บัญชามังกรเดือด - บทที่ 736 หมาป่าหอน
บัญชามังกรเดือด บทที่ 736 หมาป่าหอน
ที่แท้ หลังจากที่เหลิ่งหยุนเดินทางไปทางเหนือตามที่อยู่ที่หวังเหล่าหู่ ได้ให้มาแล้วนั้น เธอก็หาผู้หญิงคนนั้นเจออย่างราบรื่น
หลังจากแสดงเจตจำนงที่มาในครั้งนี้อย่างชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็ดูราบรื่นอย่างน่าประหลาดใจ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆและดูมีเหตุมีผลเป็นอย่างมาก แถมยังบอกอีกว่าหวังเหล่าหู่ควรจะปล่อยหลักฐานนี้ไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เพื่อลดกรรมชั่วของเขาให้เบาบางลง
เเธอยังปฏิเสธการแก้แค้นอันดุเดือดที่เหลิ่งหยุนเสนอให้ พร้อมกับมอบหลักฐานให้กับเหลิ่งหยุนโดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน
เหลิ่งหยุนดีใจมาก และรีบส่งข้อความแจ้งข่าวดีให้กับฉินเทียนทันที
จากนั้น ก็เตรียมตัวที่จะเดินทางกลับ
คิดไม่ถึงว่า ตอนไปทานข้าวที่ร้านอาหาร แกถูกทายาทเศรษฐีท้องถิ่นพบเข้า ทายาทเศรษฐีคนนั้นตะลึงในความงามของเธอ เลยเข้ามาพูดจาแทะโลม
เหลิ่งหยุนไม่เคยเห็นคนพันธุ์นี้อยู่ในสายตา ตอนแรกขี้เกียจที่จะเสวนากันด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าชายผู้นี้เห็นว่าเหลิ่งหยุนเป็นผู้หญิงบอบบางคงจะหวาดกลัว
ด้วยตัณหาราคะของเขา ถึงขนาดกล้ายื่นมือไปดึงตัวเหลิ่งหยุน
เหลิ่งหยุนกรอกตามองบน และเอามือของเขากดลงไปบนโต๊ะนั้น และใช้ตะเกียบสเตนเลส ตอกลงไปอีกหนึ่งที
ทายาทเศรษฐีคนนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ร้องโวยวายจนน่าตกใจ และรีบโทรศัพท์เรียกคนของเขาให้มาทันที
เหลิ่งหยุนไม่ได้ใส่ใจอะไร ค่อยๆ ทานอาหารต่อไปจนเสร็จ และก็เดินออกไปอย่างใจเย็น
ตอนที่เดินไปถึงลานจอดรถ เธอก็ถูกบอดี้การ์ดที่ทายาทเศรษฐีเรียกมานั้นจับตัวไว้ บอดี้การ์ดเหล่านี้แม้ว่าจะโหดร้าย แต่ในสายตาของเหลิ่งหยุนแล้ว พวกเขาก็เป็นเพียงแค่ขยะ
เธอคิดอยากจะฆ่าพวกเขา เลยจงใจล่อพวกเขาไปยังสถานที่เปลี่ยวๆ ในซอยตันแห่งหนึ่ง
ตอนที่เธอกำลังลงมืออย่างโหดร้ายและกำลังจะลงมือฆ่าพวกเขาอยู่นั้น บอดี้การ์ดที่ถูกแกทุบตีก็พาลโกรธขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็หยิบเข็มฉีดยาออกมาและต่างคนก็จิ้มเข็มนั้นลงไปที่แขนของตัวเอง
ตอนแรกเหลิ่งหยุนคิดว่าพวกเขาคงกำลังฉีดยาแก้ปวดกันอยู่ เขายังคิดว่ามันน่าตลกไปเลยด้วยซ้ำ
ใครจะรู้ว่า ในไม่ช้าเธอจะได้พบกับฉากอันน่าสะพรึงกลัว
หลังจากที่บอดี้การ์ดฉีดยาเข้าไปแล้ว เส้นเลือดของพวกเขาก็ปูดขึ้น แววตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดงเลือด ราวกับปีศาจร้ายเข้าสิงอย่างไรอย่างนั้น ไม่เพียงแต่พละกำลังและความเร็วที่เพิ่มเป็นทวีคูณ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้จักความเจ็บปวดใดๆ อีกต่อไป
เหลิ่งหยุนคนเดียวต้องเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจชั่วร้ายที่แปลงกายนับสิบคน เธอต้องต่อสู้ด้วยความยากลำบาก แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่าตาย แต่เธอเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน
และระหว่างการต่อสู้ตะลุมบอนอยู่นั้น มือถือของเธอก็หล่นลง
เธอรู้ดีถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ แต่เธอแทบจะไม่สนใจอะไรเลย เธอกัดฟันเดินทางอย่างไม่คิดถึงชีวิต จนในที่สุดก็นำหลักฐานกลับมาได้ในวินาทีสุดท้าย
หลังจากฟังเธอพูดจนจบ บรรยากาศในห้องก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา
“ยานั่นอีกแล้วหรือ!”
ฉินชวนกัดฟันและพูดว่า “ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ สิ่งที่พวกเขากับหยางต้าวใช้ น่าจะเป็นของชนิดเดียวกัน”
“ท่านอาจารย์ ฉันจำได้ว่า เมื่อก่อนลุงฉันเหมือนจะเคยพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับยาพวกนี้มาก่อน”
“เธอรู้ไหมว่ามันคืออะไรกันแน่?”
เฟ่ยเทียนอิงก็เคร่งขรึมไปอย่างผิดปกติ ตอนที่เขากำลังเกือบจะชนะหยางต้าว จู่ๆ ก็ถูกหยางต้าวที่ฉีดยาเข้าร่างกายแล้ว ใช้ฝ่ามือจู่โจมจนเขากระอักเลือดออกมา ดังนั้นเขาเลยมีความทรงจำกับยาชนิดนี้เป็นพิเศษ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขากัดฟันและพูดว่า “ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ หมาป่าหอนที่เงียบหายไปนานเกือบยี่สิบปี บัดนี้คงกลับคืนเข้าสู่ยุทธจักรแล้ว”
“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ทางตอนเหนือ แต่ฟังจากที่คุณเหลิ่งบรรยายแล้ว ที่นั่น ยาชนิดนี้ดูเหมือนจะมีกันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว”
“แส้มังกร ฉันคิดว่าจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับทางมังกรซ่อนรูปตอนเหนือ ให้พวกเขาช่วยทำการตรวจสอบสักหน่อยแล้วหล่ะ”
ฉินเทียนพยักหน้าและพูดเบาๆ ว่า “เรื่องนี้ ถ้ามันจำเป็นแล้วล่ะก็ ฉันจะจัดการมันในไม่ช้า”
“ตอนนี้ แกบอกฉันที หมาป่าหอนถูกบันทึกอยู่ในคดีของจินหู่เมื่อยี่สิบปีก่อนนี้ด้วยใช่ไหม?”
“ตอนนี้ บอกฉันได้แล้วหรือยังว่าแฟ้มคดีนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่?”
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในคุกใต้ดิน เฟ่ยเทียนอิงเคยบอกว่า หากฉินเทียนช่วยพวกเขาออกมาได้จริงๆ เขาจะยอมมอบแฟ้มคดีนั้นให้กับเขาด้วยความจริงใจ
หลังจากที่ออกจากคุก เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลหู หลายวันมานี้เลยมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องภายในของมังกรซ่อนรูป รวมทั้งเรื่องการจับกุมหยางต้าวและคนอื่นๆ ดังนั้นช่วงนี้เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้เลย
คิดไม่ถึงว่าการเดินทางไปตอนเหนือของเหลิ่งหยุน จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาตัวนี้ด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเทียนรู้ว่ายาชนิดนี้ชื่อว่า หมาป่าหอน
นึกไว้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ลิเหลียงใช้ทางตอนใต้ก่อนหน้านี้ จินหู่ที่ถูกคนจัดการในญี่ปุ่น การโต้ตอบอย่างสุดชีวิตของหยางต้าว รวมถึงสิ่งที่เหลิ่งหยุนได้พบเจอระหว่างการเดินทางไปตอนเหนือนั้น มันจะเป็นของสิ่งเดียวกันทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะปริมาณหรือส่วนผสมที่แตกต่างกันเล็กน้อย ผลลัพธ์ที่ได้เลยแตกต่างกัน
เฟ่ยเทียนอิงเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “แส้มังกร ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อแกนะ ที่แกเคยบอกว่า จะล้างมลทินให้กับจินหู่”
“เขาได้ชื่อว่าเป็นคนทรยศ และเสียชีวิตอย่างอนาถในต่างแดน หลายปีมานี้ ฉันเชื่อมั่นมาตลอดว่า เขาถูกใส่ร้าย”
“เขาเสียชีวิตยังไงกันแน่ ตอนนี้เล่าให้พวกฉันฟังได้แล้วหรือยัง?”
ฉินชวนที่อยู่ข้างๆ ถามด้วยความตื่นเต้น “ขอแส้มังกรได้โปรดชี้แจง!”
ฉินเทียนถอนหายใจ และยอมเล่าผลการสืบสวนออกมา
เมื่อรู้ว่าจริงๆ จินหู่ถูกวางยาหมาป่าหอน ถึงได้มีนิสัยดุร้ายและอาละวาดอย่างหนัก จนไม่เหลือเค้าโครงนิสัยเดิมอยู่เลย แววตาของเฟ่ยเทียนอิงก็แดงก่ำ และด่าทออย่างรุนแรง
“แส้มังกรโปรดดู นี่คือบันทึกที่จินหู่เขียนขึ้นกับมือเมื่อครั้งในอดีต”
“เขารู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาเลยปิดเรื่องนี้เป็นความลับมาโดยตลอด ก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจน มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้”
เขาหยิบกระดาษสองแผ่นที่เก็บติดตัวออกมา เนื่องจากเวลาล่วงเลยผ่านไปนาน รวมถึงสภาพการจัดเก็บที่ไม่ดี กระดาษนั้นเลยกลายเป็นสีเหลืองนานแล้ว
บันทึกเพียงไม่กี่บรรทัดบนกระดาษแผ่นนั้น ตัวหนังสือบางส่วนก็ดูเลือนรางไม่ชัดเจน
ฉินเทียนรีบรับมา และอ่านมันอย่างตั้งใจ
เนื้อหาส่วนใหญ่ คือตอนที่จินหู่เป็นผู้นำมังกรซ่อนรูปตะวันตก และมีคดีแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่หลายเรื่อง
ตอนที่ผู้ต้องสงสัยถูกไล่ล่า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีแรงต่อสู้ขัดขืนแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายจู่ๆ เขาก็เกิดบ้าคลั่งอย่างดุเดือด ทำร้ายสมาชิกมังกรซ่อนรูปจนได้รับบาดเจ็บ
เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ จินหู่เลยทำการแทรกแซงสืบสวนด้วยตัวเอง จนพบว่าคนเหล่านี้ มีพลังเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ได้รับการฉีดยาชนิดหนึ่ง
เพื่อเป็นการเลี่ยงไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก จินหู่เลยปิดเรื่องนี้เอาไว้ วงในก็จะพูดกันว่า คนพวกนั้นเป็นโรคประสาทกำเริบ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
เขาทำการตรวจสอบอย่างลับลับ จนในที่สุดก็ยืนยันได้ว่า ในยุทธจักรยุทธภพมีคนกำลังค้นคว้าและผลิตยาต้องห้ามกันอยู่ลับลับนั่นเอง
สรรพคุณของตัวยาชนิดนี้ยังไม่เสถียรเลยสักนิด หลังจากใช้แล้ว แม้ว่าจะสามารถเพิ่มพละกำลังเป็นทวีคูณได้ภายในระยะเวลาไม่นาน แต่มันก็จะทำให้อารมณ์แปรปรวนได้
เมื่อสิ่งนี้แพร่หลายออกไป จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากทำการตรวจสอบเพิ่มเติม จินหู่ก็พบว่า ในดินแดนตะวันตกที่เขาดูแลอยู่นั่น อาจมีฐานการวิจัยและพัฒนาหมาป่าหอนอยู่อย่างลับลับอีกด้วย
ของที่แพร่หลายเข้าสู่ตลาดนั้น เป็นไปได้ว่าเป็นแค่เพียงสินค้าทดลอง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นสินค้าด้อยคุณภาพก็ว่าได้
ฉินเทียนอ่านต่อไปด้วยความตื่นเต้น เขาคิดว่าเขาจะสามารถหาแหล่งที่ตั้งฐานลับนั้นได้จากบันทึกของจินหู่ เมื่อกล่าวถึงผู้บงการที่อยู่เบื้องหลัง เอกสารนั้นก็กลับสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
“ไม่จริงสิ” ฉินเทียนชะงักไปชั่วครู่ และพูดด้วยความสงสัยว่า “ข้อมูลที่สำคัญที่สุด ไม่ได้อยู่ในกระดาษแผ่นนี้”
“หรือว่าจินหู่หาฐานที่ตั้งนั้นไม่เจอ?”
จู่ๆ ท่าทีของเฟ่ยเทียนอิง แปลกๆ ขึ้นมาทันที เขามองฉินเทียน และพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “ข้อมูลที่สำคัญที่สุด จินหู่ไม่ได้บันทึกเอาไว้”
“เพราะว่าผู้เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหลัง มันสำคัญมากจนเกินไป ดังนั้น เขาจึงบอกฉันด้วยวาจาเท่านั้น”
“แส้มังกรฉิน ตอนนี้ฉันขอถามแกอย่างหนึ่ง แกรับประกันได้ไหม ไม่ว่าผู้เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหลังนั้นจะเป็นใคร แกจะตรวจสอบอย่างเป็นกลางและจะจัดการด้วยความยุติธรรมโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น?”
ฉินเทียนมองเห็นบางอย่างจากแววตาของเฟ่ยเทียนอิงท่าทีของเขาดูสงบนิ่งไม่แสดงออกใดๆ แต่ในใจกลับสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เขากัดฟันและตอบอย่างแน่วแน่ว่า “หากฉันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขอให้ฉันตายภายใต้เกล็ดมังกรนี้!”
“ดี!”
“เมื่อแกพูดเช่นนี้ ฉันเองก็รู้สึกสบายใจ”
“แส้มังกรฉิน แกฟังให้ดีนะ จากการสืบสวนของจินหู่ เบาะแสทุกอย่างล้วนชี้ชัดไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นฐานลับแห่งนั้น!”