CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน - บทที่ 1008 การมาเยือนของสหายเก่า

  1. Home
  2. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน
  3. บทที่ 1008 การมาเยือนของสหายเก่า
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 1008 การมาเยือนของสหายเก่า

บทที่ 1008 การมาเยือนของสหายเก่า

สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

ก่อนที่หลี่หยางจะจากไป นางได้แนะนำแก่เฉินซีว่า หลังจากที่เขาขึ้นมายังภพเซียน มันเป็นสถานที่ที่เขาควรจะไปยังที่นั่น และตราบใดที่เขาสามารถเข้าร่วมกับสำนึกศึกษานี้ได้ ตระกูลจั่วชิวก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ แม้ว่าพวกมันจะมีอำนาจที่ไร้ขอบเขตก็ตาม

ในทางกลับกัน เนื่องจากมันสามารถทำให้ตระกูลจั่วชิวเกรงกลัวได้ มันจึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋านั้นน่าเกรงขามเพียงใด เพราะอย่างน้อยที่สุด มันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลจั่วชิว

นี่เป็นเพียงความเข้าใจของเฉินซีเกี่ยวกับสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า สำหรับว่ามันจะน่าเกรงขามเพียงใดนั้น เขาจะได้รู้อย่างถ่องแท้ก็ต่อเมื่อมาถึงภพเซียนแล้วเท่านั้น

ณ ยอดเขาจรัสตะวันตก

เมื่อพวกเขาเห็นเฉินซีที่หายตัวไปเจ็ดวัน ได้กลับมาอย่างปลอดภัย หั่วโม่เลยและคนอื่น ๆ ก็ถอนหายใจยาวด้วย ความโล่งอก ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ พวกเขากังวลว่า เฉินซีจะถูกพัดพาไปในหายนะเช่นกัน

เฉินซียิ้มเบา ๆ เมื่อเห็นสิ่งนี้ และเขาไม่ได้อธิบายอะไร เพิ่มเติม นอกจากถอนหายใจในใจแทน

“ทัณฑ์สวรรค์ระลอกสุดท้ายจะเกิดขึ้นในอีกสี่สิบเก้าวัน แล้วศิษย์พี่ใหญ่กับคนอื่น ๆ จะทำอย่างไร หากข้าขึ้นสู่ภพเซียนแล้ว…”

“แล้วหลิงไป๋, ซางจือ, อาหมาน, ไป๋คุย, มู่ขุย และคนอื่น ๆ จะอยู่กันอย่างไร ?”

“ท้ายที่สุด ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสามารถกลับไปยังภพมนุษย์ได้เมื่อใด หลังจากที่ข้าจากไปในครั้งนี้ และถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น ข้าคงไม่มีโอกาสได้สำนึกเสียใจด้วยซ้ำ”

“การพาพวกเขาไปด้วยในขณะที่ข้าขึ้นสู่ภพเซียนนั่น ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้”

“แม้ว่าข้าจะนำพวกเขาไปไว้ในเคหา แต่พวกเขาก็จะถูกสังเกตเห็นโดยกฎของภพเซียน และหากเป็นเช่นนั้น พวกเราคงถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุก และคงจะต้องถูกทำลายล้างอย่างแน่นอน…”

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเฉินซีก็ไม่สามารถคิดหาวิธีได้ และเขาทำได้เพียงแค่ปล่อยวางเรื่องนี้ไว้ก่อน

…

“นายท่าน ข้าคงต้องขอลาไปก่อน” ไม่นานหลังจากที่ เฉินซีกลับมา ชิวอวิ๋นเซิงก็มาหาเขา และชิวอวิ๋นเซิงก็กล่าวคุยเล็กน้อย ก่อนที่จะบอกเหตุผลในการมาถึงของเขาให้ชัดเจน

เนื่องจากชิวอวิ๋นเซิงถูกชิงซิ่วอี้ปราบด้วยเคล็ดวิชาลับ ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับคนนี้ จึงดูเหมือนจะกลายเป็นคนละคนเมื่อเขาอยู่ต่อหน้าเฉินซี เขามีความเคารพ ยำเกรง ไม่แสดงความเย่อหยิ่งแม้แต่น้อย และประพฤติตนอย่างเชื่อฟังอย่างยิ่ง

“โอ้ เจ้าจะไปแล้วเหรอ” เฉินซีรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เชื่อว่าคนผู้นี้จะมีความเคารพและยอมจำนนในหัวใจของเขา

“เวลาของข้าในภพมนุษย์ได้หมดลงแล้ว และถ้าข้ายังไม่กลับไป ข้าจะถูกกักขังโดยพลังของพิภพเซียนและพาตัวกลับไปในฐานะอาชญากร”

ชิวอวิ๋นเซิงอธิบายอย่างอดทน “แต่ไม่ต้องกังวล หลังจากที่ข้ากลับไปที่ภูเขาเซียนสายหมอกในครั้งนี้ ข้าจะช่วยนายท่านรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองและตระกูลจั่วชิว ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวังอย่างแน่นอน”

เฉินซีชำเลืองมองเขาด้วยรอยยิ้มเสแสร้งและกล่าวว่า “แต่ในความคิดของข้า ดูเหมือนว่าเจ้ากระวนกระวายที่จะรีบกลับไปยังนิกายของเจ้า เพื่อที่เจ้าจะได้ขอให้ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น ได้ช่วยเจ้าขจัดกับข้อจำกัดที่อยู่ภายในร่างกายของเจ้าใช่หรือไม่ ?”

ร่างกายของชิวอวิ๋นเซิงแข็งทื่อ จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าขุ่นเคืองว่า “นายท่าน คำกล่าวของนายท่านทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังจริง ๆ พระอาทิตย์และพระจันทร์สามารถเป็นพยานในความภักดีของข้าได้ และข้าจะไม่ทำสิ่งใดที่เป็นการทรยศต่อนายท่านอย่างแน่นอน”

เฉินซีมองดูเขาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม และเขาไม่ใส่ใจที่จะเปิดเผยความคิดของชิวอวิ๋นเซิง เฉินซีจึงโบกมือและกล่าวว่า “เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว ไว้ข้าจะเป็นฝ่ายติดต่อเจ้าเอง หลังจากที่ข้าขึ้นสู่ภพเซียนแล้ว”

“นายท่าน โปรดดูแลตัวเองด้วย !” ชิวอวิ๋นเซิงประสานมือคำนับ ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ พร้อมกับก้าวยาว ๆ จากไป

“คนผู้นี้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากมาย และเก้าในสิบของสิ่งที่เขากล่าวล้วนเป็นคำเท็จ แต่ถ้าเขามีประโยชน์กับข้า ข้าก็จะสามารถช่วยตัวเองให้พ้นจากปัญหามากมายได้” เฉินซีเฝ้าดูชิวอวิ๋นเซิงที่กลายเป็นลำแสงและอันตรธานหายไป ซึ่ง การครุ่นคิดลึก ๆ ก็แวบเข้ามาในดวงตาของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน เฉินซีก็กลับไปที่ริมฝั่งของ สระชำระกระบี่และเริ่มฝึกฝนการทำสมาธิ

การเฝ้าดูการต่อสู้ที่น่าตกตะลึงระหว่างหายนะครั้งนี้ ได้กระตุ้นเฉินซีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่เขาได้รับเศษเสี้ยวของเต๋าแห่งสวรรค์ มันทำให้การบ่มเพาะของเขา พลังชีวิต และแม้กระทั่งความเข้าใจต่อเต๋ารู้แจ้ง ได้บรรลุสถานะที่ไร้ที่ติ

ตัวอย่างเช่น มหาเต๋าแห่งนิรันดร์ มหาเต๋าแห่งการรังสรรค์ มหาเต๋าแห่งการทำลายล้าง มหาเต๋าแห่งการกลืนกิน มหาเต๋าแห่งการพิพากษา และมหาเต๋าที่หายากอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนแต่ก็บรรลุความสมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เฉินซีได้มาถึงขีดจำกัดของขอบเขตเซียนปฐพีแล้ว และเว้นแต่เขาจะก้าวหน้าในการบ่มเพาะ เขาจะไม่สามารถพัฒนาได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าเขาจะทุ่มเทบ่มเพาะเพียงใดก็ตาม

มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าหลังจากภัยพิบัติ ครั้งนี้ เฉินซีได้กลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งที่ไร้คู่ต่อกรของภพมนุษย์ทั้งหมด ! เนื่องจากผู้ละทิ้งสวรรค์ไม่มีอยู่ในโลกอีก ต่อไป และผู้อาวุโสเหล่านั้นที่บำเพ็ญเพียรอย่างสันโดษ ต่างก็ล้มตายไปพร้อมกับภัยพิบัติ หรือไม่ก็ขึ้นสู่ภพเซียน

“น่าเสียดายที่ผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งของภพมนุษย์ ก็ยังถูกจำกัดอยู่ในภพมนุษย์ และไม่ใช่ของภพเซียน…”

หลังจากผ่านไปนาน เฉินซีก็ตื่นขึ้นจากการทำสมาธิ และเขารู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย ที่จะมุ่งหน้าไปสู่ภพเซียน

“ฟ่านอวิ๋นหลานของนิกายอสูรสวรรค์แรกกำเนิดมาเยี่ยมแล้ว ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าผู้อาวุโสเฉินซีอยู่ที่นี่หรือไม่” ในขณะนี้ เสียงที่โปร่งชวนสบายซึ่งมีร่องรอยของแรงดึงดูดที่ไม่เหมือนใคร ก็ดังก้องอยู่ด้านนอกยอดเขาจรัสตะวันตก และ ค่อย ๆ กระจายไปทั่วฟ้าดิน

ร่างกายทั้งหมดของเฉินซีสั่น ในขณะที่ภาพของผู้หญิงที่บอบบางและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ ผู้ที่มีผมสีแดงเพลิงและผิวขาวราวหิมะปรากฏขึ้นในความคิดของเขา

“ฟ่านอวิ๋นหลาน…”

“ไฉนนางถึงมาที่นี่?”

เมื่อนึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนในสนามรบบรรพกาล ฟ่านอวิ๋นหลานถูกฟางจ่านเหมยจากนิกายอสูรสวรรค์แรกกำเนิดรับเป็นศิษย์ และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาไม่เคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับนางเลย และเมื่อเขาลองทบทวนดู มันก็เป็นเวลานานกว่าร้อยปีแล้ว

เดิมทีเฉินซีก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เพราะเขากำลังจะขึ้นสู่ ภพเซียน แต่กลับไม่สามารถพบสหายเก่าของเขาได้ทั้งหมด แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่า ฟ่านอวิ๋นหลานจะมาที่ยอดเขาจรัสตะวันตกด้วยตัวเอง !

นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ เสียงมากมายก็ดังขึ้นอีกครั้งจากนอกยอดเขาจรัสตะวันตก

“จ้าวชิงเหอจากนิกายอสูรสวรรค์แรกกำเนิด มาเยี่ยม ผู้อาวุโสเฉินซี”

“หวงฝู่ฉิงอิงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก…”

“นายน้อยโจวแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก…”

“เจิ้นหลิวชิงแห่งแดนไร้นาม…”

หลิงอวี๋แห่งวัดป่าธยานะ…”

ในขณะนี้ เฉินซีเกือบจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติที่หูของเขา แต่ร่างของเขากลับหายวับไปจากห้องเสียแล้ว

…

บนท้องฟ้าเหนือยอดเขาจรัสตะวันตก

ชายหญิงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ผู้ชายก็หล่อเหลาและ ผู้หญิงก็งดงาม พวกเขาทั้งหมดมีกลิ่นอายที่หลากหลาย ซึ่งเหมือนวิหคอมตะและมังกรในหมู่มวลมนุษย์ และเมื่อมองเพียงแวบเดียว ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา

“เฮ้ เจ้าคิดว่าไอ้สารเลวเฉินซีจะดีใจจนแทบคลั่งเมื่อเขารู้ว่าเรามางั้นเหรอ ?” นายน้อยโจวโน้มตัวไปหาหลิงอวี๋อย่างเกียจคร้าน ขณะที่เขาถามด้วยรอยยิ้ม

“ข้าคิดว่าเขาคงจะบ้าไปแล้ว” หลิงอวี๋กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง ในเวลานี้หลิงอวี๋ได้โกนผมจนศีรษะโล้น ซึ่งเผยให้เห็น รูปลักษณ์ที่เคร่งขรึมและสง่างาม

“ข้าเห็นด้วยกับมุมมองของเจ้าโล้นน้อย” หวงฝู่ฉิงอิงที่อยู่ใกล้ ๆ ยิ้มขณะที่นางกล่าว และนางยื่นมือออกไปเพื่อลูบศีรษะที่เงางามของหลิงอวี๋ ขณะที่นางแสดงท่าทางอยากรู้อยากเห็นจ้าวชิงเหอไม่ได้กล่าวอะไรและเพียงฟังอย่างเงียบ ๆ อย่างไรก็ตาม รูปร่างหน้าตาของเขาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งอายุหมื่นปี มันกลับอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อริมฝีปากที่เย็นยะเยือกของเขายกโค้งขึ้นยิ้มเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกันตั้งแต่เข้าสู่แดนภวังค์ทมิฬ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นทุกคนสบายดีเหมือนเดิม เขาจึงรู้สึกค่อนข้างมีความสุข

เจิ้นหลิวชิงสวมชุดสีเขียวที่เรียบง่ายและสง่างาม ในขณะที่นางดูงดงามและไม่ธรรมดา นางมองไปที่ฟ่านอวิ๋นหลานที่อยู่ใกล้ ๆ และกล่าวอย่างสบาย ๆ ว่า “ข้าได้ยินมาว่าชิงซิ่วอี้ได้จากไปแล้วหรือ ?”

“ใช่แล้ว” ฟ่านอวิ๋นหลานเพียงพยักหน้า ในขณะที่ดวงตาที่สวยงามของนางจ้องมองที่ยอดเขาจรัสตะวันตกอย่างว่างเปล่า และดูเหมือนว่านางกำลังค้นหาร่องรอยที่เฉินซีเคยทิ้งไว้ภายในนั้นเช่นเดียวกับในอดีต นางยังคงชอบสวมเสื้อผ้าสีแดง ซึ่ง ขับเน้นร่างที่สง่างามและเรียวยาวของนางออกมาอย่างชัดเจนราวกับเปลวไฟ ประกอบกับรูปลักษณ์ที่บอบบางและงดงามของนาง จึงทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจเมื่อพบเห็นนาง

หากเจิ้นหลิวชิงเป็นดอกบัวที่บริสุทธิ์และสวยงาม ฟ่านอวิ๋นหลานก็เป็นดอกกุหลาบที่ละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ ซึ่งต่างก็มีข้อดีของตัวเอง

เจิ้นหลิวชิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นปฏิกิริยาของ ฟ่านอวิ๋นหลาน จากนั้นนางก็เริ่มหัวเราะก่อนจะถอนหายใจ เบา ๆ “หลายปีผ่านไป ข้าสงสัยว่าจะมีผู้หญิงอีกกี่คนที่อยู่เคียงข้างเขา…”

“เขาไม่เคยเป็นคนที่ริเริ่ม” ฟ่านอวิ๋นหลานดูเหมือนจะคิดถึงบางสิ่งในอดีต ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ของนางก็อบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความเข้าใจ

“ทำไมเขาถึงไม่ใช่คนที่ริเริ่ม ?” นายน้อยโจวก้าวไป ข้างหน้าและกล่าวอย่างสกปรกว่า “ถ้าเขาไม่ใช่คนที่เริ่ม แล้วเขาจะสามารถทำให้เจ้าทั้งคู่กล่าวไม่หยุด เหมือนผู้หญิงที่ ขุ่นเคืองทันทีที่เจ้าทั้งคู่พบกันหรือไม่”

“ไสหัวไปซะ !” ทั้งคู่สบถและเอามือไล่ทุบอย่าง พร้อมเพรียงกัน

นายน้อยโจวรีบหนีไปทันทีโดยเอามือกันศีรษะไว้ และเขาวิ่งไปที่ด้านข้างของหวงฝู่ฉิงอิง ก่อนที่เขาจะกล่าวด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกว่า “อนิจจา เห็นได้ชัดว่าไอ้สารเลวเฉินซีนั้นไม่หล่อเท่าข้า และเขายังดูไม่น่าเกรงขามเหมือนข้า แต่ทำไมถึงมีแต่หญิงสาวมาชมชอบเขา”

หวงฝู่ฉิงอิงชำเลืองมองนายน้อยโจว ก่อนจะกล่าวกับ ฟ่านอวิ๋นหลานและเจิ้นหลิวชิงโดยตรงว่า “พี่สาว สหายคนนี้บอกว่าเจ้าทั้งคู่มีตาแต่ไร้แววไม่ พวกเจ้าต้องการที่จะทุบตีเขาหรือไม่ ?”

ชู่ว !

สายตาเย็นชาของทั้งสองพลันจ้องเขม็งมาที่เขา ทำให้ นายน้อยโจวสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นเขาก็จ้องมอง หวงฝู่ฉิงอิงด้วยสีหน้าโกรธแค้นและหดหู่ ราวกับว่าเขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่แม้แต่หวงฝู่ฉิงอิงก็ยังทรยศเขา ฉากนี้ทำให้หลิงอวี๋และจ้าวชิงเหอหัวเราะออกมา

เมื่อเฉินซีมาถึง เขาก็เห็นฉากนี้เข้าพอดี และความคิดมากมายก็ท่วมท้นในใจของเขา ในขณะที่มุมปากของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเล็กน้อย การพบปะกับสหายที่มาจาก แดนไกล ย่อมเป็นที่น่ายินดีเสมอ

…

ยอดเขาจรัสตะวันตกคึกคักเป็นพิเศษในวันเดียวกับที่ ทุกคนมาถึง สุราชั้นเลิศเหยือกแล้วเหยือกเล่าต่างถูกรินจนเหมือนกับสายน้ำที่ไหลริน ในตอนท้ายมันกลายเป็นสนามรบแห่งสุราระหว่างชายสี่คน ได้แก่ เฉินซี นายน้อยโจว หลิงอวี๋ และจ้าวชิงเหอ

พวกเขาดื่มด้วยความยินดี ราวกับว่าได้หวนกลับไปสู่อดีตแน่นอนว่าไม่มีใครใช้การบ่มเพาะของตน มิฉะนั้นมันก็คงไม่ต่างอะไรกับการโกง

ในทางกลับกัน ฟ่านอวิ๋นหลานและเจิ้นหลิวชิงมองไปที่ เฉินอันด้วยท่าทางที่คาดเดายาก ทำให้เฉินอันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังนั่งอยู่บนเตียงหนาม และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นได้ จึงหนีไปในที่สุด

“น่าเสียดายที่ชิงซิ่วอี้กลับได้ประโยชน์ในตอนนั้น” ฟ่านอวิ๋นหลานถอนหายใจเบา ๆ เจิ้นหลิวชิงไม่เข้าใจสิ่งที่ ฟ่านอวิ๋นหลานกล่าว แต่นางก็รู้สึกในใจเล็ก ๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตามนางก็กล่าวด้วยรอยยิ้มแทน “แล้วถ้าเจ้ากับเฉินซีมีลูกกัน เจ้าจะตั้งชื่อลูกของเจ้าว่าอะไร”

ฟ่านอวิ๋นหลานตกตะลึง ในขณะที่ใบหน้าที่สวยงามของนางร้อนผ่าว เพราะคำถามนี้ตรงเกินไปจริง ๆ แต่ในเวลาไม่นาน นางก็เชิดอกขึ้น และครุ่นคิดอย่างจริงจัง ก่อนที่จะกล่าวว่า “เฉินผิง” [1]

“เฉินผิง…” เจิ้นหลิวชิงอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะที่ลื่นหูน่าฟังประหนึ่งสายน้ำไหล เพราะในที่สุดนางก็เข้าใจว่า ฟ่านอวิ๋นหลานไม่เต็มใจที่จะแพ้ชิงซิ่วอี้มาโดยตลอด

คนหนึ่งชื่อเฉินอัน อีกคนชื่อเฉินผิง แม้มันเป็นเพียงชื่อ แต่นางต้องการแยกลำดับระหว่างพวกเขา เนื่องจากนางใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ จึงแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฟ่านอวิ๋นหลานไม่เต็มใจที่จะแพ้ให้กับชิงซิ่วอี้

“แล้วเจ้าล่ะ?” ฟ่านอวิ๋นหลานถามกลับทันที

“ข้าหรือ ?” เสียงหัวเราะของเจิ้นหลิวชิงหยุดลงทันทีเนื่องจากนางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าฟ่านอวิ๋นหลานจะถามคำถามนี้กับนาง และมันทำให้นางก็ตกตะลึงทันที จนนางไม่อาจตอบได้เป็นเวลานาน

“ดูเหมือนเจ้าก็เหมือนข้า แต่เจ้าคิดชื่อที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว” ฟ่านอวิ๋นหลาน กล่าวอย่างพึงพอใจและเผยให้เห็นถึงชัยชนะ

“ข้าจะฟังการตัดสินใจของเฉินซี” ดวงตาที่ชัดเจนของ เจิ้นหลิวชิงเปล่งประกายด้วยแสงระยับ และนางจับคางของนางขณะที่นางจ้องมองที่เฉินซี “ลูกของข้าจะตั้งชื่ออะไรก็ได้ตามที่เขาชอบ”

“เจ้าทั้งคู่ยังไม่ได้อยู่กับเฉินซีด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับเริ่มคิดเรื่องให้กำเนิดลูกและตั้งชื่อให้พวกเขาแล้วหรือ ?” ในขณะเดียวกัน นายน้อยโจวก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ จากนั้นเขาก็มองไปที่ฟ่านอวิ๋นหลานและเจิ้นหลิวชิง ก่อนที่เขาจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยสีหน้าเศร้าหมองและถอนหายใจด้วยอารมณ์ “นี่มันไม่ยุติธรรม อาจเป็นเพราะข้าหล่อเหลาเกินไปจนไม่มีใครกล้ามาหลงรักเลยหรือ ? อนิจจา การที่หล่อเหลานั้นไม่ใช่ความผิดของข้า นี่มันไม่ยุติธรรมจริงๆ…”

1. เฉินอัน(陈安) เฉินผิง (陈平) มาจากคำว่า ‘平安’ ที่หมายความว่าปลอดภัย/สวัสดิภาพ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป
  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์