บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 1135
ซ่านเชียนหยวนไม่เคยเห็นเสด็จอาน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
เห็นเขาอุ้มคนเข้าไปในห้องด้วยเนื้อตัวที่เปื้อนไปด้วยเลือด แขนทั้งสองข้างอุ้มคนที่มีน้ำหนักเพียงนิดเดียว แต่ก็สั่นเทาไม่หยุด น้ำตาหล่นไหลเต็มใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือด
ส่วนกู้อ้าวเวยนอนกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยลมหายใจรวยริน เหมือนกำลังจะขาดลมหายใจ
“จาง…จางเหยียงซาน อยู่ไหน”ซ่านจินจื๋อคำรามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ไปตามแล้ว เจ้าปล่อยมือนางก่อน”
ฉีหรัวที่วิ่งตามเข้ามาเมื่อกี้หายใจอย่างรุนแรง เดินมาถึงด้านข้างมือของซ่านจินจื๋ออย่างเร่งรีบ จับมือของเขาไว้อย่างไม่สนใจความสกปรก ยิ่งโมโหที่เห็นมือของกู้อ้าวเวยที่ถูกซ่านจินจื๋อจับแน่นจนช้ำ
เมื่อถูกผลัก ซ่านจินจื๋อค่อยรีบชักมือกลับ แล้วก็ถอยหลังไปหลายก้าว
ซ่านเชียนหยวนรีบประคองซ่านจินจื๋อไว้ เห็นดวงตาทั้งคู่ของเขาไร้ซึ่งชีวิตชีวา จึงรีบพูดขึ้นว่า “เสด็จอาอย่าเพิ่งร้อนใจ จางเหยียงซานบอกว่าเตรียมยาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงโลงน้ำแข็ง….”
“ใช่ นางต้องการโลงน้ำแข็ง” ซ่านจินจื๋อคว้าจับข้อมือซ่านเชียนหยวนไว้ พร้อมพูดว่า “เจ้าเฝ้านางอยู่ที่นี่”
“รอ…เสด็จอาอย่าใจร้อน”
ซ่านเชียนหยวนเห็นคนตรงหน้าหายลับไปต่อหน้าต่อตา รีบพูดห้ามพวกคนของเสด็จอาด้านข้างที่กำลังจะตามไปว่า “ไปพาจางเหยียงซานมาก่อน โลงน้ำแข็งนั่นเป็นเพียงสิ่งของภายนอก เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกู้อ้าวเวย เสด็จพี่สามไม่ขัดขวางแน่นอน”
“เจ้ามาจากห้องพระอักษรได้อย่างไร?”ฉีหรัวจับมือกู้อ้าวเวยไว้อย่างระมัดระวัง และช่วยเช็ดคราบเลือดตรงมุมปากให้กับนาง
“หยูนซีตายแล้ว เสด็จพี่สามให้ข้าไม่ต้องไปข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก”
ซ่านเชียนหยวนก็เดินตามเข้ามา ดวงตาทั้งคู่จ้องมองคนที่นอนอยู่บนเตียง
ไม่รู้ว่าทำไมคนที่หลายวันก่อนยังดีๆอยู่ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ในทันใด
สักพัก จางเหยียงซานก็ถูกคนที่มีฝีมือของซ่านเชียนหยวนพาตัวมา วิ่งเซอยู่สองก้าว ค่อยสะดุดหลุดจากองครักษ์ล้มไปที่ข้างเตียง ช่วยตรวจชีพจรให้กับกู้อ้าวเวย แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“ยู่จุน น่าจะวางยาพิษนางอีก” จางเหยียงซานขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “พิษลูกเอ่อตันแดงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง นางจะไม่รู้เลยสักนิดได้อย่างไร”
……
ภายในพระราชวัง ซ่านจินจื๋อถูกพามายังตำหนักเย็น
ซ่านเซิ่งหานเหมือนรู้แต่แรกแล้วว่าเขาจะมา ไม่เพียงสั่งคนพาเขามาถึงตำหนักเย็นจนเห็นโลงน้ำแข็ง และได้จัดเตรียมคนนำโลงศพนี้ออกไปจากพระราชวังให้กับซ่านจินจื๋อ ยิ่งไม่อนุญาตให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ เหมือนเรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของฮ่องเต้องค์ก่อน
ซ่านจินจื๋อหวนกลับมาพร้อมกับโลงศพ เห็นจางเหยียงซานอยู่ข้างเตียง จึงสั่งคนเอาโลงน้ำแข็งเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดึงเขามาจากด้านข้างเตียงด้วยดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “โลงน้ำแข็ง”
“ข้ารู้ ข้ารู้”จางเหยียงซานรีบลุกขึ้นมาอย่างตื่นตกใจ ให้คนช่วยเอาตัวกู้อ้าวเวยวางลงไปในโลงน้ำแข็ง นำยาสมุนไพรที่เตรียมไว้แล้วตั้งแต่แรกใส่ลงไปในโลงหยก ยังไม่ทันได้พูดอะไร ซ่านจินจื๋อก็ดึงมีดเล่มเล็กออกมาจากเอวซ่านเชียนหยวน แทงลงไปตรงกลางอกด้วยแรงที่สามารถควบคุมได้ ดึงถ้วยมาลองและมองดูเลือดที่ไหลรินออกมาจากขั้วหัวใจ
ฉีหรัวร้องออกมาอย่างตกใจ ซ่านเชียนหยวนร้องพูดขึ้นว่า “เสด็จอา….”
“อย่าทำเสียหาย”จางเหยียงซานมองดูเขา แล้วก็หยิบเอาถ้วยที่มีเลือดเต็มถ้วยไป ซ่านจินจื๋อเอาแก้วมาอีกใบอย่างไม่พอใจ จางเหยียงซานก็ไม่ได้ห้ามเขา
ภายในห้องมีเพียงเสียงเลือดไหลตกลงในถ้วย
ภายในดวงตาซ่านจินจื๋อ มองเห็นเพียงกู้อ้าวเวยที่นอนอยู่ในโลงน้ำแข็ง
ทำไมทุกครั้งต้องได้มองเห็นแต่สภาพตอนที่นางอ่อนแอ?
ทำไมทุกครั้งนางจะต้องเดินผ่านประตูแห่งความตาย?
ทำไม…..
เขารู้สึกได้ถึงเลือดภายในกายไหลออกมาทีละนิด แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนอย่างที่สุด เขามองดูตาคิ้วของกู้อ้าวเวยอย่างสุดบรรยาย จนไม่รู้ตัวเลยว่าคนใช้ได้เข้ามาช่วยเขาห้ามเลือด เพียงมองดูจางเหยียงซานสั่งคนค่อยๆปิดฝาโลงน้ำแข็งไว้
เขารีบยื่นมือไปดึงฝาโลงน้ำแข็งไว้
นางยังมีชีวิตอยู่
ทำไมถึงต้องไปอยู่ในโลง
“เสด็จอา นางยังไม่ตาย”ซ่านเชียนหยวนมองเห็นความหวาดกลัวภายในสายตาของเสด็จอาจึงรีบพูดขึ้น มือเท้าของผู้ชายหลายคนรอบข้างยันไว้ ถึงค่อยขยับตัวเขาได้บ้าง แม้แต่เสียงกระดูกนิ้วมือของเขา ที่ถูกแกะออกจากฝาโลงยังดังก้องอยู่ในหูอย่างชัดเจน
ฉีหรัวช่วยจางเหยียงซานปิดฝาโลงที่หนักนี้ไว้อย่างสนิทอย่างกล้าหาญ
คนที่อยู่ในโลงน้ำแข็งเหมือนยังปรับตัวเข้ากับความรู้สึกขาดอากาศหายใจนี้ยังไม่ได้ ร่างกายขยับอย่างแรง แล้วก็ลืมตาทั้งคู่ขึ้น แต่แล้วก็ค่อยๆตกลงไปในสมุนไพรที่เรียงซ้อนไว้ ริมฝีปากกระพือขยับไหว
“ปั้ง…..”
“เจ้าพูดว่าอะไร?”
เสียงผู้คนล้มกองบนพื้นกับเสียงตะโกนของซ่านจินจื๋อประสานกัน
ซ่านจินจื๋อพุ่งไปยังด้านข้างโลงน้ำแข็ง คุกเข่าทั้งคู่อยู่บนพื้น เลือดตรงฝ่ามือทั้งร่องรอยไว้บนโลงน้ำแข็ง
ส่วนคนที่อยู่ในโลงน้ำแข็ง กลับสูดเอาอากาศสุดท้ายที่เหลือเพียงน้อยนิดนั่นเข้าไปอย่างแรง ภายในสายตาปรากฏใบหน้าของซ่านจินจื๋อ เหมือนกำลังพยายามพูดสองคำออกมาจากในลำคอ แล้วค่อยหลับตาลงอย่างหมดแรงในที่สุด
ซ่านเชียนหยวนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างร้อนรน
จะปล่อยให้เสด็จอาใจร้อนแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้
ใช้มือเท้ากอดรัดซ่านจินจื๋อไว้เหมือนปลาหมึก ซ่านเชียนหยวนหายใจหอบ แล้วก็พบว่าเสด็จอาที่ถูกกอดรัดไว้แน่นไม่พูดอะไรสักคำ และก็ไม่ต่อสู้ใดใด
“เสด็จ….เสด็จอา”นี่เสียสติไปแล้วหรือ?
เมื่อพูดเสร็จ ซ่านจินจื๋อค่อยได้สติขึ้นมา มือที่จับโลงน้ำแข็งไว้แน่นค่อยๆคลายปล่อยลง หลังมือตกกระทบลงพื้นจนพื้นเปื้อนเลือด หลังของเขาค่อยๆงอลง ใช้มือข้างหนึ่งประคองโลงน้ำแข็งไว้ ร่างกายโน้มไปข้างหน้าจนหน้าผากแนบชิดโลงน้ำแข็ง
“ห้ามเสียใจ”
พูดพึมพำอยู่คนเดียวประโยคหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่ของซ่านจินจื๋อหลับสนิท จูบเบาๆบนโลงน้ำแข็งอันหนักหน่วงนี้อย่างเชื่อมั่น
คนใช้ด้านนอกประตูกลิ้งคลานพุ่งเข้ามา ตอนหน้าผากถลอกปอกเปิก พร้อมตะโกนพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ในเมืองเทียนเหยียนมีคนถูกพิษแล้วอย่างมากมาย ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าว บอกว่าผู้หญิงที่เสด็จอ๋องจิ้งพามา มียาถอนพิษ…… ตอนนี้พวกประชาชน….. ต่างก็ต้องการที่จะบุกเข้ามา พวกเรารับมือกันไม่ไหวแล้ว”
ซ่านเชียนหยวนอึ้ง รีบลุกขึ้นยืน มองสบตาฉีหรัวพร้อมพูดว่า “จะต้องเป็นคนของตำบลเหยสุ่ยแน่ที่ปล่อยข่าว”
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เจ้าเข้าวังไปทูลเรื่องนี้ให้องค์ชายสามทราบ”ฉีหรัวกระทืบเท้าอย่างร้อนใจ
ถึงแม้อ๋องจงผิงจะเป็นอ๋องคนหนึ่ง แต่แทบจะไม่มีอำนาจทางทหารในเมืองเทียนเหยียนนี้เลย และตอนนี้เมื่อประชาชนก่อเหตุวุ่นวาย อาศัยเพียงคนในจวนเพียงน้อยนิด ไม่สามารถที่จะต้านทานได้
อีกอย่าง พวกลูกๆของกู้อ้าวเวยล้วนอยู่ในจวน
“ไม่ทันแล้ว มีคนบุกเข้ามาแล้ว” คนใช้ด้านนอกประตูก็ตะโกนพุ่งเข้ามาอีก
“พาทุกคนออกไปจากที่นี่ แล้วก็หาคนบางส่วนมาช่วยจางเหยียงซานผสมยา…..”
“เวลานี้ไม่ควรขยับเคลื่อนไหวอ้าวเวย” ซ่านจินจื๋อพูดตัดคำพูดของซ่านเชียนหยวนที่ยังไม่ทันได้พูดจบ ประคองโลงน้ำแข็งแล้วลุกขึ้นยืน เงยคางขึ้นเล็กน้อย พร้อมพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้ากลัวตาย งั้นก็ง่าย”
“เสด็จอาใจเย็นๆ”ซ่านเชียนหยวนรีบคว้าจับแขนของเขาไว้
“ข้าใจเย็นมาก” ซ่านจินจื๋อโบกมือให้กับเฉิงยีที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็เอาตราบัญชาการทหารวางบนฝ่ามือของเขา พร้อมพูดว่า “ออกคำสั่งไปว่า คนที่บุกเข้ามาในจวนอ๋องจงผิง สังหารทุกคน”
“ปิดเมืองเทียนเหยียน ส่งคนไปเฝ้าแหล่งบ่อน้ำทุกแห่ง ห้ามใครตักไปใช้เด็ดขาด รอลูกศิษย์หมดเทวดาคิดค้นยาถอนพิษ”