บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 213 สหายเสิ่นเป็นบุตรแห่งโชคจริงๆ (1)
บทที่ 213 สหายเสิ่นเป็นบุตรแห่งโชคจริงๆ! (1)
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนประเมินราคาอย่างจริงจังด้วยรอยยิ้มแล้ว จินอวี่กำลังหัวใจหลั่งเลือด
แต่เขาสงสัยการประเมินราคาของเสิ่นเทียนได้หรือ เขาทำไม่ได้ เว้นแต่เขาจะอยากเดินรอยตามผู้อาวุโสไป
ใต้เข่าบุรุษมีทองคำ แต่ผู้รู้สถานการณ์คืออัจฉริยชน!
เหลือภูเขาเขียวไว้ ไม่กลัวว่าจะไม่มีฟืนไว้หุงข้าว!
ยอมรับความอัปยศก็เพื่อเผ่าอินทรี!
จินอวี่สะกดจิตตัวเองในใจไม่หยุด กัดฟันพูดว่า “สหายเสิ่นประเมินราคาไม่มีผิดพลาด แต่ว่า…ช่วยเขียนใบแจ้งหนี้เลยได้หรือไม่”
การประเมินราคาของเสิ่นเทียนทำให้จินอวี่รับไม่ไหวแล้ว
ไม่เคยเจอใครใจอำมหิตเช่นนี้มาก่อนเลย!
เสิ่นเทียนมองจินอวี่อย่างสงบนิ่ง “ใบแจ้งหนี้เป็นส่วนที่ชดใช้ให้ไม่ได้ ส่วนที่แปลงเป็นเงินได้จะเขียนใบแจ้งหนี้เพื่ออะไร หรือเผ่าอินทรีพวกเจ้าคิดจะเบี้ยวหนี้กัน”
สีหน้าเย็นชาของเขาทำให้จินอวี่หนาวสันหลัง
ท่าทีของเสิ่นเทียนตอนนี้เหมือนได้รับสืบทอดมาจากสายเลือดผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างชัดเจน
จินอวี่กลัวเจ้าหนอนตะกละนี่ขึ้นสมอง กลัวว่าจะตุ๋นเขาแบบเดียวกับที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำ
“สหายเสิ่นเข้าใจผิด เผ่าอินทรีข้ามีกิจการใหญ่โต ศิลาวิญญาณห้าสิบล้านก้อนชดใช้ไหวอยู่แล้ว อย่าบุ่มบ่ามเลย!”
เสิ่นเทียนครุ่นคิด “กิจการใหญ่โตรึ เช่นนั้นก็ห้าสิบสองล้านแล้วกัน!”
จินอวี่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ตรงนี้ยังเอามารีดไถได้อีกหรือ มีเหตุผลบ้างหรือไม่
ศิลาวิญญาณห้าสิบสองล้านก้อนมากพอจะซื้อสมบัติวิญญาณระดับสูงดีๆ เลย ต่อให้เขาเป็นโอรสสวรรค์เผ่าพญาอินทรีปีกทองก็ไม่มีทางเอาทรัพย์สินเช่นนี้ออกมาได้
ครั้งนี้ต่อให้เขารอดไปได้ กลับไปในเผ่าพญาอินทรีปีกทอง เดาว่าจินอวี่คงหนีไม่พ้นถูกลงโทษ!
ขอไม่เอ่ยเรื่องจินอวี่กำลังบ้าคลั่งในใจแล้วกัน ตอนนี้เสิ่นเทียนหยิบแหวนเก็บของตรงนิ้วมือจินอวี่มา ทำลายการป้องกันอย่างรุนแรง
หลังจากแหวนมิติยอมรับนายแล้ว หากเจ้านายไม่ยอมจะสามารถกันพลังจิตของคนอื่นรุกรานเข้าไปได้ แต่จินอวี่ในตอนนี้จะกล้าขัดขืนเสิ่นเทียนหรือ
“โอ้ สหายจินร่ำรวยนี่! ไม่อยากว่าในแหวนจะมีศิลาวิญญาณล้านก้อน เป็นนกมีเงินจริงๆ และยังมีผลไม้ประหลาดล้ำค่าจากดินแดนทักษิณอีกเยอะเลย เอามาลดได้ลูกละพันศิลาวิญญาณ
มรดกวิชาโบราณเผ่าอินทรี ‘อินทรีสวรรค์สะท้านปีก’ หรือ ราคาพันศิลาวิญญาณ
โอสถล้ำค่าบำรุงเผ่าอินทรี ยอดยาลูกกลอนอินทรีทองรึ ข้าให้ห้าร้อยศิลาวิญญาณ”
……
หลังจากจัดระเบียบง่ายๆ แล้ว เสิ่นเทียนก็สวมแหวนของจินอวี่ไว้ที่มือตน “ข้าก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล สมบัติในแหวนกับแหวนนี่รวมกันให้หนึ่งแสนห้าหมื่นศิลาวิญญาณแล้วกัน!
รวมกับดาบนักรบกับเกราะนักรบของเจ้า ให้เจ้าทั้งหมดสองแสนศิลาวิญญาณ ข้าใจกว้างให้เช่นนี้เลย! อีกห้าสิบล้านก้อนเราจะเขียนใบแจ้งหนี้ ใช้ชื่อเสียงของเผ่าพญาอินทรีปีกทองพวกเจ้าเป็นตัวค้ำประกัน ถึงตอนนั้นจะให้อาจารย์ลุงบัวมรกตไปคิดบัญชี
สหายจิน ถ้าเจ้าไม่มีความเห็นอะไรก็เซ็นเถอะ!”
ให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไปคิดบัญชีหรือ เหอะๆ!
จินอวี่สูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่งก่อนกัดฟันพูด “ได้ ข้าจะเซ็น!”
ขอแค่ตาแก่บัวมรกตกล้ามาทวงหนี้ที่ยอดเขาพญาอินทรีสวรรค์แห่งดินแดนทักษิณ เผ่าอินทรีสวรรค์ก็กล้าให้!
ก็แค่ศิลาวิญญาณห้าสิบล้านก้อนเองไม่ใช่รึ! เผ่าอินทรีสวรรค์ไม่ถึงกับจ่ายไม่ไหวอยู่แล้ว
แต่หลังรับเงินแล้วจะออกจากดินแดนทักษิณได้หรือไม่ ต้องดูที่ความสามารถของแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเจ้าแล้ว!
ขอแค่ศิษย์กับอาจารย์อย่างพวกเจ้าสองคนกล้ามายอดเขาอินทรีสวรรค์แห่งดินแดนทักษิณ ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าอะไรคืออย่าท้าทายอำนาจเผ่าอินทรี!
เมื่อเซ็นใบแจ้งหนี้อันน่าอัปยศแล้ว จินอวี่ก็ไม่อยากอยู่แม้แต่วินาทีเดียว เขาหมุนตัวและพุ่งออกไปนอกหุบเขาด้วยสภาพจนตรอก
ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดจาเหี้ยมโหดอีก แต่จากไปอย่างเงียบๆ เมฆไม่เคลื่อนตาม
ใช่ ครั้งนี้ไม่มีเมฆเคลื่อนตามจริงๆ
แม้แต่กางเกงในยังแทบจะถูกเอาไป
……..
ข่งเมิ่งมองเสิ่นเทียน เวลานี้ดูจนปัญญาเล็กน้อย
อย่างไรเผ่าพญาอินทรีปีกทองก็เป็นเผ่าพันธมิตรของเผ่าเทพนกยูง มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนรีดไถจินอวี่เช่นนี้ ข่งเมิ่งก็ลำบากใจเช่นกัน แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร
ง่ายมาก เป็นเพราะจินอวี่มาสร้างปัญหาให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก่อน นางช่วยขอชีวิตให้จินอวี่ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
คงไม่มีทางสู้ตายกับเสิ่นเทียนเพื่อจินอวี่แน่ แม้แต่นางก็ยังลำบากเลย!
“สหายเสิ่นไว้หน้าเช่นนี้ ข่งซาบซึ้งใจยิ่งนัก”
ข่งเมิ่งยิ้มพลางหยิบจี้หยกชิ้นหนึ่งมาจากอกเสื้อ “ในจี้แสงเทพนี้บันทึกวิชาแสงเทพส่วนใหญ่ของเผ่าข้าเอาไว้ ถึงจะไม่มีบทวิชากับบทต้องห้าม แต่ก็มีพื้นฐานวิชาแสงเทพปัญจธาตุกับกรงแสงเทพปัญจธาตุ
นี่ก็เป็นอำนาจสูงสุดที่ข่งจะถ่ายทอดให้ได้ หากสหายเสิ่นฝึกฝนแล้วตระหนักรู้ก็ยินดีต้อนรับมาเป็นแขกที่เผ่าเทพนกยูงดินแดนทักษิณทุกเมื่อ
ถึงตอนนั้น ข่งจะต้องโน้มน้าวผู้อาวุโสในเผ่าอย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดินกยูงฉบับสมบูรณ์ให้สหายเสิ่นอย่างแน่นอน”
ข่งเมิ่งไม่ใช่ผู้อริยะเผ่ามังกรเหมือนเอ๋าปิง เรื่องการเลือกพันธมิตรและถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดิให้เช่นนี้ นางจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้
แต่การถ่ายทอดวิชาแสงเทพก็ทำให้เสิ่นเทียนสนใจแล้ว
ถึงอย่างไรวิชาแสงเทพห้าสีของข่งเมิ่งก่อนหน้านี้ ขนาดกุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนยังเกือบทำลายไม่ได้ พึงรู้ไว้ว่ากุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่ชนิดส่งเสริม จึงแข็งแกร่งกว่ากุมอัสนีกำเนิดฟ้าปกติตั้งไม่รู้เท่าไร
กรงแสงเทพห้าสีของข่งเมิ่งมีเพียงทองคำเซียนกำเนิดฟ้าส่งเสริมยังแข็งแกร่งขนาดนี้
เช่นนั้นหากมีสิ่งมหัศจรรย์ปัญจธาตุส่งเสริมล่ะ!
นั่นจะไม่สุดยอดไปเลยหรือ!
“ท่านหญิงเซียนข่งเมิ่งเกรงใจเช่นนี้ แซ่เสิ่นจะไปเกรงใจได้อย่างไร!”
เสิ่นเทียนรับจี้หยกมาแล้วใส่เข้าแหวนเวหาไปเลย เขาขบคิดแล้วก็หยิบกล่องศิลาวิญญาณออกมาหนึ่งกล่อง
กล่องนี้หลอมขึ้นจากศิลาวิญญาณทั้งหมด แกะสลักมังกรและหงส์ สลักภาพปรากฏการณ์สิบสัตว์เทพผู้พิทักษ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ในกล่องนี้บรรจุขวดหนึ่ง หลอมขึ้นจากหยกวิญญาณระดับสูงสุดเลี่ยมทองคำวิญญาณ เป็นหยกทองที่มีค่าเท่าเมือง
ลำพังแค่ต้นทุนขวดก็สูงถึงพันศิลาวิญญาณแล้ว เรียกได้ว่าทั้งหรูหราและสูงศักดิ์
เสิ่นเทียนยิ้ม “ในขวดนี้บรรจุของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่ง ได้มาจากเถากลืนกินเซียนระดับผู้อริยะอันดับเก้าในรายนามไม้วิญญาณบรรลุนิพพาน มีสรรพคุณเยียวยามหามรรค รักษาคนใกล้สิ้นลมได้
วันนี้ขอให้กับท่านหญิงเซียนข่งเมิ่ง ถือว่าเป็นพยานพันธมิตรระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้ากับเผ่าเทพนกยูง หวังว่าเจ้าจะไม่รังเกียจ”
เถากลืนกินเซียนอันดับเก้าในรายนามไม้วิญญาณหรือ ทั้งยังเป็นระดับผู้อริยะอีก
ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานที่มาจากการนิพพานของคนระดับนี้ นี่มีค่าไม่มีที่สิ้นสุด!
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนนำของชิ้นใหญ่ออกมา พวกโอรสสวรรค์เผ่าปักษาดินแดนทักษิณต่างตื่นตกใจ
เดิมทีเสิ่นเทียนรีดไถจินอวี่ห้าสิบล้านศิลาวิญญาณ ทำให้พวกเฮ่ออู๋ซวงไป๋หลิงโกรธแค้นในใจกันมาก เพราะอย่างไรก็เป็นเผ่าปักษาดินแดนทักษิณเหมือนกัน เห็นจินอวี่โดนขู่รีดไถเช่นนี้ ก็ยังรู้สึกเศร้าแทนพวกเดียวกัน
แต่ตอนนี้ในใจพวกเขาเหลือเพียงความตื่นตะลึง
ที่แท้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้สนใจศิลาวิญญาณห้าสิบล้านก้อนนั้นเลย
เขาให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งได้สบายๆ มูลค่าขนาดนี้มีศิลาวิญญาณใดเทียบได้บ้าง
สำหรับยอดฝีมือที่จะสิ้นอายุขัยส่วนมากนั้น ต่อให้เป็นศิลาวิญญาณมากกว่านี้ก็ไม่น่าดึงดูดเท่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งนี่
นี่แลกเป็นสมบัติสุดยอดสูงสุดแห่งคัมภีร์เซียนได้จริงๆ มีค่าไม่น้อยไปกว่าจี้แสงเทพเลย
สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เปิดไพ่ในมือทีก็ยิ่งใหญ่เช่นนี้!
“นี่…นี่มันจะได้อย่างไรกัน!”
ข่งเมิ่งเหม่อมองกล่องในมือเสิ่นเทียน และยังมีลายเซ็นทรงพลังคำว่าเสิ่นเทียนบนกล่องนั้น
สมกับเป็นสหายเสิ่น เขียนอักษรได้งดงามจริงๆ
แต่ว่า ของขวัญนี่ก็สวยจริงๆ!
เสิ่นเทียนยิ้ม “ท่านหญิงเซียนข่งเมิ่งยินดีเป็นตัวแทนเผ่าร่วมพันธมิตรกับแดนศักดิ์สิทธิ์ข้า แดนศักดิ์สิทธิ์ข้าก็ไม่เคยขี้เหนียวกับสหายมาตลอดเช่นกัน หวังว่าเจ้ากลับดินแดนทักษิณไปแล้วจะบอกต่ออุดมการณ์ ‘พันธมิตรเกื้อกูลกัน คนกับปีศาจกลมเกลียวกัน’ ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเผ่าอื่นด้วย
แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้ากับเผ่าเทพนกยูงชำนาญวิชาเทพปัญจธาตุเหมือนกัน ก็น่าจะแลกเปลี่ยนกันได้หลายอย่าง”
ก็ได้!
ความจริงเสิ่นเทียนอยากได้แสงเทพห้าสีฉบับสมบูรณ์
ข่งเมิ่งพูดไว้ไม่ผิด สำหรับเสิ่นเทียนที่มีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่อย่างแล้ว แสงเทพห้าสีเหมาะสมอย่างยิ่ง
ถ้าได้เรียนแสงเทพห้าสีฉบับสมบูรณ์จริงๆ การโจมตีจะมีอัสนีเทพกำเนิดฟ้า การป้องกันมีแสงเทพห้าสี เอาวิชาหงส์มาก็ไม่ยอมแลก!
นอกจากนี้ ข่งเมิ่งยังมีดวงชะตาวงรัศมีสีทอง นี่ทำให้เสิ่นเทียนจ้องตาเป็นมัน นี่คือผักกุยช่ายต้นใหญ่อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ทำสัญญา ผูกมิตรกับข่งเมิ่ง นี่จะมีประโยชน์อย่างมากในความก้าวหน้าในอนาคตระยะยาว!
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเสิ่นเทียนเดาไว้ไม่ผิด หลังจากรับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งไป วงรัศมีของข่งเมิ่งก็มีแสงสีม่วงมากกว่าเดิมเล็กน้อย
ส่วนภาพโชคลิขิตเหนือศีรษะนางก็ยังชัดเจนขึ้นหลายส่วน ทำให้เสิ่นเทียนตาลุกวาวอยู่ในใจ
แน่นอน มีคนชอบก็มีคนโกรธ
ตอนนี้ไข่มังกรดำข้างๆ กระโดดจนแทบจะแตกออกมาแล้ว
เอ๋าปิงในชุดกระโปรงเล็กดำโมโหควันขึ้นสามจั้ง “เสิ่นเทียน เจ้ามันไร้มโนธรรม! ข้าทำสัญญาเทพมังกรกับเจ้าแล้ว นอกจากบทต้องห้ามก็ถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้ให้เจ้าหมด
ปรากฏว่าเจ้าไม่ให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานข้าสักหยด ตอนนี้ยัยอกแบนนี่ถ่ายทอดคัมภีร์นกยูงให้เจ้าครึ่งหนึ่ง เจ้ากลับให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นางเยอะขนาดนี้เลยหรือ
เหตุใดเจ้าถึงกล้าทำกับข้าเช่นนี้ นี่เจ้ากำลังหยามศักดิ์ศรีของเผ่ามังกรข้า!
ข้าไม่สน ข้าต้องได้ด้วย ข้าต้องได้มากกว่านางเด็กนี่!”
เสิ่นเทียนเอ่ยอย่างจำใจ “ผู้อาวุโส ตอนนี้ท่านยังไม่ออกมาจากไข่เลย ข้าจะให้ท่านอย่างไร”
ไข่เล็กสีดำกระโดดไม่หยุด ดูตื่นเต้นมาก “ขุดหลุมแล้วก็เทของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานลงไป จากนั้นแช่ข้าในนั้น! จะต้องให้ท่วมตัวข้า เอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์มาให้ข้าเยอะๆ!
แบบนี้ข้าจะดูดซับพลังงานได้มากพอจะกะเทาะเปลือกได้เร็วที่สุด รอข้ากะเทาะเปลือกมาปกป้องเจ้าแล้ว จะห้าดินแดนใดเจ้าก็บุกไปได้!
อีกอย่าง ข้าเคยพูดกับเจ้าแล้วไม่ใช่รึ! มาเรียกผู้อาวุโสอะไร เรียกพี่สาว เรียกข้าว่าพี่สาว!”
ครั้นเห็นเอ๋าปิงกระโดดโลดเต้น เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย เจ้านี่คือผู้อริยะเผ่ามังกรเมื่อหมื่นปีก่อนจริงๆ หรือ
หรือเผ่าปีศาจบรรลุนิพพานแล้วสมองจะกลับเป็นคนโง่กัน หรือว่ากระบี่ฟ้าสังหารปักกลางศีรษะเอ๋าปิงมาหมื่นปีจะทำให้สมองนางพิการกัน
แต่คำพูดของเอ๋าปิงก็มีเหตุผลอยู่บ้าง
นางถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้อันเป็นมรดกสูงสุดให้ นอกจากบทต้องห้ามที่มีเพียงเจ้าเผ่าเท่านั้นที่ได้เรียน วิชาอื่นๆ ก็ให้เสิ่นเทียนหมด
ไม่ว่าจะในด้านอารมณ์หรือเหตุผล เสิ่นเทียนก็ไม่ควรจะลำเอียงเกินไป
เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็นำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดหนึ่งมาจากแหวนเวหา ขุดหลุมหลุมหนึ่งบนพื้นแล้วเทลงไปดังจ๊อกๆ
พลังงานเปี่ยมล้นหลั่งทะลักมาจากของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน ทำให้ทุกคนโดยรอบทำหน้าอยากได้มาก
‘เมื่อครู่ให้ไปตั้งเยอะขนาดนั้น เขายังเหลืออีกเยอะเช่นนี้หรือ!’
ไป๋หลิงกลืนน้ำลาย สารภาพตามตรง นางก็อยากได้เช่นกัน!
เพียงแต่ว่าเกรงใจเกินไปจริงๆ
ไข่มังกรสีดำเห็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานในหลุมแล้วก็กระโดดโลดเต้นลงไปในหลุมนั้น
ปุดๆ~
ปุดๆๆ~
ปุดๆๆๆ~
มีฟองอากาศขึ้นมาจากเปลือกมังกรไม่หยุด ของเหลวสีขาวเงินหลั่งไหลเข้าไปในไข่มังกร โดนเอ๋าปิงดูดซับไปอย่างบ้าคลั่ง
ไม่นาน ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งเต็มๆ ก็โดนไข่มังกรสีดำของเอ๋าปิงดูดกินไปหมด
ร่างหญิงมังกรในชุดกระโปรงเล็กสีดำเหมือนจะเรอออกมา “เยอะมาก บริสุทธิ์มาก พอใจมาก ช่างเถอะ เห็นแก่ที่ให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเยอะเช่นนี้ ข้าจะให้อภัยเจ้า ข้าง่วงแล้ว ตอนนี้ต้องนอน เจ้าหนูถ้าไม่มีอะไรก็อย่ารบกวนข้า”
เมื่อเอ่ยจบ เงาหญิงมังกรก็เข้าไปในไข่มังกรสีดำ แล้วเงียบไปเลย
‘กินเสร็จก็นอน มั่นใจนะว่ามังกรไม่ใช่หมูน่ะ’
เสิ่นเทียนอดนินทาในใจมิได้ ก่อนจะห่อไข่มังกรใหม่อีกครั้งด้วยความจนใจ
…………………………………………………………..