บัญชามังกรเดือด - บทที่ 971 เขาเตะผม
บัญชามังกรเดือด บทที่ 971 เขาเตะผม
เห็ดหลินจือเลือด เป็นสิ่งของที่หาได้ยากบนโลกใบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ดอกที่อยู่ตรงหน้านั้นมีอายุยาวนานกว่าหนึ่งพันปี
ต้องการใช้มันให้ได้ผลลัพธ์อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะต้องนำไปผสมกับโสมแดงที่มีอุณหภูมิอ่อน
ยิ่งนานปีก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
และโสมแดงเก่าแก่และนานปีมากที่สุดที่ฉินเทียนรู้จัก มันถูกตั้งวางไว้อยู่ในหอบรรพบุรุษตระกูลฉิน
สถานที่แห่งนั้นของตระกูลฉิน ตลอดทั้งชีวิตของฉินเทียน เขาไม่เคยคิดจะย่างกรายเข้าไปเกี่ยวพันกับพวกเขาเลย
วันนี้เพื่อซูซู ดูเหมือนว่าเขานั้นจะต้องไปที่นั่นสักครั้งหนึ่ง
ทันทีที่ฉินเทียนครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเขาพลันส่งเสียงดังขึ้น
เขากดเชื่อมต่อสายโทรศัพท์ เสียงของราชาถงจิ่งก็ดังขึ้นจากสายโทรศัพท์ “ขอแสดงความยินดีกับคุณชายใหญ่ ข้าได้ยินมาว่าคุณชายใหญ่ได้ต่อสู้กับยอดฝีมือทางเหนือ ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งเกาะตงไห่เลย!”
เสียงของถงจิ่งภายในสายโทรศัพท์นั้นฟังดูแล้วสดชื่นมากเป็นพิเศษ เจือมาด้วยความองอาจกล้าหาญและรู้สึกเป็นเกียรติ
ฉินเทียนกลับรู้สึกไม่มีความสุขและขมวดคิ้วเล็กน้อย
การเดินทางไปยังเกาะตงไห่ เขาสามารถกล่าวได้ว่าถูกคนอื่นหลอกให้ไปเสี่ยงตาย
สงครามนองเลือด ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ถ้าหากสามารถเลือดได้ เขายินดีที่จะอยู่ภายใต้ความเงียบงันท่ามกลางฝูงชน
แทนที่จะถูกจับตัวไปและมีส่วนร่วมในการต่อสู้ระหว่างหวังเหมี่ยนและราชาเปี้ยน ถูกกองกำลังของหวังเหมี่ยนสังหารด้วยดาบ ทำให้หวังหลีกลายเป็นเจ้าแห่งเกาะ
สำหรับเห็ดหลินจือเลือด ในมุมมองของฉินเทียน หวังตัวยวี่ยอมเสียสละความสุขในชีวิตที่เหลือของเธอเพื่อแลกกับมัน
เขานั้นไม่คิดเลยว่าหวังตัวยวี่จะชื่นชอบเซี่ยหมิง
การแต่งงานระหว่างตระกูลเซี่ยแห่งทางเหนือและตงไห่ เบื้องหลังเกี่ยวพันและเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่ค่อนข้างซับซ้อน แม้ว่าหวังตัวยวี่จะเป็นลูกสาวของเจ้าแห่งเกาะก็ไร้อำนาจต่อต้าน
ทุกวันนี้ สถานการณ์การเป็นปฏิปักษ์กันของทุกตระกูลนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วเนื่องจากการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองตระกูล
กองกำลังทางเหนือนั้นทรงพลังย่อมจะส่งผลเสียต่อตระกูลฉินแห่งซีเป่ย รวมถึงการวางหมากทางใต้ของฉินเทียน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภายใต้แผ่นดินนี้กำลังจะแปรเปลี่ยนไป
ใครจะสามารถแน่ใจได้ว่าหวังตัวยวี่จะสามารถต่อต้านสวรรค์และเปลี่ยนแปลงโชคชะตารวมถึงทำลายสัญญาการแต่งงานได้?
นั่นเป็นเด็กสาวที่ฮอตปรอทแตก อีกทั้งยังอวดดีและเย่อหยิ่ง
ตลอดทั้งชีวิตอาจจะกำหนดไว้ว่าต้องการขี่อาเซียงโลดแล่นไปตามท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ใช้ชีวิตอิสระตามใจต้องการ!
ภายในหัวใจของฉินเทียนเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย ราชาถงจิ่งยังคงเอ่ยชื่นชมฉินเทียนผ่านทางโทรศัพท์ราวกับว่าเขานั้นเป็นแฟนตัวยงของฉินเทียนอย่างไรอย่างนั้น
“คุณชายใหญ่วางกลยุทธ์และบุกเข้าไปในถ้ำเสืออย่างกล้าหาญ ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้อาวุโสอย่างฉัน ต่อให้เป็นอดีตเจ้าบ้านในตอนนั้นก็คงไม่กล้าหาญเช่นนี้!”
“เอาล่ะ ผู้อาวุโสถง คุณเลิกเยินยอผมได้แล้ว ว่ามาเถอะ โทรมาตั้งแต่เช้าขนาดนี้มีเรื่องอะไรกันแน่?”
“ฮะๆ คุณชายใหญ่ช่างมีความคิดชัดเจนไม่เหมือนใคร เช่นนั้นชายชราอย่างฉันก็ขอเอ่ยเข้าประเด็นเลยแล้วกัน”
“นายท่านได้ยินข่าวเรื่องความสำเร็จของคุณในการต่อสู้ที่ตงไห่ รู้สึกปลื้มปีติอย่างยิ่ง แต่น่าเสียดายเห็ดหลินจือเลือดพันปีนั้นไม่ควรตกเป็นของตระกูลเซี่ย”
“ว่ากันว่าตระกูลเซี่ยแห่งทางเหนือนั้นมากล้นด้วยอำนาจอีกทั้งยังเป็นพวกน้ำนิ่งไหลลึก พวกเราตระกูลฉินแห่งซีเป่ยไม่เคยหวั่นเกรงเขา!”
“ตราบใดที่คุณชายใหญ่กล่าว แม้ถงจิ่งจะแก่ชรา แต่ทว่ายินดียอมเป็นเบี้ยหมากไปช่วงชิงเห็ดหลินจือเลือดดอกนั้น!”
ถงจิ่งกล่าวเสียงดังกึกก้อง ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เห็ดหลินจือเลือดดอกนั้น ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นของกำนัลหมั้นหมายของหวังตัวยวี่ และคิดว่าตระกูลเซี่ยได้รับมันไป
แต่โลกภายนอกกลับไม่รู้ว่าเมื่อเขากลับมา หวังตัวยวี่ได้เดินทางมาด้วยตนเองและมอบสิ่งของชิ้นนั้นให้กับเขา
“ผู้อาวุโสถง เห็ดหลินจือเลือดดอกนั้น ผมได้รับมันมาแล้ว”
“คุณชายใหญ่ คุณไม่จำเป็นจะต้องกังวลสิ่งใด ตลอดทั้งชีวิตถงจิ่งไม่เคยเคารพผู้ใด ชีวิตชรานี้ขอทุ่มสุดตัวแล้วก็…”
ขณะที่ถงจิ่งกล่าว ฉับพลันน้ำเสียงของเขาก็ตะโกนดังขึ้น “ไม่สิ คุณชายใหญ่ เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าคุณกล่าวว่าคุณได้รับเห็ดหลินจือเลือดมาแล้วหรอกใช่ไหม?”
“ยินดีด้วยคุณชายใหญ่ ขอแสดงความยินดีด้วยคุณชายใหญ่! นี่ช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าปีติยินดีมาก! คุณหญิงและนายน้อยจะได้รับการช่วยเหลือแล้ว!”
ถงจิ่งมีความสุขมาก ปลายสายโทรศัพท์ ฉินเทียนยังได้ยินเสียงสำลักน้ำดื่มอย่างชัดเจน
แม้ว่าเสียงจะเบามาก แต่เขากลับได้ยินและพอจะฟังออก นั่นคือฉินฉีพ่อของเขาที่กำลังฝึกฝนลัทธิเต๋าคนนั้น
ดูเหมือนว่าสายโทรศัพท์นี้จะเป็นเขาที่สั่งให้ถงจิ่งโทรมา
“คุณชายใหญ่ นายท่านกล่าวว่าคุณได้รับเห็ดหลินจือเลือดมาแล้วก็จะต้องรักษาเอาไว้ให้ดี”
“ส่วนโสมแดงนั้น ตอนบ่ายจะส่งมาถึงที่”
เมื่อถงจิ่งกล่าวจบก็ตัดสายโทรศัพท์ไป อาจจะเพราะรีบร้อนไปรับยาที่บ้านตระกูลฉิน
เมื่อได้ยินเสียงติ๊ดของการขาดการเชื่อมต่อทางโทรศัพท์ ฉินเทียนก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น
โสมแดงนั้นถูกวางไว้ในห้องโถงบรรพบุรุษตระกูลฉิน แสดงให้เห็นถึงความล้ำค่าของมัน
ในวันนี้พ่อกลับส่งถงจิ่งไปรับและจะนำมาส่งให้ในตอนบ่าย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาต่อสู้เพียงลำพัง ขณะนี้เป็นเรื่องยากที่จะรู้สึกอบอุ่นจากการได้รับการดูแลและเอาใจใส่
ผู้ชายไม่ว่าจะอายุเท่าไรแต่ก็ยังคงเป็นเด็ก
ชายคนนั้นที่ถูกเขาอาศัยและเรียกว่าพ่อ หลังจากที่ห่างหายไปจากชีวิตของเขาเนิ่นนานหลายปี เหมือนกับว่าเขานั้นกลับมาแล้ว
เมื่อนึกถึงความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูก อารมณ์ของฉินเทียนก็ซับซ้อน
สำหรับปัจจุบันที่สามารถกล่าวได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อคนนี้ไม่ได้แน่นแฟ้นมากถึงขนาดนั้น แต่ทว่าเขานั้นให้อภัยแล้วจริงหรือ?
รอยแผลเป็นเหล่านั้น ไม่ว่าเมื่อใดที่ถูกกรีดให้แยกออกจากกัน เมื่อนั้นก็จะมีเลือดสดรินไหลออกมา!
เขาเริ่มรู้สึกเหมือนเดิมอีกครั้ง บนโลกมนุษย์ ชีวิตนั้นอยู่ภายใต้ตาข่ายแห่งความรู้สึกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ทว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โสมแดง เขาจะต้องนำมันมาให้ได้ ส่วนเรื่องอื่นนั้นค่อยพูดคุยกันทีหลัง
อย่างน้อยในตอนนี้ ตระกูลฉินนั้นเขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะกลับไป!
“เช้าขนาดนี้กำลังนั่งเหม่อคิดอะไรอยู่เหรอ?”
เสียงของซูซูดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉินเทียน ขณะนี้หล่อนกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตางัวเงีย
เมื่อคืนเธอน่าจะนอนหลับสบาย สีหน้าและผิวของเธอดูสดใสขึ้นไม่น้อย
เมื่อเห็นซูซู อารมณ์ขุ่นมัวของฉินเทียนพลันสลายหายไปในทันที
นี่คือแสงสว่างเพียงอย่างเดียวท่ามกลางชีวิตที่มืดมนของเขา!
ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม เขาจะต้องปกป้องเธออย่างถึงที่สุด!
ฉินเทียนหันกลับมาและมาอยู่ด้านข้างของซูซู เหยียดมือออกไปสัมผัสใบหน้าบอบบางของเธอ “ทำไมตื่นแล้วล่ะ? ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ?”
“แปดโมงแล้วนะ ถ้ายังนอนอีกฉันกลัวว่าฉันจะกลายเป็นหมูตัวน้อยเอาน่ะสิ”
ซูซูหรี่สายตาพลางหัวเราะ เธอลุกขึ้นภายใต้การประคับประคองจากฉินเทียน จากนั้นลูบหน้าท้องของตนเองอย่างแผ่วเบา
“ต่อให้ฉันจะอยากนอน แต่เจ้าตัวน้อยเขาไม่ยอมแล้ว เขาเริ่มก่อกวนอีกแล้ว ดิ้นไปดิ้นมาจนฉันเริ่มหิวแล้ว”
ฉินเทียนรีบก้มศีรษะลงทันใด แน่นอนว่าบริเวณผิวหน้าท้องของซูซูนั้นมีรอยปูดโปนออกมาเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังเปลี่ยนทิศทางและตำแหน่งอย่างไม่หยุดหย่อน
“ไอ้หนูนี่ อย่ามารังแกภรรยาของฉันนะ”
“หากยังกล้าเตะเธออีก รอนายคลอดออกมาเถอะ ฉันจะตีให้ตูดบานเลย”
ฉินเทียนแนบใบหน้าของเขาลงบนหน้าท้องของซูซู รู้สึกถึงความสุขที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
เขาตัวแข็งทื่อและยืนนิ่งงันอยู่กับที่ เงยหน้ามองซูซูราวกับว่ากำลังขอความช่วยเหลือ “ภรรยา เขาเตะผม ไอ้เด็กเวรนี่เตะหน้าผม!”
เป็นผู้สืบทอดวิหารพญายม เป็นผู้นำแห่งวิหารเทพ เป็นผู้นำเจ็ดเมืองทางใต้ รวมถึงอำนาจสถานะแส้มังกรแห่งมังกรซ่อนรูป ขณะนี้ฉินเทียนกลับคล้ายเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่ลืมตาดูโลก!
ถ้าโลกภายนอกเห็นเข้า เกรงว่าคงจะประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เขาสัมผัสหน้าท้องซูซูอย่างแผ่วเบา สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ที่นุ่มนวล แต่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
เขามั่นใจมาก การเคลื่อนไหวเมื่อสักครู่นั้นจะต้องเป็นไอ้หนูนี่ใช้เท้าเตะอย่างแน่นอน
“เฮ้ ไอ้หนู ฉันจะเตือนนายไว้ อย่าเตะภรรยาของฉันให้มากนักนะ”
“พวกเรามาพูดคุยกันดีๆเถอะ ตราบใดที่นายเป็นเด็กดี กระทั่งนายคลอดออกมา ตอนนั้นนายอยากได้อะไร ฉันก็จะให้นายหมดทุกอย่างเลย”
“พวกเราต่างก็เป็นผู้ชาย จะต้องปกป้องแม่สิถึงจะถูกต้อง จะต้องอ่อนโยน! อ่อนโยนน่ะเข้าใจไหม? เก็บมือเก็บเท้าของนายไปซะ อย่าก่อความวุ่นวายอีก”
ฉินเทียนก้มตัวลงมาเล็กน้อย จากนั้นเขาพูดคุยกับเด็กที่อยู่ภายในครรภ์ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ซูซูหัวเราะอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกเสมอว่าผู้ชายโง่เง่าที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นน่ารักเป็นอย่างมาก