บัญชามังกรเดือด - บทที่ 884 ฮุนโหว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 884 ฮุนโหว
พึ่งลิงที่สามารถหาสมบัติในระยะหนึ่งร้อยลี้ได้? ทุกคนล้วนแสดงท่าทีสงสัย
เถียหนิงซวงส่งเสียงหึและพูด: “ฉันคิดว่ามันเหมือนกับกวนคนแข็งแกร่งยังไงยังงั้นเลย”
“เธอพูดอะไรนะ?” ไป๋หลิงกรอกตาทันที
ตอนนี้ แม้ว่าเธอเชื่อใจฉินเทียน สำหรับคนอื่น ๆ ยังไม่เชื่อใจ
เถียหนิงซวงพูดเยาะเย้ย: “ทำไม ไม่ยอมรับ?”
“น้องสาว หากไม่เชื่อใจก็มาสู้กับพี่สาวสักรอบสิ”
“สู้ก็สู้สิ แล้วดูกันว่าใครจะต้องกลัวใคร!” ไป๋หลิงที่นิสัยใจร้อนก็จะทะเลาะกับเถียหนิงซวงทันที
“ศิษย์น้องหญิง!”
จินถังพูดเสียงต่ำ: “เธอซนไม่เข้าเรื่องเลยทำให้หญิงสาวคนนี้ไม่พอใจ ยังมีพวกพี่ชายเหล่านี้อีก”
“ราชาเทพบอกฉันว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนของวิหารเทพ แต่ก็อยู่ในสังกัดวิหารพญายม เป็นพวกเดียวกับพวกเรา”
“เธอควรเป็นคนเริ่มขอโทษนะ”
ไป๋หลิงกัดฟันกรอด เห็นได้ชัดว่าการขอโทษคงเป็นไปไม่ได้
หลังจากที่จินถังขอโทษเถียหนิงซวงและคนอื่น ๆ แทนไป๋หลิงแล้วก็พูดอย่างจริงจัง: “แต่ที่ศิษย์ของหญิงของฉันพูดเป็นเรื่องจริง”
“เจ้าทองตอบสนองต่อของวิเศษ มันไม่ธรมมดาจริง ๆ”
“แม้ว่าตอนนี้ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นลิงทิพย์ที่ดีที่สุดของสำนักวานร แต่นอกจากไป๋หยวนของราชาวานรแล้วก็ไม่มีลิงตัวอื่นเทียบมันได้”
“ราชาเทพ หากต้องการหาเห็ดหลินจือเลือด ยังต้องพึ่งความสามารถของเจ้าทองอย่างมาก”
นิ่งไปสักพักก็พูดอีกครั้ง: “และศิษย์น้องหญิงของฉัน”
“เพราะว่าเจ้าทองฟังแค่คำพูดของศิษย์น้องหญิงเท่านั้น”
ฉินเทียนพยักหน้า เขาเชื่อเรื่องนี้ ลิงทิพย์พวกนี้ที่สำนักวานรเลี้ยงดู ไม่ใช่แค่ลิงธรรมดา
สิ่งที่พวกมันตามหาก็ไม่ใช่สมบัติแบบที่คนทั่วไปคิดอย่างเช่นทองคำและเงิน
แต่เป็นสิ่งที่อยู่มาก่อนปัจจุบัน ตกตะกอนเป็นเวลานานหลายปีซึ่งมีพลังจากช่วงสุริยุปราคาแฝงอยู่
เช่น หยกที่งดงาม เช่น ยาที่เก่าแก่ในป่าและภูเขาลึก
สิ่งของเหล่านี้มีกลิ่นพิเศษ พูดง่าย ๆ เรียกได้ว่าจิตวิญญาณของโลก
ลิงทิพย์จะรับรู้ถึงจิตวิญญาณประเภทนั้นเพื่อหาตำแหน่ง
ลิงพูดไม่ได้ แต่เจ้าของที่เลี้ยงพวกมันสามารถเข้าใจภาษาของพวกมันผ่านความสัมพันธ์อันยาวนาน
นี่ต้องใช้ความสามารถพิเศษกับโอกาสและโชคชะตา เพราะว่าต้องบรรลุถึงการเชื่อมต่อจิตวิญญาณของมนุษย์กับลิง จนคนกับลิงเป็นหนึ่ง
ดังนั้นที่สำนักวานร การเลี้ยงลิงทิพย์ ลูกศิษย์ที่สามารถเชื่อมต่อจิตวิญญาณกับลิงทิพย์ได้จะถูกปลูกฝังให้เป็นนักหายา
แต่ลูกศิษย์ที่ไม่มีเอกลักษณ์เหล่านี้เหมือนกันจินถังจะเน้นศิลปะการต่อสู้ พวกเขากลายเป็นนักดาบรับผิดชอบปกป้องลิงทิพย์และนักหายา
ในหลายปีที่ผ่านมา สำนักวานรได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาเชี่ยวชาญสัตว์วิญญาณในมือของพวกเขา เรียกได้ว่า น่าอัศจรรย์มาก
หลายสิ่งในนั้น สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่มีประโยชน์ แต่ว่า พระเจ้ารู้ถึงความมั่งคั่งนั้น
ฉินเทียนมองไป๋หลิงแล้วพูด: “คุณว่า ปู่ของคุณบอกเธอว่ามีสองวิธีสินะ นอกจากพึ่งเจ้าทองแล้ว อีกวิธีนึงละ?”
ไป๋หลิงพูดสียงต่ำ: “เกี่ยวกับสุสานของฮุนโหว คุณปู่ของฉันบอกว่าเขารู้เรื่องราวของสุสานของฮุนโหวนิดหน่อย”
“เมื่อไม่กี่ปีก่อน มันถูกค้นพบโดยบังเอิญด้วยชาวนาชราภาพแถวนั้น ช่วงที่พบและขุดค้นทางโบราณคดีอย่างเป็นทางการใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็ม”
“ได้ยินว่าหนึ่งเดือนนั้นมีเรื่องบางเรื่องเกิดขึ้น รายละเอียดเป็นยังไง พวกเราไปหาชาวนาชราคนนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ฉินเทียนพูดเสียงจริงจัง: “สามารถหาชาวนาชราคนนั้นพบไหม?”
ไป๋หลิงพยักหน้า: “ได้แน่นอน”
จนถึงตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปก็มีเบาะแสแล้ว แต่ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เพราะว่าเขาคิดว่า ทางฝั่งตงไห่เป็นเขตของคนอีกกลุ่มหนึ่ง เกาะตงไห่
ในประเทศก็ไม่ด้อยไปกว่าอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลฉินในซีเป่ย การวางแผนและจัดการบริหารมาหลายปี ความสัมพันธ์ซับซ้อน การป้องกันแน่นหนา
ในอดีต เมื่อเขากลายเป็นผู้นำหอการค้าของเจ็ดเมืองภาคใต้ ตอนนั้นเขามีปัญหากับจื่อยีโหวจากเกาะตงไห่
เกือบจะสู้กันแล้ว
ตั้งแต่นั้นมา เขากับตงไห่ก็หลายเป็นศัตรู
ในช่วงเวลานี้ เขายุ่งกับการจัดการเรื่องของซีเป่ย ไม่ว่างสนใจตงไห่
ทางฝั่งตงไห่ แม้ว่าจะไม่มีความเคลื่อนไหวมาก แต่เจ้านายทางฝั่งใต้อยากไปทำธุรกิจที่ทางฝั่งนั่นแต่เข้าไปไม่ได้
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้านายที่มีอำนาจบางคน เมื่อก่อนเคยหยั่งรากในฝั่งนั้นก็ถูกขับไล่จากพื้นที่เช่นกัน
หลายคนจำเป็นต้องเก็บของกลับมา
โชคดีที่ฉินเทียนพัฒนาตลาดในซีเป่ย ปัจจุบันนี้ ตระกูลฉินแสดงความเมตตาแก่เขา ประธานหอการค้าฮั่นจงยังเป็นหูเฟย
สำหรับเจ้านายทางภาคใต้นั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ นี่จะชดเชยความเสียหายของทุกคนได้ในระดับหนึ่ง
ครั้งนี้จะไปทางฝั่งตะวันออกเพื่อหาเห็ดหลินจือเลือด ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับคนของเกาะตงไห่ได้หรือไม่
ถ้าหากปะทะกัน จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่านั่นจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการเดินทางนี้อย่างแน่นอน
แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว เพื่อซูซู มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่ต้องพูดถึงตงไห่เลย แม้ว่าทั้งโลกจะขวางเอาไว้ ฉินเทียนก็จะบุกน้ำลุยไฟไป
สถานการณ์ปัจจุบันของซูซู เธอยังสามารถอยู่ได้หนึ่งเดือนโดยไม่มีปัญหา ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่ของเขา คือ เดือนนี้
หากอยากรักษาซูซูและเด็กในท้องของเธอก็ต้องแข่งกับเวลา
กลับไปที่สวนสัตว์ร้าย ฉินเทียนมอบงานเรื่องหนึ่งให้ฉานเจี้ยน ก่อนหน้านี้ ทุกคนจะออกไปไล่ล่าลิง ฉานเจี้ยนไม่ได้เข้ารวมด้วย
เขาอยู่นี่และนั่งออกคำสั่ง ป้องกันศัตรูใช้อุบายเห็นเสือออกจากภูเขาเข้าโจมตีสำนักงานใหญ่
การเตรียมการเป็นไปอย่างเหมาะสม ฉินเทียนไม่ค้างคืนแม้แต่น้อย เขาพาฉวนซาน จินถังและไป๋หลิง สี่คนและลิงหนึ่งตัวกับไก่อีกหนึ่งตัว
ขับรถตอนกลางคืนออกจากเมืองหลงมุ่งหน้าไปทางอำเภอรื่อหัวของเมืองเจียงเหอ
ที่นั่นก็เป็นสถานที่ที่ค้บพบสุสานของฮุนโหว
สำหรับเมืองทางตะวันออกแล้ว เมืองเจียงเหอให้ความรู้สึกค่อนข้างจะอ่อนแอ ฉินเทียนแอบหวังว่า ที่นี่อำนาจของเกาะตงไห่จะไม่เด่นชัดมากนัก
ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะสามารถเอาเห็ดหลินจือเลือดมาได้โดยไม่มีใครรู้
ไม่ใช่ว่าเขากลัวคนของเกาะตงไห่ แต่ถ้าเกิดการปะทะกัน การเสียสละมันเล็กน้อย แต่การเสียเวลา เขารับไม่ได้
คืนนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้น รถแลนด์คูเซอร์ขับค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว
เมืองที่อยู่ใกล้ทะเล ภายในลมดูเหมือนพัดเอารสชาติของน้ำทะเลมาด้วย
เมืองไม่ใหญ่ แต่สะอาดมาก อาจจะเพราะว่าฝนตกบ่อย รถบนถนนจึงดูใหม่และสดใส
ตรงกันข้าม รถแลนด์คูเซอร์ที่พวกเขาขับเต็มไปด้วยโคลนสกปรกทั่วรถจากการเดินทาง มันดูขัดแย้งมาก ๆ
หลังจากทานอาหารเช้าข้างถนน พวกเขาก็ขับรถไปที่โบราณสถานสุสานฮุนโหว ที่นี่มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น
หลังจากเข้าชม มันทำให้คนตกใจมากจริง ๆ ของที่จัดแสดงเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ตามที่อธิบาย เหรียญทองแดงที่ขุดพบ ก้อนทองและของมีค่าต่าง ๆ เรียกได้ว่าดีที่สุดในโลก
แต่สิ่งของเหล่านี้ก็เพียงสิ่งของธรรมดา นอกจากให้คุณค่าทางการวิจัยแล้วก็ไม่มีผลอย่างอื่น
อย่างน้อยสำหรับผู้ฝึกตนอย่างฉินเทียน ช่างไร้ประโยชน์
ตามข้อมูลของไป๋หลิง เขาขับรถตรงไปถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขาตอนล่างของเมือง
ผู้เฒ่าหลิวผู้คนพ้บสุสานฮุนโหวในตอนนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ ฉินเทียนต้องการจะรู้ การค้นพบระยะทางจนถึงสุสานฮุนโหวถูกควบคุมอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลาระหว่างนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น
มีหรือไม่มีคนเข้าไปในสุสานแล้วเอาของอะไรออกไปบ้าง?