บัญชามังกรเดือด - บทที่ 934 คนที่เหมาะสม
บัญชามังกรเดือด บทที่ 934 คนที่เหมาะสม
ส่วนชายแก่ที่มีผมขาวอ้วนใหญ่นั้น เขานั้นยิ้มจนตาหนี มองไปแล้วใบหน้าที่จิตใจดี น่าเคารพนับถือ และเขานั้นกลับเป็นหัวหน้าของ เผ่ามังกรซ่อนรูปทางแดนตะวันออก นามว่าเฮยสุ่ย
อีกทั้งคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขานั้น อายุนั้นก็มาแล้ว นั่นก็คือเจ้าของของเกาะนี้นี่เอง
เขานั้นคือ กษัตริย์คนที่สองของตงไห่กรุ๊ปนามว่าหวังเปี้ยนจื่อ คนมักจะเรียกกันว่า ราชาเปี้ยน เพราะว่าอายุเยอะแล้ว เลยเรียกกันอีกทีว่า “เหล่าหวัง”
“เหล่าหวังอย่าเกรงใจไปกันเลย รอให้เรื่องจบก่อน พวกเรานั้นก็คือคนบ้านเดียวกันเลยนะ”
“เมืองตงไห่ถึงแม้จะใหญ่ แต่ก็ไม่พอที่จะตอบสนองความต่างการของท่านเหล่าหวังหรอก ข้าและเจ้าบ้านเซี่ยยินดีต้อนรับท่านนั้นไปลงทุนที่แดนเหนือนนะ”
“พวกเรานั้นจะคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่เลยล่ะ”
หวังเปี้ยนจื่อหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “เอ่ยได้ดีเลย เร็วๆนี้ก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”
“เพื่อครอบครัวนี้ พวกเรานั้นควรจะมาชนกันหนึ่งแก้วนะ!”
เฮยสุ่ยนั้นเอ่ยหัวเราะออกมา“เคารพท่านเหล่าหวัง”
ก่อนที่ทั้งสองคนนั้นจะดื่มไปพร้อมกัน
เมื่อวางแก้วเหล้าลงแล้ว ใบหน้าของราชาเปี้ยน ก็ได้ปรากฏถึงความเศร้าใจออกมา
สีหน้าของเขานิ่งลงก่อนที่จะเอ่ย“ตระกูลเซี่ยนั้นครองอยู่ที่แดนเหนือ พลังอำนาจมากมายบุตรชายนามว่าเซี่ยหมิงอีกทั้งยังเป็นนกฟีนิกซ์ในหมู่ผู้คนอีก อายุน้อยๆก็ทำได้ขนาดนี้แล้วในหมู่คนรุ่นใหม่
“หากพูดกันอย่างมีเหตุผลนะ การขอหมั้นรอบนี้เหมือนจะถูกแล้วนะ ไม่มีปัญญาเลยแม้แต่น้อย”
“แต่ว่า——”
สีหน้าของเฮยสุ่ยนั้นเปลี่ยนไป ก่อนที่จะยิ้มอย่างเย็นชา “ทำไมล่ะ คนของพวกเจ้าเมืองตงไห่ไม่ยินยอมหรือไงกัน?”
“การจับคู่ของราชาเปี้ยนนั้น ใครกันจะกล้าเข้ามาขัดขวางไม่ยินยอม?”
ราชาเปี้ยนถอนหายใจ ทันใดนั้นสีหน้าของเขานั้นก็เหมือนจะกังวล
เขานั้นลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะปิดทั้งประตูและหน้าต่าง เพื่อปิดกั้นจากเสียงลมด้านนอก และภายในห้องนั้น ทันใดนั้นก็ได้เงียบสงบลง
เสียงของราชาเปี้ยน นั้นก็ได้เอ่ยเสียงทุ้มที่ต่ำลง
“ห้าตระกูลใหญ่ของอาณาจักรมังกรนั้น เพราะว่าตระกูลทางตอนใต้ของตระกูลฉี นั้นล้มละลายเมื่อห้าสิบปีก่อน และ แดนใต้นั้นมีตั้งเจ็ดเมือง และกลายเป็นดินแดนที่กระจัดกระจายกันออกไป หากวันนี้มาเอ่ยอีกที น่าจะเป็นสี่ตระกูลใหญ่”
“ส่วนเจ้าพวกสี่ตระกูลใหญ่ ไม่ต้องให้น้องเอ่ย พวกเป่ยจุนนั้นก็น่าจะทราบดี แยกเป็นตระกูลฉินทางตะวันตก ตระกูลเซี่ยทางเหนือ พระราชวงศ์ภาคกลาง รวมถึงพวกเราตระกูลหวังทางตะวันออก”
“สี่ตระกูลใหญ่ที่ยืนหยัดกันมา ในสายตาของคนภายนอกนั้น สูงส่งและอยู่ยงคงกระพัน”
“แต่ว่า ความจริงนั้นมันคืออะไรกัน?ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ ”
เฮยสุ่ยเอ่ยยิ้มๆ“ใช่ไหม?”
“เอ่ยมาแบบนี้ พวกเจ้าตระกูลหวังตงไห่ ก็มีอะไรที่ยังปิดบังเหมือนใช่ไหม?”
“เจ้านั้นที่เป็นถึงกษัตริย์ลำดับที่สองของตระกูลหวัง หรือว่าจะมีเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม?”
ราชาเปี้ยนถอนหายใจ“แต่ละตระกูลก็มีเรื่องที่ยากที่จะลืมเหมือนกันนั่นแหละ”
“เป่ยจุน ข้ารู้ ว่าพวกเจ้ากับผู้นำตระกูลตระกูลเซี่ยทางเหนือ ความสัมพันธ์นั้นดีมาก ไม่อย่างงั้น คงจะไม่สามารถมาปกป้องพวกเจ้าแทนได้หรอก”
“งั้นเจ้ารู้ไหมว่าที่ตระกูลเซี่ยนั้นยิมยอมที่จะหมั้นกันนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกัน?”
ในดวงตาของเฮยสุ่ยเปล่งประกายกะพริบ“อ้อ?”
“อันนี้ข้าไม่ได้คิด ขอให้ท่านราชาเปี้ยนเอ่ยชี้แจงทีเถอะ”
ราชาเปี้ยนเอ่ยยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านผู้น้ำตระกูลเซี่ย นามว่าเซี่ยเจี๋ย เขานั้นเหมือนเป็นวีรบุรุษ เขานั้นดูแลตระกูลเซี่ยมายี่สิบกว่าปีเขานั้นได้ซ่อนความสามารถ จากสายตาของผู้คนมากมาย”
“จนวันนี้ถึงแดนเหนือนั้นจะใหญ่กว้าง แต่ก็ไม่สามารถที่จะสนองความต้องการของเขาที่มากมายได้”
“เมื่อมาถึงข้าในระดับนี้ ไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวอะไรทั้งนั้น ส่วนเรื่องการหมั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ที่มากขึ้น”
“เขานั้นได้สอนลูกชายคนเดียวมาอย่างดีเพื่อนที่จะมาแต่งงานกับลูกสาวของพวกเรา อีกทั้งยังมองเห็นถึงผลประโยชน์ของตงไห่อีก”
“ตั้งแต่ผู้นำเกาะนี้ป่วยลง ตงไห่นั้นไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของคนไหนอีกเลย ถึงแม้จะมีเรื่อง ต่างก็เป็นจินยีโหวที่คอยสนับสนุน”
“แต่ว่า จินยีโหวนั้นก็แค่ช่วยจัดการช่วยคราว เพราะหญิงสาวนั้นต่างหากที่เป็นเจ้าของเกาะที่แก้จริง เรื่องของตงไห่ ไม่ช้าก็เร็วจะต้องส่งต่อไปถึงมือของเธอ”
“ตอนนี้ เจ้าจะเข้าใจว่าทำไมเขานั้นถึงอยากให้ลูกชายเซี่ยเจี๋ยของเขานั้นมาขอหมั้นแล้วใช่ไหม?”
เฮยสุ่ยหัวเราะเย็นชา“เอ่นแบบนี้ งั้นที่เจ้าบ้านเซี่ยนั้นที่อยากได้คือธุรกิจของพวกเจ้าในตงไห่นะสิ”
ราชาเปี้ยนกัดฟันเอ่ย “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง!”
เฮยสุ่ยหัวเราะอย่างเย็นชา“ งั้นข้าก็ไม่เข้าใจแล้ว รู้อยู่ว่าคุณหนูใหญ่แต่งงานกับคุณชายเซี่ยแล้ว ธุรกิจในตงไห่นั้นจะต้องโดนตระกูลเซี่ยควบคุม ในฐานะคนของตงไห่ราชาเปี้ยน แล้วทำไมท่านถึงให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้กันล่ะ?”
“เจ้าไม่กลัวจะถูกหาว่าเป็นคนทรยศงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินคำแล้ว สีหน้าของราชาเปี้ยนนั้นก็เปลี่ยนไปไม่ค่อยที่จะน่าดูเท่าไหร่
เขานั้นดื่มเหล้าขาวอึกใหญ่ ก่อนที่จะกัดฟัน แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “อะไรราชาเปี้ยน อย่ามองว่าเขานั้นคือกษัตริย์คนที่สอง สีหน้าแสดงดีใจ แต่ว่าภายในใจของพวกเขานั้น ข้านั้นเข้าใจเป็นอย่างดี!”
“พวกเขานั้นเดิมทีก็ไม่ค่อยจะชอบข้า หลายปีมาแล้วที่ข้านั้นได้แก่ลงเรื่อยๆ และถดถอยลดศักดินาลง และไม่คู่ควรที่จะเป็นกษัตริย์คนที่สองแล้ว”
“หลายปีมานี้ พวกเขานั้นไม่หยุดที่จะพยายามทำลายพลังของข้า อย่าลืมสิ ว่า ข้านั้นหวังเปี้ยนจื่อได้เคยลงมือคอยช่วยเหลือตงไห่เอาไว้นะ?”
“หวังเหมี่ยน หวังเจี่ยน พวกเขาที่มีตำแหน่งเท่ากับข้า แต่เมื่อตอนที่ข้านั้นต่อสู้เพื่อเมืองตงไห่ พวกเขาไปไหนกันล่ะ”
“พวกเขานั้นยังเป็นแค่เด็กที่เล่นดินเหนียวอยู่เลย!”
“ข้ากับหวังเฉียนพ่อของเขานั้น ก็คือผู้นำของเกาะนี้ แต่ว่าตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะข้า แล้ว หวังเฉียนเขานั้นจะสามารถมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ไหม?”
“หลังจากที่หวังเฉียนตายไป หรือว่าหากตอนนั้นตำแหน่งผู้นำเกาะนั้นไม่ควรตกมาเป็นที่นั่งของข้า อย่างน้อยก็ต้องให้ตำแหน่งข้าสิ?”
“เขาหวังเหมี่ยนนั้นไร้คุณธรรม กล้าที่จะมาสวมเขาให้กับเข้า!”
ข้าหวังเปี้ยนจื่อ ตอนนี้อายุแปดสิบแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าพลังอำนาจนั้น จะยังแข็งแกร่งเช่นนี้
มองไปที่ด้านหน้าที่อารมณ์กำลังตื่นเต้น และชายแก่ที่กำลังตัวสั่น ภายใต้สายตาของเฮยสุ่น ได้ปรากฏเผยออกมาถึงความเยาะเย้ย
ราวกับว่ากำลังดูตั๊กแตนนั้นเต้นอยู่
แต่ว่า สีหน้าของเขานั้นไม่ได้มีอะไรปรากฏ
“เหล่าหวังหายโกรธเถอะ มา มาดื่มเหล้ากันเถอะ”เขานั้นเทเหล้าให้กับราชาเปี้ยนเอ่ย แล้วเอ่ยเสียงเบา “ในตอนที่ข้า ท่านผู้นำเจ้าบ้านเซี่ยบอกข้าว่า มาที่นี่ ให้มาหาท่านราชาเปี้ยนก่อน ส่วนเรื่องอื่นนั้นสามารถที่จะคุยกันได้”
“คิดแล้ว เจ้าบ้านเซี่ยนั้นได้ให้คำมั่นสัญญากับท่านเอาไว้แล้วหนิ?”
ราชาเปี้ยนนั้นดื่มเหล้าเข้าไป และอารมณ์นั้นก็ดีขั้น ในดวงตาของเขานั้นเปล่งประกาย ก่อนที่จะเต็มไปด้วยความโลภ
“ใช่แล้ว!”
“ข้ากับผู้นำเจ้าบ้านเซี่ยได้นัดกันเอาไว้แล้ว หลังจากที่คุณหนูใหญ่ของตงไห่ได้แต่งงานแล้วไปอยู่ที่ทางเหนือ เมืองตงไห่ที่นี่นั้น จะต้องตกเป็นของตระกูลเซี่ยเป็นใหญ่”
“แต่ว่าระยะห่างของแดนเหนือมาที่นี่นั้น ค่อนข้างที่จะไกลมาก ตระกูลเซี่ย นั้นจะต้องดูแลไม่ไหวและทั่วถึงอย่างแน่นอน ……”
เฮยสุ่ยหัวเราะ“ข้ารู้แล้วล่ะ”
“เมื่อถึงเวลา ท่านนั้นก็คือคนที่จะคอยดูเรื่องต่างๆในตงไห่”
“อะไรคือหวังเหมี่ยน หวังเจี่ยน เจ้าคนพวกนี้นั้น จะต้องหายไป ละไม่มีอยู่อีกต่อไป”
“ใช่!”หวังเปี้ยนจื่อเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “เจ้าบ้านเซี่ยก็ตอบแบบนี้กับข้าเหมือนกัน!”
“เป่ยจุน ท่านนั้นเป็นตัวแทนที่ปกป้องตระกูลเซี่ย นี่ไม่ใช่คนอื่นไกล และเรื่องนี้นั้นคงจะต้องขอให้ท่านนั้นช่วยคอยดู”
“หลังจากจบเรื่องแล้ว ข้าหวังเปี้ยนจื่อ และหลังจากนี้ทั้งตงไห่ ก็คือหมากของเป่ยจุน”
“ท่านทำให้ข้าทราบ ข้านั้นจะไม่เอ่ยสักคำ!”
เฮยสุ่ยพยักหน้า และเอ่ย“วางใจเถอะขอให้ท่านเหล่าหวังไม่ยอมแพ้ เรื่องที่สำคัญพวกนี้จะต้องกลายเป็นความจริงอย่างแน่นอน แล้ว พวกคนนั้นก็จะต้องรับผิดชอบและดูแลเรื่องให้เสร็จต่อไป”
“มา มาดื่มกันสักแก้วเถอะ ขอให้เรานั้น รีบประสบความสำเร็จสักที!”
ทั้งสองคนนั้นได้ดื่มเข้าไปอีกหนึ่งแก้ว ก่อนที่สีหน้าของเฮยสุ่ยนั้นจะนิ่งลง แล้วเอ่ย “หมากนี่เก่งกาจมาก จินยีโหวหวังเหมี่ยนและราชาจั่วเจียนหวังเจี่ยน จะต้องเข้าใจและรู้เรื่องดี พวกเขานั้นจะต้องต่อต้านออกมาอย่างรุนแรงแน่”
“เมื่อพวกเขานั้นรวมตัว ผู้คนมากมายราชาเปี้ยน ท่านอยากได้กลยุทธ์ในการจัดการกับพวกเขาไหมล่ะ?”
“ขอให้ท่านเป่ยจุนวางใจเถอะ!”
ราชาเปี้ยนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “เอ่ยตามจริงนะ ในเมื่อก่อน ข้านั้นยังเครียดเรื่องพวกนี้ แต่ว่ามีหวังเหมี่ยนและหวังเจี่ยนอยู่ข้างกาย ที่มีฝีมือเก่งกาจ ข้านั้นก็เลยพอจะอยู่ต่อไป”
“อยากที่จะรับมือกับพวกเขา ข้านั้นไม่มีคนเหมาะสมที่จะให้เลือก”
“แต่ว่าตอนนี้ น่าจะใกล้มีหนึ่งคนมาแล้ว เป็นปรมาจารย์ฝีมือดีมาก ท่าว่า เป็นเพราะพระเจ้าเค้าเห็นใจข้าใช่ไหม?”
“อ้อ?”เฮยสุ่ยนั้นตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ย“คนอะไรถึงได้เก่งกาจขนาดนี้หรือ?”
ราชาเปี้ยนกลืนน้ำลาย ก่อนที่จะเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “ฉินเทียน”