บัลลังก์หมอยาเซียน - บทที่ 960 ทะเลสาบจิ้งมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ
เสี้ยวหงเฉิงเงียบไม่พูดจา เพ่งมองพื้นอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้กล่าวอย่างช้าๆ: “ข้าเชื่อคนผิด ทำร้ายตัวเองไม่สำคัญ แต่ข้าทำแผนที่ทางการทหารสูญหาย ตายเป็นหมื่นครั้งก็ไม่สามารถหลุดพ้นความผิดนี้ได้”
หยวนชิงหลิงไม่ได้บอกนางว่าแผนที่ทางการทหารนั่นเป็นของปลอม เหล่านี้ให้เจ้าหาบอกกับนางก็ดี
“ท่านเห็นความผิดปกติของเขาตั้งนานแล้วใช่หรือไม่?” เสี้ยวหงเฉิงเอ่ยถาม
หยวนชิงหลิงกล่าวเบาๆ: “ข้าไม่ถนัดการดูคนมากนัก แต่เจ้าห้าไม่เชื่อใจเขามาโดยตลอด เพราะคนผู้นั้นเคยทำร้ายเจ้ามาก่อน”
เสี้ยวหงเฉิงหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา “ตอนนั้นข้าเคยดูถูกพระชายาซุน เพราะนางไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี พวกท่านคิดไตร่ตรองเพื่อนางยังแลกมาด้วยคำพูดที่ชั่วร้ายของนาง กลับคิดไม่ถึง ข้าก็ทำความผิดพลาดแบบเดียวกัน และยังเป็นความผิดที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก”
อะซี่ฟังออกแล้ว กล่าวด้วยความตกตะลึง: “เป็นหลินเซียวนั่นทำร้ายท่านหรือ? ทำไมเขาต้องทำเช่นนี้?”
“เพื่อแผนที่ทางการทหาร เขามาข้างกายของข้าล้วนมีแผนการมาโดยตลอด” เสี้ยวหงเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาสับสนเกลียดแค้น แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยการโทษตัวเองอย่างลึกซึ้ง
“จัดการบาดแผลก่อน” หยวนชิงหลิงกล่าว
เสี้ยวหงเฉิงยืนกรานว่าจะเย็บโดยไม่ฉีดยาชา ปากแผลลึกขนาดนั้นต้องเย็บกี่ชั้น ความเจ็บปวดชนิดนี้อดทนยากเป็นที่สุด
นางยืนกรานขนาดนั้น คิ้วไม่กระดิกสักนิด มีชีวิตเหมือนความเจ็บปวดในตอนนี้สำหรับนางแล้วเป็นเพียงเรื่องธรรมดาเท่านั้น
ใช่แล้ว คนที่เคยรักอย่างลึกซึ้งทุกคนล้วนรู้ ความเจ็บปวดในจิตใจบางครั้งก็ทำให้คนย่ำแย่ยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางร่างกาย
หลังจากเย็บแผลเสร็จ ทั้งร่างของเสี้ยวหงเฉิงล้วนเปียกโชกแล้ว ทุกๆรูขุมขนล้วนสั่นเทา อะซี่เช็ดเหงื่อให้นางด้วยความสงสาร สาปแช่งหลินเซียวนั่นในใจเป็นหมื่นครั้ง
รอจนเย็บปากแผลเสร็จแล้ว หยวนชิงหลิงให้นางพักผ่อนครู่หนึ่ง แล้วค่อยไปพบหยู่เหวินเห้าที่ห้องหนังสือ แต่นางยืนกรานว่าจะไปทันที
จนปัญญา หยวนชิงหลิงและอะซี่ทำได้เพียงพยุงนางไป เสี้ยวหงเฉิงที่อดทนต่อความเจ็บปวด ฝีเท้าล้วนโซซัดโซเซเลื่อนลอย หากไม่ใช่อะซี่ประคองไว้อยู่ทางนั้น นางก็เดินไม่ถึงจริงๆ
มาถึงห้องหนังสือ หยู่เหวินเห้าได้กำชับเสร็จสรรพแล้ว ปิดประตูเมืองก่อน สั่งการให้คนจับกุมหลินเซียว
วิทยายุทธของหลินเซียวเก่งกาจมาก คนปกติจับกุมเขาไม่ได้ ดังนั้น ที่ส่งออกไปจับกุมหลินเซียวล้วนเป็นองครักษ์ลับผีและผู้มีฝีมือสูงส่งของสำนักเหลิ่งหลัง จับกุมไม่ได้ ก็ต้องตีเขาสักรอบเพื่อระบายอารมณ์
หากว่าเสี้ยวหงเฉิงเห็นด้วย เขาจะออกหนังสือราชการจับกุมไปถึงที่ทำการปกครองทุกๆที่ แม้ว่าหลินเซียวจะมีบ้านก็โทษไม่ได้ กลายเป็นสุนัขไร้บ้านแล้ว
พยุงเสี้ยวหงเฉิงเข้าห้องหนังสือ หยวนชิงหลิงและอะซี่จึงจากไป ให้เจ้าห้าสนทนากับนาง
เสี้ยวหงเฉิงที่กลั้นน้ำตาอยู่เป็นเวลานาน ได้หลั่งน้ำตาออกมาต่อหน้าหยู่เหวินเห้าแล้ว
หยู่เหวินเห้าโยนผ้าขนหนูให้นางผืนหนึ่ง กล่าวว่า: “ร้องไห้ตอนนี้มีประโยชน์อะไรล่ะ?”
“แผนที่ทางการทหารข้าจะรีบไล่ตามกลับมาให้เร็วที่สุดเพคะ” เสี้ยวหงเฉิงสะอื้นไห้ เช็ดน้ำตาแล้วเช็ดน้ำตาอีก
“ไม่ต้องแล้ว เมื่อครู่สวีอีบอกกับข้า แผนที่ทางการทหารหยิบผิดไปแล้ว ฉบับนี้เป็นอันเดิมที่ถูกสับเปลี่ยน และโชคดีที่เขาหยิบผิดไปแล้ว” หยู่เหวินเห้าถอนหายใจเบาๆ
เสี้ยวหงเฉิงเงยหน้าขึ้นฉับพลัน “หยิบผิดแล้ว? จริงหรือ? ไม่ได้โกหกข้าหรอกนะเพคะ?”
“โกหกเจ้าทำไม?” หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างขุ่นเคือง “สวีอีทำงานเจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ มักจะลืมโน่นลืมนี่อยู่เสมอ”
เสี้ยวหงเฉิงปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมา ความโศกเศร้าเจ็บปวดความตึงเครียดนี้กดระงับไว้นาน พังทลายลงอย่างฉับพลัน อารมณ์ที่ถูกกระทบกระเทือนให้ผิดปกติก็กลับผ่อนคลายลง
หยู่เหวินเห้าเดินลงไปช้าๆ ในใจรู้สึกกลัวเล็กน้อย แต่ก็เจ็บปวดใจเล็กน้อย เขาที่ไม่ถนัดในการปลอบโยนคน ก็ทำได้เพียงตบไหล่ของเสี้ยวหงเฉิง “พอแล้ว พอแล้ว อย่าเสียน้ำตาให้ผู้ชายชั่วผู้นั้นเลย ไม่คุ้มค่า”
เสี้ยวหงเฉิงร้องไห้อย่างสุดกำลังจนเสียงแหบแห้ง “ทำไมเขาต้องโกหกหลอกลวงข้าครั้งแล้วครั้งเล่า?”
ยังจะทำไมได้อีก? เพราะเจ้าซื่อบื้อ!
แน่นอนว่าหยู่เหวินเห้าไม่ได้พูดเช่นนี้ เพียงแต่ด่าแทนนางสองสามคำ จากนั้นกล่าวว่า: “ข้าสั่งการให้คนไปหาเขาแล้ว หากว่าเจ้ายินยอม ข้าจะออกหนังสือราชการให้ทั่วแคว้นจับกุมตัว”
เสี้ยวหงเฉิงกัดฟันกรอดๆแล้วกล่าว: “ออกเพคะ!”
ครั้งแรกสามารถทำร้ายได้ แต่ครั้งที่สอง เสี้ยวหงเฉิงไม่มีทางอภัยให้ตัวเอง และไม่มีทางยกโทษให้เขาได้ ไม่กี่ปีมานี้ค่อยๆเดินออกมาได้ด้วยความลำบาก แต่เขากลับปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน นำพาการทำร้ายระลอกที่สองมาให้ นางชั่งตาบอดและใจบอดจริงๆถึงได้ไว้ใจเขา
ปลอบใจไปสองสามคำ เรียกคนให้ส่งนางกลับไปพักผ่อน
สามีภรรยาสองคนเตรียมตัวไปทะเลสาบจิ้ง แต่เรื่องการบาดเจ็บนี้ของเสี้ยวหงเฉิง ก็ยังทำให้ทั้งสองคนล้วนค่อนข้างไม่สบายใจ
“ได้ยินอะซี่บอกว่า นางใช้มีดคู่ แต่มือซ้ายของนางหลังจากนี้เกรงว่าจะไม่สามารถจับมีดได้แล้ว” หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างเศร้าสลด
หยู่เหวินเห้ากล่าว: “สิ่งนี้กลับไม่ได้น่าเป็นห่วงมากนัก ภูมิหลังวิทยายุทธของนางค่อนข้างซับซ้อน ใช้มีดคู่ไม่ได้ยังสามารถใช้ดาบได้ นางปรับเปลี่ยนได้ ข้าเป็นห่วงว่าผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว กลัวเพียงแค่หลังจากนี้นางจะตัดขาดเรื่องความรักอย่างเด็ดขาดแล้ว”
หยวนชิงหลิงก็เห็นด้วยกับคำพูดนี้ เห็นความดื้อดึงในสองสามปีที่ผ่านมาของเสี้ยวหงเฉิงก็รู้แล้ว ล้วนแยกกับหลินเซียวผู้นั้นหลายปีขนาดนี้ ตัวเองก็ยังไม่หาสักคน รอคอยอย่างโง่งมมาโดยตลอด สุดท้ายรอจนได้โศกนาฏกรรมเป็นจุดจบ”
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองพาอะซี่สามีภรรยาออกจากบ้านแล้ว
นักพรตยู่ซวีมาต้อนรับด้วยตัวเอง ถามถึงนักพรตฟางหยวน นักพรตยู่ซวีทอดถอนใจมาก บอกว่าเขากระโดดลงไปในทะเลสาบจิ้งอีกแล้ว ก่อนหน้าที่จะไปบอกว่าไปท่องเที่ยว
“ท่องเที่ยว?” หยวนชิงหลิงกลั้นหัวเราะไม่ได้ อิสรเสรีจริงๆ บอกว่าจะไปก็ไป ไปถึงมิติเวลาไหนแล้วก็ค่อยหาวิธีกลับมา
แต่นักพรตยู่ซวีกลับกังวลเป็นที่สุด กล่าวว่า: “ครั้งนี้ปรมาจารย์อาเอาถ้วยไปมากมาย ไม่มีราคา และไม่รู้ว่าวางแผนไปขอทานระหว่างทางหรือไม่”
หยู่เหวินเห้าก็ค่อนข้างงงงัน “เอาถ้วยไป? ไม่ได้พกเงินไปหรือ?”
“ไม่ได้พกเงินไปพ่ะย่ะค่ะ บอกให้เขาพกตั๋วเงินไปสักหน่อย เขาบอกว่าไม่ต้อง สถานที่แห่งนั้นใช้ตั๋วเงินไม่ได้ ยังมีสถานที่ที่ใช้ตั๋วเงินไม่ได้อีกด้วยหรือ? ชั่งน่าแปลกจริงๆ” นักพรตยู่ซวีกล่าว
หยวนชิงหลิงไม่อธิบาย หลังจากทักทายกับนักพรตไม่กี่คำก็มุ่งตรงไปยังทะเลสาบจิ้งแล้ว เพราะว่าฐานะของทั้งสองคนสูงส่ง นักพรตก็ติดตามเข้าไปพร้อมกัน
ตอนนี้ที่ทะเลสาบจิ้งไม่อนุญาตให้ผู้คนท่องเที่ยว ทำได้เพียงชมอยู่ไกลๆ ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ เกรงว่าคนที่มาท่องเที่ยวจะตกลงไป เพราะตกลงไปในทะเลสาบจิ้งจะช่วยขึ้นมาไม่ได้
ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ลมก็แรงมาก พัดพื้นผิวทะเลสาบกระเพื่อม
ทันทีที่ลมพัด ใบไม้รอบๆทยอยร่วงหล่น วนอยู่ในทะเลสาบจิ้ง แล้วสูญหายไปอย่างรวดเร็ว
“ทำไมข้ารู้สึกว่า พื้นผิวของทะเลสาบนี้คล้ายกับว่าจะไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ?” หยู่เหวินเห้าเพ่งมองอยู่นานแล้วกล่าวขึ้น
“ไม่เหมือนเดิมตรงไหนพ่ะย่ะค่ะ?” หมู่นี้สวีอีมาบ่อย ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่เหมือนเดิม
“พื้นผิวของทะเลสาบนี้ครั้งก่อนที่พวกเรามา แม้ว่าจะมีลมพัดขึ้นก็เหมือนกับไม่ได้เกิดคลื่นอะไรขึ้น” หยู่เหวินเห้าหันหน้าไปมองหยวนชิงหลิง “เจ้ารู้สึกว่าอย่างไรล่ะ?”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่ามีความแตกต่างเล็กน้อย ทันทีที่ลมพัด พื้นผิวของทะเลสาบเกิดการกระเพื่อม ราวกับว่าสามารถมองเห็นระลอกคลื่นได้เล็กน้อย แต่เพ่งมองอย่างละเอียดก็รู้สึกว่าเป็นภาพลวงตาอีก
“เพราะมีระลอกคลื่นหรือเพคะ?” อะซี่มองไปสองสามทีแบบสุ่มๆ เอ่ยถาม ดูแบบสุ่มๆนี้ก็สามารถมองเห็นระลอกคลื่นได้
นักพรตยู่ซวี กล่าว: “ระลอกคลื่นเหล่านี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับการระบายน้ำพ่ะย่ะค่ะ”
“ระบายน้ำ?” หยวนชิงหลิงตะลึงครู่หนึ่ง หันกลับไปมองนักพรต “มีการระบายน้ำในทะเลสาบนี้หรือ?”
นักพรตยู่ซวี กล่าวอธิบาย: “ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง พื้นที่ภูเขาแห้งแล้ง มีเพียงน้ำในทะเลสาบจิ้งที่เต็มอยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้ข้าจึงบอกให้คนขุดคลองเล็กๆเส้นหนึ่ง ทดน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกผักด้านล่าง”
หยวนชิงหลิงรีบกล่าว: “พาข้าไปดูหน่อย”