐาน เรื่องนี้ไม่ว่าจะฟังยังไง ก็ยังรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่ออยู่เหมือนกัน
คงไม่ใช่ว่ามังกรซ่อนรูปถูกฉินเทียนให้สินบนเพื่อมาจัดการกับหยางต้าวหรอกนะ
ว่านเป่าและไป๋เลี่ยนมองไปทางฉินเทียนด้วยความสงสัย ภารกิจของพวกเขาสำเร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของฉินเทียนแล้วหล่ะ
ฉินเทียนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ จนถึงตอนนี้เหลิ่งหยุนก็ยังมาไม่ถึงสักที
หรือว่าวันนี้จำเป็นต้องลงมือจริงๆ ซะแล้ว?
หากไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เขาก็อยากให้ได้หลักฐานมาจริงๆเสียก่อน แล้วค่อยเปิดโปงต่อหน้าผู้คน และต่อหน้าวิญญาณที่พยาบาทของตระกูลหู ให้พวกเขาได้ฟังกันอย่างชัดๆ
และนั้นมันจะเป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“หลักฐานหน่ะมีแน่นอน แต่แกคงต้องรออยู่ในคุกใต้ดินของมังกรซ่อนรูปก่อนแล้วหล่ะ!”
ท่ามกลางเสียงคำราม ฉินเทียนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และจับหยางต้าวเอาไว้ด้วยมือของเขาเอง
จากนั้นรอจนกว่าหลักฐานจะมา แล้วค่อยประหารชีวิตเขาต่อหน้าสาธารณชนก็แล้วกัน
ในตอนนี้ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านนอก
“หลักฐาน!”
“หลักฐานมาแล้ว!”
มีร่างร่างหนึ่ง ที่ดูเหมือนกับนกน้อยที่กำลังตกใจ วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
ส่วนฉินเทียน เมื่อเห็นคนผู้นี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“เหลิ่งหยุน!”
“เกิดอะไรขึ้นกับแก?”
เมื่อเห็นว่าเหลิ่งหยุนผมเผ้ารุงรัง มีเลือดทั่วตัว เสื้อผ้าก็เปื้อนสีแดงเลือด
คนที่ไม่รู้ พอเห็นว่าจู่ๆแกก็ปรากฏตัวแบบนี้ คงคิดว่าแกเป็นอสูรกายที่บุกเข้ามาอย่างแน่นอน
“ศิษย์พี่!” เหลิ่งหยุนควบคุมตัวเองไม่ได้ อาศัยความเคยชิน โผเข้าไปในอ้อมแขนของฉินเทียน จากนั้นร่างกายของแกก็อ่อนปวกเปียก และไม่มีเรี่ยวแรง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ใครทำร้ายเธอ?” ฉินเทียนกอดเหลิ่งหยุนเอาไว้ เขาโกรธจนตาแทบจะทะลัก
สีหน้าของเหลิ่งหยุนซีดขาวจนน่ากลัว เธอมองและยิ้มให้ฉินเทียนแล้วพูดว่า “ภารกิจของน้องสำเร็จลุล่วงแล้ว อ่ะนี่….หลักฐาน”
มือที่เปื้อนเลือดได้ยื่นมือถือรุ่นเก่าให้กับฉินเทียน จากนั้นก็สลบไป
ฉินเทียนรีบตรวจเช็คชีพจรของเธอ และพบว่าชีพจรของแกนั่นเต้นอ่อนมาก คงเป็นเพราะหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ แกเสียเลือดมากจนเกินไป แถมยังกัดฟันเดินทางมาไกลเพื่อมาที่นี่ เลยทำให้แกอ่อนแรงเช่นนี้
ยังดีที่ไม่อันตรายถึงชีวิต
แต่ถึงกระนั้น สีหน้าของเขาก็ยังเคร่งขรึมอย่างน่ากลัว!
จริงๆ เป็นภารกิจที่ง่ายๆ สำหรับเหลิ่งหยุนที่จะเดินทางไปทางตอนเหนือเพื่อนำหลักฐานกลับมา แต่ทำไมถึงได้ต่อสู้กับคนอื่นด้วยหล่ะ?
จะว่าไป ใครกันหล่ะ ที่ทำร้ายเธอจนบาดเจ็บถึงขนาดนี้?
ต้องรู้ก่อนว่าเหลิ่งหยุนเป็นถึงราชินีงูที่มีชื่อเสียงอย่างมากของวิหารเทพ! เห็นเธอร่างกายบอบบางแบบนี้ก็จริง แต่พละกำลังในตัวแกนั้นโดดเด่นมากเลยทีเดียว
ถ้ามองในแง่การลอบสังหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกและคาดไม่ถึงเอามากๆ!
ความโกรธและความประหลาดใจของฉินเทียนมีมากมายอย่างสุดขีด แต่เรื่องพวกนี้ คงต้องรอว่ากันอีกทีภายหลัง
เขาส่งเหลิ่งหยุนให้หูรั่วหลันดูแลต่อ เขายกมือถือที่อยู่ในมือขึ้นด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม
“มึงอยากได้หลักฐานใช่ไหม?”
“ถ้างั้นฟังดีดีนะ!”
หลักฐาน?
ในมือถือเครื่องนี้ มีหลักฐานที่แสดงว่าหยางต้าวและคนของเขาทำร้ายคนตระกูลหูอย่างนั้นจริงๆ หรือ?ท่ามกลางความเงียบงัน ทุกคนต่างจับจ้องไปที่มือถือเครื่องนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
ภายใต้สายตาทุกคู่ที่จับจ้องมานั้น ฉินเทียนก็กดปุ่มเล่นเสียง
เสียงนั้นค่อนข้างดัง มีทั้งเสียงลมปนกับเสียงแตกของไม้ที่ถูกเผาไหม้อยู่ในกองเพลิง
จากนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
เนื้อหาที่พวกเขาพูดคุยกัน เป็นไปอย่างที่หวังเหล่าหู่ได้เล่าไว้ก่อนแล้วก่อนหน้านี้
ง่ายๆ ก็คือแทงใจดำทุกคำพูด!
ทำให้คนตระหนกตกใจทุกคำพูด!
หลังจากได้ยินแล้ว ที่แห่งนั้นก็เกิดเสียงฮือฮาดังระงมไปทั่ว!
“ไอ้สารเลว กูจะฆ่ามึง!”
เถียโถวหูเฟย อดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ท่ามกลางเสียงคำรามนั้น เขาก็ระเบิดพลังและพุ่งเข้าหาหยางต้าว
เมื่อหยางต้าวได้เห็นมือถือเครื่องนั้น เขารู้ทันทีว่ากำลังจะพ่ายแพ้ เลยเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมของหูเฟย
ด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา เขาผายมือออก!
ตอนที่เขาอยู่ในฮั่นจง เขาได้รับฉายาว่า ฝ่ามือทรายเหล็ก และฝ่ามือทรายเหล็กคู่นี้ เป็นคู่ต่อสู้ที่หาได้ยาก เพราะมันคือศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง
เขาคิดว่าฝ่ามือนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะตีเถียโถวให้ตาย!
ใครจะไปรู้ว่า ดูเหมือน เถียโถวจะคุ้นเคยกับกระบวนท่าของเขาเป็นอย่างดี เขาคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่อถูกจู่โจมเข้าถึงตรงหน้า ร่างของเขาก็หลบหลีกฝ่ามือของอีกฝ่ายได้ทันอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ปรากฏกระแสไฟเส้นหนึ่งพุ่งไปตรงหน้าของหยางต้าวในระยะกระชั้นชิด
“กริชขว้าง!”
หยางต้าวตกใจมากและหลบกระแสไฟนั้นโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็จ้องมองไปยังเถียโถวและถามด้วยความตื่นเต้นว่า “กริชขว้างฝ่ามือเหล็ก ใครเป็นคนสอนแก?”
“แกเป็นใครกันแน่?”
หูเฟยไม่ตอบ เขากัดฟันและใช้กริชขว้างด้ามคมๆ ในมือเขา โจมตีหยางต้าวอย่างดุเดือด!
เมื่อเห็นแววตาของหูเฟยแล้วหยางต้าวก็ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“วิญญาณพยาบาท!”
“วิญญาณพยาบาทจริงๆ ด้วย!”
“วันนี้กูจะให้มึงสมปรารถนาอีกสักครั้ง!”
ท่ามกลางเสียงคำราม มือทั้งคู่ของเขาก็ผายออกบริเวณท่อนเอว ทันใดนั้นก็มีใบมีดอันแหลมคมขึ้นมาระหว่างนิ้วมือของเขา
ใบมีดที่คีบอยู่ระหว่างนิ้ว ถ้าถูกตบจากหน้ามือนั่นเรียกว่า ฝ่ามือเหล็ก แต่หากถูกตบจากหลังมือนั่นก็คือ มีดและส้อมดีดีนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ใบมีดเหล่านี้ล้วนแต่มีชีวิต มันสลัดออกได้ทุกเมื่อ ยากที่จะป้องกันเสียจริงๆ
ฉินเทียนและเฟ่ยเทียนอิงยืนตะลึงกันอยู่ข้างๆ
ได้ยินเรื่องฝ่ามือเหล็กของหยางต้าวมานาน ช่างสมคำร่ำลือเสียจริง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยก็คือ ทำไมเถียโถวถึงมีวิชานี้ด้วยหล่ะ?
และดูเหมือนว่ามันจะเหมือนกับกระบวนท่าของ หยางต้าว ไปซะทุกอย่าง
“ฉินชวน แกพาคนไปจัดการคนอื่นๆ ก่อน!”
“ชายผู้นี้ฉันจะจัดการเอง!”
“ฉันขอประลองฝีมือกับเขาสักหน่อย!” เฟ่ยเทียนอิง ถูมือด้วยสีหน้าอันตื่นเต้น
หลังจากถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินมาเป็นเวลานาน ตอนนี้สัตว์ร้ายได้ออกจากกรงแล้ว เมื่อได้เจอคู่ต่อสู้ที่ดูสมน้ำสมเนื้อ เขาเลยรู้สึกคันมือคันไม้จนทนต่อไปไม่ไหว
และเขามองออกว่า แม้ว่าเถียโถวจะใช้ทักษะการต่อสู้แบบเดียวกับหยางต้าว แต่ระดับความรุนแรงนั้นยังห่างกันเกือบครึ่ง
ถ้าเป็นไปตามคาด เถียโถวก็จะพ่ายแพ้ลงในอีกไม่ช้า
มีเฟ่ยเทียนอิงเฝ้าดูการต่อสู้อยู่ข้างๆฉินชวนเลยไม่รู้สึกเป็นกังวลมากนัก แค่โบกมือทีเดียว เหล่าบรรดาสมาชิกเหล่านั้นก็กรูกันออกมาจับเว่ยเทียนเหอ จ้าวคงรวมทั้งอันธพาลเหล่านั้นใส่กุญแจมือที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะทันที
ทุกคนต่างล้อมรอบพวกเขาไว้ ตอนนี้รอแค่เวลารวบแหจับ หยางต้าว เท่านั้น
“ไอ้เด็กเปรต แกยังอ่อนอยู่อีกเยอะ!”
ทันใดนั้น หยางต้าวก็ส่งเสียงคำรามขึ้น เขาเตะเถียโถวด้วยขาข้างเดียว จนเถียโถวกระเด็นออกไป