CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน - บทที่ 801 ขัดเกลาค่ายกลใหญ่

  1. Home
  2. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน
  3. บทที่ 801 ขัดเกลาค่ายกลใหญ่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บท​ที่​ 801 ขัดเกลา​ค่าย​กล​ใหญ่​

การเข่นฆ่า​ยังคง​ดำเนินต่อไป​ราวกับ​เปลวเพลิง​ที่​ลุกไหม้​

หลังจาก​ใช้เคล็ด​ระเบิด​สังหาร​เท​วะ​ ไม่ว่า​จะเป็น​แก่นแท้​ ปราณ​แท้​ หรือ​แม้กระทั่ง​จิตวิญญาณ​ใน​ร่างกาย​ของ​เฉิน​ซี ก็​จะถูก​ควบแน่น​อย่าง​ดุเดือด​ ซึ่งพวก​มัน​ดูจะ​เดือด​พล่าน​ คำราม​ลั่น​ และ​เผาผลาญ​อย่าง​รวดเร็ว​

นี่​คือ​เคล็ด​วิชา​บ่ม​เพาะ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ ซึ่งยอม​สละ​แก่นแท้​ของ​ผู้ใช้​เพื่อ​แลก​กับ​ความ​แข็งแกร่ง​ เดิมที​ การบ่ม​เพาะ​และ​ความเข้าใจ​ใน​เต๋า​รู้แจ้ง​ของ​เฉิน​ซีนั้น​ เพียง​พอที่จะ​ใช้พลัง​การต่อสู้​ได้​ถึงสิบ​เท่า​แล้ว​ และ​เขา​ก็​อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​ผู้​บ่ม​เพาะ​ขอบเขต​สถิต​กา​ยา​

แต่​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เฉิน​ซีในเวลานี้​ได้​ทวีคูณ​เป็น​สองเท่า​ เมื่อ​รวม​กับ​พลัง​การต่อสู้​สิบ​เท่า​ จึงทำให้​ชายหนุ่ม​สามารถ​ใช้พลัง​การต่อสู้​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ได้​ถึงยี่สิบ​เท่า​!

ยี่สิบ​เท่า​!

พลัง​การต่อสู้​ที่​น่าสะพรึงกลัว​นี้​คือ​สิ่งอัน​ใด​? นับตั้งแต่​อดีต​จวบ​จนถึง​ปัจจุบัน​ จะมีสัก​กี่​คน​ที่​บรรลุ​สิ่งนี้​ได้​?

บางที​แม้แต่​ห​ยา​จื้อ​ซึ่งเป็น​สัตว์ร้าย​ใน​ยุค​บรรพกาล​ ผู้สร้าง​เคล็ด​ระเบิด​สังหาร​เท​วะ​ก็​ยัง​ต้อง​บอ​กว่า​ เป็นไปไม่ได้​ที่​มัน​จะครอบครอง​พลัง​การต่อสู้​ขอบเขต​สถิต​กา​ยา​ที่​ท้าทาย​สวรรค์​เช่น​เฉิน​ซี!

ภายใต้​สถานการณ์​นี้​ เฉิน​ซีจึงสังหาร​ผู้​เยี่ยม​ยุทธ์​ขอบเขต​เซียน​ปฐพี​ระดับ​สามได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ราวกับ​เขา​กำลัง​หั่น​ผัก​ผลไม้​ ซึ่งการกระทำ​นี้​ไม่ได้​แตกต่าง​อะไร​จาก​การ​เชือด​คอ​ไก่​

ฝน​โลหิต​โปรยปราย​ลงมา​ ในขณะที่​เสียงร้อง​โหยหวน​ได้​สั่นสะท้าน​ไป​ถึงสวรรค์​ทั้ง​เก้า​

ผม​สีขาว​ของ​เฉิน​ซีพลิ้วไหว​ราวกับ​น้ำตก​ ในขณะที่​เขา​ถือ​ยันต์​ศัสตรา​และ​เคลื่อนตัว​ไป​รอบ​ ๆ ซึ่งทุกครั้งที่​ฟัน​กระบี่​ออก​ไป​ จะเกิด​พลัง​ทำลาย​ที่​บดขยี้​ทุกสิ่ง​ที่อยู่​ตรงหน้า​ และ​ไม่มีใคร​สามารถ​ต้านทาน​พลัง​ทำลาย​ของ​ชายหนุ่ม​ได้​เลย​

นอกจากนี้​ ยันต์​ศัสตรา​สีดำ​สนิท​และ​ไร้​ความ​แวววาว​ใน​มือ​ของ​เขา​ก็​สั่นสะท้าน​ ราวกับ​มัน​กำลัง​โห่ร้อง​หลังจากที่​ลิ้มรส​เลือด​ของ​ศัตรู​ ยันต์​เท​วะ​ห้า​สาย​ภายใน​ตัว​กระบี่​ต่าง​หมุนเวียน​และ​ปลดปล่อย​อักขระ​ยันต์​ออกมา​มากมาย​ ในขณะที่​กระแส​ปราณ​ต้นกำเนิด​โกลาหล​ก็​ถาโถมลงมา​ดุจ​แม่น้ำ​สีเงิน​ มัน​มีพลัง​ใน​การอนุมาน​และ​การ​รังสรรค์​ อีก​ทั้ง​ยัง​ทำลาย​กระบี่​อมตะ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ และ​สะบั้น​ศีรษะ​แล้ว​ศีรษะ​เล่า​!

ผู้อาวุโส​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ ล้วน​ประหลาดใจ​และ​คำราม​อย่าง​โกรธเกรี้ยว​ด้วย​น้ำเสียง​โหดเหี้ยม​ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​ ทำใจ​ให้​สงบ​ได้​ยาก​

เนื่องจาก​ไม่มีผู้ใด​คาดคิด​มาก่อน​ว่า​เฉิน​ซีจะน่ากลัว​ได้​ถึงขนาด​นี้​ เขา​เป็น​เหมือน​เทพ​อสูร​ที่​ตื่นขึ้น​หลังจาก​ผ่าน​การ​จำศีล​มาหลาย​ยุคสมัย​ และ​ไม่มีใคร​สามารถ​หยุด​ฝีเท้า​ของ​ชายหนุ่ม​ได้​เลย​!

พวกเขา​ในเวลานี้​ถูก​ครอบงำ​ด้วย​ความกลัว​ ร่างกาย​ของ​ทุกคน​สั่นสะท้าน​อย่าง​ยาก​จะควบคุม​ แม้แต่​วิญญาณ​ก็​แทบ​หลุด​ออกจาก​ร่าง​ ไม่ต้อง​กล่าวถึง​การ​สร้าง​ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​อีกครั้ง​ แม้แต่​ขวัญ​กำลังใจ​ที่จะ​ลุกขึ้น​สู้ก็​พังทลาย​ลง​!

“เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​!?”

“ทุก​การ​โจมตี​จะสังหาร​ผู้คน​ หรือว่า​ไอ้​เด็ก​บัดซบ​นี่​จะถูก​ทวยเทพ​เข้าสิง​!?”

“เร็ว​เข้า​! เจ้าเด็ก​คน​นี้​น่ากลัว​เกินไป​ และ​มัน​ไม่ใช่คน​ที่​เรา​จะไป​ต่อกร​ด้วย​ได้​ รีบ​ไป​แจ้งศิษย์​พี่​อวิ๋น​จูให้​ลงมือ​เร็ว​เข้า​!”

ใน​ขณะนี้​ มีคน​เหลืออยู่​เพียง​สามคน​รวมทั้ง​ผู้อาวุโส​จิ้งคง​ด้วย​ พวกเขา​เหมือน​แมลงวัน​หัวขาด​ที่​ร้อง​ออกมา​ด้วย​ความหวาดกลัว​และ​เดือดดาล​ ขณะ​วิ่งหนี​อย่าง​บ้าคลั่ง​ราวกับ​สุนัขจรจัด​ที่​ตื่นตระหนก​

ถึงขนาด​ที่ว่า​พวกเขา​ไม่สามารถ​รอ​ให้​ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูมาช่วยเหลือ​ และ​ตั้งใจ​ละทิ้ง​ค่าย​กล​ใหญ่​นี้​ในทันที​เพื่อ​รีบ​หลบหนี​ไป​

“อย่า​ได้คิด​หนี​!” เฉิน​ซียื่นมือ​ออก​ไป​และ​คว้า​จับ​ ในขณะที่​เปิด​ใช้งาน​เคหา​ดารา​ที่อยู่​ใน​จี้หยก​ ทำให้​มัน​กลายเป็น​หลุมดำ​ที่​ดูด​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ เข้าไป​ทันที​ โดย​ในเวลาเดียวกัน​ ร่าง​ของ​เฉิน​ซีก็​เข้าไป​ใน​เคหา​ดารา​พร้อมกับ​พวกเขา​และ​หายวับ​ไป​

ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​นี้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​ม้วน​ภาพวาด​กระบี่​ระดับ​สมบัติ​อมตะ​แปด​ชิ้น​ ซึ่งสามารถ​ผนึก​ฟ้าดิน​เพื่อ​สร้าง​โลก​ของ​ตนเอง​ ดังนั้น​ หาก​เฉิน​ซีปล่อย​ให้​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ หนี​ไป​ได้​ แม้เขา​จะสามารถ​รับมือ​กับ​อันตราย​ใน​ค่าย​กล​นี้​ได้​ แต่​ก็​ไม่อาจ​รับประกัน​ได้​ว่า​จะไม่มีศัตรู​ซุ่มโจมตี​อยู่​ทาง​ข้างนอก​

เฉิน​ซีกักขัง​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ ไว้​ภายใน​เคหา​ดารา​อย่าง​สมบูรณ์​ ทำให้​พวกเขา​ไม่สามารถ​หลบหนี​ได้​ ดังนั้น​ตราบใดที่​ชายหนุ่ม​สามารถ​ฆ่าพวก​มัน​ก่อน​จะจากไป​ อันตราย​ที่​เขา​ต้อง​เผชิญ​จะลดลง​อย่าง​มาก​

วูบ​!

แสงสีดำ​สนิท​สว่าง​วาบ​ก่อนที่​เคหา​ดารา​จะหาย​ไป​

โลก​ทั้ง​ใบ​กลับคืน​สู่ความ​สงบสุข​อีกครั้ง​ มีเพียง​กลิ่น​คาวเลือด​ที่​คละคลุ้ง​ไป​ทั่ว​ท้องฟ้า​

ภายนอก​ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​

ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูดูจะ​สังเกตเห็น​อะไร​บางอย่าง​ ทำให้​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ใน​ทันใด​ และ​จ้องมอง​ไป​ยัง​ภาพวาด​ซึ่งก่อตัว​ขึ้น​จาก​ม้วน​ภาพวาด​กระบี่​ทั้ง​แปด​ม้วน​ที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ หาก​แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความ​งุนงง​

เขา​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​ไม่ได้​ถูก​ควบคุม​อีกต่อไป​ และ​มัน​กำลัง​ทำงาน​ด้วยตัวเอง​ “ช่างแปลก​นัก​ เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​มีเหตุการณ์​ไม่คาดฝัน​เกิดขึ้น​ภายใน​นั้น​?”

“อาจารย์​ลุง​ ท่าน​สังเกตเห็น​อัน​ใด​หรือไม่​” เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​ที่อยู่​ใกล้เคียง​ตกตะลึง​ นาง​กำลัง​หารือ​กับ​เวิน​เทียน​ซั่ว​เกี่ยวกับ​แผนที่​สมบัติ​ของ​ภูเขา​ร้าง​เต๋า​นภา​ แต่​ทันใดนั้น​นาง​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​ท่าทาง​ของ​ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูดูจะ​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ ทำให้​นาง​สงสัย​จน​ต้อง​เอ่ย​ถาม

“มีบางอย่าง​ผิดปกติ​” ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูขมวดคิ้ว​ ขณะที่​ใบหน้า​ของ​เขา​เปี่ยม​ด้วย​ความจริงจัง​ “จาก​การคำนวณ​ของ​ข้า​ เวลา​เท่านี้​ก็​นับว่า​เพียงพอ​สำหรับ​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ ที่จะ​ฆ่าเจ้าเด็ก​นั่น​ แต่​ตอนนี้​กลับ​ไม่มีการเคลื่อนไหว​เลย​แม้แต่น้อย​ นอกจากนี้​ ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​ก็​ปราศจาก​การควบคุม​แล้ว​”

เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​ตกใจ​และ​รู้สึก​ว่า​เชื่อได้​ยาก​ “เป็นไปไม่ได้​ ด้วย​การบ่ม​เพาะ​ของ​ท่าน​อาจารย์​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ แม้ว่า​จะล้มเหลว​ใน​การสังหาร​เฉิน​ซี แต่​พวก​ท่าน​ก็​ควร​มีเวลา​พอที่จะ​หลบหนี​ แล้ว​พวก​ท่าน​จะละทิ้ง​ค่าย​กล​ไป​ได้​อย่างไร​กัน​?”

ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูขมวดคิ้ว​แล้ว​กล่าวว่า​ “น่าเสียดาย​ที่​ข้า​ไม่สามารถ​เข้าไป​ได้​เช่นกัน​ มิฉะนั้น​ข้า​จะได้รับ​ผลสะท้อน​กลับ​จาก​ค่าย​กล​ และ​มัน​ก็​ไม่คุ้มค่า​ เว้นแต่​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ จะเปิด​ค่าย​กล​จาก​ข้างใน​ แต่​ตอนนี้​ดูเหมือน​จะเป็นไปไม่ได้​…”

“นี่​… หรือว่า​…เฉิน…​ เด็ก​คน​นั้น​ได้​ฆ่าทุกคน​แล้ว​” เวิน​เทียน​ซั่ว​ที่อยู่​ใกล้เคียง​ประหลาดใจ​ยิ่ง​ และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​กลายเป็น​ซีดเผือด​ ในขณะที่​เกือบจะ​อุทาน​ชื่อ​ของ​เฉิน​ซีโดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​

“นี่​มัน​ไม่น่ากลัว​ไป​หน่อย​หรือ​? แม้แต่​ผู้​เยี่ยม​ยุทธ์​ขอบเขต​เซียน​ปฐพี​สิบ​สามคน​จาก​นิกาย​วิถี​กระแส​สวรรค์​ก็​ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​กับ​เฉิน​ซีได้​ แผนการ​ครั้งนี้​จะไม่จบ​ลง​ด้วย​ความล้มเหลว​ใช่หรือไม่​?”

“หาก​เป็น​เช่นนี้​จริง ๆ​ ผลลัพธ์​ที่​รอ​ข้า​อยู่​จะเป็น​เช่นไร​กัน​?”

เมื่อ​คิด​มาถึงตรงนี้​ หัวใจ​ของ​เวิน​เทียน​ซั่ว​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หนาวเหน็บ​ เขา​รู้สึก​หวาดกลัว​และ​ไม่สบายใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​

“หุบปาก​!” หญิงสาว​ตำหนิ​ด้วย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ “ท่าน​อาจารย์​ลุง​ทั้ง​สิบ​สามคน​ของ​ข้า​จะถูก​ฆ่าล้าง​ใน​ช่วงเวลา​สั้น​ ๆ ได้​อย่างไร​? ข้า​จะเป็น​คน​แรก​ที่​ฆ่าเจ้าเสีย​ หาก​เจ้ายัง​กล่าว​วาจา​ไร้สาระ​อีก​”

เวิน​เทียน​ซั่ว​ตัวสั่น​ด้วย​ความกลัว​ เมื่อ​เห็น​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​โทสะ​ของ​เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​ และ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยน​ไปมา​ ในขณะที่​ตัว​คน​นิ่งเงียบ​เหมือน​จักจั่น​ใน​ฤดูหนาว​

“เรา​ทำได้​แค่​รอ​ตอนนี้​” ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูเงียบ​ไป​นาน​ก่อนที่จะ​กล่าว​ช้า ๆ

เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​เงียบ​ไป​ นาง​รู้​เช่นกัน​ว่า​ ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​นั้น​ทรงพลัง​ยิ่ง​ แม้ว่า​จะไม่มีใคร​ควบคุม​ค่าย​กล​ แต่​การ​ที่​ใคร​สัก​คน​ข้างนอก​จะเข้าไป​และ​ควบคุม​มัน​ก็​ยัง​เป็นเรื่อง​ยาก​ มิฉะนั้น​ มัน​คง​ไม่คู่ควร​ที่จะ​เรียก​ว่า​สมบัติ​อมตะ​!

เป็นไป​ตามที่​ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูกล่าว​ไว้​ ตอนนี้​พวกเขา​ทำได้​แต่​รั้ง​อยู่​ที่​นอก​ค่าย​กล​ใหญ่​ รอ​ชมผล​ตัดสิน​อย่าง​ใจเย็น​!

เวลา​ไหลผ่าน​ไป​ทีละ​นิด​ทีละน้อย​

ใบหน้า​ของ​เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​กับ​ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูกลับ​ยิ่ง​หนักอึ้ง​มากกว่า​เดิม​ ซึ่งมัน​ไม่น่าดู​เลย​แม้แต่น้อย​

ใน​ขณะนี้​ แม้แต่​ผู้​บ่ม​เพาะ​คนอื่น​ ๆ ที่อยู่​ใกล้เคียง​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​

“การต่อสู้​นี้​ยาวนาน​เกินไป​ จนกระทั่ง​ถึงตอนนี้​ ก็​ยัง​ไม่มีผู้ชนะ​ปรากฏ​ขึ้น​ได้​อย่างไร​?”

“เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​จะมีเหตุการณ์​ไม่คาดฝัน​เกิดขึ้น​ข้างใน​?”

ในเวลานี้​ ทุกคน​ลืม​แม้กระทั่ง​จุดประสงค์​ที่​พวกเขา​มาที่นี่​ จิตใจ​ของ​คน​ทั้งหมด​ต่าง​จดจ่อ​อยู่​กับ​ม้วน​ภาพวาด​กลางอากาศ​ที่​ปกคลุม​ท้องฟ้า​ ในขณะที่​กำลัง​รอคอย​อย่าง​เงียบ ๆ​ ท่ามกลาง​บรรยากาศ​กดดัน​

ครืน​! ครืน​!

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ราว​หนึ่ง​ถ้วย​ชา ในขณะที่​ทุกคน​กำลังจะ​หมด​ความอดทน​ ค่าย​กล​ยักษ์​พลัน​เกิด​คลื่นเสียง​กัมปนาท​ ก่อนที่​ปราณ​เซียน​จะปั่นป่วน​และ​เปล่งแสง​เจิดจ้า​ออกมา​มากมาย​

“ตัดสิน​ผู้​แพ้ชนะ​แล้ว​หรือ​?”

เมื่อ​เห็น​ฉาก​นี้​ การ​หายใจ​ของ​ทุกคน​ที่อยู่​ที่นี่​ก็​เริ่ม​ถี่กระชั้น​ พวกเขา​ต่าง​จ้อง​ไป​ที่​ค่าย​กล​โดย​ไม่กะพริบตา​

“การควบคุม​ของ​ค่าย​กล​ใหญ่​กำลัง​เริ่ม​เรียกคืน​…” เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​เมื่อ​เห็น​สิ่งนี้​ และ​ร่างกาย​ของ​นาง​ก็​รู้สึก​ผ่อนคลาย​

“ช้าก่อน​! ไม่ใช่จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ!” ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูดูเหมือน​จะสังเกตเห็น​บางอย่าง​ ทำให้​ใบ​หน้าที่​ซีดเซียว​ของ​เขา​มืดมน​ในทันที​ พร้อมกับ​ร้อง​ออกมา​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​ “มีคน​กำลัง​ขัดเกลา​ค่าย​กล​!”

“ว่า​กระไร​นะ​!?” หัวใจ​ที่​ผ่อนคลาย​ของ​เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​พลัน​กระตุก​อย่าง​รุนแรง​อีกครั้ง​ ในขณะที่​ใบหน้า​งามของ​นาง​เปลี่ยนไป​ นาง​ดู​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​

“สิ่งนี้​เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​?”

สิ่งนี้​คือ​อาวุธ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ของ​นิกาย​วิถี​กระแส​สวรรค์​ มัน​เป็น​ค่าย​กล​ใหญ่​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ ซึ่งก่อตัว​ขึ้น​จาก​ชุด​ของ​สมบัติ​อมตะ​ที่อยู่​ใน​ความ​ครอบครอง​ของ​ประมุข​นิกาย​มาโดยตลอด​ และ​ถ้าไม่ใช่เพื่อ​ปิง​ซื่อ​เทียน​ ก็​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​การ​จะใช้มัน​ พวกเขา​ไม่แม้แต่​จะหยิบยืม​มัน​ได้​!

แต่​ตอนนี้​กลับ​มีคน​กำลัง​ขัดเกลา​มัน​จริง ๆ​!

เมื่อ​นาง​คิด​ว่า​สมบัติ​ล้ำค่า​ชุด​นี้​กำลังจะ​ถูก​คนอื่น​แย่งชิง​ไป​ต่อหน้าต่อตา​ เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​พลัน​รู้สึก​หนัง​ศีรษะ​ชาด้าน​ ในขณะที่​ร่างกาย​ของ​นาง​หนาวเหน็บ​

“ไม่จริง​! ท่าน​อาจารย์​จิ้งคง​และ​คนอื่น​ ๆ จะเฝ้าดู​สิ่งนี้​เกิดขึ้น​โดย​ไม่แยแส​ได้​อย่างไร​? แล้ว​ชาย​คน​นั้น​จะทำ​สิ่งนี้​ให้​สำเร็จ​ด้วย​ระดับ​การบ่ม​เพาะ​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​? นี่​…นี่​คือ​ชุด​ของ​สมบัติ​อมตะ​นะ​!” หญิงสาว​หวาดกลัว​จน​สิ้น​ปัญญา​ ขณะ​พึมพำ​ซ้ำ ๆ

“ระวัง​!” ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูดูเหมือน​จะสังเกตเห็น​บางอย่าง​ ทำให้​ใบหน้า​ของ​เขา​ดู​เคร่งเครียด​ ก่อน​จะยื่นมือ​ออก​ไป​เพื่อ​ดึง​เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​กลับมา​ จากนั้น​ร่าง​ของ​เจ้าตัว​ก็​ทะยาน​ไป​ทาง​ข้างหลัง​อย่าง​ดุเดือด​ การกระทำ​ของ​เขา​เสร็จสิ้น​ภายใน​อึด​ใจเดียว​ และ​รวดเร็ว​ยิ่ง​!

ตู้​ม!

ทันทีที่​ทั้งคู่​หลบ​ไป​ทาง​ข้างหลัง​ ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​ที่อยู่​กลางอากาศ​ก็​เปลี่ยนเป็น​ม้วน​ภาพวาด​กระบี่​ขนาดใหญ่​แปด​ม้วน​ และ​แยก​ออก​จากกัน​ท่ามกลาง​คลื่น​ที่​สั่นสะเทือน​อย่าง​รวดเร็ว​

ในขณะนั้น​เอง​ ราวกับว่า​ดวงอาทิตย์​ได้​แยก​ออก​จากกัน​อย่าง​ฉับพลัน​ ทำให้เกิด​แสงเจิดจ้า​สาดส่อง​ออก​ไป​โดยรอบ​ ราวกับ​เป็น​ยาม​เที่ยงวัน​

ใน​กลุ่ม​ภูเขา​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ แม้แต่​กระแส​สัตว์ร้าย​ก็​ยัง​ส่งเสียงคำราม​จน​ภูเขา​สั่นสะเทือน​ พวก​มัน​ต่าง​อยู่​ใน​ความ​สงบเสงี่ยม​ กระทั่ง​ผู้​บ่ม​เพาะ​ที่อยู่​ริมแม่น้ำ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เผย​สีหน้า​ตกใจ​ และ​ต่าง​ถอยร่น​ไป​

“หืม?”​

“มีคน​ออก​มาจาก​ภายใน​ค่าย​กล​!”

“คนเดียว​หรือ​? ดูเหมือนว่า​จะเป็น​…”

ท่ามกลาง​ความ​ตื่นตระหนก​ ผู้​บ่ม​เพาะ​บางคน​ที่​มีสายตา​เฉียบแหลม​ก็​ค้นพบ​ว่า​ จู่ ๆ ได้​มีร่าง​สูงโปร่ง​เดิน​ออก​มาจาก​ศูนย์กลาง​ของ​มหา​ค่าย​กล​

เงาวูบวาบ​ไปมา​ ในขณะที่​แสงเจิดจ้า​สาดส่อง​ ส่งผล​ให้​เขา​ดูเหมือน​เทพเจ้า​จาก​สวรรค์​ที่​จุติ​ลง​มายัง​โลก​ และ​ทำให้​คนอื่น​ไม่สามารถ​เห็น​รูปลักษณ์​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

แต่​พร้อมกับ​รูปลักษณ์​ของ​เขา​ ค่าย​กล​กระบี่​จักรวาล​สยบ​มาร​ที่​แบ่ง​ออก​เป็น​แปด​ส่วน​พลัน​หยุด​อยู่​กลางอากาศ​ ก่อน​จะกลายเป็น​ลำแสง​พุ่ง​ไป​รวมตัว​กันที่​ฝ่ามือ​ของ​ร่าง​นั้น​ และ​หายวับ​ไป​ใน​พริบตา​

ทันใดนั้น​ แสงสว่างจ้า​ใน​โลก​ได้​หาย​ไป​พร้อมกับ​มัน​ ทำให้​โลก​ตก​อยู่​ใน​ความ​มืดมิด​อีกครั้ง​

แต่​ทุก​อย่างนี้​ได้​เกิดขึ้น​ใน​ช่วง​รุ่งสาง​ ดังนั้น​ความ​มืดมิด​จึงปรากฏ​ขึ้น​เพียง​ชั่วครู่​ ก่อนที่จะ​ค่อย ๆ​ เลือนหาย​ไป​ด้วย​แสงอรุณ​ที่​ส่อง​ประกาย​สีทอง​แวววาว​

แสงพร่างพราย​สาดส่อง​ลงมา​ที่​ร่าง​นี้​ ซึ่งบังเอิญ​เผย​ให้​เห็น​รูปร่างหน้าตา​อย่าง​ชัดเจน​ ร่าง​นี้​สวม​เสื้อผ้า​สีเขียว​ มีรูปร่างหน้าตา​ที่​หล่อเหลา​และ​ไม่แยแส​ ผม​สีขาว​ดุจ​หิมะ​ที่​พลิ้วไหว​ตาม​สายลม​ นอกจากนี้​เขา​ยังมี​กลิ่นอาย​ที่​ดุดัน​ หนักหน่วง​ และ​เก่าแก่​!

ทุก​สายตา​ที่​จดจ้อง​กับ​ร่าง​นั้น​แทบจะ​หด​เล็ก​ลง​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ ซึ่งแต่ละคน​ก็​เผย​สีหน้า​เหลือเชื่อ​ออกมา​

นั่น​มัน​… เฉิน​ซี!?

เมื่อ​เห​ลิ่ง​ฉาน​เอ๋อร์​และ​ผู้อาวุโส​อวิ๋น​จูเห็น​ร่าง​นี้​ ทั่ว​ทั้ง​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ก็​แข็งทื่อ​ในทันที​ หัวใจ​ของ​พวกเขา​ต่าง​ตกลง​สู่ก้นบึ้ง​ ด้วย​รู้สึก​ไม่อาจ​รับ​ความจริง​ที่​เกิดขึ้น​เบื้องหน้า​ได้​!

แต่​เมื่อ​ได้​เห็น​รูปลักษณ์​ของ​ร่าง​ที่​เดิน​ออกจาก​ค่าย​กล​อย่าง​ชัดเจน​ พวกเขา​ก็​พลัน​ตกใจ​จน​เกิน​ควบคุม​

“เฉิน​ซี!”

“คน​ผู้​นี้​ยัง​มีชีวิต​อยู่​จริง ๆ​!”

“แล้ว​…แล้ว​ศิษย์​น้อง​จิ้งคง​กับ​คนอื่น​ ๆ ล่ะ​?

ลางร้าย​พลัน​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจของ​พวกเขา​อย่าง​ไม่อาจ​ยับยั้ง​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป
  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์