บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 782 ตอเป่ากัดคน
อีกอย่าง สังเกตดูดวงตาของหมาป่าหิมะอย่างละเอียดแล้ว ราวกับมีเปลวเพลิงซ่อนอยู่ บางครั้งก็กลายเป็นสีแดง นี่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว เพราะว่าถ้าดวงตาของหมาป่ากลายเป็นสีแดงนั่นหมายความว่ามันจะโจมตีทำร้ายคนแล้ว
คนที่อยู่ในงานต่างก็มองดู ล้วนเต็มไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน โดยเฉพาะเหล่าของว่างที่น่ารักน่าชังยืนอยู่ข้างกายของพวกมัน ดุร้ายกับไร้เดียงสาบริสุทธิ์ทำให้เกิดภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนรู้สึกเกิดภาพลวงตาขึ้นมา หมาป่าหิมะอาจจะอ้าปากที่มีเขี้ยวอันแหลมคมของมันกลืนกินพวกเขาเข้าไปอย่างกะทันหันก็เป็นได้
ด้วยเหตุนี้ เหล่าขุนนางเก่าแก่ที่มีราชครูเหว่ยเป็นผู้นำ ต่างก็เกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุดด้วยเจตนาดีกับหยู่เหวินเห้า เด็กๆชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ เลี้ยงแมวสักตัวก็พอ อย่าเลี้ยงสัตว์ที่มีพลังโจมตีแข็งแกร่งประเภทนี้
หยู่เหวินเห้าผลักภาระทั้งหมดให้กับเซียวเหยากง บอกว่าหมาป่าหิมะทั้งสามตัวล้วนเป็นเซียวเหยากงที่มอบให้
ราชครูเหว่ยจึงไปพัวพันเซียวเหยากง บอกเขาว่าไม่ควรมอบสัตว์ป่าให้กับเด็กๆเพื่อเป็นของขวัญ ถ้าหากทำร้ายพระราชนัดดาขึ้นมา ถามเขาว่าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่
เซียวเหยากงถูกเขาพูดเกี่ยวโยงจนไร้หนทาง ก็ผลักเรื่องทั้งหมดไปที่ตัวไท่ซ่างหวง บอกว่านี่เป็นความคิดของไท่ซ่างหวง บอกให้เขาไปรบกวนไท่ซ่างหวงแทน
ราชครูเหว่ยหุบปากลงอย่างอัดอั้นตันใจ ยังคงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก พูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ไม่ว่าเรื่องอะไรก็อย่าเอาแต่ใช้ไท่ซ๋างหวงมาเป็นโล่กำบัง หรือว่าไท่ซ่างหวงเคยเห็นหมาป่าหิมะที่ตัวใหญ่เช่นนี้มาก่อน เคยเห็นแล้วจะอันตรายเช่นนี้หรือ”
เซียวเหยากงจ้องมองเขาเขม็ง “ทำไมเจ้าจึงได้น่ารำคาญนัก เหมือนแมลงวันเลย จะให้คนอื่นดื่มเหล้าดีๆสักมื้อไม่ได้หรืออย่างไร”
“ข้าน่ารำคาญตรงไหน ข้านั้นคำนึงถึงความปลอดภัยของเหล่าพระราชนัดดา ที่อยู่ข้างกายพวกเขาเป็นหมาป่าไม่ใช่สุนัข ยังมีสุนัขตัวนั้นก็น่ากลัวเหลือเกิน ดุร้ายมาก ทำไมวันนี้ต้องพามาด้วย มีคนสำคัญในราชวงศ์มาร่วมด้วยมากมาย ถ้าเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาไล่กัดคน แล้วจะทำอย่างไร ”ราชครูเหว่ยพูด แล้วก็รีบไปหาหยู่เหวินเห้าทันที อย่างน้อยก็ไล่ตอเป่าออกไปก็ยังดี
ไหนเลยจะรู้ว่า ยังไม่ทันจะหาตัวหยู่เหวินเห้าพบ ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างตื่นตกใจส่งมาจากลานบ้าน “กัดคนแล้ว สุนัขกัดคนแล้ว เด็กๆรีบมาเร็วเข้า ท่านอ๋องถูกสุนัขกัด”
ราชครูเหว่ยใช้ฝ่ามือกดที่หัวใจเอาไว้ สวรรค์ สวรรค์ ท่านอ๋องคนไหนถูกสุนัขกัดกันนะ บอกแล้วว่าต้องเกิดเรื่อง ก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆด้วย
หยู่เหวินเห้ากับกู้ซือเร่งฝีเท้าไปถึงที่เกิดเหตุก่อน เห็นตอเป่าวิ่งไล่อ๋องชินเป่า ขาข้างซ้ายของอ๋องชินเป่าถูกกัดจนบาดเจ็บ มีเลือดไหลซิบๆ วิ่งหลบอย่างโซซัดโซเซ ตกใจจนหน้าขาวซีด
แต่ว่าตอเป่ายังคงไม่ยอมปล่อยเขาไป วิ่งวนไล่ตามเขาไป ดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีความอบอุ่นเชื่อฟังเหมือนที่ผ่านมาเลยสักนิด
ในลานบ้านยังมีแขกเหรื่อคนอื่นๆ ต่างก็ถูกเหตุการณ์ฉากนี้ทำเอาตกใจไปตามๆกัน เหล่าองครักษ์และบ่าวรับใช้ที่คุ้มครองอ๋องชินเป่ามองตาปริบๆ ต่างก็ลืมว่าต้องวิ่ง
“ตอเป่า หยุดเดี๋ยวนี้”หยู่เหวินเห้าตะคอกเสียงดุ กระโดดเข้าไปข้างหน้าขวางตอเป่าเอาไว้
ดวงตาของตอเป่าแดงก่ำ ใบหูตั้งชันขึ้น แสดงออกให้เห็นถึงความดุร้ายอย่างเต็มที่ เห่าใส่หยู่เหวินเห้า ยิ่งทำท่าจะโถมเข้าไปหาร่างของอ๋องชินเป่า ท่าทีกระสับกระส่ายไม่เป็นสุขอย่างผิดปกติ
หยู่เหวินเห้าโมโหมาก คิดว่ามันคงจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว ยกมือขึ้นจะตีมัน ไหนเลยจะรู้ว่า หมาป่าหิมะสามตัวที่มองดูอยู่ข้างๆกลับกระโจนออกมา ขวางไว้ตรงหน้าของหยู่เหวินเห้า ไม่ให้หยู่เหวินเห้าตีตอเป่า
หยู่เหวินเห้านิ่งอึ้งไป หมาป่าหิมะที่รู้ความตลอดมา ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยจะเห็นปกป้องตอเป่าสักเท่าไหร่ และเอาแต่รังแกตอเป่าเสียมากกว่า วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น หมาป่ากับสุนัขร่วมใจกันต่อต้านหรืออย่างไร
หยวนชิงหลิงก็เร่งฝีเท้าเข้ามา เห็นอ๋องชินเป่ามีเลือดไหลออกมาเต็มพื้น รีบสั่งการให้คนประคองอ๋องชินเป่าเข้าไปด้านใน นางจะทำแผลให้กับอ๋องชินเป่า
นางจ้องตอเป่ากับเหล่าหมาป่าหิมะอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ประเดี๋ยวค่อยมาจัดการกับพวกเจ้า”
สามหมาป่ากับหนึ่งสุนัขต่างก็ครางเสียงต่ำหนึ่งเสียง แล้วต่างก็หมอบลง
ทุกคนเห็นดังนั้น ต่างก็นิ่งอึ้งไป รัชทายาทไม่สามารถควบคุมหมาป่าหิมะกับสุนัขได้ แต่พอพระชายารัชทายาทมา ทำไมเจ้าสี่ตัวนี้จึงเป็นเช่นนี้ได้
หยู่เหวินเห้าเข้าไปประคองอ๋องชินเป่าด้วยตนเอง ได้แต่ขอโทษขออภัยอย่างจริงจัง อ๋องชินเป่าโบกมือไปมาด้วยสีหน้าขาวซีด “ไม่เป็นไร สัตว์เดรัจฉานไร้สัญชาตญาณมนุษย์ โทษพวกเจ้าไม่ได้”
ตอเป่ากลับกระโจนเข้ามาอย่างกะทันหัน เห่าอ๋องชินเป่าไปหนึ่งยก
หยู่เหวินเห้าตะคอกเสียงดุ “ยังจะเห่าอีก ประเดี๋ยวจะตัดคอสุนัขของเจ้าซะ”
หยวนชิงหลิงกลับหันไปมองตอเป่าและนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็มองอ๋องชินเป่าอย่างสงสัย แต่เห็นว่าฮ่องเต้หมิงหยวนก็นำคนออกมาแล้ว นางเก็บสติกลับคืนมา นำตัวอ๋องชินเป่าเข้าไปทำแผลพร้อมกับหยู่เหวินเห้า
ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้ว่าตอเป่ากัดอ๋องชินเป่า ก็กริ้วเป็นอย่างมาก มีพระบัญชาจะประหารตอเป่าเสีย
หมาป่าหิมะกลับปกป้องตอเป่าเอาไว้ ในปากมีเสียงลมหายใจแรงพ่นออกมา จ้องมองเหล่าองครักษ์ที่กำลังก้าวเข้ามาอย่างดุร้าย
ขณะเดียวกันเหล่าของว่างก็วิ่งออกมาจากในเรือน เดินโซเซส่ายไปมา ตอนที่ลงจากบันไดหินทังหยวนนั้นกลิ้งลงมาโดยตรง พอกลิ้งลงมาก็กลิ้งตรงไปอยู่ตรงหน้าหมาป่าหิมะ รีบลุกขึ้นมาเอามือเท้าเอวทำแก้มป่องพูดกับฮ่องเต้หมิงหยวนว่า “เสด็จปู่ไม่ดี”
ฮ่องเต้หมิงหยวนทำหน้าไม่ถูก สัตว์เดรัจฉานของจวนอ๋องฉู่ ช่างล้ำค่ายิ่งนัก แม้แต่เขาที่เป็นฮ่องเต้ยังแตะต้องไม่ได้
วันนี้เจ้าของวันเกิดตัวน้อยยิ่งใหญ่ที่สุด บวกกับฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นว่าบาดแผลของอ๋องชินเป่าไม่ได้สาหัสนัก และเป็นวันแห่งความรื่นเริงเช่นนี้ไม่คุ้มที่จะมีคำสั่งประหัตประหาร แต่ประเดี๋ยวอย่างไรเสียก็ต้องกำชับเจ้าห้า ไม่ให้เด็กๆเหล่านี้เล่นคลุกคลีกับสัตว์เดรัจฉานสัตว์ป่าพวกนี้อีก
ราชครูเหว่ยเอาแต่พูดว่า “ดูเอาเถอะ ดูเอาเถอะ ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ข้าพูดไม่ผิดจริงๆ ”
ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ ยังจงใจใช้สายตาเหล่มองไปยังเซียวเหยากง
เซียวเหยากงได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่หายใจไม่ทั่วท้องว่า “ดูปากอีกาของท่าน ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนให้คนจับตาหมาป่าหิมะและตอเป่าเอาไว้ เขาพาคนกลับเข้าไปในตำหนัก
หมอหลวงกำลังรักษาบาดแผลให้กับอ๋องชินเป่า หยวนชิงหลิงไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ ที่นี่มีคนอยู่มากมาย นางเป็นพระชายารัชทายาท ย่อมไม่เป็นการดีที่นางจะลงมือไปทำแผลด้วยตนเอง แต่ว่านางได้เอาย่าฆ่าเชื้อออกมาให้กับหมอหลวง ให้หมอหลวงใช้น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนค่อยทายาฆ่าเชื้อ
นับว่าตอเป่าไม่ได้กัดอย่างโหดเหี้ยมนัก ถ้าหากกัดอย่างโหดเหี้ยมจริงๆ เกรงว่าจะกัดเอาเนื้อออกมาก้อนหนึ่งแล้ว แต่ว่าตอนนี้มีเพียงรอยเขี้ยวที่ฝังเข้าไปในเนื้อเท่านั้น ทิ้งร่องรอยของเขี้ยวเอาไว้ มีสองรอยที่ค่อนข้างร้ายแรง เขี้ยวคมได้ดึงเอาเนื้อหนังชิ้นเล็กๆออกมาหนึ่งชิ้น ร่องรอยทั้งสองรอยนั้นมีเลือดไหลออกมาค่อนข้างมาก
ฮ่องเต้หมิงหยวนถามอ๋องชินเป่าอย่างห่วงใย อ๋องชินเป่าสะกดกลั้นความเจ็บเอาไว้ไม่ลืมที่จะขอความเห็นใจให้กับหมาป่าหิมะและตอเป่า “ดีแล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก เลือดไหลนิดหน่อยเท่านั้น อย่าลงโทษพวกมันเลย”
หยู่เหวินเห้าได้ยินเช่นนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกทนไม่ได้ คนมากมายไม่กัด กลับมากัดอ๋องชินเป่าผู้อ่อนโยนที่สุด อีกทั้งเขาก็ไม่มีวิชาตัวเบา วิ่งหนีก็หนีไม่พ้น
ในใจก็เกิดความโมโหขึ้นมากะทันหัน หลังจากกลับจวนแล้ว ต้องสั่งสอนตอเป่าดีๆสักครั้ง
หยวนชิงหลิงได้แต่มองอ๋องชินเป่าอยู่ตลอดไม่พูดจา สีหน้าเคร่งขรึม
หลังจากจัดการกับบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนได้มีพระบัญชาให้คนส่งอ๋องชินเป่ากลับไปที่จวนก่อน อ๋องชินเป่ากลับขออภัยต่อหยู่เหวินเห้า บอกว่าทำให้งานฉลองวันเกิดครั้งนี้วุ่นวาย
หยู่เหวินเห้ายิ่งรู้สึกผิดในใจเป็นอย่างยิ่ง ประคองอ๋องชินเป่าออกไปส่งที่ประตูด้วยตนเอง ประคองให้ขึ้นรถม้า แล้วก็เอาแต่พูดขออภัย อ๋องชินเป่ายิ้ม “เอาล่ะ ไม่ต้องขอโทษแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับไปเถอะ อย่าเสียอารมณ์เพราะข้าเลย”
“วันหลังค่อยไปขอโทษท่านถึงจวน เสด็จปู่เดินทางกลับดีๆ”หยู่เหวินเห้าประสานมือขึ้นมาคำนับ ส่งอ๋องชินเป่า
ม่านรถม้าของอ๋องชินเป่าปิดลง ยังยื่นมือออกมาโบกไปมา
ดีที่บาดแผลของอ๋องชินเป่าไม่สาหัส ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการขัดจังหวะของงานฉลองชั่วขณะเท่านั้น ไม่ได้ทำลายความสุขของทุกคน
เพียงแต่ ในใจของฮ่องเต้หมิงหยวนก็เกิดความไม่พอใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย รู้สึกว่าในวันที่เป็นมงคลเช่นนี้ ยังต้องพบเห็นคาวเลือด ช่างซวยจริงๆ
โดยที่เขาไม่รู้ตัว เริ่มงมงายขึ้นมาแล้ว เหมือนที่ว่ากันว่าอายุมากแล้วก็เชื่อเรื่องโชคชะตา ใครก็หนีไม่พ้น