บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 1115
บทที่ 1115 ทำตามคำสั่ง
กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย สาวใช้คนใช้ที่ยังดูแลตนเองอยู่เมื่อหลายวันก่อน วันนี้ได้กลายเป็นศพภายใต้คมดาบคนอื่น
ร่างกายกู้อ้าวเวยอ่อนแอไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ มองดูคนที่ถือดาบภายในห้องคนนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ
“เฉิงซาน….เจ้า….”
“กระหม่อมขออภัย แต่คนพวกนี้ไม่ใช่คนในจวนอ๋องจิ้ง แต่เป็นคนตำบลเหยสุ่ย”
ดาบยาวในมือเฉิงซานสะบัดเบาๆ บนพื้นเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง เดินมาข้างหน้าอย่างเชื่องช้าแต่ไม่เข้าประชิดใกล้ คุกเข่าอยู่ด้านข้างเตียง พร้อมกระซิบพูดว่า “ท่านอ๋องร่วมมือกับแม่นางยู่จุน โดยเอาชีวิตคุณชายอี้จื๋อเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับวิธีรักษาคุณหนู”
กู้อ้าวเวยเบิกตาโต นิ้วมือสั่นเทา กำผ้านวมไว้แน่นจนเปลี่ยนรูป
“แต่เมื่อวานข้ายังเจออี้จื๋อ….”
“เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ทูกอย่างก็จะถูกเปลี่ยนแปลง” เฉิงซานคิ้วขมวด พร้อมกระซิบพูดขึ้นว่า “ข้าเคยสืบสรรพคุณยาของคุณหนู ซึ่งไม่ใช่สูตรยาของหมอหลวงจาง และวันนั้นกระหม่อมตั้งใจที่จะแนบจดหมายลับนั่นไว้ในหนังสือ หวังอยากให้คุณหนูระมัดระวัง แต่ท่านกลับไม่สงสัยอะไรเลย ตอนนี้หมอหลวงจางถูกเสด็จอ๋องจงผิงพาตัวไปแล้ว ท่านยังไม่รู้เรื่อง”
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หน้าอกแน่นอย่างเจ็บปวด
ความเชื่อถือที่มีก่อนหน้านี้เพียงนิดยังหลงเหลืออยู่ในใจ กู้อ้าวเวยยันกายลุกขึ้นมามองดูเขา
“เจ้าฆ่าคนมากมายขนาดนี้ ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร”
ดวงตาทั้งคู่จ้องมองกัน เฉิงซานยื่นดาบยาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดเล่มนั้น ให้กับกู้อ้าวเวยอย่างไม่เกรงกลัว พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “วิธีการควบคุมคนของตำบลเหยสุ่ย คือการซ่อนยาพิษไว้บนตัวนักฆ่า หากคุณหนูไม่เชื่อ ก็สามารถดูได้ด้วยตนเอง”
เวลานี้ด้านนอกประตูกลับมีเสียงเล็กน้อยดังขึ้น
กู้อ้าวเวยเห็นสายตาเฉิงซานฉายแววกระสับกระส่าย เหมือนจะลุกขึ้นจากไป จึงได้ใช้แรงทั้งหมดที่มีรับเอาดาบเล่มยาวนั้นมา เลือดสีแดงเปื้อนฝ่ามือ ไหลลงซอกนิ้วมือ เลือดนี้มีกลิ่นแปลกๆจริง
ด้านนอกประตูมีเสียงเปิดประตูจวนดังขึ้น เฉิงซานดึงศพที่ยังค่อนข้างอยู่ในสภาพดีมาข้างเตียง
เอายาพิษในปากของคนคนนั้นออกมา วางบนผ้าแล้วยื่นมาให้
กู้อ้าวเวยกัดฟันแน่น ภายในปากเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดหวานๆ อดทนกับความผิดปกติของร่างกาย เพียงถามเขาว่า “ทำไมเขาจะต้องเอาคนตำบลเหยสุ่ย มาไว้ข้างกายข้า…..”
“เพราะท่านอ๋องยังไม่ได้ส่งตัวคุณชายอี้จื๋อไป…..”
ยังพูดไม่ทันจบ เฉิงซานก็ได้กระโดดออกไปจากทางหน้าต่างด้านข้างแล้ว บานประตูก็ถูกเปิดออก
ซ่านจินจื๋อถือดาบยาวเดินเข้ามา มองดูในมือกู้อ้าวเวยยังถือดาบของเฉิงซานไว้ บนมือเต็มไปด้วยเลือด ด้านข้างเตียงยังมีศพอยู่หนึ่งร่าง แววตาก่อนหน้านี้ยังเต็มไปด้วยความเชื่อใจ เวลานี้กลับกลายเป็นห่างเหิน
“ไปไล่ตาม….”
“เจ้าไปตาม ข้าก็จะตายต่อหน้าเจ้า”
ใช้แรงทั้งหมดที่มียันกายลุกขึ้นมา ต่อให้ซ่านจินจื๋อมีวรยุทธสูงส่งก็ตามไม่ทัน นางเอาดาบยาววางบนคอ ดวงตาฉายแววเยือกเย็น นิ้วมือแดงเพราะออกแรงอย่างมาก ขอบคุณกลับสั่นเทาเพราะอ่อนแรงจนน่าหวาดกลัว
ซ่านจินจื๋อหยุดเท้าสั่งให้คนกลับมา ผ่อนคลายความเย็นชาบนร่างกาย พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เฉิงซานทรยศ ทำไมต้องปกป้องเขา?”
ทั้งๆที่เป็นท่าทีอ่อนโยน แต่เมื่อพูดจาออกมา กลับทำให้กู้อ้าวเวยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
หากเป็นช่วงเวลาปกติ นางควรที่จะคิดมาก บางทีตอนที่เห็นจดหมายลับนั่น ก็รับรู้ถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังแล้ว
หากไม่ใช่เพราะนางเชื่อใจซ่านจินจื๋อ ก็จะไม่รู้ว่ายาที่ตนเองดื่มถูกเปลี่ยนแปลง
มือข้างหนึ่งของนาง จับถ้วยยาที่ดื่มไปแล้วครึ่งหนึ่งนั้นมา แล้วก็มองเห็นสีหน้าซ่านจินจื๋อเปลี่ยนไป ยืนนิ่งอยู่กับที่ แม้แต่คำพูดห้ามก็พูดไม่ออก
ซุปยาขมถูกดื่มลงคออย่างไม่มีรสแปลก แต่ตอนนี้เมื่อนางลองลิ้มรส เพื่อค้นหารสชาติในนั้น กลับสามารถรับรู้ได้ถึงความหวานอ่อนๆ มุมปากอมยิ้มอย่างขมขื่น นางโยนถ้วยยาในมือลงพื้น แล้วยิ่งยกดาบยาวเล่มนั้นจ่อคอตนเอง
“หลายวันนี้ที่อาการของข้าทรุดหนักจนลุกขึ้นไม่ได้ ล้วนเป็นเพราะยาของยู่จุน”
“เจ้าเตรียมที่จะส่งตัวอี้จื๋อไปเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจริงๆหรือ เพื่อแลกกับโลงน้ำแข็งช่วยชีวิตข้า ใช่หรือไม่?”
กู้อ้าวเวยพูดขึ้นด้วยเสียงโกรธเคือง ดวงตาแดงก่ำ จนขอบตาก็แดงไปด้วย น้ำเสียงแหบแห้ง
เมื่อพูดจบแล้ว ร่างกายนางโอนเอน แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือดที่ข้างเตียง
ในขณะที่เวียนหัวตาลาย ข้อมือที่สั่นเทาของนางยังคงกำดาบยาวเล่มนั้นไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมามองดูซ่านจินจื๋อ
ซ่านจินจื๋อเดินมาข้างหน้า กลับถอยหลังไปหนึ่งก้าวเมื่อนางเอาดาบจ่อคอชิดยิ่งขึ้น ส่งสายตาให้คนด้านข้างทุกคนต่างก็ถอยออกไป กลับไม่ยอมตอบ
คำตอบไม่ต้องพูดก็รู้แล้ว
สถานการณ์ตรงหน้าไม่แน่นอน กู้อ้าวเวยหัวเราะอย่างขมขื่น และพูดขึ้นว่า “ข้าสามารถหาวิธีช่วยตนเองได้ ทำไมเจ้าจะต้องเอาชีวิตของอี้จื๋อ….”
“เจ้าชอบปิดบังข้ามาตลอด” น้ำเสียงซ่านจินจื๋อแฝงไปด้วยน้ำตา มองดูนางพร้อมพูดว่า “เจ้าคิดเองว่าขอเพียงข้าไม่รู้เรื่องนี้ ถือเป็นความหวังดีที่มีต่อข้า แต่ตอนนี้ข้าได้ยินเจ้าพูดว่าลองอีกครั้ง ข้าก็กลัวแล้ว….”
“ขอเพียงเจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเรายังสามารถมีลูกกันอีกได้”
พูดออกมาเช่นนี้ กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกยิ่งน่าขำขึ้นมา
ส่วนคนด้านข้างซ่านจินจื๋อ กลับค่อยๆรวมตัวกัน คนใช้ที่อยู่ด้านนอกห้อง เวลานี้ต่างก็เดินเข้ามา
กู้อ้าวเวยไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นคนตำบลเหยสุ่ยหรือไม่ รู้สึกเพียงท้ายทอยเจ็บ แล้วคอก็พับลง ก่อนที่จะหมดสติ นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมกอดหนึ่ง และคนคนนั้นยังบีบนวดมือของนางอย่างแผ่วเบา พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไร วางใจเถอะ”
ฝ่ามืออุ่นๆแตะที่หลังคอของนางแล้วก็ลูบเบาๆ นางกลับหยิบดาบยาวที่ตกลงพื้นนั้นกลับมาไม่ทัน
เฉิงยีที่อยู่บนเตียงลงมาอย่างแผ่วเบา ซ่านจินจื๋ออุ้มนางขึ้นมาเหมือนดั่งเป็นสิ่งของล้ำค่า
หัวหน้าสาวใช้คนนั้น ไม่สงสารเสียดายศพที่อยู่บนพื้นเลยสักนิด เพียงแค่หัวเราะเยาะพร้อมพูดว่า “ท่านอ๋องควรทำเช่นนี้แต่แรกแล้ว”
แววตาซ่านจินจื๋อเคร่งขรึม กระชับอ้อมแขนแล้วพานางไปจากที่นี่ สายตาสลัวไม่ชัดเจน
เฉิงยีเฉิงเอ้อพาคนไปไล่ตามเฉิงซาน แต่เฉิงซานชำนาญทางในจวนอ๋องจิ้งอย่างมาก ส่วนพ่อบ้านก็ไม่รู้เรื่องกับสิ่งที่เขาทำ อาศัยเมื่อกี้ตอนที่กู้อ้าวเวยเอาตัวเองเป็นประกัน หลบหนีออกจากจวนไป พวกเขาทั้งสองคนได้พาคนไปด้วย
สุดท้ายกลับหยุดอยู่หน้าประตูจวนอ๋องจงผิ แล้วก็ยากที่จะไล่ตามต่อ
“เขาคิดไว้อย่างดีแต่แรกแล้ว” เฉิงยีตบไหล่เฉิงเอ้อ แล้วก็ถอนหายใจพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ กลับไปรายงานก่อน”
ทั้งสองจากไปด้วยความโกรธ ส่วนภายในจวนอ๋องจงผิง เฉิงซานเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตนเองรู้ออกมา
ซ่านเชียนหยวนตบโต๊ะลุกขึ้นมาทันที จนทุกคนตกใจ และพูดขึ้นว่า “เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ทำไมเสด็จอาถึงได้ใจดำขนาดนี้”
ฉีหรัวดึงเขาไว้ พร้อมถามเฉิงซานว่า “ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาช่วยจางเหยียงซานไว้ คนชุดดำคนนั้นคือ…..”
“คือกระหม่อมเอง” เฉิงซานพยักหัวตอบ หันไปมองซ่านเชียนหยวนแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านั้นตอนที่ท่านไปหาท่านอ๋อง เดิมกระหม่อมอยากที่จะไปเล่าความจริงให้กับคุณหนูกู้ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ วันนี้ท่านอ๋องพาออกมาอย่างรีบร้อน ข้าก็เลยมีโอกาส และได้รู้ว่ายานั้นมีพิษ จึงเอาสูตรยาที่หมอหลวงจางเขียนไว้มาลอง จึงมีโอกาสเรียกคุณหนูให้ตื่นขึ้นมาแล้วเล่าความจริงให้ฟัง ตอนนี้ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงมาขอความช่วยเหลือ”
ฉีหรัวกลับพิจารณามองดูเขา แล้วพูดว่า “เจ้าภักดีต่ออ๋องจิ้ง ทำไมวันนี้ถึงได้ทำเพื่อนางมากมายขนาดนี้?”
เฉิงซานกระตุกคิ้ว พูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องพูดว่า ให้กระหม่อมดูแลปกป้องคุณหนูให้ดีที่สุด กระหม่อมไม่ทำตามไม่ได้”