บัญชามังกรเดือด - บทที่ 807 การวางหมาก
บัญชามังกรเดือด บทที่ 807 การวางหมาก
ฉินเทียนมีสีหน้าที่เคร่งขรึมขึ้น
เขาไม่ได้สนใจหยินจ๋าที่อยู่ตรงหน้า แต่ทว่ากลับมองไปที่ฉินเปียว แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “นี่เป็นแผนการของแกงั้นหรอ?”
“ยอมแพ้ในการเดิมพัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าแกฉินเปียวเป็นคนซื่อสัตย์
“หลังจากนั้น ให้หาคนลงมือ แย่งแต้มที่แกแพ้ไป”
ฉินเปียวหัวเราะ“ใช่ แล้วจะทำไมล่ะ?”
ฉินเทียนเอ่ยยิ้มอย่างเยือกเย็น “ฉันกล้าที่จะมาที่นี่ ก็ไม่กลัวแผนการอะไรของแกหรอกนะ”
“ใครอยากตาย ก็รีบเข้ามาสิ!”
เมื่อเอ่ยแล้ว ก็ทำท่ามือกวักเรียก ก่อนที่จะค่อยๆ หยิบมีดสีดำ ค่อยๆยกขึ้น พร้อมทั้งที่ยังมีคราบเลือดสีแดงติดอยู่
ภายใต้แสงแดดแล้ว ราวกับว่าเหมือนได้มีภูตผีตื่นขึ้นมา และอยากที่จะเข้ามาเลือกจับเขมือบคนกินได้ทุกเวลา
หยินจ๋าถึงแม้ภายในใจจะหวาดกลัว แต่ว่า เขาก็ได้เป็นถึงหนึ่งในห้าราชาของตระกูลฉิน
และก็เตรียมพร้อมที่จะช่วยให้ฉินเปียวได้เข้ามาสืบทอดต่อ
ในเวลานี้ อยู่ต่อหน้าฉินเปียวและผู้คนมากมายเช่นนี้ เขาจะไม่สามารถที่จะทำขายหน้าได้
กัดฟันไปมา ก่อนที่เขาจะสั่งเลือกให้โจมตี
“ช่างเถอะ”ทันใดนั้นฉินเปียวก็ได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ราชาหยินจ๋า หากแกอยากที่จะจัดการเขา เลือกวันอื่นเอาเถอะ”
“หากตอนนี้ที่จะจับตัวเขา มันจะทำให้คนอื่นเขาคิดจริงๆนะ ว่าฉันฉินเปียวเป็นพวกที่ไม่ยอมแพ้เอา?”
ถงจิ่งเอ่ยเสียงต่ำ“ราชาหยินจ๋า หากแกตัดสินใจที่จะลงมือ บังคับให้คุณชายใหญ่ต้องลงมือ ถึงเวลานั้นเลือดสดได้อาบไปทั่วเมืองแน่ นายหญิงใหญ่จะไม่ชอบเอานะ ”
“ไม่สู้กลับไปคิดวางแผนในระยะยาวก่อน”
หยินจ๋าลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินลงเนินมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณชายใหญ่ วันนี้นับว่าแกโชคดีไป!”
“คอยดูก็แล้วกัน!”
“ฉันหยินจ๋าจะต้องทำตามที่นายหญิงใหญ่หวังไว้ให้ได้ แล้วลากแกไปต่อหน้าบรรพบุรุษของตระกูลฉินเพื่อสอบถามปากคำจากแก!”
ฉินเทียนเอ่ยหัวเราะ“ขอให้แกโชคดี”
เมื่อเอ่ยจบ เขาก็ไม่ได้หยุด ก่อนที่จะหันหลังไปขึ้นรถ แล้วก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เพราะว่าเขาหวาดกลัว แต่เพราะว่าจำเป็นที่จะต้องรีบออกไปจากที่นี่ เพื่อไปจัดการเรื่องใหญ่เรื่องอื่นก่อน
ก็คือ ข้อความบนกระดาษของฉินเปียว
ได้เขียนชื่อคนหนึ่งเอาไว้ สถานที่ รวมถึงเบอร์ติดต่อ ส่วนด้านหลังเขียนเอาไว้หนึ่งประโยคว่า:ฉันได้เอาของจากเขาที่นี่
ฉินเทียนรู้สึกว่า ฉินเปียวไม่ได้โกหก ในช่วงเวลาที่จินหู่ได้ใช้เวลาในการตรวจสอบคดีหมาป่าหอน เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ในตอนนั้นฉินเปียวเพิ่งจะไม่กี่ขวบเอง
ดังนั้น ฉินเปียวน่าจะไม่ใช่คนที่มีส่วนร่วมที่สำคัญ คำอธิบายที่สมเหตุผลมากที่สุดคือ หมาป่าหอนที่เขาได้ให้พรรคพวกของเขาใช้ ได้ซื้อมาจากที่อื่น
ตอนนี้ ได้มีร่องรอยเบาะแสที่สำคัญแล้ว ด้วยเบาะแสนี้ คงจะคุ้นหาคนที่อยู่เบื้องหลังได้
สถานที่แสดง กลับเป็นเมืองเล็กที่มีนามว่าจินซา แถวๆเมืองกาน
ที่เมืองนี้ฉินเทียนเคยได้ยินมาก่อน ว่าเมื่อหลายปีก่อนได้มีคนค้นพบเหมืองทองที่นั่น สะเทือนไปชั่วเวลาหนึ่ง แล้วได้ดึงดูนักธุรกิจที่จะมาเอาทองมากมายมา
แต่ว่าเมืองจินซา จากที่นี่แล้ว เป็นทิศทางเดียวกันกับการไปที่เมืองฉิน ดังนั้นจากที่จินหู่ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับฐานทัพหมาป่าหอน และชี้ไปในทางของเมืองฉิน
อาจจะเป็นไปได้ว่า เป็นแค่การเข้าใจผิด
ว่าทิศทางที่แน่นอนแล้ว อาจจะเป็นเมืองจินซา?
เบื้องหลังของหมาป่าหอนได้เกี่ยวกับวิหารเทพสังหาร นี่คือสิ่งที่ฉินเทียนตรวจสอบจนวันนี้ ที่ได้รับเบาะแสที่ตรงที่สุดในครั้งนี้
ไม่ว่ายังไง เขาจะต้องรีบลงมือ จัดการหาหลักฐาน แล้วค่อยลงมือจัดการส่ะ
ในตอนนี้เอง เขาก็ได้รับข่าวที่เหลิ่งหยุนส่งมา
เมื่อคืนเหลิ่งหยุน ได้ไปติดตามพวกตี้เม่ยที่ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนี
ที่ได้ฆ่าพวกพี่น้องทั้งสามนั้นยังไม่พอ ฉินเทียนอยากที่จะหาที่หลบซ่อนของพวกมัน หลังจากทำลายทิ้งสะให้หมด
จากที่เหลิ่งหยุนรายงานมา พวกตี้เม่ยเมื่อคืนหลังจากที่ได้หนีจากเมืองฮั่นแล้ว ไม่ได้หนีไปไกลมากนัก แต่ได้ซื้อยาจำนวนหนึ่ง อยู่ที่บ้านพักร้างหลังหนึ่ง ทำการรักษาพักฟื้นในระยะเวลาสั้น
วันนี้เมื่อเพิ่งสว่าง เขาได้ปลอมตัว ก่อนที่จะนั่งรถตู้สีดำ แล้วค่อยๆออกจากฮั่นจงอย่างเงียบๆ แล้วไปยังเมืองกาน
ปัจจุบัน พวกเขาได้เข้าพักที่โรงแรมที่อยู่ห่างจากเมืองกานประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร
หลังจากที่เหลิ่งหยุนได้ตรวจสอบ ที่นี่ไม่น่าจะใช่ที่กบดานของพวกเขา จนกระทั่งวันนี้ ก็ยังไม่ได้มีใครมารับตี้เม่ยเลย
ฉินเทียนหัวเราะเยาะเย้ย“พวกมันตื่นตัวกันจริงๆเลยนะ”
“พวกมันด้านหนึ่งก็ป้องกันการโดนคนอื่นสะกดรอยตาม ส่วนอีกด้าน หากภารกิจตนเองล้มเหลว ก็ไม่กล้าที่จะกลับไปอีก”
“ไม่รีบร้อนไปหรอก จับตาจ้องเอาไว้ให้ดีๆล่ะ”
“เขาอยากที่จะมาล้างแค้นกับพวกเรา แน่นอนว่าจะต้องหาพรรคพวกก่อน”
เหลิ่งหยุนที่ได้รับคำสั่ง ก่อนที่จะรีบแฝงตัวไปติดตาม เรื่องพวกนี้สำหรับเธอที่เป็นถึงนินจายอดฝีมือ นับว่าง่ายมากเลย
เพื่อป้องกันไม่ให้แหวกหญ้าให้งูตื่น ฉินเทียนได้กลับไปที่เมืองฮั่น ด้านนอกเหมือนกับว่าจะกลับไปพักผ่อน แต่ว่าแท้จริงแล้ว คืออยากที่จะไปจะไปเริ่มการลับๆกับฉินชวน
……
จวนฉิน ห้องพระ
“ไอ้สารเลว!”
“ฉันน่าจะประเมินไอไร้ประโยชน์นั่นต่ำไปสะแล้ว มันสามารถที่จะฆ่าขุนพลนรกสององค์ของฉันไปแล้ว!”
“เขากล้าดีขนาดไหนกัน!”
สีหน้าของหยางหลิวโกรธเคียง ก่อนที่จะมีเสียงเพล้ง แล้วได้ปักเอากระถางธูปปัดตกลงพื้น
“ฉินเทียนยังไม่ตาย ยังฆ่าขุนพลนรกสององค์ของพวกเรา อีกทั้งยังยอมรับการแพ้ของคุณชาย นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย”
“คุณหญิง ต่อไปพวกเราจะทำยังไงดี ขอให้ท่านช่วยแนะนำที”
ด้านข้าง สีหน้าของยายแม่มดที่มีความมืดมน ในสายตาของยายคนนี้ ได้มีแสงที่กะพริบออกมาถึงความชั่วร้ายในยามค่ำคืน
หยางหลิวถอนหายใจ ก่อนที่จะเอ่ย“แล้วตี้เม่ยล่ะ?”
“เขายังไม่ได้กลับมาที่บ้านตระกูลหยางเลย รายงานกับพี่ชายฉันแล้วหรอ?”
ยายแม่มดเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่ง“ภารกิจล้มเหลวแล้ว เขาไม่กล้าที่จะกลับมาบ้านหรอก”
“เขาขอให้ฉันมาขอร้องคุณหญิง ต่อหน้าของเจ้าบ้าน ขอร้องแทนในนามของเขา”
“เพียงแค่ให้โอกาสเขาสักครั้ง เขาจะต้องจัดการฉินเทียนให้ได้!”
หยางหลิวเอ่ยเสียงเคร่งขรึม“เขาได้ทำลายเรื่องใหญ่ของฉัน ยังจะกล้ามีหน้ามาให้ฉันขอร้องแทนอีกหรอ?”
“ตระกูลหยางของฉันมีกฎนะ หากภารกิจล้มเหลวแล้ว ก็จะมีแต่รับการลงโทษจากการตายส่ะ”
“แกคิดว่า ฉันจะขอร้องแทนไหมล่ะ?”
ยายแม่มดเอ่ยอย่างคร่ำครวญ“เขาถึงแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังมีประโยชน์อยู่”
“อีกทั้ง พี่น้องของเขาทั้งสองคนยังได้ตายในน้ำมือของฉินเทียนอีก เขาจะต้องอยากที่จะฆ่าฉินเทียนมากกว่าใครเป็นแน่”
“ฉันสามารถที่จะใช้จุดนี้ เพื่อให้โอกาสเขาอีกครั้ง”
“ก็ได้”หยางหลิวกดโทรออกอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
หยางชัง
ผู้นำตระกูลหยาง ตระกูลหยางอยู่ที่เมืองกาน เดิมทีไม่ได้ที่อะไรที่โดดเด่นผูกขาด
เมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันจากหลายตระกูล พวกเขาก็ยังคงเสียเปรียบอยู่
แต่ว่า หลังจากที่หยางชังได้ขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูล จากการไตร่ตรองและคิด และการไกล่เกลี่ยหลายชนิด เลยทำให้อยู่ได้อย่างมั่นคง
หลังจากนั้น ก็เข้าสู่เรื่องตอนที่น่าสนใจ ที่ให้น้องสาวของตนเองแต่งงานเข้าตระกูลฉิน จากใต้เสียงการตักเตือนจากตระกูลฉินแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะเอาชนะคู่แข่งได้ในครั้งเดียวเลย
จนกระทั่งวันนี้ ได้กลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองกานอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่า หยางชังก็ยังไม่พอใจ
ความคิดของเขา คืออยากที่จะครอบครองซีเป่ยทั้งหมด แล้วกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในประเทศ
แต่ว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาก็เหมือนกับหนอนปรสิตที่เกาะอยู่บนร่างของตระกูลฉิน
หลังจากที่พยายามตรากตรำมาหลายปี เขาจะค่อยๆดูดกลืนตระกูลฉิน ทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งตนเองสามารถที่จะเข้ามาแทนที่ได้
เมื่อได้ยินคำพูดที่หยางหลิวเอ่ยแล้ว หยางชังก็ได้โกรธ
ในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยินยอมที่จะให้โอกาสกับตี้เม่ยอีกครั้ง เพื่อชดใช้ความผิด
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าฉินเทียนไร้ประโยชน์นี่ จะยากที่จะจัดการขนาดนี้”
“น้องสาว หลังจากนี่แกไม่ต้องสนใจแล้ว ให้ฉันจัดการเถอะ!”
“พี่ชายจะจัดการไอ้สารเลวนี่แทนแกเอง!”
“ฉันจะแจ้งตี้เม่ย ให้เขาไปที่จินซาเพื่อหลบซ่อนตัว รอให้ฉันแน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของฉินเทียนก่อน แล้วรอฉันออกคำสั่ง ค่อยจัดการเขา!”
ฉินเทียนคืออุปสรรคใหญ่สำหรับฉินเปียวที่จะขึ้นมารับสิบทอดธุรกิจของตระกูล ก็นับว่าเป็นสิ่งขัดขวางสำหรับหยางชัง
เขารีบวางแผน ก่อนที่จะส่งให้คนไปหลบซ่อนตัวที่เมืองฮั่น ตรวจสอบและติดตามสะกดรอยฉินเทียน
เขาไม่ได้ประมาทเหมือนหยางหลิว ที่มองฉินเทียนต่ำไป หากอยากที่จะลงมือ ก็ต้องรอหาวันเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม
แล้วลงมือจัดการส่ะ!