CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 1274 จัดทัพออกศึก

  1. Home
  2. บัลลังก์หมอยาเซียน
  3. บทที่ 1274 จัดทัพออกศึก
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ฮูหยินเหยามองเขาอย่างตกตะลึง “เสด็จพ่อ ท่านต้องการยึดรวมกระดูกมนุษย์หมาป่ารึ?”

“เจ้าเป็นคนฉลาด ย่อมเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันได้ชัดเจนดีแล้ว เจ้าคงจะรู้ว่ากระดูกมนุษย์หมาป่า เป็นอันตรายซ่อนเร้นที่ร้ายแรงอย่างมากต่อเจ้าห้า ข้าไม่อยากปล่อยให้มีหายนะอะไรเกิดขึ้นกับเขาอีก มีเพียงการรวมพวกนั้นมาเข้าร่วมกับราชสำนัก หรือกระทั่งการส่งไปให้เจ้าห้านำไปใช้งานได้เท่านั้น ข้าถึงจะวางใจได้”

หน่วยกล้าตายของกระดูกมนุษย์หมาป่านั้น เดิมทีได้รับการปลูกฝังออกมาโดยหงเล่ พวกเขาล้วนมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง นิสัยใจคอโหดเหี้ยม คนเหล่านี้ ถ้าไม่สามารถกำจัดให้สิ้นซาก ก็จะต้องเก็บไว้ในที่ที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลาถึงจะนอนหลับอย่างสบายใจได้ ก่อนหน้านี้ที่มีการตั้งเงินรางวัลจากเป่ยโม่ นักฆ่ามากมายเข้าสู่เมืองหลวง จึงต้องคอยเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา ยังมีครั้งก่อนที่เจ้าห้าต้องมารับผิดชอบงานในราชสำนัก มันเป็นไปไม่ได้ที่ต้องคอยจัดคนมากมายมาเฝ้าคุ้มกันเวลาเข้าออกอยู่ตลอด ถ้าสามารถรวมหน่วยกล้าตายของกระดูกมนุษย์หมาป่ามาได้ ต่อให้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย แต่ก็พอจะช่วยลดอันตรายไปได้หนึ่งอย่าง

ฮูหยินเหยาพยักหน้าเงียบ ๆ หลังจากที่นางทูลลาแล้วจากไป มู่หรูกงกงก็รู้สึกไม่เข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย ถามขึ้นว่า “ฝ่าบาท ดูตามความหมายของฮูหยินเหยาแล้ว ไม่แน่ว่านางอาจจะไม่ได้อยากแต่งงานกับฮุ่ยเทียน เหตุใดท่านจึงตัดสินพระทัยเองล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้หมิงหยวนตรัสอย่างจนใจว่า”ความต้องการที่แท้จริงของนาง เจ้าคาดเดาได้จริง ๆ รึ? ตอนนี้นางอาจจะไม่เต็มใจ แต่ในอนาคตล่ะ? แม้แต่หวงกุ้ยเฟยก็ยังมาพูดกับข้าด้วยตัวเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรดาลูกสะใภ้ของข้าเลย โดยเฉพาะหยวนชิงหลิงกับหรงเยว่ จะอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้พวกนางอยู่เพียงลำพังไปครึ่งชีวิตได้อย่างเด็ดขาด หากว่าสุดท้ายก็ยังคิดว่าจะแต่งกับฮุ่ยเทียน เช่นนั้นไม่สู้ให้ข้าเป็นผู้ประทานงานแต่ง แล้วมอบตำแหน่งให้กับฮุ่ยเทียนไม่ดีกว่าหรือ? ด้วยวิธีนี้ พ่อเลี้ยงของจวิ้นจู่ทั้งสอง ก็จะไม่ใช่แค่ผู้ชายไร้ยศถาที่มาจากยุทธภพ ย่อมจะช่วยดึงดูดสายตาของผู้คน เมื่อต้องหาสามี ก็จะไม่ถูกคนอื่นดูถูกได้ อีกทั้งกระดูกมนุษย์หมาป่าก็ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ ถ้าฮุ่ยเทียนมีความสามารถจริง สามารถรวมกระดูกมนุษย์หมาป่ามาได้ด้วย บวกกับความสำเร็จจากการรบในศึกนี้ เขาก็มีคุณสมบัติคู่ควรที่จะเป็นพ่อเลี้ยงของจวิ้นจู่ ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วตรัสว่า“ แน่นอนว่าข้าย่อมหวังว่าฮูหยินเหยาจะอยู่คอยปกป้องลูกสาว ไม่คิดแต่งงานใหม่ในวันหน้า แต่ข้าก็คิดจนกระจ่างแล้วว่าหวงกุ้ยเฟยพูดถูกจริง ๆ ในบางครั้ง ชายหญิงอาจอยู่ด้วยกันแบบเปิดกว้างไม่ผูกมัดกันได้ก็จริง แต่ไม่อาจทำอย่างนั้นได้ชั่วชีวิต โดยเฉพาะคนในยุทธภพที่ไม่มียศถาอะไรอย่างฮุ่ยเทียน เมื่อปราศจากข้อจำกัดของฐานันดรที่ควรรักษา วันไหนเกิดถูกกระตุ้นขึ้นมา เกิดเขาลุกขึ้นมาพูดว่าจะพาคนไป ก็พาคนไปเสียดื้อ ๆ เมื่อถึงตอนนั้น จะไม่ยิ่งกลายเป็นเรื่องขบขันให้คนหัวเราะเยาะกว่าเดิมรึ?”

มู่หรูกงกงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงเข้าพระทัยเรื่องต่าง ๆ ได้ดีจริงๆ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนประทับยืนขึ้น “ข้าไม่อาจทำตัวหัวโบราณเกินไปได้อีกแล้ว ไปเถอะ ข้าจะไปหาฮู่เฟยเสียหน่อย เมื่อวานนี้นางบอกว่านางไม่ค่อยอยากอาหาร ข้าจะไปกินข้าวกับนางสักหน่อยแล้วกัน”

มู่หรูกงกงพูดว่า “ฝ่าบาท แล้วเรื่องการคัดเลือกพระสนม…..”

พระพักตร์ของฮ่องเต้หมิงหยวน ปรากฏรอยแย้มสรวลที่แฝงเจตนาคลุมเครือออกมา “สงครามใกล้เข้ามาแล้ว ยังจะมาคัดเลือกสนมอะไรอีกล่ะ? เจ้าพวกขุนนางเฒ่าพวกนั้นอยากให้ข้ารับปากเลือกสนม ข้าแค่ตอบตกลงก็สิ้นเรื่อง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เลื่อนออกไปก่อนเถอะ ถ้ามีใครกล้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกแม้แต่คำเดียว ก็ส่งเขาไปสนามรบซะ”

“พ่ะย่ะค่ะ!” มู่หรูกงกงตอบด้วยรอยยิ้ม

สถานการณ์ทางเมืองซิ่วโจวในตอนนี้เริ่มคุกรุ่นขึ้นมาทุกขณะ แม่ทัพใหญ่ฉินพยายามโจมตีเข้ามา แต่กลับไม่สำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อถึงวันที่สิบหก หยู่เหวินเห้าได้นำกองทหารหนึ่งแสนนายลงจากภูเขา เพื่อเผชิญการรบอันดุเดือดกับทหารนับล้านของเป่ยโม่

ผู้นำทั้งสามก็ออกเดินทัพด้วยตัวเองด้วย ทหารและม้าหนึ่งแสนนายพากันตั้งกระบวนทัพอย่างเอิกเกริกที่เชิงเขา ความอดทนของชาวเป่ยโม่แทบจะถูกใช้ไปจนหมดไม่เหลือแล้ว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเคลื่อนทัพโจมตี ต่างกระเหี้ยนกระหือรือ ไม่มัวคิดอะไรมาก รีบนำทัพเข้าโจมตีทันที

ผู้นำใหญ่ทั้งสามล้วนออกมาทั้งหมด แม่ทัพใหญ่ฉินย่อมเชื่อเป็นธรรมดาว่าฝ่ายตรงข้ามจะส่งกองกำลังทั้งหมดออกมา จึงมีคำสั่งลงไปว่า ให้ทำลายกองทัพเป่ยถังให้พินาศสิ้นลงเสียตรงนี้

เดิมทีเมืองซิ่วโจวก็ไม่เอื้อต่อการสู้รบของกองทัพใหญ่อยู่แล้ว เพราะง่ายต่อการโจมตีให้แตกกระบวนทัพ กองทัพทหารของหยู่เหวินเห้าสู้ได้ไม่นานเท่าไหร่ ก็เริ่มล่าถอยไปอีก แม่ทัพใหญ่ฉินรอมานานขนาดนี้ถึงมีโอกาสได้สู้รบเสียที มีหรือจะยอมปล่อยให้เขาถอยไปได้ แน่นอนว่าต้องรีบไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ

แต่เพราะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง พื้นที่ชันและอันตราย กองทัพเป่ยถังคุ้นเคยกับภูมิประเทศเช่นนี้ สามารถยึดตำแหน่งสูงและทำการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แม่ทัพใหญ่ฉินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่สนใจอะไรมากมาย กัดฟันกรอดพลางออกคำสั่งให้โจมตีก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันทีหลัง

การโจมตีในเขตภูเขาต้องมีการสู้กันที่ยืดเยื้อแน่ ถ้าหยู่เหวินเห้าสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้ราวสามถึงห้าวันโดยไม่ถูกตีจนทัพแตก ชาวเป่ยโม่ก็จะทนยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแน่นอน พวกเขาต้องหาทางออกทางอื่น เพราะเสบียงอาหารของพวกเขาเหลือไม่มากแล้ว

และไม่ว่าจะเป็นการโจมตีจากเมืองซิ่วโจวออกไป หรือออกจากเมืองซิ่วโจวไปด้วยเส้นทางอื่น เขาก็ต้องหาเสบียงอาหารมาสนับสนุนกองทัพให้ได้

อ๋องเว่ยกับอ๋องอานสองคนพี่น้อง ได้นำทหารจำนวนห้าพันนายออกจากเมืองซิ่วโจว เพื่อสกัดกั้นเสบียงทหารของชาวเป่ยโม่กลางทาง ขณะที่อ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาได้นำแม่ทัพใหญ่ฮู่ไปดักซุ่มโจมตีที่นอกเมือง ฝังทุ่นระเบิดและวางดินระเบิดไว้รอบ ๆ

ในการที่จะระเบิดกองทัพนับล้านนี้ให้กระเจิดกระเจิง จะต้องมีการวางกับดักโจมตีเล็ก ๆ ไปตามระยะทางอย่างน้อยภายในรัศมีสิบลี้ อ๋องชินเฟิงอันคิดคำนวณโดยละเอียด พบว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๆ ก็สี่ถึงห้าวัน

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้นำใหญ่ทั้งสามและหยู่เหวินเห้าต้องยื้อเวลาออกไปให้ได้ราวห้าวัน หรืออย่างน้อยก็ต้องสี่วัน

หยู่เหวินเห้าไม่สามารถถอยกลับไปที่ตำแหน่งสูงได้ตลอดเวลา เพราะถ้าเขาซ่อนตัวนานเกินไป ชาวเป่ยโม่อาจจะลงจากเขาไป เช่นนั้นการซุ่มโจมตีก็จะไม่อาจทำได้อย่างราบรื่น และเขาจะไม่สามารถสกัดกั้นการส่งเสบียงกองทัพได้สำเร็จ ดังนั้น เขาจึงยังต้องออกมาสู้เรื่อย ๆ

เพื่อรับมือกับศึกครั้งนี้ อ๋องชินเฟิงอันได้จัดทัพใหม่ โดยเหลือคนสองแสนคนไว้ให้หยู่เหวินเห้า แล้วส่งคนจำนวนห้าหมื่นคนไปคอยคุ้มกันอยู่นอกประตูเมืองซิ่วโจวในรัศมีห้าลี้ เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ทัพใหญ่ฉินถอดใจในการโจมตีส่วนภูเขา แล้วนำทหารบุกฆ่าออกจากเมืองซิ่วโจวไป ดังนั้นคนที่เหลืออีกห้าหมื่นคนนี้ อย่างน้อยก็สามารถต้านทานศึกนี้ไปได้ชั่วขณะหนึ่ง และซื้อเวลาให้พวกเขาวางกับดักซุ่มโจมตีได้สำเร็จ

ในเวลานี้เองอ๋องชุนก็มาถึงได้ทันเวลา แม้ว่าทหารที่เขานำมาจะมีแค่หยิบมือเดียว แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย อย่างน้อยก็ยังพอช่วยบรรเทาแรงกดดันได้บ้าง

ด้วยจำนวนทหารที่น้อยนิดเช่นนี้ของเป่ยถัง จึงเป็นเรื่องยากสำหรับแม่ทัพที่จะจัดรูปแบบทัพ แต่โชคดีที่นกกระจอกแม้ตัวจะเล็กกว่าใคร ๆ แต่อวัยวะภายในก็มีครบสมบูรณ์ *(เป็นการเปรียบเทียบว่า ถึงแม่เรื่องที่ทำอยู่หรือสิ่งที่มีอยู่จะไม่ใหญ่โตมากมาย แต่ก็สมบูรณ์แบบในตัวของมัน) สุดท้ายเส้นทางทั้งหมดก็ได้รับการจัดวางอย่างเหมาะสม

ส่วนหยู่เหวินเห้าก็กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบครั้งใหญ่ เพราะการรบแบบกองโจรอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวเป่ยโม่กังวลและใจร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งนับวันก็ยิ่งหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากพวกเขาไม่สู้แบบซึ่ง ๆ หน้า กองทัพของเป่ยโม่ก็อาจจะล่าถอยไปจริง ๆ

เมื่อไหร่ที่พวกเขาทั้งหมดถอนตัวจากเมืองซิ่วโจว นั่นหมายความว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็เท่ากับเสียแรงเปล่าแล้ว

ดังนั้น หยู่เหวินเห้ากับผู้นำใหญ่ทั้งสามจึงหารือกันว่า เขาต้องเผชิญหน้ากับชาวเป่ยโม่ในวันพรุ่งนี้

สองวันผ่านไปแล้ว ตั้งแต่อ๋องชินเฟิงอันออกจากเมืองไปเพื่อวางกับดักซุ่มโจมตี หรือกล่าวได้ว่า ทันทีที่มีการเผชิญหน้า หยู่เหวินเห้าจะต้องยืนหยัดสู้ไม่ถอยเป็นเวลาอย่างน้อยสองวัน

กำลังทหารสองแสนต้องเข้าต่อสู้กับกำลังทหารนับล้านของเป่ยโม่ จะสามารถต้านทานไว้ได้ถึงสองวันหรือไม่ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ชวนมองในแง่ดีได้เลย

การประชุมกับสามผู้นำใหญ่ก่อนศึกชี้ขาดถูกจัดขึ้นกลางดึก อันที่จริงทุกคนต่างก็ไม่มีกลยุทธ์ที่ดีอะไรมากมาย มีแค่คำพูดคำเดียวให้กันเท่านั้น สู้

ต้องสู้ไปเรื่อย ๆ สู้จนกว่าตัวจะตาย

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากอีก แค่ก้มหน้าก้มตาสู้ไปก็พอ

หยู่เหวินเห้าระดมกำลังพลในกองทัพ ไม่ว่าต้องจ่ายหรือแลกด้วยอะไร หรือต่อให้คนทั้งสองแสนคนล้วนต้องตกตายอยู่ที่เมืองซิ่วโจวแห่งนี้จนหมด เขาก็ต้องซื้อเวลาช่วงสองวันสุดท้ายให้กับอ๋องชินเฟิงอันให้จงได้

ผู้นำใหญ่ทั้งสามได้ไปร่วมพิธีกล่าวคำสาบานต่อกองทัพด้วยตัวเอง ต่างเอ่ยถ้อยคำอันฮึกเหิมเร่าร้อน ทั้งแม่ทัพรวมถึงทหารนายกองทั้งหลาย ต่างกอดปณิธานอันแน่วแน่ที่พร้อมจะสู้จนตัวตายเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ต้องต่อยตีพวกเป่ยโม่ให้หนีกลับบ้านเก่าไปให้หมด

พรุ่งนี้จะเป็นการต่อสู้ชี้ขาด ก่อนการสู้รบ หยู่เหวินเห้ากับไท่ซ่างหวงก็หาเวลาคุยกันครู่หนึ่ง

เขาตรวจสอบยาที่เจ้าหยวนให้มา ซึ่งยังไม่เคยถูกกินเลยแม้แต่เม็ดเดียว ไท่ซ่างหวงมองดูเขานับยาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงมา ข้าก็ไม่เคยมีอาการป่วยกำเริบอีกเลย เห็นได้ว่าโรคนี้เกิดขึ้นมาเพราะอยู่ว่างเกินไป หลังจากศึกครั้งนี้จบลง ถ้าข้ายังรอดชีวิตกลับไปได้ เห็นทีข้าคงต้องหาอะไรทำให้ยุ่ง ๆ เข้าไว้น่าจะดี”

หยู่เหวินเห้ามองเขาด้วยรอยยิ้ม “ท่านคิดจะทำอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ หาที่ดินสักสามแปลงห้าแปลง แล้วไปเป็นชาวไร่ชาวนาก็ไม่เลวนะ” ไท่ซ่างหวงยังไม่เคยคิดจริง ๆ ว่าตนเองจะทำอะไรในอนาคต รู้เพียงแค่ว่าตัวเขาจะอยู่แต่ในวัง แล้วกลายเป็นตาแก่ผู้โดดเดี่ยวแบบนั้นไม่ได้

ตลอดชีวิตนี้ของเขา นอกจากตอนที่ยังเป็นเด็กเคยได้ไปร่ำเรียน ทนรับความทุกข์ยากลำบากบ้างเล็กน้อย ไปต่อสู้ในสนามรบอีกหลายแห่ง แล้วก็ขึ้นเป็นฮ่องเต้ปกครองบ้านเมืองอีกหลายสิบปี หลังจากไม่เป็นฮ่องเต้แล้ว ก็มาเป็นไท่ซ่างหวง ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่น่าเบื่อมาก ชีวิตคนเราชีวิตหนึ่ง อย่างไรก็ต้องทำเรื่องที่ตัวเองชอบที่สุด แบบนั้นต่างหากถึงจะดี

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 1274 จัดทัพออกศึก"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์