บัญชามังกรเดือด - บทที่ 785 ทนไม่ไหว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 785 ทนไม่ไหว
“เหล่าหลิว ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
“ผู้หญิงคนนี้ร้อนแรงมากเกินไปแล้ว!”
“ฉันอยากจะพุ่งตัวไปจับเธอเข้าไปในป่า ฉันเริ่มก่อน นายคงจะไม่คิดเล็กคิดน้อยหรอกใช่ไหม?”
หม่าเมี้ยนถามหลิวเหมิงด้วยน้ำเสียงที่ทุ่มต่ำ เกรงว่าหลิวเหมิงจะไม่ยินยอม เขาจึงรีบพูดอย่างตื่นเต้น “นายวางใจได้!”
“คนนี้คืนให้ฉัน รอให้อีกคนนั้นมา ฉันจะช่วยน้องชายจับมาเอง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สมาชิกทั้งหลาย ต่างก็พากันตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
ในภูเขาที่แห้งแล้งและป่าเถื่อน เมื่อได้มาเห็นผู้หญิงอย่างเหลิ่งหยุน ที่เดินมาเพียงลำพังเช่นนี้ ลองถามดูว่าใครมันจะไปอดทนไหวกัน!
พวกเขาทั้งหลายต่างก็รออยู่ หลังจากที่ลูกพี่ได้สนุกแล้ว ก็จะปล่อยให้พวกเชาได้สนุกกับมันเช่นกัน
หลิวเหมิงขมวดคิ้ว
“ไม่ปกติเลย!”
“เหล่าหม่า นายอย่าพุ่งออกไปก่อน”
“ฉินเทียนล่ะ? เพราะอะไรถึงได้มีผู้หญิงมาเพียงแค่คนเดียว? คงไม่ได้มาเป็นเหยื่อหรอกใช่ไหม?”
เมื่อเห็นฉากนี้ ถึงจะเป็นคนที่มีสมองค่อนข้างน้อยนิด ต่างก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติ
แต่ทว่า สมองของหม่าเมี้ยนได้ถูกหนอนผีเสื้อเข้ายึดครองไปแล้ว ตอนนี้ที่อยู่เต็มไปหมดภายในสมองของเขา ก็มีเพียงแค่วิธีต่าง ๆ นานาที่จะหาความสนุกเท่านั้น
นอกจากนี้ พวกเขามากมายขนาดนี้ และฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงแค่สาวหวานหยาดเยิ้มคนหนึ่งเท่านั้น จะสามารถมีอันตรายไปได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าเหลิ่งหยุนเดินใกล้เข้ามา แล้วห่างเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ดูเหมือนว่าเพราะอากาศที่ร้อนมากเกินไป กระดุมตรงคอเสื้อของเธอจึงได้ถูกปลอดออกไปเม็ดหนึ่ง
ภายใต้การเคลื่อนไหวของใบตองที่ถูกทำเป็นพัด ผิวขาวราวหิมะที่อยู่ภายใน ก็ปรากฏวับวาบขึ้น
หม่าเมี้ยนรู้สึกว่าเลือดที่อยู่ภายในร่างกายของเขา ได้ไหลเข้าไปเติมเต็มสมองแล้ว
“เหล่าปาเหล่าจิ่ว พวกนายสองคนลองออกไปตรวจสอบดูสักหน่อยซิ”
“ลองไปดูซิว่าสาวน้อยคนนี้มีกลอุบายอะไรหรือไม่”
หลังจากที่เขาสั่งให้ลูกน้องที่เป็นสมาชิกในกลุ่มสองคน แล้วยังกล่าวอย่างละเอียดลออว่า “ลงมือระวังหน่อย อย่าทำให้สมบัติของฉันบาดเจ็บ”
“สมบัติที่งดงามเช่นนี้ แขนขาขาดไป หรือว่ามีเลือดไหลอาบ จนทำให้ทัศนียภาพเสียไป ข้าจะฆ่าพวกแกแน่!”
“ครับ!”
เหล่าปาเหล่าจิ่วตอบรับเสียงต่ำ ทันทีที่พุ่งออกไป ก็ก้าวพุ่งเข้าใส่เหลิ่งหยุน
ทั้งเดินทั้งร้องตะโกนว่า “หยุดนะ!”
“ที่นี่ถูกปิดกั้นเอาไว้หมดแล้ว ไม่ว่าใครก็เขาเข้าไปไม่ได้ทั้งนั้น!”
ดูเหมือนว่าเหลิ่งหยุนจะถูกทำให้ตกใจ สีหน้าของเธอซีดเผือด แล้วใช้มือทุบลงไปที่หน้าอกพลางกล่าวว่า “ท่านพี่ใหญ่ทั้งสอง พวกพี่ไม่ใช่คนของทีมฉินเปียวหรอกหรือ?”
“พวกพี่ไม่ได้ไปหาอิฐฉินหรอกหรือ มาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ทำไมกัน?”
เมื่อเห็นว่าเผชิญกับรูแลักที่ดูบอบบาง และได้ยินน้ำเสียงที่พูดดูตุ้งติ้ง เหล่าปาและเหล่าจิ่ว ต่างก็รู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
พวกเขาดุร้ายพอสมควร แต่ทว่าส่วนใหญ่ในเวลาปกติ มันเป็นเพียงแค่พื้นฐานของสัตว์ป่าเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงหญิงสาวที่บอบบาง แม้แต่เพศตรงข้ามที่พื้นฐานที่สุด ต่างก็ไม่เคยได้ติดต่ออย่างนี้มาก่อน
ตอนนี้สามารถทนได้แล้วหรือยัง?
ทั้งสองคนเกาหูเกาแก้มอย่างเก้อเขิน ไม่รู้ว่าควรที่จะพูดอย่างไรดี
“สาวน้อย คืออย่างนี้——”
เหล่าปารู้สึกว่าตัวเองถือได้ว่าเป็นคนฉลาด เขาเตะไปที่เหล่าจิ่วทีหนึ่ง เป็นสัญญาณว่าอย่าสร้างความวุ่นวาย
“พวกเราเป็นคนในทีมของนายน้อยเปียว นี่มันไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เธอก็เป็นคนของฉินเทียน เป็นคนของทีมนายน้อยเทียนใช่ไหม?”
“เมื่อพูดไปแล้ว นายน้อยเปียวและนายน้อยเทียน ก็เป็นสายเลือดตระกูลฉินเก่าเหมือนกัน นั่นก็ถือว่าเป็นคนครอบครัวเดียวกันเป็นพี่น้องกันนี่!”
“พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเราก็เป็นเหล่าผู้ติดตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นพวกเดียวกันอย่างนั้นหรือ?”
เหลิ่งหยุนพิจารณาอย่างตั้งใจครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าจะรู้สึกค่อนข้างมีเหตุผล
เธอพยักหน้าอย่างเชื้อมั่นเล็กน้อย แล้วกล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า “ในเมื่อพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าก็มีเหตุผลเหมือนกัน”
“ในเมื่อพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เช่นนั้นท่านพี่ทั้งสอง พวกคุณบอกฉันมาหน่อยได้ไหม อิฐฉินก้อนนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่?”
“พวกพี่พาฉันไปหาอิฐฉินด้วยได้หรือไม่? ฉันรับประกัน ขอเพียงแค่ช่วยฉันหาอิฐฉินให้เจอ แล้วช่วยให้นายน้อยเทียนได้รับชัยชนะ ฉันจะตอบแทนบุญคุณพี่อย่างแน่นอนเลย!”
เมื่อเห็นว่าเหลิ่งหยุนที่เป็นราวกับดอกไม่ผลิบาน เหล่าปาและเหล่าจิ่ว ต่างก็รู้สึกเลอะเลือนไปชั่วขณะ
หลังจากที่พวกเขาเคลื่อนไหว แล้วกำลังจะพูดแผนการของฉินเปียวออกมา
ในเวลานั้นเอง ด้านหลังพุ่มไม้ของทั้งสองคน ก็มีเสียงนกดังออกมาอยู่สองสามครั้ง เสียงนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงที่หัวหน้ากลุ่มแปลงขึ้นมา
ทั้งสองคนแยกแยะได้ในพริบตาแล้ว แล้วพวกเขาก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที
“น้องสาว ต้องขอโทษด้วย นายน้อยเปียวบอกว่า หากพวกเธออยากที่จะผ่านตรงนี้ไป เว้นแต่ว่าต้องข้ามศพของพวกเราไปก่อน…”
“พี่ชายฉันก็ไม่อยากทำให้พี่ลำบาก ไม่เพียงแต่จะเชื่อฟังคำพูดของพี่ชาย แต่จะอยู่เล่นในป่ากับพี่ชายด้วย พี่ชายรับรองว่าจากนี้ไปคุณจะกินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต เป็นอย่างไร?”
เมื่อเห็นท่าทางที่บอบบางของเหลิ่งหยุน ก็ลืมทุกอย่างไปสิ้น เหล่าปาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป จากนั้นก็ไปสัมผัสคางงามชดช้อยของเธอ
“นั่นสินะ——”เหลิ่งหยุนถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าจะเสียใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็กล่าวอย่างคับแค้นใจว่า “ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ มีเพียงแค่ฉันจะต้องฆ่าพี่ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยข้ามศพของพวกพี่ไปอย่างนั้นสินะ——”
หื้ม?
เหล่าปาและเหล่าจิ่วผงะไปครู่หนึ่ง และยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา เมื่อมองไปที่เหลิ่งหยุนที่เผบรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยผิดราวกับดอกมั่นถัวหลัว
หลังจากนั้น เธอก็ยกนิ้วขาวเรียวของเธอขึ้นมา
นิ้วมือนั้นอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ และเหมือนว่ามันจะสะท้อนแสงออกมาด้วย
หลังจากนั้น เหล่าปาและเหล่าจิ่ว ก็รู้สึกเย็นวาบตรงคอหอยขึ้นมา
พวกเราตระหนักได้ถึงสิ่งที่ไม่ดี อยากที่จะพูดอะไร แต่พวกเขาก็อ้าปากพูดไม่ได้ แล้วตอนนี้ก็พูดไม่ได้แล้ว พวกเขาก้มศีรษะลง เพียงเพียงแต่ ลูกศรเลือด ที่พุ่งออกมาจากคอที่มีรอยถูกเชือดเท่านั้น
เมื่อรอให้เข้าใจว่าที่จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรกันแน่ กระแสความคิดของพวกเขา ก็ถูกตัดขาดไปเสียแล้ว
ปากของเขาเปิดอ้า และล้มพุบลงไปทั้งอย่างนั้น และตายในทันที
จะต้องพูดว่า เหลิ่งหยุน ผู้เป็นราชินีงูแห่งวิหารเทพท่านนี้ ลงมือได้เหี้ยมโหดเป็นอย่างมาก!
ในระหว่างหัวเราะพูดคุยกัน ผลสุดท้ายก็จบลงด้วยชีวิตของทั้งสองคน
“เอ๊ะ!”
“พี่ชายทั้งสอง พวกคุณเป็นอะไรไปน่ะ?” เหลิ่งหยุนร้องตะโกนออกมาราวกับเด็กสาวตัวเล็กที่กำลังหวาดกลัวอย่างไรอย่างนั้น
ฉากนี้ ภายในสายตาของผู้คนที่อยู่ภายในป่า เหมือนกำลังดูมายากลอยู่อย่างไรอย่างนั้น
แรกเริ่ม หม่าเมี้ยนรู้สึกเป็นกังวลมาจริง ๆ กลัวว่าเจ้าพวกหยาบคายทั้งสองอย่างเหล่าปาและเหล่าจิ่ว อาจจะไปสัมผัสร่างกายอันบอบบางและงดงามของเหลิ่งหยุนอย่างไม่ทันได้ระมัดระวังเข้า
จนกระทั่งเมื่อเห็นศพของทั้งสองคนอยู่บนพื้น ภายในสมองของเขา ดูเหมือนว่าถูกราดด้วยน้ำเย็นถังหนึ่ง
หลังจากที่ผ่านการสั่นสะท้านด้วยความตกใจ ในที่สุดเขาก็มีปฏิกิริยาตอบกลับมา
“เจ้าปีศาจสาว เอาชีวิตของน้องชายฉันคืนมา!”
“ข้าจะฆ่าแก!”
หม่าเมี้ยนอับอายและโกรธแค้น แล้วจึงรีบพุ่งออกไป สมาชิกในกลุ่มที่หรืออีกไม่กี่คน ก็ตามหลังเขาออกมาอย่างใกล้ชิด
ในอีกทางหนึ่ง หลิวเหมิงก็ตระหนักขึ้นมาในทันที ผู้หญิงที่นำหน้ามาคนเดียวนี้ ก็คือยอดฝีมือ และไม่ใช่แกะตัวเล็กที่พวกเขาเคยจินตนาการไว้
“จับเธอเอาไว้!”
“อย่าปล่อยให้เธอหนีไป!”
หลิวเหมิงพาคนพุ่งออกมา
ทันใดนั้นก็เห็นคนจำนวนมาก เหมือนอย่างกับโจรภูเขา ควงมีดเล่มโตพุ่งออกมา เห็นได้ชัดว่าเหลิ่งหยุนถูกทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก
“ช่วยด้วย!”
“อย่านะ!”
“มันไม่ใช่เรื่องอะไรของฉัน!”
เธอร้องครวญคราง หันศีรษะวิ่งหนีไป
ยิ่งเธอวิ่งมากเท่าไหร่ หลิวเหมิงและหม่าเมี้ยนที่เป็นผู้นำกลุ่มลูกน้องออกมา ก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้นเท่านั้น
ในขณะนี้ ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดแดงก่ำ เกมล่าสัตว์พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น ภายใต้น้ำมือของผู้หยิงคนหนึ่ง เขาต้องสูญเสียพี่น้องไปถึงสองคนแล้ว
มันเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่จะอดทนไหว!
เหลิ่งหยุนที่ดูเหมือนจะตื่นตระหนก ก็วิ่งเข้าไปยังเส้นทางป่าที่ใกล้เคียงและมีภูมิประเทศซับซ้อน
ทั้งวิ่งทั้งร้องตะโกนไปด้วย “ช่วยด้วย!”
“โจรป่ากำลังจะจับคนแล้ว!”
“รีบมาช่วยฉันเร็วเข้าสิ!”
เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าทางเขินอาย หลิวเหมิงและหม่าเมี้ยน ก็ยิ่งมั่นใจขึ้นมาทันทีว่า ผู้หยิงคนนี้ เป้นคนที่ฉินเทียนส่งให้มาสำรวจเส้นทาง
และได้รับคำสั่งมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
พวกเขามีจำนวนมากมาย ขอเพียงแต่จะต้องจับเธอมาให้ได้ และเตรียมไว้อย่างดี
ดังนั้น พวกเขาจึงไล่ตามเธอไปอย่างประมาท!
จนกระทั่งมาถึงที่ และเมื่อข้ามต้นไม้ใหญ่ทั้งสองต้นที่มีคอเอียงประจันหน้ากัน จากหลังก้อนหินและหลังต้นไม้ใหญ่ ก็มีเสียงของอาวุธแหลมคมแหวกอากาศออกมาอย่างกะทันหัน
กริชขว้าง!
ราวกับฟ้าแลบ!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง สมาชิกในทีมหลายคนถูกมีดแทงที่คอ แม้แต่เสียงอุทานยังร้องออกมาไม่ได้ จากนั้นก็ล้มลงไปบนพื้น